วันนี้ผมขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ที่ได้สัมภาษณ์งานกับบริษัทญี่ปุ่นนะคับ
เผื่อใครจะนำเอาไปใช้
เริ่มเรื่องก่อนครับ จขกท. เป็นวิศวกรโยธา อายุ 30 นิดๆ เงินเดือนประมาน 50k
เคยเรียนอินทีเรียกับสถาบันนานาชาติในไทยกับครูอิตาลี ประสบการณ์ทำงานประมาณ 10 ปี
อยู่แต่ละบริษัทไม่นานครับ 6 เดือนบ้าง 1 ปีบ้าง 2 ปีบ้าง
พูดแล้วอาจตลก คือผมเป็นคนที่กลัวตกงานครับเลยลาออกบ่อยๆให้ตัวเองคอยอะเลิทตลอด
พอทำงานที่ใหม่ กลัวไม่ผ่านโปรก็ต้องเร่งตัวเอง พอผ่านโปรอะไรๆมันเงียบๆก็เลยเปลี่ยนงานใหม่
เข้าเรื่องครับ
เมื่อวันก่อนมี HR จากบริษัทดังใน กทม. โทรหาผมเพื่อให้ไปสัมภาษณ์กับบริษัทก่อสร้างของญี่ปุ่น
ผมฟังแล้วตื่นตาตื่นใจมากคับ เพราะได้ยินว่าเงินเดือนสูงมาก 555+
แต่ HR ก็บอกว่า เงินเดือนก็พอๆกับที่ผมทำปัจจุบัน ผมก็เลยแผ่วไปนิดนึงแต่ก็โอเคคับ
ผมสัมภาษณ์งานมาเป็นสิบๆที่แล้ว ลองบริษัทญี่ปุ่นซักครั้งได้ไม่ได้ค่อยว่าอีกที
ผมก็เตรียมเอกสารสัมภาษณ์เลยคับเรียกว่าพอๆกับทำ พอทโฟริโอ ของพวกสถาปัตย์เลย
พอถึงวันสัมภาษณ์จริงผมไปถึงหน้าประตูบริษัทก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เพราะคิดว่าบริษัทญี่ปุ่นเป็นบริษัทที่ซีเรียสเรื่องเวลามาก
แต่พอไปถึงเขาบอกว่าผมเลท ที่ผมเลทเพราะผมต้องมาทำข้อสอบก่อน 1 ชั่วโมง และรออีก 15 นาที
ผมนี่หงิดเลยเพราะ HR ไม่ได้แจ้งผม
ผมก็โอเคนั่งทำๆ ก็เป็นวิชาคำนวณทั่วไป แต่ผมเจอทิกกี้บางอย่างในข้อสอบเช่น ข้อสอบกากบาท แต่ไม่มีคำตอบให้เลือก
ผมแนะนำว่าถ้าไม่มีคำตอบ อย่ากาอะไรลงไป
ผมก็ทำรัวๆเสร็จก่อนสัมภาษณ์15 นาทก็โอเคครับมานั่งรอ
แต่ผมมองเข้าไปในห้องมีคนญี่ปุ่นมานั่งรอแล้ว 3 คน แต่มีผมคนเดียวที่มาสัมภาษณ์
ผมก็โอเคคับ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกลึกๆ
พอถึงเวลาสัมภาษณ์ก็สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษคับ ซึ่งภาษาอังกิดผมไร้ซึ่งความกระดิกมาก 555+
แต่ก็โชคดีที่ตัวเองไปเรียนอินทีเรียกับครูต่างชาติ ก็เลยต้องพยายามนั่งฟังและให้ตัวเองเข้าใจ
เคยผ่านภาษาอังกฤษสำเนียงอิตาลีมาแล้ว พอมาเจอสำเนียงญี่ปุ่นก็โอเคคับ ยังพอปรับตัวทัน 555+
พอเริ่มสัมภาษณ์เขาก็ดูพอทฟอริโอผมว่าเคยทำอะไรมาบ้าง
ผมก็เล่าๆไปเป็นภาษาอังกฤษคับ แต่เทคนิคการเล่าของผมคือ ในสายงานของผมเรื่องก่อสร้างมักจะเน้นเวลาเป็นหลัก
เช่น เทคอนกรีตเมื่อไร ผูกเหล็กเมื่อไร เบิกงวดเมื่อไร เวลาคุยกันจะเน้นเรื่องไทม์ไลน์เป็นหลัก
ตอนผมเล่าเรื่องผมจะเน้นเรื่องเท้นส์ คือจะบอกว่าจุดขายภาษาอังกฤษที่เด่นสุดคือเรื่องเท้นส์
คือเรื่องอื่นตกหมด แต่เรื่องนี้ท้อปกว่าคนอื่นคับ 555+
เช่นคำว่า is +Ving หรือ is + V3 หรือ was + Ving หรือ has + V3 หรือ had + V3 หรือ has + been + Ving หรือ has + been + Ving
คือมันจะสามารถสื่อได้คับว่าที่เรื่องที่เราเคยคุยกันนั้น และ เรื่องที่เรากำลังคุยอยู่มันอยู่ในช่วงเวลาไหน
และพวก เวิบช่อง 1 หรือ 2 หรือ 3 พวกนี้ผมก็จำไม่ค่อยได้คับ อย่างคำว่า บิ้วด์ บางทีผมก็ออกเสียง บิ้วส์ หรือ บิ้วท์ ปนๆกันมั่วไปหมด
แต่พอเป็นเท้นส์ ก็ออกเสียงเน้นไปเลยครับ
แฮ้สสสสสสสสสสส แฮ้ดดดดดดดดดดดดดดดด
อีสสสสสสสสสสสสส อาาาาาาาาาาาร์
วอสสสสสสสสสสส เวิอออออออออออออออออ
มันพอจะเลาๆได้ว่า มันคือกิริยาอะไร ก็คือ “สร้าง” แล้วที่ว่า “สร้าง” คือ “ช่วงเวลาไหน นานยัง นานแค่ไหน” ประมานนี้คับ
ญี่ปุ่นก็ดีคับ นั่งตั้งใจฟังผมมาก ถามบ้างเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ผมก็เล่าๆไปทำที่ไหนตึกไหนกี่แห่งเขาก็โอเคคับ
พอผมบอกหมด ญี่ปุ่นเขาชมผมว่าชอบภาษาอังกฤษของผมคือ เขาเข้าใจง่ายว่าผมจะสื่อสารอะไร แต่นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่
แต่
แต่
แต่ที่ผมบอก HR ไปว่าผมเป็นวิศวกรโยธาสร้างตึก และผมพรีเซ้นเรื่องการสร้างตึก
แต่
ยี่
ปุ่น
บอก
ว่า
เขา
สร้าง
ถนน
นะ
แจ้ะะะะะะะะะะะะะะ
ไม่
ใช่
ตึก
ผมนี่แบบ เงิบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ มาก
5555+
และ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เขา
ไม่
ได้
สร้าง
ถนน
ด้วย
เขา
ขาย
แค่
ยางมะตอยปูถนนแจร้
ผมแบบ 5555555555555555555555555555555555555+ โหดสัสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
ยี่ปุ่นก็บอก เขาชอบผมนะ เขาแนะนำบริษัทก่อสร้างของยี่ปุ่นให้มั้ย เขามีเพื่อน
แต่ผมไม่ค่อยอยากทำยี่ปุ่นคับ ผมว่าเขาดูเครียดๆไปไม่เหมาะกับผม
เขาสไตร์ลุยๆ ประเภทใส่ชุดเกราะไปไหนไปกัน
แต่ของผมสไตร์เอาตัวรอด ขอซุ่มยิงไกลทีละนัดได้มั้ย
เลยแกล้งทำหน้าเซงๆและรีบออก
คือเกรงใจเขาครับ เดี๋ยวยืดยาว 555+
อีกเรื่องนึงคือเรื่องข้อสอบ
เขาแฮปปี้ผมมากที่ผมไม่กากบาทข้อที่ผมทำไม่ได้
เขาก็ไม่ได้บอกว่าข้อไหนถูกหรือไม่มีข้อถูก
เขาบอกว่า ถ้าไม่รู้ก็ยอมรับว่าไม่รู้ เขาจะได้บอกเพื่อให้รู้
แต่ถ้าไปทำงานจริงและไปตัดสินใจบนพื้นฐานไม่รู้
มันจะก่อให้เกิดความเสียหายได้
พอผมเผ่นออกมาเสร็จ HR ก็โทรมาถามครับว่าเป็นไงบ้าง
ผมนี่แบบ มืงยังถามกุอีกหรอ 5555+
ผมก้บอกว่าเค้าขายยางมะตอยนะ
คุณต้องไปหาคนที่ทำแนวๆนี้ ก็ต้องหาคนที่บริษัทเราเหมารัฐ
เพราะจะตรงกับงานสรา้งถนน
หรือพวกนิคมอุตสาหกรรม
HR ก็บอก จริงหรอๆ โจทก์ยากเหมือนกันนะเนี่ย แล้วจะหาจากที่ไหนดีละ
ผมก็แบบ เห้อออออออออออออออออ บริษัทนี้เปิดมากว่า 20 ปีจริงหรอ
ก็ตามนั้นครับ 5555+
รวมๆแล้วก็ประมานนี้ครับ ก็ลองเอาไปปรับใช้กันได้ครับ
ขอบคุณครับ
แชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์งานกับบริษัทญี่ปุ่น กับความน่าผิดหวังของบริษัท HR
เผื่อใครจะนำเอาไปใช้
เริ่มเรื่องก่อนครับ จขกท. เป็นวิศวกรโยธา อายุ 30 นิดๆ เงินเดือนประมาน 50k
เคยเรียนอินทีเรียกับสถาบันนานาชาติในไทยกับครูอิตาลี ประสบการณ์ทำงานประมาณ 10 ปี
อยู่แต่ละบริษัทไม่นานครับ 6 เดือนบ้าง 1 ปีบ้าง 2 ปีบ้าง
พูดแล้วอาจตลก คือผมเป็นคนที่กลัวตกงานครับเลยลาออกบ่อยๆให้ตัวเองคอยอะเลิทตลอด
พอทำงานที่ใหม่ กลัวไม่ผ่านโปรก็ต้องเร่งตัวเอง พอผ่านโปรอะไรๆมันเงียบๆก็เลยเปลี่ยนงานใหม่
เข้าเรื่องครับ
เมื่อวันก่อนมี HR จากบริษัทดังใน กทม. โทรหาผมเพื่อให้ไปสัมภาษณ์กับบริษัทก่อสร้างของญี่ปุ่น
ผมฟังแล้วตื่นตาตื่นใจมากคับ เพราะได้ยินว่าเงินเดือนสูงมาก 555+
แต่ HR ก็บอกว่า เงินเดือนก็พอๆกับที่ผมทำปัจจุบัน ผมก็เลยแผ่วไปนิดนึงแต่ก็โอเคคับ
ผมสัมภาษณ์งานมาเป็นสิบๆที่แล้ว ลองบริษัทญี่ปุ่นซักครั้งได้ไม่ได้ค่อยว่าอีกที
ผมก็เตรียมเอกสารสัมภาษณ์เลยคับเรียกว่าพอๆกับทำ พอทโฟริโอ ของพวกสถาปัตย์เลย
พอถึงวันสัมภาษณ์จริงผมไปถึงหน้าประตูบริษัทก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เพราะคิดว่าบริษัทญี่ปุ่นเป็นบริษัทที่ซีเรียสเรื่องเวลามาก
แต่พอไปถึงเขาบอกว่าผมเลท ที่ผมเลทเพราะผมต้องมาทำข้อสอบก่อน 1 ชั่วโมง และรออีก 15 นาที
ผมนี่หงิดเลยเพราะ HR ไม่ได้แจ้งผม
ผมก็โอเคนั่งทำๆ ก็เป็นวิชาคำนวณทั่วไป แต่ผมเจอทิกกี้บางอย่างในข้อสอบเช่น ข้อสอบกากบาท แต่ไม่มีคำตอบให้เลือก
ผมแนะนำว่าถ้าไม่มีคำตอบ อย่ากาอะไรลงไป
ผมก็ทำรัวๆเสร็จก่อนสัมภาษณ์15 นาทก็โอเคครับมานั่งรอ
แต่ผมมองเข้าไปในห้องมีคนญี่ปุ่นมานั่งรอแล้ว 3 คน แต่มีผมคนเดียวที่มาสัมภาษณ์
ผมก็โอเคคับ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกลึกๆ
พอถึงเวลาสัมภาษณ์ก็สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษคับ ซึ่งภาษาอังกิดผมไร้ซึ่งความกระดิกมาก 555+
แต่ก็โชคดีที่ตัวเองไปเรียนอินทีเรียกับครูต่างชาติ ก็เลยต้องพยายามนั่งฟังและให้ตัวเองเข้าใจ
เคยผ่านภาษาอังกฤษสำเนียงอิตาลีมาแล้ว พอมาเจอสำเนียงญี่ปุ่นก็โอเคคับ ยังพอปรับตัวทัน 555+
พอเริ่มสัมภาษณ์เขาก็ดูพอทฟอริโอผมว่าเคยทำอะไรมาบ้าง
ผมก็เล่าๆไปเป็นภาษาอังกฤษคับ แต่เทคนิคการเล่าของผมคือ ในสายงานของผมเรื่องก่อสร้างมักจะเน้นเวลาเป็นหลัก
เช่น เทคอนกรีตเมื่อไร ผูกเหล็กเมื่อไร เบิกงวดเมื่อไร เวลาคุยกันจะเน้นเรื่องไทม์ไลน์เป็นหลัก
ตอนผมเล่าเรื่องผมจะเน้นเรื่องเท้นส์ คือจะบอกว่าจุดขายภาษาอังกฤษที่เด่นสุดคือเรื่องเท้นส์
คือเรื่องอื่นตกหมด แต่เรื่องนี้ท้อปกว่าคนอื่นคับ 555+
เช่นคำว่า is +Ving หรือ is + V3 หรือ was + Ving หรือ has + V3 หรือ had + V3 หรือ has + been + Ving หรือ has + been + Ving
คือมันจะสามารถสื่อได้คับว่าที่เรื่องที่เราเคยคุยกันนั้น และ เรื่องที่เรากำลังคุยอยู่มันอยู่ในช่วงเวลาไหน
และพวก เวิบช่อง 1 หรือ 2 หรือ 3 พวกนี้ผมก็จำไม่ค่อยได้คับ อย่างคำว่า บิ้วด์ บางทีผมก็ออกเสียง บิ้วส์ หรือ บิ้วท์ ปนๆกันมั่วไปหมด
แต่พอเป็นเท้นส์ ก็ออกเสียงเน้นไปเลยครับ
แฮ้สสสสสสสสสสส แฮ้ดดดดดดดดดดดดดดดด
อีสสสสสสสสสสสสส อาาาาาาาาาาาร์
วอสสสสสสสสสสส เวิอออออออออออออออออ
มันพอจะเลาๆได้ว่า มันคือกิริยาอะไร ก็คือ “สร้าง” แล้วที่ว่า “สร้าง” คือ “ช่วงเวลาไหน นานยัง นานแค่ไหน” ประมานนี้คับ
ญี่ปุ่นก็ดีคับ นั่งตั้งใจฟังผมมาก ถามบ้างเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ผมก็เล่าๆไปทำที่ไหนตึกไหนกี่แห่งเขาก็โอเคคับ
พอผมบอกหมด ญี่ปุ่นเขาชมผมว่าชอบภาษาอังกฤษของผมคือ เขาเข้าใจง่ายว่าผมจะสื่อสารอะไร แต่นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยี่ปุ่นก็บอก เขาชอบผมนะ เขาแนะนำบริษัทก่อสร้างของยี่ปุ่นให้มั้ย เขามีเพื่อน
แต่ผมไม่ค่อยอยากทำยี่ปุ่นคับ ผมว่าเขาดูเครียดๆไปไม่เหมาะกับผม
เขาสไตร์ลุยๆ ประเภทใส่ชุดเกราะไปไหนไปกัน
แต่ของผมสไตร์เอาตัวรอด ขอซุ่มยิงไกลทีละนัดได้มั้ย
เลยแกล้งทำหน้าเซงๆและรีบออก
คือเกรงใจเขาครับ เดี๋ยวยืดยาว 555+
อีกเรื่องนึงคือเรื่องข้อสอบ
เขาแฮปปี้ผมมากที่ผมไม่กากบาทข้อที่ผมทำไม่ได้
เขาก็ไม่ได้บอกว่าข้อไหนถูกหรือไม่มีข้อถูก
เขาบอกว่า ถ้าไม่รู้ก็ยอมรับว่าไม่รู้ เขาจะได้บอกเพื่อให้รู้
แต่ถ้าไปทำงานจริงและไปตัดสินใจบนพื้นฐานไม่รู้
มันจะก่อให้เกิดความเสียหายได้
พอผมเผ่นออกมาเสร็จ HR ก็โทรมาถามครับว่าเป็นไงบ้าง
ผมนี่แบบ มืงยังถามกุอีกหรอ 5555+
ผมก้บอกว่าเค้าขายยางมะตอยนะ
คุณต้องไปหาคนที่ทำแนวๆนี้ ก็ต้องหาคนที่บริษัทเราเหมารัฐ
เพราะจะตรงกับงานสรา้งถนน
หรือพวกนิคมอุตสาหกรรม
HR ก็บอก จริงหรอๆ โจทก์ยากเหมือนกันนะเนี่ย แล้วจะหาจากที่ไหนดีละ
ผมก็แบบ เห้อออออออออออออออออ บริษัทนี้เปิดมากว่า 20 ปีจริงหรอ
ก็ตามนั้นครับ 5555+
รวมๆแล้วก็ประมานนี้ครับ ก็ลองเอาไปปรับใช้กันได้ครับ
ขอบคุณครับ