สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ จากรอบที่แล้วที่ไปย่านเครื่องครัวที่โอซาก้า เซ็นนิชิมาเอะมาค่ะ
รอบนี้เราเปลี่ยนที่ ไปกัปปะบาชิ ย่านเครื่องครัวที่โตเกียวค่า
วิธีเดินทางแบบของเราคือ เราไปเที่ยวอาซาคุสะก่อนเพื่อกินเมล่อนปังค่ะ แล้วก็เดินมาที่ย่านกัปปะบาชิได้เลย ในกูเกิ้ลแมพบอกว่าให้เดินราวๆ 12 นาที แต่ตอนเดินจริงๆเราเดินไม่ถึง 10 นาทีเลยค่ะ
กินเมล่อนปังชมวัด ของร้านAsakusa Kaketsudo ค่ะ ร้านนี้เดินเข้าไปใกล้บริเวณร้านก็ได้กลิ่นหอมแล้วค่ะ 1 ชิ้น 200 เยน 3 ชิ้น 500 เยน ชิ้นใหญ่และอร่อยมาก!!!! หลังจากน้องเราก็เดินมาทางอุเอโนะเพื่อไปกัปปะบาชิกันเลยค่ะ ย่านกัปปะบาชิจะอยู่ตรงกลางระกว่างอาซาคุสะกับอุเอโนะพอดี
หรือถ้าใครนั่งซับเวย์มา ให้นั่งมาลงที่สถานีTawaramachi เลยค่ะ ขึ้นมาจากทางออกปุ๊บ ให้หันหลัง แล้วเลี้ยวขวาเลยค่ะ เดินตรงแป๊บเดียวก็ถึงกัปปะบาชิแล้วค่ะ
ทางออกที่ใกล้ที่สุดกับกัปปะบาชิค่ะ ไม่แน่ใจว่าทางออกไหน แต่เราเดินเลี่ยวขวา แล้วตรงไปเล็กน้อยก็ถึงกัปปะบาชิแล้วค่ะ
มองเห้นป้ายกัปปะอันใหญ่มาแต่ไกล
พอเห็นเสาสีชมพูก็ถึงกัปปะบาชิแล้วค่ะ
ตัวกัปปะบาชิจะแบ่งเป็นสองฝั่งของถนนค่ะ ฝั่งสีชมพูกับฝั่งสีฟ้า
อันนี้ถ่ายตอนเดินข้ามถนนพอดีค่ะ อยากให้กรุงเทพรถโล่งขนาดนี้
แต่ถึงรถจะไม่มี คนญี่ปุ่นก็รอสัญญาณไฟข้ามถนนนะคะ เป็นระเบียบมากๆ
เราเริ่มเดินจากฝ่งสีชมพูก่อนไปจนสุดถนนแล้วถึงข้ามมาดูฝั่งสีฟ้า เดินย้อนกลับมาจนสุดถนนค่ะ แล้วก็นั่งซับเวย์ไปทานข้าวเย็นกับคุณพ่อคุณแม่เลย
บริเวณของกัปปะบาชิก้จะมีแขวนป้ายน้องกัปปะไว้ตลอดแนวเลยค่ะ
บริเวณนี้มีอาหารน่าทานหลายร้านนะคะ แต่รอบนี้เราไม่ได้เข้าเพราะว่ามีโปรแกรมไปกินข้าวที่ชิบุย่าอยู่แล้ว แถมเพิ่งจะทานเทมปุระที่อาซากุสะมาด้วย แน่นท้องสุดๆเลยค่ะ
เทียบปริมาณของที่นี่กับที่โอซาก้า ที่นี่มีของให้เลือกเยอะกว่ามากๆเลยค่ะ ทั้งของที่นำเข้าจากยุโรปที่ยังไงก็ถูกกว่าที่ไทย แล้วก็ของที่ผลิตในญี่ปุ่นเองด้วย
ของเซลของที่นี่ก็เยอะค่ะ มีทั้งเซลแบบวางหน้าร้าน หรือว่าในร้านก็มีค่ะ ซึ่งร้านที่เซลเยอะๆอย่าง ร้านKitchen world TDI คนในร้านก็ค่อนข้างเยอะกว่าร้านอื่นๆค่ะ คนที่เดินในย่านนี้ส่วนมากเป้นคนญี่ปุ่นค่ะ พนักงานในร้านต่างๆมีไม่เยอะที่คยภาษาอังกฤษคล่อง ถ้าไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นแนะนำให้พูดเป็นคีย์เวิร์ดไปค่ะ แล้วเค้าจะตอบเป้นคีย์เวิร์ดกลับมา
ซึ่งรอบนี้เราไม่ได้มาซื้อของเยอะค่ะ เราตั้งใจมาหา Burner แบบตังเล็กผลิตในญี่ปุ่นที่เราไปเจอในโอซาก้าแต่ไม่ได้ซื้อมา
แต่ด้วยความบ้าชอปค่ะ เราก็เดินเข้ามันทุกร้าน ดูของจนครบเลยค่ะ แต่วันที่เราไปก็ร้านเปิดไม่ครบเพราะมันตรงกับช่วงฮานามิพอดี หลายๆร้านก็เลยปิดค่ะ เสียใจเล็กๆ เพราะว่าเราก็เดินหาเบิร์นเนอร์ที่ต้องการไม่ได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้ที่ขอดเกล็ดปลากลับมา 2 อันค่ะ จากร้านด้านบนเลย จริงๆที่ตลาดปลาก้มีขายค่ะ แต่ที่นี่จะราคาถูกกว่าราวๆ 200-300 เยน นอกจากนี้ก็ได้ชาเชียวแบบแพคใหญ่จากร้านขายส่งที่นี่ด้วย แพคนึงมี 50 ถุงเล็ก ราคาแพคละ 440 เยนเท่านั้นเองค่ะ ถ้าซื้อที่อื่นจะเป็นแพคเล็ก แพคละ 20 ถุง ราคาพอๆกันค่ะ
แล้วเราก็เจอกลิ่นซากุระอย่างดีในร้านเบเกอร์รี่ด้วย เลยได้มา 2 ขวดด้วยกัน ปกติพวกกลิ่นซากุระที่นำเข้ามาขายในไทยจะกลิ่นเหมือนยาแก้ไอ แต่อันนี้เป้นกลิ่นหอมหวานมากๆ กลิ่นเดียวกับซอฟต์ครีมซากุระที่ทานในญี่ปุ่นเลยค่ะ
แต่ด้วยความเบลอของเราเนื่องจากทริปนี้ต้องตื่อนเช้ามันทุกวัน แล้วเดินทางเยอะมาก เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาซักเท่าไร
หลังจากเดินครบสองฝั่งเราก็เดินกลับมาหาซับเวย์นั่งไปชิบุยะเพื่อทานข้าวเย็นค่ะ
นั่งซับเวย์ยาวๆมาที่ชิบุยะได้เลยค่ะ 240เยน นั่งยาวๆราวๆครึ่งชั่วโมง
โดยรวมของราคาที่นี่กับที่โอซาก้านะคะ มีถูกกว่าแพงกว่านิดหน่อย มีของให้เลือกเยอะกว่ามากๆ ร้านหลายไร้านก็จัดเป้นระเบียบกว่าด้วย
แต่โดนส่วนตัวเราชอบที่โอซาก้ามากกว่า เพราะว่าร้านเครื่องแก้วที่นู่นของน่าสนใจกว่าค่ะ แล้วก็พวกอุปกรณ์หลายๆตัวที่เราเคยซื้อมาก็ราคาถูกกว่าด้วย
ที่กัปปะบาชิเดินขาลากกว่าเยอะเลยค่ะ ความยาวย่านกัปปะบาชิราวๆ 1 กิโลเมตร เดินให้ครบ 2 ฝั่งก็ 2 กิโลแล้วค่ะ เดินยาวมากๆ แต่เซ็นนิชิมาเอะเป็นเหมือนย่านคนเดินแบบเดินแวะไปร้านนู้นร้านนี้สะดวกกว่า เดินไปกลับเลยดุไม่ค่อยเหนื่อยค่ะ
ถ้าใครมีโอกาสก็แวะไปเดินดูได้นะคะ แนะนำให้ไปวันธรรมดา ช่วง 11 โมงเป็นต้นไปค่ะ ร้านส่วนมากจะหยดวันอาทิตย์และวันเทศกาลค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่ติดตามกระทู้จนจบค่ะ ก็ไม่แน่ใจว่าคราวหน้าจะได้รีวิวเที่ยวที่ไหนเร็วๆนี้อีกไหม ถ้ามีก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
[CR] {รีวิว}เดินเล่นที่กัปปะบาชิ ย่านเครื่องครัวโตเกียว
รอบนี้เราเปลี่ยนที่ ไปกัปปะบาชิ ย่านเครื่องครัวที่โตเกียวค่า
วิธีเดินทางแบบของเราคือ เราไปเที่ยวอาซาคุสะก่อนเพื่อกินเมล่อนปังค่ะ แล้วก็เดินมาที่ย่านกัปปะบาชิได้เลย ในกูเกิ้ลแมพบอกว่าให้เดินราวๆ 12 นาที แต่ตอนเดินจริงๆเราเดินไม่ถึง 10 นาทีเลยค่ะ
กินเมล่อนปังชมวัด ของร้านAsakusa Kaketsudo ค่ะ ร้านนี้เดินเข้าไปใกล้บริเวณร้านก็ได้กลิ่นหอมแล้วค่ะ 1 ชิ้น 200 เยน 3 ชิ้น 500 เยน ชิ้นใหญ่และอร่อยมาก!!!! หลังจากน้องเราก็เดินมาทางอุเอโนะเพื่อไปกัปปะบาชิกันเลยค่ะ ย่านกัปปะบาชิจะอยู่ตรงกลางระกว่างอาซาคุสะกับอุเอโนะพอดี
หรือถ้าใครนั่งซับเวย์มา ให้นั่งมาลงที่สถานีTawaramachi เลยค่ะ ขึ้นมาจากทางออกปุ๊บ ให้หันหลัง แล้วเลี้ยวขวาเลยค่ะ เดินตรงแป๊บเดียวก็ถึงกัปปะบาชิแล้วค่ะ
ทางออกที่ใกล้ที่สุดกับกัปปะบาชิค่ะ ไม่แน่ใจว่าทางออกไหน แต่เราเดินเลี่ยวขวา แล้วตรงไปเล็กน้อยก็ถึงกัปปะบาชิแล้วค่ะ
มองเห้นป้ายกัปปะอันใหญ่มาแต่ไกล
พอเห็นเสาสีชมพูก็ถึงกัปปะบาชิแล้วค่ะ
ตัวกัปปะบาชิจะแบ่งเป็นสองฝั่งของถนนค่ะ ฝั่งสีชมพูกับฝั่งสีฟ้า
อันนี้ถ่ายตอนเดินข้ามถนนพอดีค่ะ อยากให้กรุงเทพรถโล่งขนาดนี้
แต่ถึงรถจะไม่มี คนญี่ปุ่นก็รอสัญญาณไฟข้ามถนนนะคะ เป็นระเบียบมากๆ
เราเริ่มเดินจากฝ่งสีชมพูก่อนไปจนสุดถนนแล้วถึงข้ามมาดูฝั่งสีฟ้า เดินย้อนกลับมาจนสุดถนนค่ะ แล้วก็นั่งซับเวย์ไปทานข้าวเย็นกับคุณพ่อคุณแม่เลย
บริเวณของกัปปะบาชิก้จะมีแขวนป้ายน้องกัปปะไว้ตลอดแนวเลยค่ะ
บริเวณนี้มีอาหารน่าทานหลายร้านนะคะ แต่รอบนี้เราไม่ได้เข้าเพราะว่ามีโปรแกรมไปกินข้าวที่ชิบุย่าอยู่แล้ว แถมเพิ่งจะทานเทมปุระที่อาซากุสะมาด้วย แน่นท้องสุดๆเลยค่ะ
เทียบปริมาณของที่นี่กับที่โอซาก้า ที่นี่มีของให้เลือกเยอะกว่ามากๆเลยค่ะ ทั้งของที่นำเข้าจากยุโรปที่ยังไงก็ถูกกว่าที่ไทย แล้วก็ของที่ผลิตในญี่ปุ่นเองด้วย
ของเซลของที่นี่ก็เยอะค่ะ มีทั้งเซลแบบวางหน้าร้าน หรือว่าในร้านก็มีค่ะ ซึ่งร้านที่เซลเยอะๆอย่าง ร้านKitchen world TDI คนในร้านก็ค่อนข้างเยอะกว่าร้านอื่นๆค่ะ คนที่เดินในย่านนี้ส่วนมากเป้นคนญี่ปุ่นค่ะ พนักงานในร้านต่างๆมีไม่เยอะที่คยภาษาอังกฤษคล่อง ถ้าไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นแนะนำให้พูดเป็นคีย์เวิร์ดไปค่ะ แล้วเค้าจะตอบเป้นคีย์เวิร์ดกลับมา
ซึ่งรอบนี้เราไม่ได้มาซื้อของเยอะค่ะ เราตั้งใจมาหา Burner แบบตังเล็กผลิตในญี่ปุ่นที่เราไปเจอในโอซาก้าแต่ไม่ได้ซื้อมา
แต่ด้วยความบ้าชอปค่ะ เราก็เดินเข้ามันทุกร้าน ดูของจนครบเลยค่ะ แต่วันที่เราไปก็ร้านเปิดไม่ครบเพราะมันตรงกับช่วงฮานามิพอดี หลายๆร้านก็เลยปิดค่ะ เสียใจเล็กๆ เพราะว่าเราก็เดินหาเบิร์นเนอร์ที่ต้องการไม่ได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้ที่ขอดเกล็ดปลากลับมา 2 อันค่ะ จากร้านด้านบนเลย จริงๆที่ตลาดปลาก้มีขายค่ะ แต่ที่นี่จะราคาถูกกว่าราวๆ 200-300 เยน นอกจากนี้ก็ได้ชาเชียวแบบแพคใหญ่จากร้านขายส่งที่นี่ด้วย แพคนึงมี 50 ถุงเล็ก ราคาแพคละ 440 เยนเท่านั้นเองค่ะ ถ้าซื้อที่อื่นจะเป็นแพคเล็ก แพคละ 20 ถุง ราคาพอๆกันค่ะ
แล้วเราก็เจอกลิ่นซากุระอย่างดีในร้านเบเกอร์รี่ด้วย เลยได้มา 2 ขวดด้วยกัน ปกติพวกกลิ่นซากุระที่นำเข้ามาขายในไทยจะกลิ่นเหมือนยาแก้ไอ แต่อันนี้เป้นกลิ่นหอมหวานมากๆ กลิ่นเดียวกับซอฟต์ครีมซากุระที่ทานในญี่ปุ่นเลยค่ะ
แต่ด้วยความเบลอของเราเนื่องจากทริปนี้ต้องตื่อนเช้ามันทุกวัน แล้วเดินทางเยอะมาก เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาซักเท่าไร
หลังจากเดินครบสองฝั่งเราก็เดินกลับมาหาซับเวย์นั่งไปชิบุยะเพื่อทานข้าวเย็นค่ะ
นั่งซับเวย์ยาวๆมาที่ชิบุยะได้เลยค่ะ 240เยน นั่งยาวๆราวๆครึ่งชั่วโมง
โดยรวมของราคาที่นี่กับที่โอซาก้านะคะ มีถูกกว่าแพงกว่านิดหน่อย มีของให้เลือกเยอะกว่ามากๆ ร้านหลายไร้านก็จัดเป้นระเบียบกว่าด้วย
แต่โดนส่วนตัวเราชอบที่โอซาก้ามากกว่า เพราะว่าร้านเครื่องแก้วที่นู่นของน่าสนใจกว่าค่ะ แล้วก็พวกอุปกรณ์หลายๆตัวที่เราเคยซื้อมาก็ราคาถูกกว่าด้วย
ที่กัปปะบาชิเดินขาลากกว่าเยอะเลยค่ะ ความยาวย่านกัปปะบาชิราวๆ 1 กิโลเมตร เดินให้ครบ 2 ฝั่งก็ 2 กิโลแล้วค่ะ เดินยาวมากๆ แต่เซ็นนิชิมาเอะเป็นเหมือนย่านคนเดินแบบเดินแวะไปร้านนู้นร้านนี้สะดวกกว่า เดินไปกลับเลยดุไม่ค่อยเหนื่อยค่ะ
ถ้าใครมีโอกาสก็แวะไปเดินดูได้นะคะ แนะนำให้ไปวันธรรมดา ช่วง 11 โมงเป็นต้นไปค่ะ ร้านส่วนมากจะหยดวันอาทิตย์และวันเทศกาลค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่ติดตามกระทู้จนจบค่ะ ก็ไม่แน่ใจว่าคราวหน้าจะได้รีวิวเที่ยวที่ไหนเร็วๆนี้อีกไหม ถ้ามีก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น