เมื่อครั้งนึงผมได้บวชเป็นพระธรรมยุต

สวัสดีครับ นี่เป็นบันทึกของผู้ชายธรรมดาๆคนนึงที่เพิ่งเรียนจบ และยังไม่ได้เริ่มทำงาน ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ถึงแม้ว่าจะทดแทนได้ไม่หมดด้วยการบวช แต่อย่างน้อยก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ลูกชายคนนึงให้พ่อแม่ได้ภาคภูมิใจครับ ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะบวชเป็นเวลา 1 เดือน เพราะจะต้องเริ่มทำงานใหม่หลังจากนี้ แต่เอาเข้าจริงๆ กว่าจะเตรียมตัวบวช สึกแล้วก็ต้องเตรียมตัวทำงาน เลยทำให้บวชได้จริงๆ 26 วัน เดี่ยวจะค่อยๆอัพไว้ให้อ่านเล่นๆกันนะครับ

    ที่บ้านจะมีวัดศรัทธาและไปทำบุญเป็นพระจำ ไม่ไกลจากบ้านมากนัก อยู่อำเภอติดชายแดนของจังหวัดจันทบุรี ที่นี่เป็นวัดป่า หรือที่เรียกกันว่าพระธรรมยุต ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนกับพระมหานิกายคือ ห่มจีวรสีเข้ม ฉันมื้อเดียว ไม่ใส่รองเท้า และไม่ทำพิธีฌาปณกิจที่วัด ซึ่งวัดที่ผมจะมาจำพรรษาอยู่เป็นสายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยที่ลูกศิษย์ของท่านคือ หลวงปู่สมชาย จิตรวิริโย เจ้าอาวาสแห่งวัดเขาสุกิม เป็นครูบาอาจารย์ของท่าน ครูบาโก เจ้าอาวาสวัดเขาแจงเบงที่ผมจะจำพรรษาที่นี่

    ผู้ที่จะมาบวชที่วัดนี้ จำเป็นจะต้องผ่านการฝึกฝนการเป็นพระมาก่อน เพื่อให้มีกิริยามารยาทเหมาะสมกับการเป็นพระ แต่เนื่องด้วยผมไม่ได้มีเวลาในการฝึกเป็นนาค และบวชมากนัก ท่านครูบาใจดี เห็นว่าผมเป็นลูกศิษย์วัดมาก่อน รู้ธรรมเนียมปฏิบัติ และกฎของทางวัดมาแล้ว ทำให้ท่านยกให้ผมเป็นกรณีพิเศษ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไปบวชมาจากที่อื่น แล้วขอย้ายมาจำพรรษาที่วัดเขาแจงเบงได้ ซึ่งวัดที่ผมได้ทำการบวชนั้นคือ วัดธารเกษม จ.สระบุรี เป็นวัดที่ผมได้รับคำแนะนำมาจากครูบาวิษณุ เลขาของท่านเจ้าอาวาส ดังนั้น การเป็นพระของผมจึงเริ่มต้นขึ้นที่จังหวัดสระบุรี

    ด้วยเหตุด้านหน้าที่การงาน ทำให้พิธีบวชถูกจัดขึ้นอย่างฉุกละหุก เพราะทราบวันว่างที่แน่นอนได้เพียงไม่นานก่อนจะถึงวันบวชจริงๆ ทำให้เหล่าบรรดาญาติพี่น้องทั้งฝั่งพ่อ และแม่ รวมไปถึงเพื่อนๆ คนรู้จัก มาร่วมงานกันบางตา แต่ผมเองเป็นคนขอเองว่า อยากจัดงานแบบเงียบๆ ไม่มีเลี้ยงอาหารแขก ไม่ให้มีงานครื้นเครง ไม่ให้มีดนตรี ไม่ให้มีกลองยาวใดๆทั้งสิ้น อยากให้งานเป็นงานเฉพาะคนในครอบครัว และคนสนิทเท่านั้น เพราะการบวช เป็นการละจากทางโลก ละซึ่งกิเลส ผู้ที่มาร่วมงาน ต้องให้ความสำคัญกับจุดนี้ด้วย หากนำดนตรี กรองยาวมาในงาน จะเป็นการไม่สงบ

วันที่ 3 เมษายน 2559 : Day 1

    หลังจากเลี้ยงภัตราหารพระเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาทำพิธีปลงผมนาค ซึ่งปลงกันใต้ต้นโพธิใหญ่ มีพระพุทธรูปเป็นฉากหลังของผม ตอนนี้ผมมัดจุกเอาไว้เพราะผมของผมยาวมาก คนที่ได้ตัดจุกของผม ก็แน่นอนว่าต้องเป็นแม่ ต่อด้วยพ่อตัดส่วนอื่น จากนั้นก็ตามด้วยแขกคนอื่นๆตัดกันจนสั้นพอที่จะโกนได้ โชคดีที่มีพระเดินผ่านมาช่วยโกนขณะที่ญาติๆกำลังเก้ๆกังๆกับการใช้มีดโกนบนหัวผมอยู่พอดี ไม่งั้นคงมีเหตุการนองเลือดเกิดขึ้นแน่นอน เสร็จแล้วก็อาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนชุดเป็นชุดนาคสีขาว เพื่อเตรียมเข้าโบสทำพิธีบวช

     ผมจะบวชแบบเอสาหัง ซึ่งเป็นสายธรรมยุต บทสวดก็จะต่างจากมหานิกาย พิธีบวชก็ดำเนินไปได้ด้วยดี มีตะกุกตะกักนิดหน่อยจากความตื่นเต้น และจีวรที่รัดซะจนหายใจไม่ออก เกือบขาดใจตอนท่องบทสวดอยู่เหมือนกันแหนะ แต่พระอุปฌาย์ก็ยังชมว่าท่องได้ดี เตรียมตัวมาดี มีความตั้งใจ น่าเอาเป็นตัวอย่าง แอบเขิลเล็กๆ 555+ (ผมใช้เวลาท่อง 2 อาทิตย์ ผมมีเทคนิคครับ ผมจะฟังบทสวดจากยูทูบวันละหลายๆรอบ แล้วท่องตามบ่อยๆ มันจะจำเข้าหัวไปเอง) เมื่อเสร็จก็ทำการกราบลาพระอุปฌาย์ เหล่าญาติๆก็เดินทางไปจันทบุรีกัน ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันกลับเลย

    เมื่อถึงวัดเขาแจงเบง ผมก็รายงานตัวกับท่านครูบาวิศณุ ท่านจึงจัดหาพระพี่เลี้ยงให้ ผมจึงได้อยู่กับหลวงพ่อสันต์ชัย ท่านมีเชื้อคนจีน พูดติดลำเนียงจีนๆหน่อย ซึ่งถือว่าแปลกสำหรับที่นี่ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคนอีสานกันซะมาก แม้แต่ชาวบ้านระแวกวัดก็อพยพมากจากอีสานกันแทบจะทุกหลังคาเรือน

    หลังจากที่จัดของในกุฏิหลวงพ่อเสร็จแล้ว โยมพ่อ โยมแม่ก็ได้พูดคุยกับหลวงพ่ออีกนอดหน่อยก่อนจะกราบลากลับบ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพ่อ แม่ผมกราบผมตรงหน้า เป็นภาพที่มันขัดกับความรู้สึกของผมเหลือเกิน เพราะปกติคนที่จะต้องกราบไหว้พ่อแม่คือตัวผมเอง มือของผมมันยกขึ้นมาประนมกันโดยไม่ตั้งใจ แต่หลวงพ่อก็คว้ามือผมไว้ได้ทัน นี่เป็นการเตือนสติว่า เราได้ลาขาดจากโลก แต่ขาดจากการเป็นลูกของพ่อแม่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้เราจะกลายเป็นลูกของพระพุทธเจ้าแทน ... ใจหายแว๊บขึ้นมาทันที

    เย็นวันนั้นหลวงพ่อก็ได้จัดแจงหาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่เราไม่ได้เตรียมมา ไม่ว่าจะเป็น ที่รองนอน หมอน ผ้าห่ม และที่โกนหนวด ดันลืมซะได้ นอกจากนี้ก็ยังมีผ้าบริขารต่างๆที่ต้องใช้ขณะเป็นพระ และคืนวันนี้หลวงพ่อได้พาเดินจงกรม นั่งสมาธิ เสร็จแล้วผมก็หลับไปหลับไปอย่างง่ายดายเพราะความเพลีย...ไว้มาต่อใหม่นะ วันนี้พอก่อน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่