สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
สิ่งที่คุณถาม call center เค้าไม่มีทางตอบคุณได้หรอกครับ เค้าไม่ใช่ช่าง ไม่ใช่วิศวกร แล้วก็ไม่ได้อยู่หน้างาน
เค้าไม่รู้หรอกครับว่าอุปกรณ์ตัวไหนเสีย อาจจะแค่สายไฟราคาไม่กี่บาท อาจจะเซ็นเซอร์ราคาแพง อาจจะนู่นนี่นั่น ฯลฯ
เค้าจะรู้ได้ไงว่าตัวไหนเสีย เค้าเป็น call center ไม่ใช่ช่าง และเค้าไม่ได้อยู่หน้างาน
ต่อให้ช่างคุยทางโทรศัพท์เค้าก็ตอบไม่ได้หรอกครับว่าอะไรที่เสีย เค้าก็ต้องมาเปิดตู้เย็นดูนั่นล่ะถึงรู้
แล้วการที่เค้ารับประกันอะไหล่ให้ 3 เดือนผมว่าก็สมเหตุสมผลแล้วนะ เพราะถ้าหลังจากนั้นตู้เย็นเกิดการเสียอีก มันอาจเกิดจากชิ้นส่วนอื่นก็ได้
ช่างเค้าไม่รู้ ไม่มาเห็นหรอกว่าคุณใช้ตู้เย็นถนอมแค่ไหน เปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้บ่อยๆรึเปล่า วางตู้เย็นห่างจากกำแพงน้อยไปมั้ย บ้านคุณร้อนไปรึเปล่า
ระบบไฟฟ้าบ้านคุณมีปัญหารึเปล่า ไฟตกบ่อยมั้ย เต้ารับที่เสียบปลั๊กหลวมรึเปล่า และอีกหลายสาเหตุ ทั้งหมดนี้ทำให้ตู้เย็นเสียได้ทั้งหมดล่ะครับ
แล้วปัจจัยภายนอกพวกนี้มันก็ไม่ใช่ความผิดของ Samsung ด้วย
ค่าเดินทาง 500 นี่ไม่แพงหรอกครับ คุณซื้อสินค้าแบบซื้อขาดนะครับ สินค้าเป็นของคุณไปแล้ว ไม่ใช่ของ Samsung
หลังจากหมดประกันแล้ว ถ้าเกิดมันมีปัญหามันก็ถือเป็นความรับผิดชอบของคุณ คุณจะให้ช่าง Samsung มาซ่อม หรือให้ช่างทั่วไปข้างนอกซ่อมก็ได้
อีกอย่าง คุณจะไปเทียบกับ LG ได้ไงล่ะครับ พนักงาน Samsung เค้าก็ทำงานอยู่ Samsung ไม่ได้ทำงาน LG
เค้าก็ต้องทำตามนโยบายบริษัทของเค้า คุณไปถามเค้าว่าทำไม LG ไม่มีค่าเดินทาง แล้วเค้าจะเอาคำตอบที่ไหนมาให้คุณในเมื่อเค้าทำงานอยู่ Samsung
ผมใช้แอร์ Mitsubishi เรียกช่างมาเปลี่ยนเซนเซอร์ตัวนึง ที่ราคาจริงๆแค่ 100 กว่าบาท ผมยังต้องเสียค่าเดินทาง 1 พันบาทเลยครับ ถ้าผมมีเวลาผมกลับไปเปลี่ยนเองแล้ว แต่ผมก็ต้องยอมเสียค่าเดินทางให้ช่าง เพราะไม่อยากให้ลูกทนร้อนที่บ้าน
ส่วนตัวผม ถ้าเลือกได้จะไม่ใช้ของ Samsung ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็มีเครื่องซักผ้า (จะ 3 ปีแล้ว)
แล้วก็โทรศัพท์ของแฟนเป็น Note 4 ซึ่งยังไม่มีปัญหาอะไร
อีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจ เท่าที่ผมอ่าน ไม่ว่าใครมาตอบกระทู้คุณ ดูคุณจะตอบกลับแบบเหวี่ยงๆไปซะทุกคน เค้ามาให้คำแนะนำนะครับ
ถ้าผมคิดไปเองก็ขอโทษด้วยครับ
เค้าไม่รู้หรอกครับว่าอุปกรณ์ตัวไหนเสีย อาจจะแค่สายไฟราคาไม่กี่บาท อาจจะเซ็นเซอร์ราคาแพง อาจจะนู่นนี่นั่น ฯลฯ
เค้าจะรู้ได้ไงว่าตัวไหนเสีย เค้าเป็น call center ไม่ใช่ช่าง และเค้าไม่ได้อยู่หน้างาน
ต่อให้ช่างคุยทางโทรศัพท์เค้าก็ตอบไม่ได้หรอกครับว่าอะไรที่เสีย เค้าก็ต้องมาเปิดตู้เย็นดูนั่นล่ะถึงรู้
แล้วการที่เค้ารับประกันอะไหล่ให้ 3 เดือนผมว่าก็สมเหตุสมผลแล้วนะ เพราะถ้าหลังจากนั้นตู้เย็นเกิดการเสียอีก มันอาจเกิดจากชิ้นส่วนอื่นก็ได้
ช่างเค้าไม่รู้ ไม่มาเห็นหรอกว่าคุณใช้ตู้เย็นถนอมแค่ไหน เปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้บ่อยๆรึเปล่า วางตู้เย็นห่างจากกำแพงน้อยไปมั้ย บ้านคุณร้อนไปรึเปล่า
ระบบไฟฟ้าบ้านคุณมีปัญหารึเปล่า ไฟตกบ่อยมั้ย เต้ารับที่เสียบปลั๊กหลวมรึเปล่า และอีกหลายสาเหตุ ทั้งหมดนี้ทำให้ตู้เย็นเสียได้ทั้งหมดล่ะครับ
แล้วปัจจัยภายนอกพวกนี้มันก็ไม่ใช่ความผิดของ Samsung ด้วย
ค่าเดินทาง 500 นี่ไม่แพงหรอกครับ คุณซื้อสินค้าแบบซื้อขาดนะครับ สินค้าเป็นของคุณไปแล้ว ไม่ใช่ของ Samsung
หลังจากหมดประกันแล้ว ถ้าเกิดมันมีปัญหามันก็ถือเป็นความรับผิดชอบของคุณ คุณจะให้ช่าง Samsung มาซ่อม หรือให้ช่างทั่วไปข้างนอกซ่อมก็ได้
อีกอย่าง คุณจะไปเทียบกับ LG ได้ไงล่ะครับ พนักงาน Samsung เค้าก็ทำงานอยู่ Samsung ไม่ได้ทำงาน LG
เค้าก็ต้องทำตามนโยบายบริษัทของเค้า คุณไปถามเค้าว่าทำไม LG ไม่มีค่าเดินทาง แล้วเค้าจะเอาคำตอบที่ไหนมาให้คุณในเมื่อเค้าทำงานอยู่ Samsung
ผมใช้แอร์ Mitsubishi เรียกช่างมาเปลี่ยนเซนเซอร์ตัวนึง ที่ราคาจริงๆแค่ 100 กว่าบาท ผมยังต้องเสียค่าเดินทาง 1 พันบาทเลยครับ ถ้าผมมีเวลาผมกลับไปเปลี่ยนเองแล้ว แต่ผมก็ต้องยอมเสียค่าเดินทางให้ช่าง เพราะไม่อยากให้ลูกทนร้อนที่บ้าน
ส่วนตัวผม ถ้าเลือกได้จะไม่ใช้ของ Samsung ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็มีเครื่องซักผ้า (จะ 3 ปีแล้ว)
แล้วก็โทรศัพท์ของแฟนเป็น Note 4 ซึ่งยังไม่มีปัญหาอะไร
อีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจ เท่าที่ผมอ่าน ไม่ว่าใครมาตอบกระทู้คุณ ดูคุณจะตอบกลับแบบเหวี่ยงๆไปซะทุกคน เค้ามาให้คำแนะนำนะครับ
ถ้าผมคิดไปเองก็ขอโทษด้วยครับ
coffee_m ถูกใจ, บะหมี่หอย ถูกใจ, เอ เอ่ เอ้ เอ๊ เอ๋ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1419194 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 708637 ถูกใจ, MarlboroChompoo ถูกใจ, even lovers need a holiday ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 999551 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 823662 ถูกใจ, pakdoy ถูกใจรวมถึงอีก 35 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 69
จขกท.มีปัญหาในการจัดการอารมณ์และการรับฟังผู้อื่น
coffee_m ขำกลิ้ง, MBA ฮาเฮ ถูกใจ, Enrike ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 2581886 ถูกใจ, ~~ขอใช้ชื่อนี้สักปีนึง~~ ถูกใจ, perfectAm ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2174443 ถูกใจ, Gripphen33 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 999551 ถูกใจ, เจ้าหญิงหน้าถั่ว ถูกใจรวมถึงอีก 16 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 37
เท่าที่อ่านมา จขกท โครตจะโวยวายเลย
500 บาทคือค่าเดินทางและค่าแรงในการทำงาน สมมุติว่า พนักงานค่าแรง 500 ครึ่งวันเค้านั่งเฉยๆไม่มีงานทำ ก็ต้องจ่าย 500 หรือเค้าต้องขับรถไปสาขาครึ่งวัน เวลาที่เค้าขับรถแหละ คือค่าแรงเค้า 500
ถ้าผมออกไปหาลูกค้าแล้วไม่ได้อะไรกลับมา ทำไมผมต้องเสียค่าน้ำมันค่าเสื่อมรถค่าผ่อนรถ และเวลาไปฟรีละ เพราะเวลาตรวจเชค ก็คือเวลาทำงานเค้า ถ้าเค้ามีตาทิพ เค้าคงไม่ได้ไปเองหรอกแบบนั้นก็ตีราคาไปเลยว่าค่าซ่อมเท่าไร
ถ้าคิดว่าแพงกับค่าเปิดเครื่อง ก็ลองเรียกช่างที่อื่นมา ร้านแอร์ก็ได้ น่าจะซ่อมตู้เย็นได้เหมือนกัน ลองถามราคาเค้าว่าเค้าคิดเท่าไร ก็คำนวนเอาคุ้มไม่คุ้ม
500 บาทคือค่าเดินทางและค่าแรงในการทำงาน สมมุติว่า พนักงานค่าแรง 500 ครึ่งวันเค้านั่งเฉยๆไม่มีงานทำ ก็ต้องจ่าย 500 หรือเค้าต้องขับรถไปสาขาครึ่งวัน เวลาที่เค้าขับรถแหละ คือค่าแรงเค้า 500
ถ้าผมออกไปหาลูกค้าแล้วไม่ได้อะไรกลับมา ทำไมผมต้องเสียค่าน้ำมันค่าเสื่อมรถค่าผ่อนรถ และเวลาไปฟรีละ เพราะเวลาตรวจเชค ก็คือเวลาทำงานเค้า ถ้าเค้ามีตาทิพ เค้าคงไม่ได้ไปเองหรอกแบบนั้นก็ตีราคาไปเลยว่าค่าซ่อมเท่าไร
ถ้าคิดว่าแพงกับค่าเปิดเครื่อง ก็ลองเรียกช่างที่อื่นมา ร้านแอร์ก็ได้ น่าจะซ่อมตู้เย็นได้เหมือนกัน ลองถามราคาเค้าว่าเค้าคิดเท่าไร ก็คำนวนเอาคุ้มไม่คุ้ม
โจคนเก้าเลี้ยว ถูกใจ, TsPl ถูกใจ, ใบตองห่อปลาร้า ถูกใจ, Gripphen33 ถูกใจ, คนโฆษณา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2969079 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 3
คุณครับ ขอแย้งนิดหนึ่ง เจ้าหน้าที่ที่คุยสายกับคุณเป็นช่างหรือเปล่า ถึงเป็นช่าง เค้าก็คงไม่กล้าบอกคุณหรอกว่าอะไรเสีย ต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร โดยที่ยังไม่เห็นของที่จะต้องซ่อม ซึ่งดูจากที่คุณพิมพ์มา เจ้าหน้าที่ที่คุยสายกับคุณ เค้าก็ตอบได้ชัดเจน สมเหตุผลดี แต่ไม่ถูกใจคุณ
Sudjarid_sai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 708637 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 823662 ถูกใจ, โจคนเก้าเลี้ยว ถูกใจ, fearseeker ถูกใจ, คนโฆษณา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2969079 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1274468 ถูกใจ, คุณกัตโต้ ถูกใจ, พลพรรคร้อยคนดี ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
มีคนเคยเตือนว่า เครื่องใช้ไฟฟ้ายี้ห้อSamsung อย่าซื้อ!! เลยโดนมากะตัวเองเข็ดเลย!!!
เราเฉยๆนะ คิดว่า มาบรั๊ฟ หรือเปล่า!!
สุดท้ายเราไปซื้อ ตู้เย็น Samsung ราคา13000 2ประตู คือแรกๆไม่มีปัญหาอะไร เราซื้อมาเกือบจะ1ปีกว่าๆได้
ล่าสุด ช่องฟิตในตู้เย็น มันไม่เย็น!! คือ เย็นน้อยมากๆๆๆๆ แบบว่า ซื้อน้ำแข็งยูนิตมา1ถุง แช่ไว้3/5ชม ถุงน้ำแข็งละลายเป็นน้ำ
แต่ตู้เย็น ทั้งตู้ยังมีความเย็นอยู่ แต่เย็นน้อยมากๆๆ ล่าสุดลองถามในเว็ป เอาบอกว่า ให้ถอดปลั๊กทิ้งไว้7/8ชม เราก็ทำตาม สรุปว่าเหมือนเดิม!! ความเย็นไม่เย็นขึ้นกว่าเดิม
สุดท้ายโทรไปที่ศูนย์ Sumsung บอกอาการ ไป!!! เจ้าหน้าที่บอกว่า เราหมดประกัน เพราะตู้เย็นรับประกันแค่1ปี เราถามว่าต้องเสียค่าอะไรไหม
เจ้าหน้าที่บอก หมดประกัน คิดค่าเปิดเครื่อง500 ส่วนอะไห่คิดต่างหากตามราคา!!!
เราก็บอกว่า ตู้เย็นยี้ห้ออื่นๆ เขาอยู่ได้4/6ปี ส่วนเราทำไม ไม่ถึง2ปี ถึงมีปัญหาแล้ว!! เจ้าหน้าที่บอกว่า (ไม่ทราบค่ะ คนละยี้ห้อกัน)!!!
เราก็บอกว่า เราเคยใช้ ทีวีLG หมดประกันไปแล้ว แต่เขามาให้ฟรี และคิดว่าซ่อม400 ซึ่งถูกมาก แถมอาการทีวีนั้น เป็นเส้นๆดูไม่ได้ เรายังคิดว่าเกิน1000แน่ๆ
แต่ทำไมSumsung แค่ค่าเปิดเครื่อง แค่มาดูว่าต้องเปลี่ยนอะไรไหมคิดตั้ง500 เพราะเราอาจจะไม่ซ่อมก็ได้ถ้ามันแพง!!!! เจ้าหน้าที่บอก( มันเป็นตามกฏค่ะ ค่าเดินทางค่ะ) เราก็บอกบ้านเราอยู่ กทม. ใจกลางเมืองนะ ไม่ใช่อยู่ ตจว. เจ้าหน้าที่บอก( ไม่เกี่ยวกับดิชั้นค่ะ มันคือกฏค่ะ)!!!
คือ เราถามว่า ถ้าต้องเปลี่ยนอะไหล่ ให้เย็นขึ้นเท่าไหร่ เขาบอกตอบไม่ได้!! เราก็บอกว่ากะคร่าวๆได้ไหม!! ถ้าหลายพัน เราไม่ซ่อม!! (เจ้าหน้าที่บอก ไม่ทราบค่ะต้องไปดูถึงจะบอก) คือ สรุปง่ายๆ เราเสีย500แน่ๆ จะซ่อมหรือไม่ซ่อมก็ตาม!!!
เราถามว่า ถ้าเปลี่ยน จะรับประกันว่ามันจะเย็นขึ้นจากเดิมแน่นะ (เจ้าหน้าที่บอก ตอบไม่ได้ค่ะ แต่แค่ประกัน3เดือน) เท่านั้น !! เราถามว่า อ้าว สรุปว่าเกิน3เดือนถ้าเครื่องมันมีปัญหา เราต้องเสียเงินอีกใช่ไหม!!(เจ้าหน้าที่บอก ใช่ค่ะ)
เราสงสัยว่าซื้อมา1ปีกว่าๆ มันมีปัญหาง่ายจัง เออถ้าซื้อมา3/5ปี เราไม่ว่าเลยนะ!! แล้วเจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่า (เรื่องการผลิตเขาไม่ทราบค่ะ ว่าล็อตไหนมีปัญหา หรือไม่มี) ทำไมพูดแบบสุนัขแบบนี้ เราซื้อมา13000นะ ไม่ใช่3000 บาท!!!! บอกตามตรงเข็ดเลย ซื้อมา1ปีกว่าๆ ไม่เย็นแล้ว!! เจริญจริงๆ เข็ดเลย พอกันทียี้ห้อนี้!!!