คนโสดเคยสังเกตตัวเองไหมว่า ในสังคมที่เราอยู่ ไม่เห็นจะถูกใจใคร
กระทั่งเมื่อได้ออนไลน์ เราได้เข้าไปรู้จักคนบางคน ส่วนใหญ่จะเป็นคนในอีก circle หนึ่งกับเรา
แต่ปรากฏว่าสุดท้ายเราจะพบว่าเขามีความคิดความอ่านคล้ายกับเรา
จากที่คุยอยู่ใน group เฟซที่หัวข้อความชอบเดียวกัน จนทุกวันนี้เราเป็นคนที่สนิทกัน
... เพียงเพราะจุดเริ่มต้นมาจากการออนไลน์
คิดแล้วก็น่าทึ่งอยู่ในใจเหมือนกัน คือถ้าสมมติเอาตัวเราเองไปอยู่ในยุคก่อน
เผลอๆ เราคงรู้สึกว่าเนื้อคู่คงไม่มีจริงต่อไปจนตาย
โชคดีที่เราเกิดในยุคดิจิตัล ยุคที่เทคโนโลยีทางการสื่อสารรุกคืบไปมาก และเชื่อมคนไว้ด้วยกัน
บางทีก็คิดนะ ว่าเหตุที่ผู้ใหญ่รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา มีสถิติหย่าร้างสูง เพราะเขาไม่ได้อยากจะอยู่ด้วยความชอบกันจริงๆรึเปล่า
ถึงแม้ใครๆ จะบอกว่า internet ต่างหากที่ทำให้คนนอกใจกัน แต่เราว่ามันก็เพียงช่องทางในการติดต่อสื่อสาร
ไฉนต้องไปโทษช่องทางนั้น โทษเทคโนโลยี โทษระบบ system ฯลฯ ต่างๆ
ทว่า ไม่เคยโทษตัวเอง! หรือโทษคนรักของตัวเอง! ที่มีจิตใจเลวทราม คิดฝักใฝ่จะละเมิดศีลข้อ 3 อยู่แล้ว...
สุดท้าย อินเทอร์เน็ตก็เป็นช่องทางหนึ่งจริงๆ
โลกอาจจะเหวี่ยงให้เราได้พบคนที่ดี หรือไม่ดี ก็ปะปนกันไป
แต่สุดท้ายเราคิดว่ายุคนี้มันทำให้รู้สึกถึงคำว่า "เนื้อคู่" มันไม่ได้อยู่ไกลตัวเกินไป
ส่วนในยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ทุกคนรู้จักกันผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กันต่อหน้าจริงๆ
หรือไม่ก็มาจากการแนะนำ บอกต่อ ผ่านกัน ซึ่งข้อดีคือ มันรู้สึกว่าเราไม่ได้มีตัวเลือกมาก ไม่มีตัวเปรียบเทียบ
ก็เลือกๆไปเถอะ ทั้งที่ในความจริงคนที่เหมาะสมอาจจะเป็นคนนี้ หรือไม่ ไม่รู้ แต่มันก็มีให้คุณเลือกเท่านี้ ....
ฉะนั้นในกรณีนี้แปลว่าโลกไม่เคยเหวี่ยง 2 คนที่เหมาะสมมาใกล้กัน
จึงเกิดคำถามว่า การมี internet มี social network ที่ทำให้เราได้ก้าวล่วงเข้าไปในชีวิตของคนที่เราอาจจะไม่เคยรู้จัก
มันทำให้เราเจอเนื้อคู่ กันง่ายหรือยาก กว่าแต่ก่อน?
เพราะถ้าเราเชื่อว่า soulmate คือคนที่คิดอะไรคล้ายกัน ทำอะไรเหมือนๆกัน และเป็นคนที่ตามหาเจอตัวกันยากที่สุด
ใครมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง มาเล่าได้ รอฟัง
คุณว่าในยุคอินเทอร์เน็ตแบบนี้ มันทำให้เราเข้าถึง "เนื้อคู่" ง่ายกว่าสมัยก่อนจริงไหม?
กระทั่งเมื่อได้ออนไลน์ เราได้เข้าไปรู้จักคนบางคน ส่วนใหญ่จะเป็นคนในอีก circle หนึ่งกับเรา
แต่ปรากฏว่าสุดท้ายเราจะพบว่าเขามีความคิดความอ่านคล้ายกับเรา
จากที่คุยอยู่ใน group เฟซที่หัวข้อความชอบเดียวกัน จนทุกวันนี้เราเป็นคนที่สนิทกัน
... เพียงเพราะจุดเริ่มต้นมาจากการออนไลน์
คิดแล้วก็น่าทึ่งอยู่ในใจเหมือนกัน คือถ้าสมมติเอาตัวเราเองไปอยู่ในยุคก่อน
เผลอๆ เราคงรู้สึกว่าเนื้อคู่คงไม่มีจริงต่อไปจนตาย
โชคดีที่เราเกิดในยุคดิจิตัล ยุคที่เทคโนโลยีทางการสื่อสารรุกคืบไปมาก และเชื่อมคนไว้ด้วยกัน
บางทีก็คิดนะ ว่าเหตุที่ผู้ใหญ่รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา มีสถิติหย่าร้างสูง เพราะเขาไม่ได้อยากจะอยู่ด้วยความชอบกันจริงๆรึเปล่า
ถึงแม้ใครๆ จะบอกว่า internet ต่างหากที่ทำให้คนนอกใจกัน แต่เราว่ามันก็เพียงช่องทางในการติดต่อสื่อสาร
ไฉนต้องไปโทษช่องทางนั้น โทษเทคโนโลยี โทษระบบ system ฯลฯ ต่างๆ
ทว่า ไม่เคยโทษตัวเอง! หรือโทษคนรักของตัวเอง! ที่มีจิตใจเลวทราม คิดฝักใฝ่จะละเมิดศีลข้อ 3 อยู่แล้ว...
สุดท้าย อินเทอร์เน็ตก็เป็นช่องทางหนึ่งจริงๆ
โลกอาจจะเหวี่ยงให้เราได้พบคนที่ดี หรือไม่ดี ก็ปะปนกันไป
แต่สุดท้ายเราคิดว่ายุคนี้มันทำให้รู้สึกถึงคำว่า "เนื้อคู่" มันไม่ได้อยู่ไกลตัวเกินไป
ส่วนในยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ทุกคนรู้จักกันผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กันต่อหน้าจริงๆ
หรือไม่ก็มาจากการแนะนำ บอกต่อ ผ่านกัน ซึ่งข้อดีคือ มันรู้สึกว่าเราไม่ได้มีตัวเลือกมาก ไม่มีตัวเปรียบเทียบ
ก็เลือกๆไปเถอะ ทั้งที่ในความจริงคนที่เหมาะสมอาจจะเป็นคนนี้ หรือไม่ ไม่รู้ แต่มันก็มีให้คุณเลือกเท่านี้ ....
ฉะนั้นในกรณีนี้แปลว่าโลกไม่เคยเหวี่ยง 2 คนที่เหมาะสมมาใกล้กัน
จึงเกิดคำถามว่า การมี internet มี social network ที่ทำให้เราได้ก้าวล่วงเข้าไปในชีวิตของคนที่เราอาจจะไม่เคยรู้จัก
มันทำให้เราเจอเนื้อคู่ กันง่ายหรือยาก กว่าแต่ก่อน?
เพราะถ้าเราเชื่อว่า soulmate คือคนที่คิดอะไรคล้ายกัน ทำอะไรเหมือนๆกัน และเป็นคนที่ตามหาเจอตัวกันยากที่สุด
ใครมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง มาเล่าได้ รอฟัง