[CR] แบกเป้ตะลุยเดี่ยว 3 เมือง กับ 1 ประเทศมหาอำนาจของโลก San Francisco/Los Angeles/Las Vegas @USA April 2016

" เพราะชีวิต คือการเดินทาง
Because of Life is Journey "

คำง่ายๆที่ตอบโจทย์และผมชอบมาก ชอบจนนำมาเป็นชื่อ User Name ในบ้านหลังนี้

บางคน เก็บเงินเพื่ออนาคตของตัวเอง
บางคน เก็บเงินเพื่อซื้อสิ่งที่อยากได้
บางคน เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปในที่ๆตัวเองอยากไป

ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด ป้าหมายในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน…แต่ท้ายสุด
ทำในสิ่งที่ไม่ส่งผลกระทบในด้านร้ายให้กับใคร แต่ส่งผลกระทบในด้านดีให้กับเรา
มันก็ไม่น่าจะยากอะไรในการตัดสินใจทำ

กิน…ในตอนที่ยังรู้รสอาหาร
ทำ…ในสิ่งที่ยังทำได้
เดิน…ในตอนที่สองขายังมีแรง

เพราะชีวิต คือการเดินทาง

++++++

สวัสดีครับ ห่างหายกันไป 1 ปี กับการท่องเที่ยว
เมื่อปีที่เเล้วได้มีโอกาสเดินทางครั้งเเรกกับทริปนี้
http://ppantip.com/topic/33732743

หลังจากนั้น..เกิดการเสพติดการท่องเที่ยว จนต้องนั่งคิดนอนคิดว่าจะไปไหนอีกดี
โดยไม่คำนึงถึงรายได้ตัวเอง โดยครั้งนี้อยากจะลองไปอีกครั้งแต่เพิ่มความท้าทายใหม่ตรงที่
วางแผน ทำทริป จองทุกอย่าง กับความรู้ด้านภาษาอันน้อยนิด เเละเดินทางด้วยตัวเอง
“เฮ้ย มันท้าทายดีเหมือนกันนะ”

สรุปได้ดังนั้นจึงเกิดทริปนี้ขึ้น
+++++++++
แบกเป้ตะลุยเดี่ยว 3 เมือง กับ 1 ประเทศมหาอำนาจของโลก
San Francisco/Los Angeles/Las Vegas
United States of America


ทำไมต้องเป็นที่นี่?
พอมีน้องเคยร่วมงาน ไปใช้ชีวิตอยู่ที่แอลเอ และมีรุ่นพี่เปิดร้านอาหารอยู่ซานฟราน
อย่างน้อย มีเหตุฉุกเฉินอะไร ก็คงพอช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้บ้าง


++ วีซ่า ++
สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า ขอวีซ่าได้ยากประเทศนึงในโลก แต่ความจริงมันไม่ได้ยากมาก
เพียงแค่เรามีหลักฐานเพียงพอ ว่าเราไม่ได้คิดจะไปหางานทำที่นั่น ก็โอเคเเล้ว ที่ผมคิดว่าจำเป็นๆคือ
- ใบรับรองการทำงานจากบริษัท ระบุตำแหน่งหน้าที่ รายได้ วันเวลา ไป-กลับ อย่างชัดเจน
- ใบจองที่พักต่างๆ
- Trip Itinerary
หรือแพลนการเที่ยวนั่นเองที่ระบุว่าเราจะไปที่ไหนบ้างตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นั่น
ส่วนผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระอาจจะต้องมีพวกหลักฐานที่เราเป็นเจ้าของทรัพย์สินมีค่าต่างๆ
พวกรถยนต์ คอนโด ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง คือสรุปง่ายๆว่า
อะไรก็ได้ที่ทำให้เค้ามั่นใจว่าเราจะไม่ทิ้งเมืองไทยไปหากินบ้านเค้าแน่ๆ ประมานนั้นแหละครับ

ส่วนของผมสถานฑูตถามเเค่สามคำถาม โดยไม่ดูหลักฐานอะไรเลย
-คุณเคยไปอเมริกามาก่อนมั้ย
-คุณไปเที่ยวหรือว่าทำงานครับ
-คุณไปที่ไหนบ้างครับ
“โอเคครับ ผมอนุมัติวีซ่าให้คุณ ขอให้สนุกกับอเมริกานะครับ”
จบครับ ไม่ถึง 15 นาที ตื่นซะเช้าเลย TT

ขอขอบคุณทุกข้อมูลเหล่านี้ที่ผมศึกษาในการขอวีซ่าครั้งนี้ครับ
http://ppantip.com/topic/31818923
http://www.oknation.net/blog/mickeyjal/2014/04/24/entry-1
และเวบสมัครวีซ่าครับ
https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx
(กรอกวีซ่าไม่ยากนะครับ เอาเม้าส์ชี้ตรงภาษาอังกฤษจะมี pop up ภาษาไทยแปลให้อัตโนมัติ)

หลังจากขอวีซ่าเสร็จ นั่งแพลนทริปพร้อมศึกษาข้อมูลจากกระทู้รีวิวต่างๆเหล่านี้
https://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=847
http://ppantip.com/topic/32780535
http://ppantip.com/topic/32036314
http://ppantip.com/topic/32815629
http://ppantip.com/topic/33101502/comment9-1
http://ppantip.com/topic/32007622
http://2g.ppantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10796995/E10796995.html
เป็นคำภีร์ชั้นยอดในการไปของผมครั้งนี้เลย ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

หลังจากนั้น เตรียมตัว เตรียมของ ปริ้นใบจองต่างๆและเซฟเก็บไว้เป็น .pdf ในโทรศัพท์กันเหนียว
หยูกยาที่จำเป็น เบอร์โทรติดต่อสถานฑูต เบอร์โทรตำรวจ เบอร์โทรคนรู้จัก
ใช้จดไว้เป็นกระดาษนะครับ เผื่อโทรศัพท์หาย แล้วก็ลุยกัน!!

ในที่นี้ผมไม่ขอไล่ไทม์ไลน์ตามที่ผมไปแล้วกันครับ เพราะเดี๋ยวจะงง เพราะผมไปสลับไปมากันเยอะ
ผมสรุปให้เป็นเมืองๆว่าไปที่ไหนบ้างแต่ละเมือง

+++ Los Angeles +++
เมืองที่มีประชากรหลายเชื้อชาติอยู่อาศัยรวมกัน มีประชากรมากที่สุดในรัฐ California และมากเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา
รองจาก New York City เมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางของธุรกิจภาพยนต์ระดับยักษ์ใหญ่ของโลก
เมืองที่มีสวนสนุกชื่อดังตั้งอยู่มากมาย มีชายหาดงามๆให้เดินเล่น 



และที่สำคัญ เมืองนี้เป็นเมืองเดียวที่มี Thai Town อยู่ด้วยครับ

แอลเอจึงถูกเรียกว่าเป็นจังหวัดที่ 77 ของเมืองไทยในยุคสมัยหนึ่ง
เป็นเมืองที่กว้างมาก คนส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ส่วนตัว การเดินทางโดยรถสาธารณะ
จะใช้เวลาค่อนข้างนานในการจะไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
แต่ก็มีครบ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า มีบัตรเติมเงินที่เรียกว่าบัตร Tab แตะได้หมดทุกประเภทรถ (ยกเว้นเเท็กซี่)
ซื้อบัตรและเติมเงินจากตู้ที่อยู่ใน Subway หรือใน Downtown
และมีบัตรชนิด One Day Pass ด้วย ใครวางเเผนดีๆก็น่าจะประหยัดได้เยอะอยู่


ข้อมูลย่อๆไปแล้ว ทีนี้ไปลุยจุดต่างๆที่ผมไปมาครับ

++ Art District ++
เป็นถนนที่รวบรวมผลงานศิลปะต่างๆไว้มากที่สุด ตึกรามบ้านช่องเต็มไปด้วยกราฟฟิตี้
Art House เเสดงผลงาน เรียกได้ว่าใช้เวลาครึ่งวันกับถนนเส้นนี้ทั้งเส้น อากาศเย็นสบาย
วันที่ฟ้าโปร่งเเดดจัดมาก ใครห่วงเรื่องผิวก็โบกครีมกันเเดดให้ชุ่มรอเลยครับ (หน้าผมไหม้มาแล้ว)


++ Santa Monica Pier ++
เมืองชายหาดเดียวที่ไป เนื่องจากอยู่ใกล้ที่พักมากที่สุด อารมณ์เหมือนพัทยาบ้านเรา
มีร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ ตรงท่าเรือก็มีสวนสนุกย่อมๆให้ได้สนุกกัน
ก็นับว่าเป็นเมืองชายหาดที่มีสีสรรพอสมควรเลยทีเดียว


++ Natural History Museum ++
เป็นมิวเซียมที่น่าจะใหญ่ที่สุดในแอลเอแล้วครับ มิวเซียมนี้รวบรวมความเป็นมาของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้
ตั้งเเต่มนุษย์ยันสัตว์ต่างๆ ไฮไลท์น่าจะเป็นพวกโครงกระดูกไดโนเสาร์ และอะไรแปลกๆเยอะดีเหมือนกัน


++ Endeavour Space Shuttle Exhibit - California Science Center ++
เป็นพิพิธภัณฑ์เดียวที่ผมอยากดูมากที่สุดคือเจ้ายานอวกาศนี้แหละ จริงๆ มีอะไรอีกหลายอย่าง
และทุกอย่างมีตั๋วขายแยกต่างหาก Endeavour คือยานอวกาศจริงๆ ที่ปลดประจำการแแล้ว
ถูกนำมาตั้งโชว์ที่นี่ ขนาดใหญ่พอสมควร แต่ไม่ถึงขนาดมหึมาเหมือนที่เราคิดไว้
ก็ขนลุกเหมือนกันนะ ได้เห็นยานอวกาศจริงๆ


++ LACMA Museum of Art ++
อันนี้ไม่ได้เข้าไปในมิวเซียมนะครับ ไปแค่ข้างหน้าซึ่งเป็นไฮไลท์เหมือนกัน
มันเป็นลักษณะลานปูนและมีเสาไฟตั้งกันเรียงราย ตอนกลางคืนจะสวยและคนเยอะมาก

สถานที่นี้เป็นส่วนหนึ่งในฉากหนังเรื่อง No Strings Attached นี่คือฉากที่ว่าครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

++ La Galaxy Stubhub Center ++
เราก็เป็นแฟนลิเวอร์พูล ไหนๆมาถึงแอลเอแล้ว ก็แวะมาเยี่ยมกัปตันของเราซะหน่อย ที่นี่เป็นที่เดียวที่ไม่เคยเจอรีวิวเลย
ดั้นด้นมาเอง สนามอยู่ไกลจากที่พักพอสมควร จองตั๋วเวบนี้เลยครับ http://www.lagalaxy.com
บรรยากาศอาจจะไม่กระหึ่มเท่าสนามที่อังกฤษ แต่ชาวอเมริกันก็ดูสนุกกับฟุตบอล
มากันเต็มสนาม ส่วนตัวผมว่าเกมส์มันช้าๆ เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่คงเป็นพวกปลายอายุค้าเเข้งกันเเล้ว
กัปตันของเรายังอืดเลยครับ


++ Hollywood Street ++
ตอนแรกคิดว่าที่นี่จะเป็นไฮไลท์ในแอลเอสำหรับผม ผมโชคร้ายอย่างจัง
หน้า Dolby Theatre ที่น่าจะเป็นเเลนด์มาร์คถ่ายรูป ดันกางเต๊นท์ซะอย่างนั้น !!! (น่าจะมีงานอะไรซักอย่าง)
จบครับ ได้แต่ถ่ายกับรอยมื่อรอยเท้าไป


++ Church of Perfect Liberty ++
ที่นี่เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ที่หนังสือเยอะ หลากหลายประเภท พร้อมกับแผ่นเสียงศิลปินต่างๆ
มานั่งอ่านและซื้อหาได้ จัดเเต่งร้านได้สวยงามทีเดียวครับ


++ Universal Studio ++
สวนสนุกและสตุดิโอถ่ายทำจริงของ Universal ไปครั้งนี้ผมกลั้นใจซื้อบัตร ประเภท Fron Of Line
ตั๋วจองล่วงหน้าไปเลยก็ดีนะครับ จิ้มเบาๆ --> http://www.universalstudioshollywood.com
บัตรชนิดนี้คือบัตร Fast Track แซงหน้าชาวบ้านชาวช่องเค้าแหละครับ เพราะผมได้รับคำแนะนำจากน้องว่า
ให้ตัดใจซื้อเนื่องจากคนจะเยอะมาก ซื้อบัตรธรรมดาพี่เล่นได้ไม่ครบเเน่ ไปถึงก็จริงดังคาด คนมหาศาล
ถ้าซื้อบัตรธรรมดามานี่ อาจจะได้เล่นแค่สองสามอย่าง ถือว่าคุ้มกับเงินที่เสียไป
ผมเล่นจนเกือบหมดขาดไปสองอย่างเพราะมันปิดเร็ว ขอรีวิวให้ดูซักสองสามโชว์ละกันครับ


+ Water World Show +
เป็นจำลองฉากแอคชั่นของภาพยนตร์เรื่อง Water World ที่นำแสดงโดย เควิน คอสเนอร์
ผู้แสดงเป็นสตั๊นแมนจริงๆที่เล่นอยู่ในหนังต่างๆของฮอลลีวู้ด อลังการจัดเต็ม เอฟเฟ็ค ปืน ระเบิด อะไรมาเต็มมาก
เรียกเสียงปรบมือได้อย่างกึกก้องเมื่อเเสดงจบ


+ Harry Potter +
ผมโชคดีที่ส่วนนี้เพิ่งเสร็จและเปิดให้เข้าก่อนหน้าผมไปอาทิตย์เดียว
สถานที่กว้างขวาง จำลองฉากต่างๆของหนังมาให้ผู้คนได้ถ่ายรูป ส่วนของเครื่องเล่นมีอยู่สองชนิดคือ
ชนิดเเรกจะเป็นอารมณ์ประมานนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ 4DX แต่จอใหญ่กว่า เก้าอี้จะคล้ายๆรถไฟเหาะ
แล้วจอก็จะจำลองฉากของภาพยนตร์ เป็นฉากขี่ไม้กวาดหนีพวกสัตว์ประหลาดต่างๆ
เราต้องสวมเเว่นตาสามมิติ เก้าอี้ก็จะโยกไปมา (ซึ่งเเรงมาก) ควัน น้ำ ลม พุ่งปะทะมาเต็มหมด
อธิบายไม่ถูกแต่ว่ามันได้อารมณ์เหมือนเราขี่ไม้กวาดจริงๆ เสียวสุดๆ เหงื่อมือเต็มไปหมด สนุกมากๆ
ส่วนที่สองคือรถไฟเหาะจริงๆ แต่เป็นระยะทางสั้นๆ อันนี้ก็เสียวจริง เหมือนนั่งรถไฟเหาะสวนสยามบ้านเรา


+ Studio Tour +
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ เป็นการนั่งรถเพื่อชมฉากหนังและสตูดิโอต่างๆ
(เป็นสตูดิโอที่ถ่ายทำจริงของรายการ หรือเกมส์โชว์ต่างๆของยูนิเวอร์เเซล)
จะมีป้ายบอกก่อนเข้าทัวร์เลยว่าวันนี้จะมีการถ่ายทำของรายการอะไรหรือเรื่องอะไร
ยิ่งใหญ่มากกับฉากตึกรามบ้านช่องต่างๆ ระหว่างนั่งรถไปไกด์ทัวร์ก็จะอธิบายว่า ฉากนี้ใช้ถ่ายเรื่องอะไร
นี่คือบ้านพักของนักแสดงหรือผู้กำกับคนไหน (ใช้พักระหว่างรอการถ่ายทำ)
และก็มีอุปกรณ์ประกอบฉากจากหนังเรื่องต่างๆ และมีส่วนของโชว์คือจากหนังเรื่อง King Kong และ Fast & Furious
คือรถจะเข้าไปจอดในถ้ำแล้วก็ต้องสวมแว่นสามมิติ จอรอบรถก็จะจำลองฉากต่างๆ
เช่นเรื่องคิงคองก็จะอารมณ์ไดโนเสาร์มาไล่พังรถที่เรานั่ง คิงคองก็จะออกมาสู้กับไดโนเสาร์
ส่วน Fast & Furious ก็นั่งรถตามพี่วิน ดีเซลเค้าหนีเหล่าผู้ร้ายแหละครับ มันส์ดีนะครับเครื่องเล่นหรือโชว์แบบนี้


ส่วนเครื่องเล่นอื่นๆก็จะคล้ายๆกันทั้งหมดคือจะเป็นสี่มิติ จำลองฉากของหนังเรื่องนั้นๆออกมา
เพื่อให้เราได้ไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ สนุกทุกอย่าง
เพราะฉากหนังเเต่ละเรื่องก็แตกต่างกันออกไป อารมณ์ก็จะต่างกันออกไป


เดี๋ยวต่อกับไฮไลท์สุดท้าย LA กันครับ
ชื่อสินค้า:   San Francisco , Los Angeles , Las Vegas
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่