Batman V Superman…แสงสว่างที่ไม่ผิดหวัง ให้คะแนน 9.5/10

กระทู้สนทนา


ห่างเหินการเขียนวิจารณ์หนังที่ชอบมาพักใหญ่ จนหนังได้ลาโรงไปแล้ว แต่ถ้าไม่เขียนถึงเลยแล้วมันคาใจจริงๆ จะว่าไปแล้วซุปเปอร์ฮีโร่ที่เห็นมาตั้งแต่อนุบาลก็พี่ซุปเปอร์แมนนี่แล่ะ เริ่มจาก คริสโตเฟอร์ รีฟส์ ส่วนพี่แบทแมนเราได้เริ่มดูจากไมเคิล คีตัน และทั้งสองซุปเปอร์ฮีโร่นี้เราติดตามชมผลงานทุกภาคทุกนักแสดง มันเป็นเหมือนตำนานนะ นักแสดงผู้สร้างและผู้กำกับแต่ละท่านล้วนมีเอกลักษณ์อีกทั้งจุดเด่นเป็นของตนเอง บอกตามตรงโรสไม่อยากเปรียบเทียบเพราะพวกเขาต่างทำหน้าที่ให้ดีสุดความสามารถกันทั้งนั้น

มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ทันทีที่ได้ข่าวเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีกระแสวิจารณ์มาโดยตลอดว่ามันจะไม่ได้เรื่อง ในส่วนของเฮนรี่ที่มารับบทซุปเปอร์แมนนั้นได้รับการยอมรับมาจาก Man of Steel ภาคก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาหล่อ ล่ำ และดูเป็นสุภาพบุรุษ ความหนักอึ้งเลยมาตกอยู่กับเบ็น แอฟเฟล็ค ผู้รับบทแบทแมน ชอบเฮียตั้งแต่เล่นเรื่อง Armageddon และอีกหนึ่งน้องนางนักรบหญิง กัล กาด็อต มารับบทเป็น วันเดอร์วูแมน สาวสวยท่านนี้เราชอบเธอมาตั้งแต่ Fast & Furious เธอเป็นกุหลาบเหล็กท่ามกลางหมู่ภมรอย่างอาจองจริงๆ

เนื้อเรื่องสำหรับภาคนี้สืบเนื่องมาจาก Man of Steel ผลพวงแห่งความหายนะซึ่งเกิดจากการปะทะระหว่างซุปเปอร์แมนและนายพลซ็อต ทำให้บ้านเมืองวอดวาย ผู้คนล้มตาย เกิดความเสียหาย หรือแม้แต่ตึกของมหาเศรษฐีอย่าง บรูซ เวย์น ก็พังพินาศเฉกเช่นเดียวกัน ฝูงชนแบ่งเป็นสองฝักสองฝ่ายระหว่างผู้ที่เชื่อมั่นว่าซุปเปอร์แมนคือแสงสว่างแห่งความสงบ และผู้ที่เชื่อมั่นว่าซุปเปอร์แมนคือหายนะของเมืองก็อตแธม เมืองเมโทรโปลิสและชาวโลก แน่นอนว่าผู้ที่เกิดความสงกาและต้องการจะพุ่งชนกับซุปเปอร์แมน นั่นก็คือแบทแมนบุรุษรัตติกาลนั่นเอง เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นเป็นระลอกด้วยฝูงชนเกรงกลัวพลังดุจเทพเจ้าของซุปเปอร์แมนจนทำให้เกิดคำถามลึกๆภายในใจของตัวเขาเองว่า เขาเป็นที่ต้องการของชาวโลกจริงๆหรือไม่ ในขณะที่จอมวายร้ายอย่าง เล็กซ์ ลูเธอร์ ซีอีโอจิตป่วนแห่งเล็กซ์คอร์ป มีแผนการที่จะนำผลึกคริปโตไนต์กำจัดซุปเปอร์แมนเพื่ออำนาจที่ยิ่งใหญ่ ความไม่ประสงค์ดี เล่ห์กล ความไม่ไว้วางใจ การยุแยง และแผนร้ายจึงนำไปสู่ความขัดแย้งของสองซุปเปอร์ฮีโร่ถึงขั้นชี้ชะตาชี้เป็นชี้ตาย วันเดอร์วูแมนจะเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์เอาไว้ได้อย่างไร จุดจบของพวกเขาจะลงเอยในรูปแบบไหน เชิญไปพิสูจน์ได้ด้วยสายตาตนเอง (ตั้งใจดูให้ดีนะคะเพราะจะมีอควาแมน ไซบอร์ก และเดอะ แฟลช โผล่แว๊บมาให้เห็นด้วยล่ะเอ้อ) ฝากให้ไปนับกันเพลินๆว่าพี่ซุปเหาะช่วยศรีภรรยากี่ครั้ง ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก

ภาคนี้ได้แซ็ก ชไนเดอร์ มานั่งแท่นผู้กำกับ ชอบเฮียตั้งแต่เรื่อง 300 จุดเด่นของภาพยนตร์ของแซ็คก็คือ จังหวะจะโคนในฉากสู้รบและฉากแอ็คชั่น ภาพสวยสมจริงมีมิติเคลื่อนไหวในตัว จนทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินจนข้ามผ่านเนื้อเรื่องไปได้ ดนตรีประกอบได้สุดยอดฝีมืออย่าง ฮานส์ ซิมเมอร์และจังกี้ มารังสรรค์ให้ ท่านใดชอบดนตรีประกอบภาพยนตร์แนะนำให้ซื้อมาเก็บสะสมได้เลยสำหรับเรื่องนี้ ผู้ประพันธ์ทำการบ้านมาดีมาก ต่อให้ไม่เห็นภาพก็สามารถจินตนาการหยั่งรู้ไปถึงสภาพจิตใจของตัวละครได้เป็นอย่างดี เปี่ยมไปด้วยอารมณ์โดดเดี่ยว สับสน อ้างว้าง สูญเสีย ความเกรี้ยวกราด ความชั่วร้ายและความกล้าหาญ แทร็คที่เป็นที่ถูกอกถูกใจและอลังการงานสร้างในทุกๆครั้งที่วันเดอร์วูแมนปรากฏกายนั่นก็คือ “Is she with you?” ดนตรีขึ้นทีไรฮึกเหิมทุกทีสิท่า มาพูดถึงด้านรายได้ในขณะนี้ที่ทำรายได้ไปถึง 852.3 ล้านเหรียญยูเอสดอลลาร์ ด้วยทุนสร้าง 250 ล้านเหรียญยูเอสดอลลาร์ คงทำให้ทั้งผู้สร้าง ทีมนักแสดง รวมทั้งแฟนๆยิ้มแก้มปริไปตามๆกัน และมีอนาคตที่สดใสสำหรับภาคต่อไป ส่วนนักวิจารณ์ที่เคยจวกเอาไว้ซะเสียหลายล้านคงจะหงายเงิบ เฮ้อ เห็นรายได้เราก็ชื่นใจไปกับเขา หนึ่งในนั้นคือเงินของเราด้วยอิๆๆ

ในส่วนของการออกแบบเครื่องแต่งกายได้รับการรังสรรค์โดย ไมเคิล วิลคินสัน ที่เคยได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Costume Design 2013 จาก “American Hustle” ส่วนแบทโมบิลสุดเท่แสนบึกบึนออกแบบโดย แพทริค ทาโทพูโลส ซึ่งเคยฝากฝีมือกับผลงาน อาทิ Underworld, Bram Stoker’s Dracula, Spawn เป็นต้น ซุปเปอร์แมนเลิกสวมใส่กางเกงในสีแดงแล้ว ก็ดูดีไปอีกแบบนะ ส่วนชุดของแบทแมนดูบึกบึนกำยำล่ำสันเส้นใยดูดิบมีร่องรอยผ่านการกรำสึกมาอย่างโชกโชนพร้อมจะตะลุยรบ ในส่วนของชุดสาวเจ้าวันเดอร์วูแมนดูปราดเปรียวเท่และเซ็กซี่กำลังดีค่ะ

การเดินเรื่องในช่วงแรกอาจดูเนิบๆ ชอบฉากที่เล่าเบื้องหลังการตายของพ่อแม่ของบรูซ เวย์น ฉากสโลวโมชั่น เห็นเลือดกระจาย เห็นการเคลื่อนไหวของลำปืน การล้มตัวลงของเหยื่อ และไข่มุกที่ขาดกระจาย มันเรียกอารมณ์การสูญเสียของบรูซ เวย์นได้ดีมาก หุ่นของเฮนรี่ดูหนาและล่ำขึ้น ดวงตาของดาราท่านนี้ดูอ่อนโยนมาก เบ็น สอบผ่านสำหรับการเป็นแบทแมนและเป็นแบทแมนที่หุ่นสูงกว่าใครๆ เขาสูงใหญ่ถึง 192 ซม. หากสวมชุดแบทแมนยิ่งทำให้เขาใหญ่ยักษ์ขึ้นไปอีก วัย 43 ปีของเขา การมีผมสองสี การมีริ้วรอยบนใบหน้าบ้าง ทำให้เบ็นดูภูมิฐานสมวัย ดวงตาเก็บกดโดดเดี่ยวเหมือนคนจมอยู่ในกองทุกข์ ในยามที่โกรธเกรี้ยวดวงตาดูเกรี้ยวกราด และเปลี่ยนเป็นดวงตาที่กรุ้มกริ่มยามที่ได้ยลโฉมสาวสวยอย่างไดอาน่า ปริ้นซ์ หรือ วันเดอร์วูแมน สำหรับฉากพระบู๊เบ็นดูดิบเถื่อนโหดกว่าทุกท่านที่เคยเล่นมา เหมือนเขาเต็มกลืนกับโลกที่โสมมและพร้อมที่จะพุ่งชนกับเหล่าอาชญากรให้ดับดิ้นได้ทุกช่วงวินาที โหดดีสะใจ

ปฏิกิริยาเคมีระหว่างเฮนรี่และเบ็นดูแล้วมันไม่ขัดแย้ง รับอารมณ์กันและกันได้ไม่ขาดไม่เกิน ดูแล้วกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นฉากปะทะคารม-ดันหรือแม้แต่อัดกันเกือบตาย นั่งดูแล้วตัวลีบเลยค่ะ ทางด้านนางในดวงใจของพี่ซุปที่รับบทเป็น ลูอิส โดย เอมี่ อดัมส์ อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดี แต่รัศมีเธอยังไม่มากพอที่จะมาขนาบข้างซุปเปอร์แมน และหากต้องปรากฏตัวพร้อมกันกับทีมซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งสามมันทำให้เธอจืดสนิทจริงๆ ก็อย่างที่บอกใช่ว่าเธอไม่ดีแต่แค่ไม่เหมาะ

มาทางด้านดาวร้ายหน้าใสอย่าง เจสซี่ ที่หลายๆคนหลงรักเขามาตั้งแต่ The Social Network การแสดงเป็นดาวร้ายของพ่อหนุ่มดูไม่ขัดตา ดูป่วน ดูจิต ไว้ใจไม่ได้ เล่นได้ดีทีเดียว ไม่แน่ใจว่าพอถ่ายเสร็จในแต่ละฉากต้องดื่มน้ำเป็นเหยือกหรือเปล่าเพราะทั้งพูดไวพูดมาก เห็นแล้วคอแห้งแทนจริงๆ
ได้มีโอกาสไปดูแบบ 2D และ 4DX ต้องยอมรับเลยว่าดูอย่างหลังมันส์ทะลุมิติครบทุกรสชาติมากๆ ทั้งภาพสามมิติ เสียงอันกึกก้อง การสั่นสะเทือน แรงกระแทก สายลม แสงสว่างแปลบๆ หมอกควัน ประหนึ่งเราไปเป็นสักขีพยานในหนัง ท่านใดที่ได้ไปดูคงรู้สึกเหมือนกันว่ามันเข้าถึงอารมณ์มากกว่าระบบปกติค่ะ

โดยส่วนตัวโรสชอบหนังซุปเปอร์ฮีโร่เป็นทุนตั้งแต่เด็ก ชอบทั้งดีซีและมาร์เวล มานั่งเถียงกันว่าใครดีกว่าใครตีกันตายไปเปล่าๆ ดีคนละแบบ มีภูมิหลังคนละอย่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ดีซีเข้มแฝงปรัชญาและมีมิติอันซับซ้อน มาร์เวลมีสีสันเสพได้ง่ายกว่าและเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน
แม้ภาคนี้การเดินเรื่องอาจจะไม่เป็นที่เข้าใจสำหรับแฟนบางกลุ่มแต่สำหรับแฟนตัวจริงดีซีคงเข้าใจไม่ยากจนเกินไป ดูหน่วยก้านภาพรวมของภาคนี้แล้ว นับว่าเป็นการเริ่มต้นลุยการตลาดที่ดีของดีซี จนทำให้อยากเห็นความเจิดจรัสที่จะเกิดขึ้นในเรื่องต่อๆไปที่จะตามมาเป็นระลอก หมากรุกระหว่างดีซีและมาร์เวลนับจากนี้คงเข้มข้นน่าดู เรียกว่าตอบสนองแฟนๆได้ครบทุกรสชาติและหลากหลายมากยิ่งขึ้นค่ะ

ปิดท้ายด้วยข้อคิดสักเล็กน้อยว่า ตราบใดที่แฟนๆยังชื่นชอบหนังซุปเปอร์ฮีโร่นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า จิตใจเบื้องลึกของคนเราหวังคนดีมีคุณธรรมมาคอยดูแลและปกป้อง เราต่างปรารถนาความยุติธรรมจากสังคมโลกอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นอะไร ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปทุกๆด้าน เราต่างต้องมอบความรักช่วยเหลือเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างที่บรูซ เวย์นหรือแบทแมน ได้พูดกับไดอาน่า ปริ้นซ์ หรือ วันเดอร์วูแมนว่า “เขาเชื่อว่าโลกยังคงมีคนดี และนับจากนี้พวกเราจะต้องเกาะกลุ่มกันไว้”

ในวันที่มืดมนความรักในเพื่อนมนุษย์ย่อมส่องแสงสว่างในใจเราได้เสมอค่ะ

By Rose
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่