iPhone SE ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความนิยมที่มีมากกว่าที่ Apple ได้คาดการณ์ไว้
ในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเพื่อหารือเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี CEO Tim Cook ได้กล่าวว่า อุปสงค์ (demand) หรือ ความต้องการซื้อของโทรศัพท์รุ่นหน้าจอขนาด 4 นิ้ว มีมากกว่าอุปทาน (supply) หรือ ความต้องการขายของ Apple เป็นอย่างมาก
"พวกเรากำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะผลิต iPhone SE ให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" CEO Tim Cook ได้กล่าวเอาไว้
โดยร้านค้าออนไลน์ Apple Store เปิดเผยข้อมูลว่า อาจต้องใช้เวลาถึง 2-3 สัปดาห์ในการรอเครื่องทุกขนาดและสี ซึ่งจากการสำรวจร้านค้าในเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ทั้งในนิวยอร์ก, ลอสแองเจลิส, ดัลลาส และ ชิคาโก้ ต่างแสดงสถานะว่าไม่มีสินค้าเกือบทุกร้าน
นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Apple ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า iPhone มียอดขายลดลงเป็นครั้งแรก ซึ่งลดลงร้อยละ 16 ไปอยู่ที่ 51.2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา โดยลดลงจาก 61.1 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน นับเป็นข่าวร้ายเพราะเนื่องจาก 2 ใน 3 ของรายได้ของ Apple มาจากการขาย iPhone นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม iPhone SE ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา จึงทำให้ยอดขายยังไม่ได้ถูกนับรวมในผลประกอบการไตรมาสที่สองนี้
โดย iPhone SE เริ่มต้นจำหน่ายอยู่ที่ราคา 399 เหรียญสหรัฐ ซึ่งมาพร้อมหลาย ๆ ฟีเจอร์เด่นที่พบได้ใน iPhone 6S รวมถึงหน่วยประมวลผลที่รวดเร็วขึ้น, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ Touch ID, การใช้งาน Apple pay และ Wi-Fi เวอร์ชั่นล่าสุด
ที่มา
CNET
Apple คุยโว ความต้องการซื้อ iPhone SE ดีเกินคาด
iPhone SE ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความนิยมที่มีมากกว่าที่ Apple ได้คาดการณ์ไว้
ในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเพื่อหารือเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี CEO Tim Cook ได้กล่าวว่า อุปสงค์ (demand) หรือ ความต้องการซื้อของโทรศัพท์รุ่นหน้าจอขนาด 4 นิ้ว มีมากกว่าอุปทาน (supply) หรือ ความต้องการขายของ Apple เป็นอย่างมาก
"พวกเรากำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะผลิต iPhone SE ให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" CEO Tim Cook ได้กล่าวเอาไว้
โดยร้านค้าออนไลน์ Apple Store เปิดเผยข้อมูลว่า อาจต้องใช้เวลาถึง 2-3 สัปดาห์ในการรอเครื่องทุกขนาดและสี ซึ่งจากการสำรวจร้านค้าในเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ทั้งในนิวยอร์ก, ลอสแองเจลิส, ดัลลาส และ ชิคาโก้ ต่างแสดงสถานะว่าไม่มีสินค้าเกือบทุกร้าน
นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Apple ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า iPhone มียอดขายลดลงเป็นครั้งแรก ซึ่งลดลงร้อยละ 16 ไปอยู่ที่ 51.2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา โดยลดลงจาก 61.1 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน นับเป็นข่าวร้ายเพราะเนื่องจาก 2 ใน 3 ของรายได้ของ Apple มาจากการขาย iPhone นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม iPhone SE ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา จึงทำให้ยอดขายยังไม่ได้ถูกนับรวมในผลประกอบการไตรมาสที่สองนี้
โดย iPhone SE เริ่มต้นจำหน่ายอยู่ที่ราคา 399 เหรียญสหรัฐ ซึ่งมาพร้อมหลาย ๆ ฟีเจอร์เด่นที่พบได้ใน iPhone 6S รวมถึงหน่วยประมวลผลที่รวดเร็วขึ้น, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ Touch ID, การใช้งาน Apple pay และ Wi-Fi เวอร์ชั่นล่าสุด
ที่มา CNET