แชร์ค่ะ ประสบการณ์ทำงานออฟฟิศของสาวประเภทสอง 4 แห่ง

สวัสดีค่ะ วันนี้เราว่างๆเลยมาแชร์ค่ะ ส่วนตัวเราทำงานมา 4 แห่ง

... 2 แห่งแรก ทำใกล้หอพักมากค่ะ เป็นอัตราจ้างรายปี ..... ส่วนอีก 2แห่งหลังเป็นพนักงานประจำค่ะ

งานสองที่แรก ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ  ถึงจะเป็นอัตราจ้างรายปี แต่เพื่อนดีๆเพียบ เรียกว่าเวลาผ่านไปไวมากค่ะ ด้วยเวรหรือกรรมก็ไม่รู้ค่ะ พอมาได้งานที่สาม เราดีใจมากกกก เพราะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ เราได้สวัสดิการต่างๆเลี้ยงตัวเรา ซึ่งเราดีใจมาก ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกะเทยจะหางานยากค่ะ

มีงานที่สามนี่ล่ะค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าเราโคตรโชคดีที่ได้บริษัทนี้ สวัสดิการดีมาก ตัวงานเราก็พอมีความรู้บ้าง (เป็นงานวิเคราะห์ค่ะ)

.... เราคิดว่าเราจะมีความสุขแบบที่เคยมโนไว้จากงานนี้

..... แต่เปล่าเลยค่ะ พอเข้าไปที่ทำงานวันแรก เราสวัสดีหัวหน้างานเรา สวัสดีเพื่อนร่วมงานเรา

โหห !!! เชื่อป่ะ เค้าไม่รับไหว้เราตั้งแต่วันแรกอ่ะค่ะ มองหน้าแบบหยะแหยง คือ เราไม่ได้คิดไปเองนะคะ เค้าแสดงออกแบบเห็นได้ชัด แล้วร่วมงานด้วยพอเราทำอะไรผิดด่าประจานกลางออฟฟิศเลยค่ะ ด่าเสียๆหายๆ แล้วทุกเช้า กลางวัน เย็น เราต้องกินข้าวคนเดียวตลอด ไม่มีใครไปกินข้าวด้วย พนักงานในสำนักงานมีประมาณสิบคนค่ะ แต่เชื่อไหมว่าดีๆนี่มีอยู่สองคน แต่ดันเป็นแผนกอื่น เวลาไปปรึกษาอะไรก็ต้องแอบๆไปค่ะ คุยไลน์บ้าง หรือไม่ก็เลิกงานค่อยนัดไปปรึกษา

หนักสุดที่เค้าแสดงออกว่าเกลียดเราคือ ไปเที่ยวทะเล ไปกันทั้งออฟฟิศไม่ชวนเราค่ะ เราเห็นในเฟสก็เจ็บใจมาก เราเองก็พนักงานคนหนึ่งไม่ใช่หรอ พอมาเดือนที่สองมีงานแต่งงานในออฟฟิศ ก็ไม่มีการ์ดเราคนเดียว พอมาอีกเดือนเป็นงานเลี้ยงก็ไม่เชิญเรา  เราเองเป็นกระเทยในออฟฟิศคนเดียวด้วยมั้งคะ ละแบบเราไม่ใช่กระเทยร่างบางหรือสวยอะไร อีกอย่างหน้าตาเราดูไม่เป็นมิตรด้วยมั้ง เค้าเลยไม่ชอบ ไม่อยากรู้จัก

เราอึดอัดค่ะ พอเดือนที่สี่ปุ๊บ เราไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่มีคนสอนงานเราด้วย แถมเดินทางค่อนข้างไกลจากที่พัก เลยขอลาออกเลย
... เค้าบอกว่า  "ต้องทำเรื่องลาออกล่วงหน้า 30  วัน"

เราก็อ๋อๆๆๆ ค่ะๆๆๆๆ แต่เนื่องด้วยมันเดินทางไปกลับเป็นร้อยๆโล ละตอนนั้นมันซวยสุดๆ เราขับรถไป ยางแตกกลางทาง เรารีบโทรไปที่ทำงานค่ะ บอกว่าพี่คะ หนูรถเสีย ตอนนี้คงต้องรอช่างมาซ่อมค่ะ มันเช้าด้วย ละกลางทาง อาจไปช้านะคะ  ..... ปรากฎว่าปลายทางด่าเรายับค่ะ บอกหาเรื่องไม่มาทำงาน ลาออกแล้วคิดจะออกเลยก็บอกมา นี่คงกะหาเรื่องมาสายหรอ งานยังไม่เสร็จนะจ๊ะรีบมาให้ไวๆๆๆ ... เราฉุนมากกกกกกกกกกกกก คนมันมองแง่ลบยังไงก็ลบค่ะ  เลยแบบลาก่อนค่ะ พอช่างซ่อมมา ขับกลับหอไม่ไปทำงานอีกเลยค่ะ  ที่ทำงานก็ไม่โทรมาตาม ก็เซย์กู๊ดบายค่ะ ชาตินี้อย่าได้เจอกัน

หลังจากออกงานแห่งที่สาม ชีวิตเราก็มีเวลาว่างมาลุยพวกกิจการซักพักค่ะ ไหนๆไม่ต้องเดินทางไกลเราเลยมาลุยพวกร้านทำผม ร้านแต่งหน้า ร้านรีดผ้า ร้านอาหารของเราเต็มตัว  พอซักเดือนที่ห้าที่ว่างงานประจำมา เราไปได้งานประจำอีกที่นึง คราวนี้ไม่ไกลห้องมาก เดินไปได้ แล้วพวกร้านอะไรเราให้ลูกจ้างจัดการให้หมดเสร็จสรรพ ทุกอย่างพอลงตัว เราก็รอลุ้นแค่งานค่ะ ยอมรับว่าเราผวากับงานแห่งที่สามมากๆ ไม่รู้มันจะซวยอะไรถึงเจอคนพวกนั้น แล้วเราก็กลัวจะเจอแบบนั้นอีก ปรากฎว่างานแห่งที่สี่ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ พี่ๆร่วมงานดี รายได้โอเค เดินไปทำงานได้  เราไม่เจอเหตุการณ์แย่ๆเลยค่ะ ทำที่นี่มาจะสี่ปีแล้วค่ะ

อยากบอกว่าใครท้อที่เจออะไรไม่ดีอยู่ อย่าพึ่งโทษตัวเองกันนะคะ บางทีมันก็สภาพแวดล้อมจริงๆค่ะ เราไม่รู้ว่าซวยอะไรนักหนา แบบตอนนั้นอะไรก็ซวยไปหมด แม้แต่ชักโครกที่ออฟฟิศก็กดน้ำไม่ลงค่ะ

อ่อ ฝากไว้ค่ะ ต้องเก็บเงินไว้นะคะ เรานี่เผื่อไว้ตอนตกงานตลอด เพราะค่าเช้าร้านมาทุกเดือนค่ะ ค่าผ่อนรถ ค่าลูกจ้าง ค่ากิน พวกนี้ขาดไม่ได้เลยค่ะ อีกอย่างคือ เราเห็นพวกชอบใช้เงินฟุ่มเฟือยแต่เด็กๆ เราว่ายิ่งเริ่มงานตอนแรกๆอย่าพึ่งผ่อนค่ะ อะไรก็อย่าพึ่งซื้อ เก็บเงินกันไว้ค่ะ ขนาดตอนนั้นเศรษฐกิจดีกว่าช่วงนี้เยอะเรายังเก็บได้นิดเดียวเองค่ะ  ยิ่งตอนนี้ด้วยเราแบบห่วงมากถ้าใครตกงาน มีโอกาสคิดสั้นสูงค่ะ

โชคดีปีใหม่นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่