โลกในปัจจุบันมันอยู่ยากขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากสมัยก่อน
การที่เราอยากจะเป็นลูกที่ดี พี่ที่ดี หลานที่ดี นักศึกษาที่ดี เพื่อนที่ดี แฟนที่ดี ทั้งหมดเลยนั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมายเหตุ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราเอง เราคิดว่าคงไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ทุกสิ่งอยู่ที่การปรับทัศนคติให้ตรงกันถึงจะมีความสุขกันได้ นี้เป็นการตั้งกระทู้เพื่อระบาย และเขียนมาจากอารมณ์ล้วนๆ โปรดมีพิจารณญาณในการอ่าน หากผิดพลาดประการได้ขออภัย ณ ที่นี้ ขอบคุณค่ะ
- เป็นลูกที่ดี+หลานที่ดี+นักศึกษาที่ดี ทุกวันกลับบ้านตรงเวลาไม่ไปไหน อ่านหนังสือทำการบ้านทั้งวันทั้งคืน ไปเรียนหนังสือ ส่งการบ้านทุกครั้ง ก็เป็นได้ละ
- เป็นพี่ที่ดี+หลานที่ดี+ลูกที่ดี วันๆก็ช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน ช่วยน้องทำการบ้านติวหนังสือ มีเวลาให้ครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน ก็เป็นได้ละ
- เป็นเพื่อนที่ดี+นักศึกษาที่ดี ติวหนังสือให้เพื่อน ตั้งใจเรียน ช่วยกันทำงานกลุ่มทำการบ้าน ทำกิจกรรมของมหาลัย ช่วยเหลือเพื่อนในยามยาก แบ่งเบาภาระอาจาร์ ส่งงานส่งการบ้านอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ ก็เป็นได้ละ
- เป็นแฟนที่ดี+เพื่อนที่ดี ก็ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างกับแฟนบ้าง มีเวลาให้กัน ช่วยเหลือกันในยามยาก ให้กำลังใจซึ้งกันและกัน ปลอบใจในยามทุกข์ ยินดีในยามสุข ก็เป็นได้ละ
แต่การที่จะเป็นทุกอย่างเนี่ยะ เวลายี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านไปแต่ละวันมันไม่พอเลย เราก็เลยต้องสลับไปสลับมาไง เราจะยึดถือเอาใจคนๆเดียวเป็นหลักก็ไม่ได้เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในสังคม
บางที
- พ่อแม่ ถ้าเข้าใจว่าลูกเรียนมหาลัยแล้ว มีงานมีการบ้าน ช่วยเพื่อนมั้ง มีกิจกรรม ต้องกลับดึกบ้าง ความข้องใจกันก็จะไม่เกิด ไม่ใช่ว่ากลับดึกทุกวัน ก็มีเวลาให้บ้าง และให้กำลังใจลูกบ้าง
- แฟน ถ้าเข้าใจบ้างว่าเรายังเป็นลูกมีพ่อแม่ เราต้องเกรงใจท่าน เรายังมีงานมีการบ้านให้ทำ ไม่สามารถที่จะมาเป็นแฟนที่ดีได้ตลอดเวลา แค่นี้ความข้องใจก็จะไม่เกิด เพียงแค่ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แค่นี้ก็ดีแล้ว
- น้อง บางทีน้องจะต้องเข้าใจว่าทุกอย่างไม่ใช่ว่าพึ่งแต่พี่ มีอะไรก็พึ่ง ควรที่จะใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง แก้ปัญหาให้ได้ ควรเข้าสังคม มีเพื่อน มีอาจารย์ ก็ปรึกษาเข้าไป ไม่ใช่มาพึ่งหวังแต่พี่เป็นเส้นด้ายเส้นตาย
- เพื่อน ควรเข้าใจว่าเราปกติชีวิตเป็นยังไง เรามีใครที่ต้องดูแล แล้วยังต้องมีใครที่จะต้องใส่ใจอีก ไม่ใช่ว่าเราจะดูแลเพื่อนคนนี้ไปตลอดชีวิต และควรช่วยเหลือเพื่อนในยามยาก
- ปู่ย่าตายาย ควรจะเข้าใจหลานว่าทุกวันนี้เราไม่ได้ว่างเหมือนเขา ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีเวลาให้นะ แต่เราไม่สามารถที่จะตามใจท่านได้ตลอดเวลา เหมือนตอนที่เราเป็นเด็กแล้ว
- อาจารย์ ขอไม่พูดถึง อาจารย์ทุกคนส่วนใหญ่ทำไปตามหน้าที่ แล้วทำหน้าที่ได้ดีอยู๋แล้ว
สิ่งที่สำคัญควรเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกัน หากรู้สึกไม่ดีตะขิดตะขวงใจก็ควรที่จะถามเหตุผล และรับฟังเหตุผลอย่างตั้งใจก่อนที่จะมาตัดสิน และทำให้รู้สึกแย่กันไปเปล่าๆ สำหรับคนที่รักคุณมากแล้วนั้น หากฟังเหตุผลกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น ให้กำลังใจกันมากขึ้น ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่น บางทีก็มีขัดแย้งทะเลาะกันบ้าง แต่ทะเลาะกันด้วยเหตุผล ก็จะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น แต่สำหรับบางคนที่ปากไว ใช้อารมณ์เป็นหลัก อาจจะทำให้คนอื่นเสียใจ คุณอาจจะดูเหมือนเขาเป็นคนไม่รู้สึกอะไร แต่จริงๆ ในใจเขานั้นอาจจะเก็บไปเสียใจหลายวันก็ได้ และยิ่งคุณเป็นคนสำคัญสำหรับเขามากเท่าไหร่ คำพูดของคุณก็จะอาจจะทำร้ายคนที่คุณรักได้โดยไม่รู้ตัว
ใครที่กำลังทำร้ายคนที่คุณรักโดยไม่รู้ตัว โปรดหยุดพฤติกรรมเหล่านั้น และหันมาเข้าใจและให้กำลังใจกันดีกว่าค่ะ
24 ชั่วโมงคงยังไม่พอกับการเป็นคนที่ดีสำหรับทุกคน
การที่เราอยากจะเป็นลูกที่ดี พี่ที่ดี หลานที่ดี นักศึกษาที่ดี เพื่อนที่ดี แฟนที่ดี ทั้งหมดเลยนั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เป็นลูกที่ดี+หลานที่ดี+นักศึกษาที่ดี ทุกวันกลับบ้านตรงเวลาไม่ไปไหน อ่านหนังสือทำการบ้านทั้งวันทั้งคืน ไปเรียนหนังสือ ส่งการบ้านทุกครั้ง ก็เป็นได้ละ
- เป็นพี่ที่ดี+หลานที่ดี+ลูกที่ดี วันๆก็ช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน ช่วยน้องทำการบ้านติวหนังสือ มีเวลาให้ครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน ก็เป็นได้ละ
- เป็นเพื่อนที่ดี+นักศึกษาที่ดี ติวหนังสือให้เพื่อน ตั้งใจเรียน ช่วยกันทำงานกลุ่มทำการบ้าน ทำกิจกรรมของมหาลัย ช่วยเหลือเพื่อนในยามยาก แบ่งเบาภาระอาจาร์ ส่งงานส่งการบ้านอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ ก็เป็นได้ละ
- เป็นแฟนที่ดี+เพื่อนที่ดี ก็ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างกับแฟนบ้าง มีเวลาให้กัน ช่วยเหลือกันในยามยาก ให้กำลังใจซึ้งกันและกัน ปลอบใจในยามทุกข์ ยินดีในยามสุข ก็เป็นได้ละ
แต่การที่จะเป็นทุกอย่างเนี่ยะ เวลายี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านไปแต่ละวันมันไม่พอเลย เราก็เลยต้องสลับไปสลับมาไง เราจะยึดถือเอาใจคนๆเดียวเป็นหลักก็ไม่ได้เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในสังคม
บางที
- พ่อแม่ ถ้าเข้าใจว่าลูกเรียนมหาลัยแล้ว มีงานมีการบ้าน ช่วยเพื่อนมั้ง มีกิจกรรม ต้องกลับดึกบ้าง ความข้องใจกันก็จะไม่เกิด ไม่ใช่ว่ากลับดึกทุกวัน ก็มีเวลาให้บ้าง และให้กำลังใจลูกบ้าง
- แฟน ถ้าเข้าใจบ้างว่าเรายังเป็นลูกมีพ่อแม่ เราต้องเกรงใจท่าน เรายังมีงานมีการบ้านให้ทำ ไม่สามารถที่จะมาเป็นแฟนที่ดีได้ตลอดเวลา แค่นี้ความข้องใจก็จะไม่เกิด เพียงแค่ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แค่นี้ก็ดีแล้ว
- น้อง บางทีน้องจะต้องเข้าใจว่าทุกอย่างไม่ใช่ว่าพึ่งแต่พี่ มีอะไรก็พึ่ง ควรที่จะใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง แก้ปัญหาให้ได้ ควรเข้าสังคม มีเพื่อน มีอาจารย์ ก็ปรึกษาเข้าไป ไม่ใช่มาพึ่งหวังแต่พี่เป็นเส้นด้ายเส้นตาย
- เพื่อน ควรเข้าใจว่าเราปกติชีวิตเป็นยังไง เรามีใครที่ต้องดูแล แล้วยังต้องมีใครที่จะต้องใส่ใจอีก ไม่ใช่ว่าเราจะดูแลเพื่อนคนนี้ไปตลอดชีวิต และควรช่วยเหลือเพื่อนในยามยาก
- ปู่ย่าตายาย ควรจะเข้าใจหลานว่าทุกวันนี้เราไม่ได้ว่างเหมือนเขา ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีเวลาให้นะ แต่เราไม่สามารถที่จะตามใจท่านได้ตลอดเวลา เหมือนตอนที่เราเป็นเด็กแล้ว
- อาจารย์ ขอไม่พูดถึง อาจารย์ทุกคนส่วนใหญ่ทำไปตามหน้าที่ แล้วทำหน้าที่ได้ดีอยู๋แล้ว
สิ่งที่สำคัญควรเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกัน หากรู้สึกไม่ดีตะขิดตะขวงใจก็ควรที่จะถามเหตุผล และรับฟังเหตุผลอย่างตั้งใจก่อนที่จะมาตัดสิน และทำให้รู้สึกแย่กันไปเปล่าๆ สำหรับคนที่รักคุณมากแล้วนั้น หากฟังเหตุผลกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น ให้กำลังใจกันมากขึ้น ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่น บางทีก็มีขัดแย้งทะเลาะกันบ้าง แต่ทะเลาะกันด้วยเหตุผล ก็จะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น แต่สำหรับบางคนที่ปากไว ใช้อารมณ์เป็นหลัก อาจจะทำให้คนอื่นเสียใจ คุณอาจจะดูเหมือนเขาเป็นคนไม่รู้สึกอะไร แต่จริงๆ ในใจเขานั้นอาจจะเก็บไปเสียใจหลายวันก็ได้ และยิ่งคุณเป็นคนสำคัญสำหรับเขามากเท่าไหร่ คำพูดของคุณก็จะอาจจะทำร้ายคนที่คุณรักได้โดยไม่รู้ตัว
ใครที่กำลังทำร้ายคนที่คุณรักโดยไม่รู้ตัว โปรดหยุดพฤติกรรมเหล่านั้น และหันมาเข้าใจและให้กำลังใจกันดีกว่าค่ะ