สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกกับการเขียนกระทู้ลงพันทิปของผมเลยนะเนี่ย เนื่องจากได้ไปเที่ยวหัวหินมาครับ ไปมันคนเดียวนี่แหล่ะ เพื่อนก็ไม่ว่าง แฟนก็ไม่มี เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน อุปกรณ์เก็บภาพของผมคือ เจ้า canon eos 1100d กับเลนส์ 50mm f1.8 II รูปภาพบ้างภาพอาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะยังมือใหม่อยู่ครับ ผมอาจจะเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง แต่อาจจะใช้ภาพคอยเล่าเรื่องเอานะครับ หากมีอะไรขาดตกบกพร่องไปก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ มาเรามาเริ่มกันเลย
ผมเริ่มออกเดินทางเมื่อวันที่24 เม.ย. ที่ผ่านมานี้เอง ในการเดินทางไปหัวหินครั้งนี้ครับ ผมเลือกใช้รถไฟในการเดินทาง เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย แถมยังเป็นการนั่งชิวๆรับลม(ร้อนจากแดด)ไปในตัวด้วย(ปล.จริงๆแล้วคิดว่า backpacker เท่ๆเค้าก็ขึ้นรถไฟกันทั้งนั้น จะให้ไปขึ้นรถตู้ได้ยังไง ฮาาา) ผมมาถึงสถานีชุมทางรถไฟฉะเชิงเทรา ตอน6โมงเช้านิดๆ เพื่อรอการเดินทางไปที่หัวลำโพงครับ
พอมาถึงสถานีได้ซักครู่ นายสถานีได้เรียกให้ไป รับตั๋วครับ
หน้าตาของตั๋วครับ ในตั๋วก็จะระบุวันที่และ เวลาที่รถออกจากสถานีจนถึงปลายทางครับ ผมเลือกเดินทางในรอบ6.19น.ครับ แล้วไปถึงหัวลำโพงเวลา8.15น.ครับ แต่บางทีรถไฟมาถึงสถานีอาจจะเลทบ้างนิดๆหน่อยๆ เป็นเรื่องธรรมดาครับ
ระหว่างรอรถไฟ ผมก็ถ่ายรูปเล่นรอไปเรื่อยครับ
หลังจากถ่ายรูปได้ไม่นาน รถไฟก็มาถึงสถานีแล้ว เอาล่ะเริ่มเดินทางกันได้
หลังจากขึ้นรถไฟไปได้สักพักผมก็หลับเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สงสัยมันยังคงเช้าไปสำหรับผม
พอหลับไปได้แปปนึงสะดุ้งตื่นรู้ตัวอีกทีก็มาถึงสถานีนี้ล่ะ
หลับๆตื่นๆ ตื่นมาก็หยิบกล้องมากดซัตเตอร์ ถ่ายไปเรื่อย สวยไม่สวยไม่รู้แต่ขอให้ได้ถ่าย
ฝนเริ่มตกลงมาแล้ววว ถึงกับเซงกันเลยทีเดียวคิดว่าการเดินทางนี้จะเปียกซะแล้ว แต่ก็ตกได้แค่แป๊ปเดียว
ใกล้ถึงหัวลำโพงแล้ว
อ่า.......ถึงซักทีหลังจากนั่งหลังคดหลังแข็งมาเกือบ2ชั่วโมง พอเรามาถึงปุ๊ปเราก็เดินมารับตั๋วกันเลยครับ
หน้าตาของตั๋วเช่นเคยครับ แล้วก็รอเวลาออกเดินทางต่อ
โดยรถไฟที่ผมเลือกใช้บริการในครั้งนี้ก็คือ รถไฟเลขขบวน 261 กรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งเป็นรถไฟฟรี ประเภทรถธรรมดา(กล่าวคือ จอดทุกสถานีที่ผ่าน)ซึ่งมีกำหนดการเดินทางคือ ออกจากหัวลำโพงเวลา 09.20 และถึงสถานีหัวหินเวลา 13.35
ด้วยความที่เดินทางคนเดียวครั้งแรกก็เลยรีบไปรอที่ชานชลาในช่วงที่รถไฟเข้าจอด เพื่อที่จะได้รีบวิ่งขึ้นไปจองที่นั่งก่อน(รถไฟฟรีไม่ระบุที่นั่งให้นะครับ ต้องอาศัยความเร็ว)แต่ปรากฏว่า บนรถไฟนั้นค่อนข้างโล่งครับ คนไม่เยอะ มีที่นั่งเหลืออยู่เยอะมากๆ
การเดินทางได้เริ่มขึ้นแล้ว รถออกจากสถานีหัวลำโพง ตามเวลาในตั๋วเลยครับ
แชะๆ แคนดิดคุณป้าท่านนี้ซักภาพ อย่างเฟี้ยววว
แต่เมื่อรถไฟออกไปได้ไม่กี่สถานีก็จะมีคนขึ้นมาเยอะขึ้นครับ แต่ในช่วงที่ผมไปโบกี้ที่นั่งนั้นทุกคนก็จะมีที่นั่งกันหมด(ไม่กล้าลุกไปดูโบกี้อื่นเพราะกลัวโดนแย่งที่นั่งครับ แหะๆๆ)
สถานีต่างๆตลอดทางไปหัวหินครับ
ระหว่างเดินทางก็ไปเจอกับสวาน้อยผู้นี้ ไหน ร้องไห้อะไร มาๆๆ เดี๋ยวพี่จะถ่ายรูปให้
แชะ บอกให้ยิ้มก็ไม่ยิ้มเลย แต่น้องเขาน่ารักดีนะ ^^
ระหว่างทางก็จะมีของกินขึ้นมาขายอยู่ตลอดๆ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ น้ำดื่ม หรือแม้กระทั่งก๋วยเตี๋ยว!! ใช่ครับ อ่านไม่ผิดเลย มันคือก๋วยเตี๋ยวแห้งนั่นเอง
รูปร่างหน้าตาของห่อก๋วยเตี๋ยวครับ
หน้าตาภายในของก๋วยเตี๋ยวครับ
ยอมรับว่ารู้จักก๋วยเตี๋ยวแห้งนี้จากรายการท่องเที่ยวในยูทูป และด้วยราคาที่สบายกระเป๋า(10 บาทเท่านั้นน)จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่จะรีบควังตังค์ออกมาซื้อ ในส่วนของรสชาตินั้นก็ไม่แย่ครับ พอทานได้ มีรสจัดและเผ็ด(ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของแม่ค้าที่จะขายน้ำแก้เผ็ดต่อรึเปล่า 555)แต่ถ้าไม่อิ่มละก็ สามารถซื้อหลายๆห่อก็จะได้ทั้งปริมาณและราคาที่ประหยัดไปเยอะเลยครับ
- การเดินทางตอนกลางวันมีแดดตลอดนะครับ รถไฟวิ่งลงทิศใต้ เพราะฉะนั้นในช่วงก่อนเที่ยงซ้ายมือของขบวนจะโดนแดดและช่วงหลังเที่ยงจะเป็นทางขวามือของขบวน
- การนั่งรถไฟโดยนั่งติดหน้าต่างและหันหน้ารับลมเป็นอะไรที่พังมากๆ เพราะหน้าจะรับลมแดดเต็มๆฝุ่นจะเกาะหน้าและผม สิวขึ้นกันได้ง่ายๆ(ผมเจอมากับตัวว T T)
ถึงสถานีบ้านโป่ง ก็ถึงเวลาต้องอำลาสาวน้อยคนนั้นแล้วว เอ้า บ๊ายบาย
ถึงแล้วววววว >_< หลังจากนั่งรถไฟกันมานาน 4 ชั่วโมงในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงยังสถานีรถไฟหัวหิน หลังจากลงรถไฟ(ซึ่งมีเวลาไม่มากนัก เพราะรถไฟจะกลายสภาพไปเป็นขบวน 262 และส่งผู้โดยสารจากหัวหิน กลับไปยังกรุงเทพ)
สวัสดีครับจ่า
พอมาถึงหัวหิน เราก็ต้องหาที่พักสิ ไปหัวหินครั้งนี้ผมไม่ได้จองที่พักที่ไหนไว้เลย ก็หวั่นๆอยู่กลัวว่าจะไม่มีที่พัก ผมก็เลยถามหาในอากู๋ครับ วัดดวงกันไป แล้วสุดท้ายผมก็ได้ที่พักครับ “กรุณฮัท เกสเฮ้าท์” ที่พักราคาหลักร้อย วิวหลักร้านของเรานั่นเองงงงงง แถมอยู่ใกล้กับชายหาดหัวหินอีกด้วย
จากสถานีไปที่พักยังไงน่ะหรอ พี่วินเลยครับ ^^
เกสเฮ้าท์น่ารักๆ สไตล์ยื่นออกไปในทะเล มุ่งหน้าตรงไป check in ห้องที่เราจะพักกัน ผมไม่รีรอ รับกุญแจห้องเสร็จ ก็เปิดห้องเปิดแอร์วางสัมภาระที่แบกมาแล้วขอพักซักแปป
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก มีแอร์ มีทีวี มีwifi มีน้ำดื่มให้ 2 ขวด สบู่ ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน ไม่มีตู้เย็น ผ้าห่มเป็นแบบบางๆผืนไม่ใหญ่มากความสะอาด เราให้พอประมาณครับ น้ำในห้องน้ำไหลแรงดีอาบน้ำสบายเลยครับ หน้าต่างห้องพักสามารถมองเห็นทะเลได้ ตอนกลางคืนน้ำขึ้น เวลานอนจะได้ยินเสียงคลื่น ฟังเพลินได้บรรยายกาศมากๆ
หลังจากนั่งพักนอนพักจนหายเหนื่อยแล้ว เราออกไปดูที่ระเบียงกันครับ
ภาพแรกที่เห็น ทะเลมันเงียบสงบ มองไปสุดลูกตาผ่อนคลายมาก ระเบียงน่านั่ง หาหนังสือมาอ่าน สักเล่ม รับลมทะเล ฟังเพลงเบาๆกับคนรู้ใจคงจะ ฟินน่าดู แต่ผมดันโสดซะงั้น
ประจวบเหมาะกับวันที่อากาศไม่ร้อน ไม่มีแดด เลย รีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย
ขาตั้งกล้องที่แบกมา ได้ใช้ประโยชน์ซักที
พอเย็นๆ แสงแดดค่อยๆ จาง ออกเดินไปชายหาดหัวหิน อยู่ไม่ไกลจากที่พักระยะนึงมุ่งตรงมายังหาดหัวหิน สิ่งแรกที่คิดหลังจากเห็นก็คือ หาดขาวมากกกกก! ทรายของหาดหัวหินนั้นขาวและสะอาดตามากๆครับ นักท่องเที่ยวเยอะแยะไปหมด แต่นั้นเป็นเพราะหาดติดกับโรงแรมครับ เดินไปเรื่อยๆหาดก็จะโล่งสลับกันมีนักท่องเที่ยวไปเรื่อยๆครับ บรรยากาศค่อนข้างดีครับ ช่วงที่ไปแดดไม่ร้อนเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะว่าเป็นช่วงเย็นแล้ว อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ออกมาที่หาดกันเยอะครับ บรรยากาศเลยคึกคักไปหมด มีร้านอาหาร บริการขี่ม้าให้บริการริมหาดด้วยครับ
หาดทรายขาวละเอียด
เดินชายหาดได้ไม่นานแสงก็หมดเลยไม่ได้มีรูปถ่ายอะไรกะว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยออกมาถ่ายอีกรอบ
เดินตะเวนหาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ครับ คืนนี้เราจะออกแว้นซ์กัน
เมื่อได้รถเช่าแล้วที่แรกที่ผมจะแว้นซ์ไปคือ เพลินวานครับ ระหว่างติดไฟแดง เอ้ายิ้มหน่อยครับ
ถึงแล้วเพลินวาน
เพลินวานก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ถ้าใครมาหัวหินไม่ควรพลาดครับ ที่นี่มีการจำลองสถานที่ให้เป็นร้านค้าในยุคอดีต มีอาหาร ดนตรี เสื้อผ้า รวมไปถึงเกมย้อนอดีตต่างๆมากมาย
บรรยากาศงานวัดซุ้มเกมต่าง
มืดแค่ไหนก็ยังมีนักท่องเที่ยวมากมาย มาเที่ยว มาถ่ายรูป
เห็นขนมของเล่นพวกนี้ทำให้นึกถึงอดีตในวัยเด็กเลยครับ
ไปเที่ยวคนเดียวไม่รู้จะถ่ายรูปใคร ขอแคนดิตหน่อยล่ะกันครับ
เด็กชายคนนั้นผู้หงอยเหงา ในมือของเขามีของเล่น แฮร่!!!
หลังจากเดินเพลินวานจนทั่วแล้ว สถานที่ต่อไปที่เราจะแว้นซ์ไปคือ Cicada Market หรือตลาดจั๊กจั่น กันครับ
ตลาดจั๊กจั่นเป็นตลาดที่รวมไว้ทั้งของกิน เสื้อผ้า ของจุกจิกเล็กๆน้อยที่ชวนให้เสียเงินซื้อเต็มไปหมด โดยเฉพาะเหล่างาน handmade ต่างๆ ที่ขนกันมาหลากหลายร้าน
จะครบ10000ตัวอักษรแล้ว เดี๋ยวมาต่อนะครับ ^^
[CR] ฉายเดี่ยว เที่ยวหัวหิน 2วัน1คืน แบบกากๆ
ผมเริ่มออกเดินทางเมื่อวันที่24 เม.ย. ที่ผ่านมานี้เอง ในการเดินทางไปหัวหินครั้งนี้ครับ ผมเลือกใช้รถไฟในการเดินทาง เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย แถมยังเป็นการนั่งชิวๆรับลม(ร้อนจากแดด)ไปในตัวด้วย(ปล.จริงๆแล้วคิดว่า backpacker เท่ๆเค้าก็ขึ้นรถไฟกันทั้งนั้น จะให้ไปขึ้นรถตู้ได้ยังไง ฮาาา) ผมมาถึงสถานีชุมทางรถไฟฉะเชิงเทรา ตอน6โมงเช้านิดๆ เพื่อรอการเดินทางไปที่หัวลำโพงครับ
พอมาถึงสถานีได้ซักครู่ นายสถานีได้เรียกให้ไป รับตั๋วครับ
หน้าตาของตั๋วครับ ในตั๋วก็จะระบุวันที่และ เวลาที่รถออกจากสถานีจนถึงปลายทางครับ ผมเลือกเดินทางในรอบ6.19น.ครับ แล้วไปถึงหัวลำโพงเวลา8.15น.ครับ แต่บางทีรถไฟมาถึงสถานีอาจจะเลทบ้างนิดๆหน่อยๆ เป็นเรื่องธรรมดาครับ
ระหว่างรอรถไฟ ผมก็ถ่ายรูปเล่นรอไปเรื่อยครับ
หลังจากถ่ายรูปได้ไม่นาน รถไฟก็มาถึงสถานีแล้ว เอาล่ะเริ่มเดินทางกันได้
หลังจากขึ้นรถไฟไปได้สักพักผมก็หลับเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สงสัยมันยังคงเช้าไปสำหรับผม
พอหลับไปได้แปปนึงสะดุ้งตื่นรู้ตัวอีกทีก็มาถึงสถานีนี้ล่ะ
หลับๆตื่นๆ ตื่นมาก็หยิบกล้องมากดซัตเตอร์ ถ่ายไปเรื่อย สวยไม่สวยไม่รู้แต่ขอให้ได้ถ่าย
ฝนเริ่มตกลงมาแล้ววว ถึงกับเซงกันเลยทีเดียวคิดว่าการเดินทางนี้จะเปียกซะแล้ว แต่ก็ตกได้แค่แป๊ปเดียว
ใกล้ถึงหัวลำโพงแล้ว
อ่า.......ถึงซักทีหลังจากนั่งหลังคดหลังแข็งมาเกือบ2ชั่วโมง พอเรามาถึงปุ๊ปเราก็เดินมารับตั๋วกันเลยครับ
หน้าตาของตั๋วเช่นเคยครับ แล้วก็รอเวลาออกเดินทางต่อ
โดยรถไฟที่ผมเลือกใช้บริการในครั้งนี้ก็คือ รถไฟเลขขบวน 261 กรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งเป็นรถไฟฟรี ประเภทรถธรรมดา(กล่าวคือ จอดทุกสถานีที่ผ่าน)ซึ่งมีกำหนดการเดินทางคือ ออกจากหัวลำโพงเวลา 09.20 และถึงสถานีหัวหินเวลา 13.35
ด้วยความที่เดินทางคนเดียวครั้งแรกก็เลยรีบไปรอที่ชานชลาในช่วงที่รถไฟเข้าจอด เพื่อที่จะได้รีบวิ่งขึ้นไปจองที่นั่งก่อน(รถไฟฟรีไม่ระบุที่นั่งให้นะครับ ต้องอาศัยความเร็ว)แต่ปรากฏว่า บนรถไฟนั้นค่อนข้างโล่งครับ คนไม่เยอะ มีที่นั่งเหลืออยู่เยอะมากๆ
การเดินทางได้เริ่มขึ้นแล้ว รถออกจากสถานีหัวลำโพง ตามเวลาในตั๋วเลยครับ
แชะๆ แคนดิดคุณป้าท่านนี้ซักภาพ อย่างเฟี้ยววว
แต่เมื่อรถไฟออกไปได้ไม่กี่สถานีก็จะมีคนขึ้นมาเยอะขึ้นครับ แต่ในช่วงที่ผมไปโบกี้ที่นั่งนั้นทุกคนก็จะมีที่นั่งกันหมด(ไม่กล้าลุกไปดูโบกี้อื่นเพราะกลัวโดนแย่งที่นั่งครับ แหะๆๆ)
สถานีต่างๆตลอดทางไปหัวหินครับ
ระหว่างเดินทางก็ไปเจอกับสวาน้อยผู้นี้ ไหน ร้องไห้อะไร มาๆๆ เดี๋ยวพี่จะถ่ายรูปให้
แชะ บอกให้ยิ้มก็ไม่ยิ้มเลย แต่น้องเขาน่ารักดีนะ ^^
ระหว่างทางก็จะมีของกินขึ้นมาขายอยู่ตลอดๆ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ น้ำดื่ม หรือแม้กระทั่งก๋วยเตี๋ยว!! ใช่ครับ อ่านไม่ผิดเลย มันคือก๋วยเตี๋ยวแห้งนั่นเอง
รูปร่างหน้าตาของห่อก๋วยเตี๋ยวครับ
หน้าตาภายในของก๋วยเตี๋ยวครับ
ยอมรับว่ารู้จักก๋วยเตี๋ยวแห้งนี้จากรายการท่องเที่ยวในยูทูป และด้วยราคาที่สบายกระเป๋า(10 บาทเท่านั้นน)จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่จะรีบควังตังค์ออกมาซื้อ ในส่วนของรสชาตินั้นก็ไม่แย่ครับ พอทานได้ มีรสจัดและเผ็ด(ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของแม่ค้าที่จะขายน้ำแก้เผ็ดต่อรึเปล่า 555)แต่ถ้าไม่อิ่มละก็ สามารถซื้อหลายๆห่อก็จะได้ทั้งปริมาณและราคาที่ประหยัดไปเยอะเลยครับ
- การเดินทางตอนกลางวันมีแดดตลอดนะครับ รถไฟวิ่งลงทิศใต้ เพราะฉะนั้นในช่วงก่อนเที่ยงซ้ายมือของขบวนจะโดนแดดและช่วงหลังเที่ยงจะเป็นทางขวามือของขบวน
- การนั่งรถไฟโดยนั่งติดหน้าต่างและหันหน้ารับลมเป็นอะไรที่พังมากๆ เพราะหน้าจะรับลมแดดเต็มๆฝุ่นจะเกาะหน้าและผม สิวขึ้นกันได้ง่ายๆ(ผมเจอมากับตัวว T T)
ถึงสถานีบ้านโป่ง ก็ถึงเวลาต้องอำลาสาวน้อยคนนั้นแล้วว เอ้า บ๊ายบาย
ถึงแล้วววววว >_< หลังจากนั่งรถไฟกันมานาน 4 ชั่วโมงในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงยังสถานีรถไฟหัวหิน หลังจากลงรถไฟ(ซึ่งมีเวลาไม่มากนัก เพราะรถไฟจะกลายสภาพไปเป็นขบวน 262 และส่งผู้โดยสารจากหัวหิน กลับไปยังกรุงเทพ)
สวัสดีครับจ่า
พอมาถึงหัวหิน เราก็ต้องหาที่พักสิ ไปหัวหินครั้งนี้ผมไม่ได้จองที่พักที่ไหนไว้เลย ก็หวั่นๆอยู่กลัวว่าจะไม่มีที่พัก ผมก็เลยถามหาในอากู๋ครับ วัดดวงกันไป แล้วสุดท้ายผมก็ได้ที่พักครับ “กรุณฮัท เกสเฮ้าท์” ที่พักราคาหลักร้อย วิวหลักร้านของเรานั่นเองงงงงง แถมอยู่ใกล้กับชายหาดหัวหินอีกด้วย
จากสถานีไปที่พักยังไงน่ะหรอ พี่วินเลยครับ ^^
เกสเฮ้าท์น่ารักๆ สไตล์ยื่นออกไปในทะเล มุ่งหน้าตรงไป check in ห้องที่เราจะพักกัน ผมไม่รีรอ รับกุญแจห้องเสร็จ ก็เปิดห้องเปิดแอร์วางสัมภาระที่แบกมาแล้วขอพักซักแปป
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก มีแอร์ มีทีวี มีwifi มีน้ำดื่มให้ 2 ขวด สบู่ ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน ไม่มีตู้เย็น ผ้าห่มเป็นแบบบางๆผืนไม่ใหญ่มากความสะอาด เราให้พอประมาณครับ น้ำในห้องน้ำไหลแรงดีอาบน้ำสบายเลยครับ หน้าต่างห้องพักสามารถมองเห็นทะเลได้ ตอนกลางคืนน้ำขึ้น เวลานอนจะได้ยินเสียงคลื่น ฟังเพลินได้บรรยายกาศมากๆ
หลังจากนั่งพักนอนพักจนหายเหนื่อยแล้ว เราออกไปดูที่ระเบียงกันครับ
ภาพแรกที่เห็น ทะเลมันเงียบสงบ มองไปสุดลูกตาผ่อนคลายมาก ระเบียงน่านั่ง หาหนังสือมาอ่าน สักเล่ม รับลมทะเล ฟังเพลงเบาๆกับคนรู้ใจคงจะ ฟินน่าดู แต่ผมดันโสดซะงั้น
ประจวบเหมาะกับวันที่อากาศไม่ร้อน ไม่มีแดด เลย รีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย
ขาตั้งกล้องที่แบกมา ได้ใช้ประโยชน์ซักที
พอเย็นๆ แสงแดดค่อยๆ จาง ออกเดินไปชายหาดหัวหิน อยู่ไม่ไกลจากที่พักระยะนึงมุ่งตรงมายังหาดหัวหิน สิ่งแรกที่คิดหลังจากเห็นก็คือ หาดขาวมากกกกก! ทรายของหาดหัวหินนั้นขาวและสะอาดตามากๆครับ นักท่องเที่ยวเยอะแยะไปหมด แต่นั้นเป็นเพราะหาดติดกับโรงแรมครับ เดินไปเรื่อยๆหาดก็จะโล่งสลับกันมีนักท่องเที่ยวไปเรื่อยๆครับ บรรยากาศค่อนข้างดีครับ ช่วงที่ไปแดดไม่ร้อนเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะว่าเป็นช่วงเย็นแล้ว อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ออกมาที่หาดกันเยอะครับ บรรยากาศเลยคึกคักไปหมด มีร้านอาหาร บริการขี่ม้าให้บริการริมหาดด้วยครับ
หาดทรายขาวละเอียด
เดินชายหาดได้ไม่นานแสงก็หมดเลยไม่ได้มีรูปถ่ายอะไรกะว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยออกมาถ่ายอีกรอบ
เดินตะเวนหาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ครับ คืนนี้เราจะออกแว้นซ์กัน
เมื่อได้รถเช่าแล้วที่แรกที่ผมจะแว้นซ์ไปคือ เพลินวานครับ ระหว่างติดไฟแดง เอ้ายิ้มหน่อยครับ
ถึงแล้วเพลินวาน
เพลินวานก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ถ้าใครมาหัวหินไม่ควรพลาดครับ ที่นี่มีการจำลองสถานที่ให้เป็นร้านค้าในยุคอดีต มีอาหาร ดนตรี เสื้อผ้า รวมไปถึงเกมย้อนอดีตต่างๆมากมาย
บรรยากาศงานวัดซุ้มเกมต่าง
มืดแค่ไหนก็ยังมีนักท่องเที่ยวมากมาย มาเที่ยว มาถ่ายรูป
เห็นขนมของเล่นพวกนี้ทำให้นึกถึงอดีตในวัยเด็กเลยครับ
ไปเที่ยวคนเดียวไม่รู้จะถ่ายรูปใคร ขอแคนดิตหน่อยล่ะกันครับ
เด็กชายคนนั้นผู้หงอยเหงา ในมือของเขามีของเล่น แฮร่!!!
หลังจากเดินเพลินวานจนทั่วแล้ว สถานที่ต่อไปที่เราจะแว้นซ์ไปคือ Cicada Market หรือตลาดจั๊กจั่น กันครับ
ตลาดจั๊กจั่นเป็นตลาดที่รวมไว้ทั้งของกิน เสื้อผ้า ของจุกจิกเล็กๆน้อยที่ชวนให้เสียเงินซื้อเต็มไปหมด โดยเฉพาะเหล่างาน handmade ต่างๆ ที่ขนกันมาหลากหลายร้าน
จะครบ10000ตัวอักษรแล้ว เดี๋ยวมาต่อนะครับ ^^