ที่จริงมันก็มีหลายแง่หลายมุมนะ  เกี่ยวกับด้านนี้

1. ในด้านความศรัทธาปสาทะในทางพุทธศาสนา  เจ้าคุณธงชัยแนะคุณวิชัยในเรื่องการสร้างบุญบารมี
    ซึ่งคุณวิชัยเป็นผู้ที่มีจิตฝักใฝ่ในเรื่องการสร้างทานบารมีอยู่แล้ว  ไม่ว่าจะเรื่องการสร้างวัด สร้างโบสถ์
    การทำบุญกับพระสุปฏิปัณโณ  ถ้าใครเป็นพุทธศาสนิกชนจะเข้าใจในเรื่อง ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
    ซึ่งบันไดขั้นต้นคือ ทาน คุณวิชัยได้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ

                                             อานิสงส์แห่งการให้ทาน ๕ ประการ

                                ๑. ผู้ให้ทานย่อมเป็นที่รัก ที่ชอบใจของชนหมู่มาก

                                ๒. สัปปบุรุษผู้สงบ ย่อมคบหาผู้ให้ทาน

                                ๓. กิตติศัพย์อันงามของผู้ให้ทาน ย่อมขจรทั่วไป

                                ๔. ผู้ให้ทาน ย่อมไม่ห่างเหินจากธรรมของคฤหัสถ์

                                ๕. ผู้ให้ทาน เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

2. ในเรื่องขวัญกำลังใจ มีผลทางด้านจิตวิทยา
     เคลาดิโอ รานิเอรี เคยให้สัมภาษณ์ว่า " เขาไม่เคยเห็นคุณวิชัยเครียดหรือมีสีหน้าที่บึ้งตึง คุณวิชัยมักจะมีอารมณ์ดีและเสียงหัวเราะ"
     ทำให้เขาทำงานแล้วสบายใจไม่กดดัน  ถามว่าแล้วเกี่ยวอะไร?  การที่คุณวิชัยวางตัวและเรื่องอารมณ์ได้ดีมาจากการปฏิบัติ
    ในการเป็นลูกศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ที่เขาเคารพนับถือ  ไม่ใช่ทำไปด้วยความงมงาย  แต่มีเหตุมีผล และเข้าในสิ่งที่จะตามมาด้วย

3. ในศาสตร์ทางโลกและทางธรรม  เลสเตอร์สามารถทำได้ครบถ้วนทั้ง 2 อย่างสุดยอด!
    ในทางศาสตร์การทำทีมฟุตบอล  การบริหาร ผู้จัดการทีม นักเตะ แฟนบอล มันเป็นอะไรที่ประจวบเหมาะมากๆ
    นั่นคือประธานก็บริหารได้สุดยอด  ผู้จัดการทีมมีประสบการณ์  นักเตะมุ่งมั่นและเป็นหนึ่งเดียว  แฟนบอลหนุนหลัง
    ในขณะเดียวกันในทางธรรม  คุณวิชัยก็ไม่มีขาดตกบกพร่อง  ครูบาอาจารย์แนะนำอย่างไร  คุณวิชัยก็ทำตามเต็มที่
               ดังนั้น!  มันไม่ใช่แค่ด้านใดด้านหนึ่ง  หรือองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง  แต่มันคือองค์รวมทุกๆองค์ประกอบ
    ที่มารวมกันแล้วนำพาเลสเตอร์ไปสู่ความสำเร็จ

4.  ในเรื่องท่านเจ้าคุณธงชัย  บางคนมองว่าเป็นเรื่องงมงายหรืออะไรก็แล้วแต่  อยู่ที่มุมมอง
     แต่คุณวิชัยพูดบ่อยๆว่าเขาอยากเผยแผ่ความเป็นรากเหง้าและวัฒนธรรมความเป็นไทย  ตลอดจนความนับถือในพุทธศาสนา
     ของตัวเขาเอง  โดยที่ไม่อายว่าต่างชาติจะมองว่ายังงัย!  ตลอดจนที่ผ่านมาเจ้าคุณธงชัยเองก็สร้างคุณูปการในพุทธศาสนา
     มากมายหลายอย่าง  อยู่ที่สื่อและเราจะเสพและเลือกแบบไหน?  

              มองให้ทะลุผ่านความงมงายเราอาจะเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ในนั้นอีกมากมายครับ!

สื่อมันเสื่อมแล้วครับ

เป็นผมนะ ผมจะให้เจ้าคุณ สอนอิทธิบาท 4
ฉันทะ วิริยะ  อะไรพวกนี้ เพราะมันเข้าแก็ป ถ้าไม่พากเพียร ของขลังที่ไหนมันจะช้วย

แต่อย่างว่า สื่อบ้านเรา สมองเหลือแค่นี้

ปล.จบป.ตรี นิเทศศาสตร์มาเหมือนกัน ด่าพวกนี้ได้เต็มปากแบบไม่เคอะเขิน

นาย......มันไม่ใช่แค่คนไทยหรอกที่มีความเชื่อ
ฝรั่งนี่จริงๆบ้านเขายิ่งกว่าเราอีกนะ เขาเชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลก เชื่อว่าพระเจ้าส่งพระบุตรมาโปรดมนุษย์ คนที่เคร่งศาสนานี่ยิ่งกว่าเรา อ่านไบเบิ้ลได้เป็นเล่ม เข้าโบสทุกวัน เชื่อว่ายุคนิรันดร์ ดินแดนของพระเจ้าหลังความตายมีจริง
ผมถาม......แล้วเขารู้ไหมว่าสิ่งที่เขาเชื่อ มันจริงหรือไม่จริง คำตอบคือ "ไม่รู้"ถ้ารู้ย่อมไม่ใช่ความเชื่อ)

แต่พุทธของไทยเรายังดี เรายังมีวิธีให้พิสูจน์ ให้รู้เองเห็นเอง
นั่นคือการปฏิบัติ ฝึกสมาธิ ฝึกสติ เมื่อสติและสมาธิดีจะรู้ตัวเองแบบไม่เคยรู้มาก่อน จะรู้ว่าตัวเองเป็นคนนิสัยอย่างไร ข้อเสียของตัวเองคืออะไรบ้าง มันจะผุดออกมาหมด จะรู้ว่าอารมณ์นี้ไม่ใช่เรา มีความแปรเปลี่ยน
ตาเห็นสาวสวย=อารมณ์ชอบ
ตาเห็นกองอุจจาระ อวก= อารมณ์ไม่ชอบ
ซึ่งเราไปบังคับมันให้ชอบหรือไม่ชอบไม่ได้ ดังนั้นจึงปล่อยวาง พอปล่อยวางต่ออารมณ์ได้ ก็เป็นคนที่บุคลิกที่นิ่งสงบ โกรธยาก ฉุนเฉียวยาก เหมือนคุณวิชัยใงเล่า
นี่ยังไม่รวมเวลารู้ลมหายใจนะ จะรู้หมด ตอนนี้หายใจเข้าหรือออก ตื่นตอนท้องพองหรือท้องยุบ หลับตอนท้องพองหรือท้องยุบ จะรู้ตัว

ที่เล่ามานี่คือจุดเริ่มต้นเท่านั้นเองของการฝึกสติ สมาธิ
ครูอาจารย์บอกว่าถ้าฝึกไปมากกว่านั้น จะรู้มากกว่านั้น แต่ผู้ฝึกต้องสนใจที่ตัวเองเท้านั้น ดูตัวเองอย่างเดียว แล้วอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน มันจะรู้ เพราะมันฉลาดขึ้น ปัญญามันดีขึ้น
นี่แหละ ดังนั้น อย่าเพิ่งไม่เชื่อ และอย่าเพิ่งเชื่อ สงสัยให้พิสูจน์ ลองไปเลยครับ
บวชดูสักพรรษานึง อยากได้วัดที่มีครูเก่งๆสอนแบบนี้ ผมแนะนำให้ก็ได้

ส่วนความเชื่อนั้นมีทุกชาติทุกประเทศแหละครับ