เหตุเกิดที่ Istudio ซีคอน ชั่น G เลยอดซื้อ accessory ในร้านเพิ่มเลย เซ็งมั๊กๆ
สิ่งที่จะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเพียงความคิดเห็นประสบการณ์และสามัญสำนึกส่วนตัวเท่านั้น มิได้บอกว่ามันคือความถูกต้องดังนั้นผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณส่วนตนในการอ่านเรื่องราว อย่าฟังความข้างเดียวเชื่อในสิ่งที่ผมพิมพ์ทั้งหมดเพราะผมอาจจะเล่าในมุมของลูกค้าที่มีอุปนิสัย(สันดาน) รักษาสิทธิผู้บริโภค เพื่อสินค้าและบริการ ผมเป็นคนเจ้าระเบียบ(ระดับนึง ) และชอบพนักงานสุภาพให้เกียรติลูกค้า และมีService Mind ดังนั้นให้ความเป็นธรรมแก่พนักงาน Istudio ด้วยครับ ตัวปัญหาอาจคือตัวผมเอง "ก็เป็นได้"
ผมเป็นมนุษย์กินเงินเดือนที่รายได้ไม่สูงนักแต่ก็ซื่อสัตย์กับ Apple พอสมควร นี้คือเครื่องที่ 3 ในรอบ 4-5 ปีโดยปกติผมจะซื้อมือถือ และอุปกรณ์ต่างๆกับศูนย์บริการเครือค่าย Truemove เพราะเป็นลูกค้ามานานแต่เมื่อวานไปซื้อกับ Istudio เป็นครั้งแรกในชีวิตโดยตั้งใจไว้แล้วว่าถอย Iphone6S+ ที่สาขา ซีคอนสแคว ชั้น G ตั้งอยู่ใกล้ๆ Subway ในช่วงเวลา เลิกงานประมาณ 5-6 โมง ขณะอยู่ในร้านมีพนักงานของ Istudio 4 คนที่มาให้บริการผมเหมือนกับว่าแต่ละคนแบ่งงานการทำในแต่ละ Part
คนแรกขอสมมุติชื่อว่า A เป็นผู้ชายตัวสูงมากน่าจะเกิน 185 ผอม อายุไม่เกิน 30ผิวเข้มๆพูดเก่งให้ข้อมูลแพคเกตต่างๆที่ซื้อพ่วงมือถือคนนี้พูดเร็ว น่าตึงไม่ค่อยยิ้มจึงแกล้งคุยเล่นเค้าก็เลยหัวเราะขำๆกันกับผม
คนสองขอสมมุติชื่อว่าสาวผู้หญิงผิวเข้มผมสั้นมั้งจำไม่ได้ หน้าตาไปทางคมเข้มสีผมน้ำตาล ผอมๆสูงไม่เกิน 165 อายุไม่เกิน 30 คนนี้พาผมไปดูเคสของมือถือพาไปชำระเงิน และเบิกของ
คนสามขอสมมุติชื่อว่า ต้น เป็นผู้ชายผิวขาวสูงไม่เกิน 175 อายุไม่เกิน 30 หน้าตาดี คนนี้เป็นคนคีข้อมูลแพคเกตทรูที่ผมอัพ sizeเป็น
899
คนสี่ขอสมมุติชื่อว่า นพ เป็นผู้ชายผิวเข้ม ท้วมๆอายุน่าจะ 30 อัพ มีหนวดนิดหน่อย ผมไม่มากนักด้านหน้า ดูเป็นอาวุโสของศูนย์เพราะเห็นน้องๆเค้าค่อนข้างเกรงใจกัน คนนี้เป็นคนดูการเทสเครื่องกับอุปกรณ์ต่างๆให้ผม
ประสบการณ์ที่ผมได้รับจาก Istudio ซีคอนในการซื้อสินค้าคือ ไม่ชอบ ตั้งแต่การแกะพลาสติกที่ห่อมือถือด้วยคัตเตอร์ โดยขาดความระมัดระวังเพราะ สาวได้กรีดกล่อง iphone ของผมเป็นรอยไปด้วย ผมเข้าใจว่าเราไม่ได้ใช้กล่อง แต่ถ้ามันไม่ขาดหรือมีตำหนิเลยดีกว่าไหมครับ
และสิ่งที่รู้สึกต่อมาหลังจากกล่องเป็นรอบกรีดขาดของสาวแล้วผมต้องเจอกับ กดดัน ความรู้สึกเกรงใจ รู้สึกผิดที่ผมมีให้นพ ที่สอบถามข้อมูลเยอะและยืนเช็คเครื่องมือถือที่ซื้อใหม่ละเอียดเกินไปจนทำให้ นพ คอยนาน ทำท่าทางไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า แววตา น้ำเสียง บวกใส่ความกวนจุดๆๆ มาพร้อมกับคำตอบด้วย เช่น ผมถามว่ามีผ้าไหมจะลองเช็ดดูว่ากล้องหลังเป็นรอยหรือฝุ่น โดยผมยื่นให้นพดูเพื่อให้เค้าเห็นจะได้หยิบผ้าให้ผม ปรากฎว่า นพรับไปใช้นิ้วใหญ่ของเค้าลูกกล้องแล้วบอกว่าฝุ่นครับใช้นิ้วลูบเอาก็ออก (น้ำเสียงกระแทกกระทั่น)ถูกต้องเลยครับฝุ่นออกจริงๆแต่ได้รอยนิ้วมือของนพมาแทนและหากเครื่องไม่มีปัญหามันคือมือถือที่ผมจ่าย 37,500 บาท และถือกลับบ้านพร้อมรอยนิ้วมือแรกบนกล้องของคนแปลกหน้าที่ไม่มี Service Mind ดังนั้นผมจึงใช้เสื้อตนเองเช็ดรอยนิ้วมือเค้าออก(คนที่เป็นคนหวงของ รักของ รักษาของน่าจะเข้าใจความรู้สึกของผม ขนาด Iphone ที่ผมใช้มา 1 ปีแล้ว ผมยังเช็ดด้วยสำลี หรือผ้าใกล้ๆตัวเลย) อีก 1 ตัวอย่างผมถามเค้าว่าหากขณะเช็คเครื่องอยู่เกิดเครื่องมีปัญหาเปลี่ยนเครื่องใหม่เลยได้ไหม นพตอบว่าได้พี่แต่เต็มที่แกะใหม่2เครื่อง ถ้าลูกค้าไม่รับก็คืนเงิน (ผมรับได้ในคำตอบถ้าเป็นการพิมพ์ข้อความ แต่รับไม่ได้เมื่อมีน้ำเสียงและการแบ่งวรรคตอนที่ออกมาได้Prefect ขนาดนั้นจนลูกค้ารู้สึกได้ว่า นพคงรำคาญและไม่แคร์ลูกค้าชั้นแย่ชั้นประหยัดอย่างเราแล้วละ) อีกสัก 1 ตัวอย่างตอนจะท้ายที่สุด พนง. A เข้ามาดูแลผมด้วยส่วนนพขยับออกห่างไปผมคิดเองว่านพคงจะมีเหตุผลอะไรสักอย่าง ตอนนั้นผมกำลังจะลองที่ชาตแบตว่าชาตได้ไหม เลยถามเอว่ามีปลั๊กเสียบไหมจะลองชาตว่าไฟเข้ารึเปล่า เอเปิดฝาที่เสียบปลั๊กบนโต๊ะให้ผมเสียบแล้วถามว่าไฟเข้าไหมครับ ผมตอบว่าเข้า และนพก็ช่วยผมเช็คหัวเสียบว่า พี่ลองกลับข้างแล้วเสียบดูสิว่าเข้าไหมแล้วยิ้มน้อยๆ ขณะนั้นผมสัมผัสได้ว่าคงไม่ใช่ความห่วงใยแล้วละ แต่ผมก็ทำตามและตอบว่า "ได้นะ"
และจากประสบการณ์คร่าวๆนี้ก่อเกิดเป็นความผิดหวัง ไม่ประทับใจเลยกับการบริการ จนทำให้ตัดสินใจไม่ซื้อ accessory เพิ่ม และจะบอก จะเล่าต่อให้บุคคลที่ผมสนิทฟังด้วยอารมณ์ที่ใส่เต็ม จัดหนัก กระดาษทรายเบอร์ต่ำสุด มากกว่าที่คุณๆได้อ่านมาทั้งหมด
ผมไม่ได้คาดหวังว่าพนักงานคน 2 นั้นจะมาขอโทษเพราะคงมาด้วยความจำใจ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ของกำนัลใดๆจาก I Studio
แต่ผมอยากได้ 3 สิ่ง
1. การปรับปรุงการให้บริการด้วย Service Mind ของพนักงานทุกๆสาขา
2.การตรวจเช็คเครื่องทุกๆเครื่องควรมีพนักงานเป็นผู้แนะนำสิ่งต่างๆที่ควรต้องตรวจสอบเพราะผมเองไม่มีความรู้มากพอ + แล้วหากผมฝากแม่มาซื้อให้ยิ่งไม่ต้องเช็คเลยเผลอๆแม่บอกไปแกะที่บ้าน พนักงานคงชื่นชมป้าคนนี้ซื้อของง่ายดีจัง ถ้าลูกค้าทุกคนเป็นแบบนี้คงดี แล้วมอบโล่รางวัลให้แม่ผมแต่หากมีปัญหาก็ต้องวิ่งมาที่ร้านอีก หากทางร้านบอกไม่รับเปลี่ยนต้องส่งซ่อมลูกค้าตายเลยแบบนี้ เพราะผิดเองที่ไม่เช็คตั้งแต่อยู่ในร้านเมื่ออกนอกร้านไปเราไม่รู้ว่าลูกค้าไปทำอะไรมาบ้าง เพื่อความเป็นธรรมแก่ทั้ง บริษัท และผู้บริโภค ดังนั้นบริษัทควรนำปัญหาและประสบการณ์ถ่ายทอดสู่พนักงานให้มีองค์ความรู้และทำการตรวจเช็คเมื่อแกะกล่องมือถือด้วยความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภคเองเลย ประหนึ่งว่าเป็นญาติของลูกค้าและรักษาสิทธิ ประโยชน์แก่ลูกค้าเต็มที่เช่น อันนี้กล่องเป็นรอยเท่าขี้ของมด แจ้งลูกค้าเองเลยแล้วถามว่า ซีเรียสไหมครับ ถ้าซี พนง. เปลี่ยนอันใหม่เองเลย เพราะพนักงานที่ร้านก็ไม่ใช่คนผลิตเห็นสินค้าพร้อมลูกค้าเหมือนกัน ถ้าจะโทษต้องโทษคนที่มีอำนาจใหญ่ที่สุดในกิจการแล้วเพราะเป็นคนวางนโยบายทั้งหมดปล่อยให้เครื่องไม่ 100% ออกสู่ตลาดแล้ววัดใจว่าลูกค้าคนไหนจะเจอกล่องไม่ 100% ลูกค้าคนไหนเก่งพอจะรู้ว่าสินค้าไม่ 100% ถ้าเป็นแบบนี้#อยู่อยากนะ
3.พนักงานจะไม่กลั่นแกล้งผมเพราะเค้าสามารถดูข้อมูลผมผ่านระบบได้ กรณีที่เค้าถูกลงโทษ
หากทุกๆองค์กร ทุกๆหน่วยงาน ทุกๆบริษัทประกอบธุรกิจโดย
"มีจริยธรรม จรรยาบรรณต่อทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของกิจการ" (สั้นๆเท่านี้ แต่จะมีสักกี่องค์กรที่ทำแบบนี้จริงๆ) คำว่าจริยธรรม จรรยาบรรณ ในความรู้สึกของผมเป็นคำที่สูงมาก ความหมายกว้าง เขียนง่าย ถ้าทำได้บอกได้คำเดียว แม้ประเทศนี้ไม่มีกฎหมายทุกๆคนก็สามารถใช้ชีวิตในการบริโภคได่อย่างมีความสุขและ Win Win ด้วยกันทุกๆฝ่าย
เหตุเกิด 22/4/59 ณ. Istudio ซีคอน ชั่น G เลยอดซื้อ accessory ในร้านเพิ่มเลย เซ็งมั๊กๆ
สิ่งที่จะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเพียงความคิดเห็นประสบการณ์และสามัญสำนึกส่วนตัวเท่านั้น มิได้บอกว่ามันคือความถูกต้องดังนั้นผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณส่วนตนในการอ่านเรื่องราว อย่าฟังความข้างเดียวเชื่อในสิ่งที่ผมพิมพ์ทั้งหมดเพราะผมอาจจะเล่าในมุมของลูกค้าที่มีอุปนิสัย(สันดาน) รักษาสิทธิผู้บริโภค เพื่อสินค้าและบริการ ผมเป็นคนเจ้าระเบียบ(ระดับนึง ) และชอบพนักงานสุภาพให้เกียรติลูกค้า และมีService Mind ดังนั้นให้ความเป็นธรรมแก่พนักงาน Istudio ด้วยครับ ตัวปัญหาอาจคือตัวผมเอง "ก็เป็นได้"
ผมเป็นมนุษย์กินเงินเดือนที่รายได้ไม่สูงนักแต่ก็ซื่อสัตย์กับ Apple พอสมควร นี้คือเครื่องที่ 3 ในรอบ 4-5 ปีโดยปกติผมจะซื้อมือถือ และอุปกรณ์ต่างๆกับศูนย์บริการเครือค่าย Truemove เพราะเป็นลูกค้ามานานแต่เมื่อวานไปซื้อกับ Istudio เป็นครั้งแรกในชีวิตโดยตั้งใจไว้แล้วว่าถอย Iphone6S+ ที่สาขา ซีคอนสแคว ชั้น G ตั้งอยู่ใกล้ๆ Subway ในช่วงเวลา เลิกงานประมาณ 5-6 โมง ขณะอยู่ในร้านมีพนักงานของ Istudio 4 คนที่มาให้บริการผมเหมือนกับว่าแต่ละคนแบ่งงานการทำในแต่ละ Part
คนแรกขอสมมุติชื่อว่า A เป็นผู้ชายตัวสูงมากน่าจะเกิน 185 ผอม อายุไม่เกิน 30ผิวเข้มๆพูดเก่งให้ข้อมูลแพคเกตต่างๆที่ซื้อพ่วงมือถือคนนี้พูดเร็ว น่าตึงไม่ค่อยยิ้มจึงแกล้งคุยเล่นเค้าก็เลยหัวเราะขำๆกันกับผม
คนสองขอสมมุติชื่อว่าสาวผู้หญิงผิวเข้มผมสั้นมั้งจำไม่ได้ หน้าตาไปทางคมเข้มสีผมน้ำตาล ผอมๆสูงไม่เกิน 165 อายุไม่เกิน 30 คนนี้พาผมไปดูเคสของมือถือพาไปชำระเงิน และเบิกของ
คนสามขอสมมุติชื่อว่า ต้น เป็นผู้ชายผิวขาวสูงไม่เกิน 175 อายุไม่เกิน 30 หน้าตาดี คนนี้เป็นคนคีข้อมูลแพคเกตทรูที่ผมอัพ sizeเป็น
899
คนสี่ขอสมมุติชื่อว่า นพ เป็นผู้ชายผิวเข้ม ท้วมๆอายุน่าจะ 30 อัพ มีหนวดนิดหน่อย ผมไม่มากนักด้านหน้า ดูเป็นอาวุโสของศูนย์เพราะเห็นน้องๆเค้าค่อนข้างเกรงใจกัน คนนี้เป็นคนดูการเทสเครื่องกับอุปกรณ์ต่างๆให้ผม
ประสบการณ์ที่ผมได้รับจาก Istudio ซีคอนในการซื้อสินค้าคือ ไม่ชอบ ตั้งแต่การแกะพลาสติกที่ห่อมือถือด้วยคัตเตอร์ โดยขาดความระมัดระวังเพราะ สาวได้กรีดกล่อง iphone ของผมเป็นรอยไปด้วย ผมเข้าใจว่าเราไม่ได้ใช้กล่อง แต่ถ้ามันไม่ขาดหรือมีตำหนิเลยดีกว่าไหมครับ
และสิ่งที่รู้สึกต่อมาหลังจากกล่องเป็นรอบกรีดขาดของสาวแล้วผมต้องเจอกับ กดดัน ความรู้สึกเกรงใจ รู้สึกผิดที่ผมมีให้นพ ที่สอบถามข้อมูลเยอะและยืนเช็คเครื่องมือถือที่ซื้อใหม่ละเอียดเกินไปจนทำให้ นพ คอยนาน ทำท่าทางไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า แววตา น้ำเสียง บวกใส่ความกวนจุดๆๆ มาพร้อมกับคำตอบด้วย เช่น ผมถามว่ามีผ้าไหมจะลองเช็ดดูว่ากล้องหลังเป็นรอยหรือฝุ่น โดยผมยื่นให้นพดูเพื่อให้เค้าเห็นจะได้หยิบผ้าให้ผม ปรากฎว่า นพรับไปใช้นิ้วใหญ่ของเค้าลูกกล้องแล้วบอกว่าฝุ่นครับใช้นิ้วลูบเอาก็ออก (น้ำเสียงกระแทกกระทั่น)ถูกต้องเลยครับฝุ่นออกจริงๆแต่ได้รอยนิ้วมือของนพมาแทนและหากเครื่องไม่มีปัญหามันคือมือถือที่ผมจ่าย 37,500 บาท และถือกลับบ้านพร้อมรอยนิ้วมือแรกบนกล้องของคนแปลกหน้าที่ไม่มี Service Mind ดังนั้นผมจึงใช้เสื้อตนเองเช็ดรอยนิ้วมือเค้าออก(คนที่เป็นคนหวงของ รักของ รักษาของน่าจะเข้าใจความรู้สึกของผม ขนาด Iphone ที่ผมใช้มา 1 ปีแล้ว ผมยังเช็ดด้วยสำลี หรือผ้าใกล้ๆตัวเลย) อีก 1 ตัวอย่างผมถามเค้าว่าหากขณะเช็คเครื่องอยู่เกิดเครื่องมีปัญหาเปลี่ยนเครื่องใหม่เลยได้ไหม นพตอบว่าได้พี่แต่เต็มที่แกะใหม่2เครื่อง ถ้าลูกค้าไม่รับก็คืนเงิน (ผมรับได้ในคำตอบถ้าเป็นการพิมพ์ข้อความ แต่รับไม่ได้เมื่อมีน้ำเสียงและการแบ่งวรรคตอนที่ออกมาได้Prefect ขนาดนั้นจนลูกค้ารู้สึกได้ว่า นพคงรำคาญและไม่แคร์ลูกค้าชั้นแย่ชั้นประหยัดอย่างเราแล้วละ) อีกสัก 1 ตัวอย่างตอนจะท้ายที่สุด พนง. A เข้ามาดูแลผมด้วยส่วนนพขยับออกห่างไปผมคิดเองว่านพคงจะมีเหตุผลอะไรสักอย่าง ตอนนั้นผมกำลังจะลองที่ชาตแบตว่าชาตได้ไหม เลยถามเอว่ามีปลั๊กเสียบไหมจะลองชาตว่าไฟเข้ารึเปล่า เอเปิดฝาที่เสียบปลั๊กบนโต๊ะให้ผมเสียบแล้วถามว่าไฟเข้าไหมครับ ผมตอบว่าเข้า และนพก็ช่วยผมเช็คหัวเสียบว่า พี่ลองกลับข้างแล้วเสียบดูสิว่าเข้าไหมแล้วยิ้มน้อยๆ ขณะนั้นผมสัมผัสได้ว่าคงไม่ใช่ความห่วงใยแล้วละ แต่ผมก็ทำตามและตอบว่า "ได้นะ"
และจากประสบการณ์คร่าวๆนี้ก่อเกิดเป็นความผิดหวัง ไม่ประทับใจเลยกับการบริการ จนทำให้ตัดสินใจไม่ซื้อ accessory เพิ่ม และจะบอก จะเล่าต่อให้บุคคลที่ผมสนิทฟังด้วยอารมณ์ที่ใส่เต็ม จัดหนัก กระดาษทรายเบอร์ต่ำสุด มากกว่าที่คุณๆได้อ่านมาทั้งหมด
ผมไม่ได้คาดหวังว่าพนักงานคน 2 นั้นจะมาขอโทษเพราะคงมาด้วยความจำใจ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ของกำนัลใดๆจาก I Studio
แต่ผมอยากได้ 3 สิ่ง
1. การปรับปรุงการให้บริการด้วย Service Mind ของพนักงานทุกๆสาขา
2.การตรวจเช็คเครื่องทุกๆเครื่องควรมีพนักงานเป็นผู้แนะนำสิ่งต่างๆที่ควรต้องตรวจสอบเพราะผมเองไม่มีความรู้มากพอ + แล้วหากผมฝากแม่มาซื้อให้ยิ่งไม่ต้องเช็คเลยเผลอๆแม่บอกไปแกะที่บ้าน พนักงานคงชื่นชมป้าคนนี้ซื้อของง่ายดีจัง ถ้าลูกค้าทุกคนเป็นแบบนี้คงดี แล้วมอบโล่รางวัลให้แม่ผมแต่หากมีปัญหาก็ต้องวิ่งมาที่ร้านอีก หากทางร้านบอกไม่รับเปลี่ยนต้องส่งซ่อมลูกค้าตายเลยแบบนี้ เพราะผิดเองที่ไม่เช็คตั้งแต่อยู่ในร้านเมื่ออกนอกร้านไปเราไม่รู้ว่าลูกค้าไปทำอะไรมาบ้าง เพื่อความเป็นธรรมแก่ทั้ง บริษัท และผู้บริโภค ดังนั้นบริษัทควรนำปัญหาและประสบการณ์ถ่ายทอดสู่พนักงานให้มีองค์ความรู้และทำการตรวจเช็คเมื่อแกะกล่องมือถือด้วยความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภคเองเลย ประหนึ่งว่าเป็นญาติของลูกค้าและรักษาสิทธิ ประโยชน์แก่ลูกค้าเต็มที่เช่น อันนี้กล่องเป็นรอยเท่าขี้ของมด แจ้งลูกค้าเองเลยแล้วถามว่า ซีเรียสไหมครับ ถ้าซี พนง. เปลี่ยนอันใหม่เองเลย เพราะพนักงานที่ร้านก็ไม่ใช่คนผลิตเห็นสินค้าพร้อมลูกค้าเหมือนกัน ถ้าจะโทษต้องโทษคนที่มีอำนาจใหญ่ที่สุดในกิจการแล้วเพราะเป็นคนวางนโยบายทั้งหมดปล่อยให้เครื่องไม่ 100% ออกสู่ตลาดแล้ววัดใจว่าลูกค้าคนไหนจะเจอกล่องไม่ 100% ลูกค้าคนไหนเก่งพอจะรู้ว่าสินค้าไม่ 100% ถ้าเป็นแบบนี้#อยู่อยากนะ
3.พนักงานจะไม่กลั่นแกล้งผมเพราะเค้าสามารถดูข้อมูลผมผ่านระบบได้ กรณีที่เค้าถูกลงโทษ
หากทุกๆองค์กร ทุกๆหน่วยงาน ทุกๆบริษัทประกอบธุรกิจโดย
"มีจริยธรรม จรรยาบรรณต่อทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของกิจการ" (สั้นๆเท่านี้ แต่จะมีสักกี่องค์กรที่ทำแบบนี้จริงๆ) คำว่าจริยธรรม จรรยาบรรณ ในความรู้สึกของผมเป็นคำที่สูงมาก ความหมายกว้าง เขียนง่าย ถ้าทำได้บอกได้คำเดียว แม้ประเทศนี้ไม่มีกฎหมายทุกๆคนก็สามารถใช้ชีวิตในการบริโภคได่อย่างมีความสุขและ Win Win ด้วยกันทุกๆฝ่าย