สวัสดีจ้า หลังจากห่างหายไปนานจากการรีวิวการท่องเที่ยว
ทริปนี้เราจะรีวิวในหัวข้อ "ฤดูร้อนสไตล์ ปาย – แม่ฮ่องสอน – เชียงใหม่" 20 องศาพาฟิน
เดินทางในช่วงวันที่ 26 เมษายน 59 – 29 เมษายน 59
จากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่  และแม่ฮ่องสอน รวม 3 คืน 4 วัน หมด  ( 4,160 บาท )

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่า... ทริปนี้เกิดขึ้นจาก 2 คน 1 ความต้องการ 1 คนตามใจ
ด้วยเพื่อนสาวคนสนิท นางบอกว่า นี่มันวันหยุดของฉันเลยนะ เกือบ 4 วัน
จะให้มานอนอยู่ห้องพักเฉยๆได้อย่างไรกัน เอาแล้วไง? ใครกันเล่าที่ต้องตอบโจทย์พวกนี้

1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง
จขทก. : แล้วจะไปไหน?
เพื่อนสาว : ไม่รู้เหมือนกัน (นี่หละครับคำตอบ) เค้าอยากไปเชียงใหม่
จขทก. : แล้วจองอะไรแล้วบ้าง รถ เครื่อง ที่พัก ขอดูแพลนหน่อย
เพื่อนสาว : เงียบ!

เมื่อความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด เราก็ต้องเข้าเว็บดูตั๋วนั้นโน้นนี่เรื่อยเปื่อย
จนกระทั้งเจอ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เชียงใหม่ รอบได้ เวลาได้ ราคา 1,450 บาท / คน
จองสิครับ ไปกันเลย!

เรื่องตื่นเต้นเรื่องแรกก็มาถึง นางมาก่อน Boarding time เพียงเสี้ยวนาที หลังจากที่รับ Boarding  pass แล้ว
ที่เหลือคือการ วิ่งงงงงงงงงงง วิ่งงงงงงงงง อย่างเดียว จนหน้า GATE 32 เขาต่อคิวเกือบจะสุดท้ายแล้ว

การเดินทางเราเดินทางด้วยสายการบินไลอ้อนแอร์ ทั้งไปและกลับ
สายการบินก็จะมีการแจกของว่าง ขนม 1 ชิ้น น้ำดื่ม 1 ถ้วย

10.20 น. เราถึงเชียงใหม่ เป้าหมายต่อไป คือ อาเขต  เราจองตั๋วรถตู้ไปปาย ของบริษัท เปรมประชา ราคา 150 /คน/เที่ยว
ทีแรกเราก็มองหารถเมล์แอร์ 15 บาท 20 บาท สีขาวอะนะ แต่หาไม่เจอ
จนถามพี่แท็กซี่ พี่เขาก็บอกว่า มันนาน เราเลยเปลี่ยนใจไปรถแดง
คันที่ 1 พี่ๆ ไปอาเขตเท่าไหร่ค่ะ ( ส่ายหน้า )
คันที่ 2 พี่  พี่ๆ ไปอาเขตเท่าไหร่ค่ะ (ส่ายหัว ) มองหน้าเพื่อนสาว แกไปดิ๊
** แล้วนางก็มองกลับมา ถามว่า 50 บาทไปไหม ** เอิ่มม

หลังจากที่เราเดินหาที่ขึ้นรถตู้อยู่สักพัก รถตู้เขาจะจอดอยู่ที่ อาคารหลังเก่านะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง จะถึงปาย แน่ละสิ เราต้องพึ่ง Dimen ยาแก้เมารถ
เราก็แบ่งครึ่งกัน คนละ 25 mg เพื่อนสาวนางตัวเล็กนางก็หลับยันถึงปายเลย
ส่วนเรารู้ตัวตั้งแต่ครึ่งทางแล้ว แต่เราไม่อ๊วกนะ แต่ตัวลอยจะไปนั่งตักพี่คนข้างๆซ่ะแล้ว
( งานนี้มีอ๊วก เดี๋ยวบอกพิกัดอีกที )

14.30น. เวลาที่เราถึงปายโดยประมาณ บนรถทุกคนอยู่รอดปลอดภัย เดินหาที่พัก เนื่องจากเราไม่ได้จองที่พักมา
เดินถึงริมน้ำปาย มีอยู่ในใจ 1 ที่ ตอนเดินผ่านมาเราถามราคา 700บาท เดินย้อนกลับไปอีกหน
ลดราคาได้ไหมพี่?  เดี๋ยวลดให้ร้อยนึงแล้วกัน NAMU HOTEL ราคา 600 บาท อยู่เส้นถนนคนเดิน
แอร์ พัดลม ตู้ เตียง เครื่องทำน้ำอุ่น ทีวี ตู้เย็น ครบ ! ห้องใหญ่ไม่อึกอัดด้วย
ห้องพักสะอาด ผนังใช้ปูนขัดมัน มองแล้วรู้สึกเย็น

อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่ติดกับ จังหวัดเชียงใหม่ และติดกับพม่า คนส่วนใหญ่นิยมไปท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว
ด้วยสเน่ห์ของอำเภอปาย คือ แม่น้ำปาย และวิถีชุมชน ผู้คนมากมายจากหลายจังหวัด หลายประเทศ จึงแห่แหนเข้ามาท่องเที่ยว
อยากจะบอกว่า เรามาปาย เหมือนเราเป็นชาวต่างชาติอย่างไงอย่างงั้น
มีแต่ฝรั่ง คนไทยน่าจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ

หลังจากนอนพักเอาแรงเสร็จ เราก็ไม่พลาดที่จะไป สะพานไม้ หน้าที่พัก ปายในฝัน
วันนี้น้ำปายไม่ได้มีมากมาย แต่ก็ไม่ได้แห้งขอด

ไปกันต่อ ถนนตนเดินปาย มีทุกวัน ตั้งแต่ 17.00-22.00น.
มีการแสดงพื้นบ้าน ดนตรีบรรเลง  มีร้านของกิน ร้านขายโปสเตอร์

หลังจากที่เรานั่งได้สักพัก อาการคลื่นไส้ก็ถามหา
ถูกต้องแล้วครับ ผมก็หาที่นั่งอ๊วกไปพลางๆ ได้แถวเสาไฟแถวนั้นแระ
** เราไม่สามารถ เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้า ร้านอาหาร ที่ปายได้เลย ** ขอรักษาตัวแพ๊พ

เขาว่ากันมา มาปายถ้าไม่ได้กินข้าวปุกก็เท่ากับมายังไม่ถึงปาย
ข้าวปุก น่าจะเป็นลักษณเอาข้าวไปตำแล้วเอามาย่าง กินกับนม พันเหมือนโรตี ตัดเป็นชิ้นๆ ทานง่าย เคี้ยว กรุ๊บๆ

หมาล่า น่าจะเป็น พริกรสเผ็ด หรือป่าวไม่มั่นใจ ถามไป เดินไปทำธุระไป(อ๊วก)

เกี๊ยวซ่า 10 บาท

ครั้งนี้เรานัดกันตื่นแต่เช้า เพราะเป้าหมายเราไกลมาก ที่หมู่บ้านรักไทย เพราะเราจองที่พักไว้ที่ ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท
จากการโทรถามร้านเช่ารถ เปิด 08.00 น.
เขาว่ากันว่า มาปาย ก็ต้องกินโจ๊ก รสชาติใช้ได้เลยที่เดียว 25 บาท ถูก อร่อย
สถานีต่อไป หมู่บ้านสันติชล หยุนไหลทะเลหมอก

หลังจากยกน้ำชา หายเหนื่อยแล้ว เราก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง
เราใช้เส้นทาง ปาย – ปางมะผ้า – หมู่บ้านหมอกจำแป่ – บ้านรักไทย
ระยะทางโดยรวม สัก 130 กม.  ระยะทางไม่ไกลมาก
แต่เป็นลักษณะการขับขึ้นภูเขา ลงภูเขา สลับโค้งซ้าย โค้งขวา
เหนื่อย ก็พัก

หายเหนื่อยเมื่อถึงที่พัก เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนจำนวนมากจึงอยากจะมาพักที่นี่
ที่อื่นร้อนตับจะแตก แต่ที่นี้อากาศยังเย็น แม้ว่าวันนี้ไฟจะดับ พวกเราก็นอนอยู่ในห้องได้อย่างสบาย
ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท ราคา 900 บาท พร้อม อาหารเช้า พร้อมคูปองส่วนลด 5 % ทานอาหารเย็น
คูปองส่วนลด 10 % สำหรับซื้อของฝาก
สำหรับการจองห้องพัก เบอร์โทร 089-552-8650 ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท

อาหารเย็น มื้อนี้เราทานอาหารที่ครัวของลีไวน์รักไทย
เมนู ผัดซาโยเต้ , ปลาสามรสยูนาน , ไข่เจียวหมูสับ ราคารวม 500 กว่าบาท

ทานเสร็จก็ไปชมวิวกันเลย
เขื่อนในหมอก เป็น ทะเลสาบบ้านรักไทย และจุดชมวิว

ข่าวดีคือ สัญญาณโทรศัพท์มาแล้ว *เฉพาะ TrueMoveH * แต่ข่าวร้ายก็มาพร้อมกัน
คือ ไฟดับ ยังไม่มี เราเริ่มมีความกังวลใจกลัวร้อน แต่ไม่เลย นอนดู HTV อย่างสะบายใจ จิกหมอน #ทีมโสม

(สี่ทุ่ม ของวันนั้นไฟก็มา อากาศเย็นไม่ต้องเปิดพัดลมเลย)
(ออกมาเก็บช้าง เก็บดาว ตอนตี 3 หมอกลงจัดมาก เสื้อเปียกเลย)

อรุณสวัสดิ์ พร้อมกับการเช็คอินรูปภาพ และเช็คเอ้าท์ที่พัก เพราะเราต้องการไปถึง ปางอุ๋ง เช้าๆ
ปล.เราไม่ได้ทานอาหารเช้าจากลีไวน์รักไทย ด้วยครัวเปิดเวลา 08.00น. อยากไปเห็นหมอกในน้ำที่ปางอุ๋ง

ที่มา 20 องศาพาฟิน นี่มันฤดูร้อนนะคร๊าบบ

เขื่อนในหมอก หรือ หมอกในเขื่อน กันเนี่ย

ระหว่างทางขับรถจากหมู่บ้านรักไทย ไป ปางอุ๋ง ระยะทาง 13 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
ระหว่างทางมีป้ายบอกทาง ไม่ต้องกลัวหลง แต่ตอนเข้าไปแอบกังวลใจนิดๆว่า ใช่หรือป่าว 555

คนแถบนั้นก็ทำเกษตรกรรมเป็นอาชีพโดยส่วนมากนะ เท่าที่สอบถามก็มีไร่กระเทียม ไร่หอมแดง
แต่ที่เห็นคือ ไร่กะหล่ำปลี

ถึงแล้ว ... อ่างเก็บน้ำปางตอง (ปางอุ๋ง)




แต่วันนี้ไม่มีหมอกลอยบนน้ำนะ ไม่ได้ผิดหวังอะไรมากมาย ปลอบใจตัวเองก่อนมาแล้ว

เราอยู่ที่ปางอุ๋งได้ไม่นานนักกลัวแดดจะร้อนจัด รีบกลับปาย  ใช้เส้นทางเดิม
และความผิดพลาดขอเราก็เกิดขึ้นครั้งแรก คือไม่ได้จองตั๋วกลับ จากปาย - เชียงใหม่
มาดูที่ปางมะผ้า อีกทีก็เต็ม! รอบเร็วสุดมี 13.00น. เอาว่ะ ดีกว่าไม่ได้กลับ

แระแล้วเหตุการณ์อ๊วกมหันตภัย ก็เกิดขึ้นซ้ำกับกระผม ที่ช่วงพักรถ
ไม่น่าเลยไปดูถูกเด็ก4-5 ขวบก่อนขึ้นรุว่า ไอ้เด็กนี่มันต้องอ๊วกแน่เลย
ไหนเลยเป็นข้าที่อ๊วกเอง