เด็กๆ ปิดเทอม แม่ลูกพากันเดินตากแอร์แต่ในห้างกันแทบทุกวันจนเริ่มเบื่อ อยากออกไปเที่ยว ตจว.กันบ้าง
แต่คุณพ่อคนพาเที่ยวประจำบ้าน ก็ติดงานไม่ว่างพาไป เราเลยเกิดไอเดียว่าลองพาลูกขึ้นรถไฟฟรีไปเที่ยวหัวหินกันเองดีกว่า
(เอาจริงๆ คือแม่นี่แหล่ะอยาก)
พอคิดได้ก็ลองถามเจ้าลูกชายคนโต วัย 9 ขวบ เค้าก็โอเค สัญญาว่าถ้าได้ไป จะไม่งอแง จะอดทน จะไม่บ่น แม้จะเหนื่อยหรือร้อน
แล้วจริงๆ เราเองก็อยากลองไปไหนมาไหนด้วยตัวเองเหมือนกัน เพราะปกติก็ไม่เคยเดินทางหรือไปเที่ยวไหนเองเลย
จะมีก็เมื่อปลายปีที่แล้วนี้เอง ที่แบกเป้เที่ยวเชียงใหม่เป็นครั้งแรกกับเพื่อนสองคน
ก่อนวันเดินทางไปหัวหินไม่กี่วัน ช่วงวันหยุดสงกรานต์ เรากำลังจะเข้าไปจองโรงแรม เผอิญสายตาเหลือบไปเห็นเพจๆ หนึ่ง
ใน facebook แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชื่อบ้านกรูด เราสะดุดกับชื่อสถานที่นี้ คือรู้จักมานาน ได้แต่เคยผ่านเมื่อครั้งไปพักแถวบางสะพาน
เมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนที่ไปเที่ยวเกาะทะลุ เลยกดเข้าไปดูภาพ อ่านคอมเม้นท์ไปเรื่อยๆ ก็ได้ข้อมูลว่าหาดเงียบสงบแล้วก็เดินทางง่ายมากๆ
นั่งรถไฟไปถึงเลย
พอเห็นแค่นั้น เป้าหมายในการเดินทางของเราเลยเปลี่ยนไป จากเดิมหัวหินเปลี่ยนเป็นไปบ้านกรูดแทน ภายในเวลาก่อนเดินทาง
แค่ไม่กี่วัน เราหาข้อมูลเพิ่มเรื่องการเดินทางและเรื่องที่พัก กดดูสตรีทวิวเพื่อศึกษาเส้นทางแถวนั้น ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินทางตอนเช้า
แต่พอดูเวลาไปถึงก็ช่วงบ่ายไปแล้ว เราเสียดายเวลาเที่ยว เลยคิดอยากจะเดินทางช่วงกลางคืนแล้วไปถึงช่วงเช้าแทน
ซึ่งก่อนเดินทางเรายังมาตั้งกระทู้ถามเลยว่าที่สถานีบ้านกรูดช่วงตีสี่ – ตีห้า นี่ปลอดภัยมั๊ย
พอมีเพื่อนๆ มาตอบว่าค่อนข้างปลอดภัย มีนายสถานีประจำอยู่ แถมอยู่ติดตลาดช่วงเช้า ซึ่งตีห้านี่ก็น่ามีบางร้านมาเริ่มตั้งร้านแล้ว
พอได้คำตอบปุ๊บ เย็นอีกวันเราเลยไปหัวลำโพงเพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟทั้งไปและกลับเตรียมไว้เลย ไม่อยากไปเสี่ยงซื้อเอาวันเดินทาง
เพราะกลัวไม่มีที่นั่ง เพราะเห็นหลายรีวิวบอกรถไฟเต็มเร็วมาก บางคนจองล่วงหน้าเป็นเดือนเลย พอมีตั๋วอยู่ในมือ
แล้วค่อยมาจองที่พักเอาที่หลัง
งานนี้บอกคุณพ่อเด็กๆ เรียบร้อย คุณพ่ออนุญาตให้พากันไปได้แต่ต้องรายงานเป็นระยะๆ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย
แต่ทริปแรก ขอกระเตงลูกชายคนโตไปคนเดียว ส่วนลูกสาวคนเล็กนี่ขอฝากไว้บ้านคุณย่าก่อน ขืนเอาไปด้วย
คิดว่าไปได้แค่หัวลำโพงก็ต้องพากันกลับ เอาไว้ทริปแรกรอดแล้ว แม่จะพาหนูไปทริปหลังบ้างนะคะ
น้ำเยอะแล้ว มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเน๊าะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถึงหัวลำโพงตอน 21.30 น. ถึงก่อนเวลาตั้ง 1.20 ชม. แต่ถึงเร็วก็ดีอย่าง ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะทันหรือเปล่า
ตอนนี้ก็ลุ้นแค่ว่า รถไฟจะดีเลย์หรือไม่ดีเลย์
วันนี้รถไฟไม่ดีเลย์น๊า มาตรงเวลา แล้วก็ออกตรงเวลาด้วย เพื่อนรวมเดินทางเยอะมากค่ะ เพราะมี 2 ขบวนรวมโบกี้กัน
ระหว่างขบวน 41 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ - ยะลา โบกี้ 1-3 กับขบวน 39 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี โบกี้ 4-6
ซึ่งจะไปแยกโบกี้กันตรงสุราษฎร์ฯ เป็นรถไฟสายใต้ขบวนสุดของวัน และเป็นขบวนสุดท้ายที่ออกจากหัวลำโพงด้วยค่ะ
ตารางเดินรถไฟ ตามตารางเราจะไปถึงบ้านกรูดเวลา 04.14 น. ค่ะ
ขึ้นรถแล้วค่ะ แอร์เย็น เบาะนั่งสบายดีนะคะ แถวหน้ามีปลั๊กไฟให้ด้วยอ่ะ
คุณลูกชายขึ้นรถไฟได้แป๊บเดียว บอกแอร์เย็นสบายจัง รถไฟยังไม่ทันออก หน้าตาก็เริ่มเคลิ้มแล้ว
สักพักนายตรวจ ก็ขึ้นมาตรวจตั๋วค่ะ
เจ้าหน้าที่มาแจกผ้าห่ม
แล้วก็แจกขนม และ น้ำ สุดท้ายเราก็ลืมขนมไว้บนรถ เพราะตอนแจกลูกชายหลับแล้ว เราเลยเอาเหน็บไว้ตรงเบาะ
ตอนลงลืมหยิบลงมาด้วยกะไว้จะเอาไว้ให้ลูกชายกิน เพราะตอนรอรถบ่นหิวๆ ตลอด ทั้งๆ ที่ให้กินข้าวกับนมมาจากบ้านแล้วนะเนี่ย
ขึ้นรถได้ไม่กี่นาที ก็สลบแล้ว
ส่วนเรานอนไม่หลับ เพราะปกตินอนตีสองตีสามประจำอยู่แล้ว พอถึงเวลานอนมันก็คอยกังวล กลัวหลับยาวแล้วเลยสถานี
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่ก็ไม่ได้ใช้เพราะไม่ได้นอน พอสักตีสี่ เปิด GPS ดู ว่าถึงไหนแล้ว พอเห็นว่าใกล้ถึงก็เตรียมกระเป๋า
พร้อมกับปลุกลูกชายได้สักพักก็มี จนท.เดินมาบอกว่าบ้านกรูดให้เตรียมตัว เพิ่งรู้ว่ามี จนท.มาเดินบอกด้วยอ่ะ
หลงกังวลอยู่ตั้งนาน 555
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 2 : ถึงแล้วบ้านกรูด (20/04/59)
ถึงแล้ว สถานีบ้านกรูด 04.19 น. ช้าไป 5 นาที นี่ไม่เรียกดีเลย์หรอกเน๊าะ ถือว่าตรงเวลานะ
มีน้องผู้หญิงคนนึงลงพร้อมเราด้วย ตอนแรกคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน แต่พอลงรถแล้ว น้องเค้าก็เดินหายไปเลย
งั๊นคงไม่ใช่แล้วแหล่ะ คงเป็นคนพื้นที่มากกว่า
ฟ้ายังมืดอยู่ ก็พากันรอตรงสถานีก่อน สองแม่ลูกพากันทายากันยุง เตรียมผ้าเช็ดตัวมาให้ลูกหนุนหัวแล้วห่มผ้า ให้นอนต่อ
ส่งรูปให้พ่อน้องดูทางไลน์ เค้ารีบไลน์ตอบมาทำไมพาลูกนอนแบบนี้ แหม่ ถ้าไม่นอนแบบนี้จะให้นอนแบบไหนว๊า
ฟ้ามืดแบบนี้จะให้เดินไปไหนกันล๊าววววว ถามว่าทำไมไลน์ตอบไวจัง กะว่าให้เห็นตอนเช้า เค้าบอกเป็นห่วงอยู่
นั่งทำงานรอ ยังไม่ได้นอนเหมือนกัน กำลังว่าจะโทรมาถามพอดี
ลูกหลับแล้ว แม่ก็สำรวจรอบๆ นิดๆ หน่อยๆ มี จนท.อยู่ด้านในห้องนี้ค่ะ
สักหกโมงเช้า ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว เราก็ปลุกลูกให้ไปล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย
แล้วชวนเค้าไปเดินเล่นตลาดกันค่ะ แต่ตอนที่เดินตลาดเพิ่งเริ่มตั้ง ยังเปิดไม่ครบทุกร้านค่ะ
ร้านค้าที่อยู่ติดด้านหลังสถานี ร้านนี้เปิดตั้งแต่ตีห้า เปิดไฟเปิดทีวีสว่าง มีร้านนี้เป็นเพื่อนตอนนั่งรอเวลา อุ่นใจค่ะ ^^
ลูกร้องกินปาท่องโก๋ร้านนี้ ตัวละ 1 บาท ค่ะ นมข้นกระปุกละ 5 บาท
เดินได้แป๊บ ก็ชวนกันเดินไปที่พัก เช็คจากแผนที่ล่วงหน้ามาแล้วว่าห่างจาก สถานีรถไฟ 1.3 กม.
ที่จริงทางที่พักจะมีพนักงานมารับที่สถานีรถไฟนะคะ เค้าบอกว่าถ้ามาถึงสถานีให้โทรบอก
แต่นี่เรามาถึงเช้าเกินไป เราเกรงใจเค้าอ่ะ เลยเดินกันเองกันเองดีกว่า มันก็ไม่ได้ไกลด้วย เช้าๆ อากาศดีเดินสบาย
ก่อนเลี้ยวเข้าหน้าหาด เจอ 7-11 ก็แวะซื้อของกินกับของใช้ก่อน ฝั่งตรงข้ามมีโลตัส เอ็กซ์เพรสด้วยนะคะ
ให้ลูกนั่งพัก กินปาท่องโก๋ กินขนมกินนมก่อน เพราะบ่นหิวแล้ว ถ่ายใบเสร็จเก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายไว้ด้วย 555
ถึงทางแยก ที่พักของเราต้องเลี้ยวซ้าย เดินมาหน้าหาด ถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือธรรมดา ถ่ายย้อนแสง ได้รูปแบบนี้ก็ดูสวยดีนะ
เดินผ่านร้านหนูโภชนา คิดไว้แล้วว่า กลางวันนี้เจอกัน
เดินมาอีกนิด ก็ถึงที่พักของเราสองแม่ลูกวันนี้แล้ว บ้านกรูด อาเคเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปาค่ะ
ถึงร้านกาแฟของรีสอร์ทก่อน
เดินเข้าไปติดต่อตรงฟร้อนท์ เพื่อฝากกระเป๋ากับพนักงาน น้องๆ เค้าเช็คห้องให้ค่ะ ปรากฎว่าห้องที่เราจองไว้ยังมีแขกเข้าพัก
เราเลยต้องรอเช็คอินตามเวลาคือบ่ายสองค่ะ
ฝากกระเป๋าเสร็จ ลูกขอลงสระว่ายน้ำเลย แต่ว่าสระเปิด 08.00 น. เราเลยบอกว่าให้เล่นน้ำทะเลก่อน
มาทะเลจะลงแต่สระว่ายน้ำ อย่างนี้เที่ยวแถวบ้านก็ได้มั๊ยคะคุณลูก
หาดตอนเช้าๆ เงียบ สงบ ดีค่ะ แต่ที่จริงก็เงียบสงบแบบนี้ทั้งวันนะคะ
ปล่อยเด็กลงน้ำ มีคนเล่นอยู่ก่อนหน้าแล้วค่ะ พักที่เดียวกับเรา ไอ้แสบเราไปตีสนิทกับเค้า แล้วก็เล่นน้ำด้วยเลย
[CR] ทริปปิดเทอม สองแม่ลูกแบกเป้ขึ้นรถไฟเที่ยวครั้งแรก ณ บ้านกรูด @ประจวบคีรีขันธ์
แต่คุณพ่อคนพาเที่ยวประจำบ้าน ก็ติดงานไม่ว่างพาไป เราเลยเกิดไอเดียว่าลองพาลูกขึ้นรถไฟฟรีไปเที่ยวหัวหินกันเองดีกว่า
(เอาจริงๆ คือแม่นี่แหล่ะอยาก)
พอคิดได้ก็ลองถามเจ้าลูกชายคนโต วัย 9 ขวบ เค้าก็โอเค สัญญาว่าถ้าได้ไป จะไม่งอแง จะอดทน จะไม่บ่น แม้จะเหนื่อยหรือร้อน
แล้วจริงๆ เราเองก็อยากลองไปไหนมาไหนด้วยตัวเองเหมือนกัน เพราะปกติก็ไม่เคยเดินทางหรือไปเที่ยวไหนเองเลย
จะมีก็เมื่อปลายปีที่แล้วนี้เอง ที่แบกเป้เที่ยวเชียงใหม่เป็นครั้งแรกกับเพื่อนสองคน
ก่อนวันเดินทางไปหัวหินไม่กี่วัน ช่วงวันหยุดสงกรานต์ เรากำลังจะเข้าไปจองโรงแรม เผอิญสายตาเหลือบไปเห็นเพจๆ หนึ่ง
ใน facebook แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชื่อบ้านกรูด เราสะดุดกับชื่อสถานที่นี้ คือรู้จักมานาน ได้แต่เคยผ่านเมื่อครั้งไปพักแถวบางสะพาน
เมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนที่ไปเที่ยวเกาะทะลุ เลยกดเข้าไปดูภาพ อ่านคอมเม้นท์ไปเรื่อยๆ ก็ได้ข้อมูลว่าหาดเงียบสงบแล้วก็เดินทางง่ายมากๆ
นั่งรถไฟไปถึงเลย
พอเห็นแค่นั้น เป้าหมายในการเดินทางของเราเลยเปลี่ยนไป จากเดิมหัวหินเปลี่ยนเป็นไปบ้านกรูดแทน ภายในเวลาก่อนเดินทาง
แค่ไม่กี่วัน เราหาข้อมูลเพิ่มเรื่องการเดินทางและเรื่องที่พัก กดดูสตรีทวิวเพื่อศึกษาเส้นทางแถวนั้น ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินทางตอนเช้า
แต่พอดูเวลาไปถึงก็ช่วงบ่ายไปแล้ว เราเสียดายเวลาเที่ยว เลยคิดอยากจะเดินทางช่วงกลางคืนแล้วไปถึงช่วงเช้าแทน
ซึ่งก่อนเดินทางเรายังมาตั้งกระทู้ถามเลยว่าที่สถานีบ้านกรูดช่วงตีสี่ – ตีห้า นี่ปลอดภัยมั๊ย
พอมีเพื่อนๆ มาตอบว่าค่อนข้างปลอดภัย มีนายสถานีประจำอยู่ แถมอยู่ติดตลาดช่วงเช้า ซึ่งตีห้านี่ก็น่ามีบางร้านมาเริ่มตั้งร้านแล้ว
พอได้คำตอบปุ๊บ เย็นอีกวันเราเลยไปหัวลำโพงเพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟทั้งไปและกลับเตรียมไว้เลย ไม่อยากไปเสี่ยงซื้อเอาวันเดินทาง
เพราะกลัวไม่มีที่นั่ง เพราะเห็นหลายรีวิวบอกรถไฟเต็มเร็วมาก บางคนจองล่วงหน้าเป็นเดือนเลย พอมีตั๋วอยู่ในมือ
แล้วค่อยมาจองที่พักเอาที่หลัง
งานนี้บอกคุณพ่อเด็กๆ เรียบร้อย คุณพ่ออนุญาตให้พากันไปได้แต่ต้องรายงานเป็นระยะๆ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย
แต่ทริปแรก ขอกระเตงลูกชายคนโตไปคนเดียว ส่วนลูกสาวคนเล็กนี่ขอฝากไว้บ้านคุณย่าก่อน ขืนเอาไปด้วย
คิดว่าไปได้แค่หัวลำโพงก็ต้องพากันกลับ เอาไว้ทริปแรกรอดแล้ว แม่จะพาหนูไปทริปหลังบ้างนะคะ
น้ำเยอะแล้ว มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเน๊าะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แล้วต่อ MRT ไปหัวลำโพง วันนี้จากบ้านไป MRT ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเอง รถไม่ติดเลย
ตอนนี้ก็ลุ้นแค่ว่า รถไฟจะดีเลย์หรือไม่ดีเลย์
วันนี้รถไฟไม่ดีเลย์น๊า มาตรงเวลา แล้วก็ออกตรงเวลาด้วย เพื่อนรวมเดินทางเยอะมากค่ะ เพราะมี 2 ขบวนรวมโบกี้กัน
ระหว่างขบวน 41 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ - ยะลา โบกี้ 1-3 กับขบวน 39 ด่วนพิเศษ กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี โบกี้ 4-6
ซึ่งจะไปแยกโบกี้กันตรงสุราษฎร์ฯ เป็นรถไฟสายใต้ขบวนสุดของวัน และเป็นขบวนสุดท้ายที่ออกจากหัวลำโพงด้วยค่ะ
ตารางเดินรถไฟ ตามตารางเราจะไปถึงบ้านกรูดเวลา 04.14 น. ค่ะ
ขึ้นรถแล้วค่ะ แอร์เย็น เบาะนั่งสบายดีนะคะ แถวหน้ามีปลั๊กไฟให้ด้วยอ่ะ
คุณลูกชายขึ้นรถไฟได้แป๊บเดียว บอกแอร์เย็นสบายจัง รถไฟยังไม่ทันออก หน้าตาก็เริ่มเคลิ้มแล้ว
สักพักนายตรวจ ก็ขึ้นมาตรวจตั๋วค่ะ
เจ้าหน้าที่มาแจกผ้าห่ม
แล้วก็แจกขนม และ น้ำ สุดท้ายเราก็ลืมขนมไว้บนรถ เพราะตอนแจกลูกชายหลับแล้ว เราเลยเอาเหน็บไว้ตรงเบาะ
ตอนลงลืมหยิบลงมาด้วยกะไว้จะเอาไว้ให้ลูกชายกิน เพราะตอนรอรถบ่นหิวๆ ตลอด ทั้งๆ ที่ให้กินข้าวกับนมมาจากบ้านแล้วนะเนี่ย
ขึ้นรถได้ไม่กี่นาที ก็สลบแล้ว
ส่วนเรานอนไม่หลับ เพราะปกตินอนตีสองตีสามประจำอยู่แล้ว พอถึงเวลานอนมันก็คอยกังวล กลัวหลับยาวแล้วเลยสถานี
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่ก็ไม่ได้ใช้เพราะไม่ได้นอน พอสักตีสี่ เปิด GPS ดู ว่าถึงไหนแล้ว พอเห็นว่าใกล้ถึงก็เตรียมกระเป๋า
พร้อมกับปลุกลูกชายได้สักพักก็มี จนท.เดินมาบอกว่าบ้านกรูดให้เตรียมตัว เพิ่งรู้ว่ามี จนท.มาเดินบอกด้วยอ่ะ
หลงกังวลอยู่ตั้งนาน 555
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถึงแล้ว สถานีบ้านกรูด 04.19 น. ช้าไป 5 นาที นี่ไม่เรียกดีเลย์หรอกเน๊าะ ถือว่าตรงเวลานะ
มีน้องผู้หญิงคนนึงลงพร้อมเราด้วย ตอนแรกคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน แต่พอลงรถแล้ว น้องเค้าก็เดินหายไปเลย
งั๊นคงไม่ใช่แล้วแหล่ะ คงเป็นคนพื้นที่มากกว่า
ฟ้ายังมืดอยู่ ก็พากันรอตรงสถานีก่อน สองแม่ลูกพากันทายากันยุง เตรียมผ้าเช็ดตัวมาให้ลูกหนุนหัวแล้วห่มผ้า ให้นอนต่อ
ส่งรูปให้พ่อน้องดูทางไลน์ เค้ารีบไลน์ตอบมาทำไมพาลูกนอนแบบนี้ แหม่ ถ้าไม่นอนแบบนี้จะให้นอนแบบไหนว๊า
ฟ้ามืดแบบนี้จะให้เดินไปไหนกันล๊าววววว ถามว่าทำไมไลน์ตอบไวจัง กะว่าให้เห็นตอนเช้า เค้าบอกเป็นห่วงอยู่
นั่งทำงานรอ ยังไม่ได้นอนเหมือนกัน กำลังว่าจะโทรมาถามพอดี
ลูกหลับแล้ว แม่ก็สำรวจรอบๆ นิดๆ หน่อยๆ มี จนท.อยู่ด้านในห้องนี้ค่ะ
สักหกโมงเช้า ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว เราก็ปลุกลูกให้ไปล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย
แล้วชวนเค้าไปเดินเล่นตลาดกันค่ะ แต่ตอนที่เดินตลาดเพิ่งเริ่มตั้ง ยังเปิดไม่ครบทุกร้านค่ะ
ร้านค้าที่อยู่ติดด้านหลังสถานี ร้านนี้เปิดตั้งแต่ตีห้า เปิดไฟเปิดทีวีสว่าง มีร้านนี้เป็นเพื่อนตอนนั่งรอเวลา อุ่นใจค่ะ ^^
ลูกร้องกินปาท่องโก๋ร้านนี้ ตัวละ 1 บาท ค่ะ นมข้นกระปุกละ 5 บาท
เดินได้แป๊บ ก็ชวนกันเดินไปที่พัก เช็คจากแผนที่ล่วงหน้ามาแล้วว่าห่างจาก สถานีรถไฟ 1.3 กม.
ที่จริงทางที่พักจะมีพนักงานมารับที่สถานีรถไฟนะคะ เค้าบอกว่าถ้ามาถึงสถานีให้โทรบอก
แต่นี่เรามาถึงเช้าเกินไป เราเกรงใจเค้าอ่ะ เลยเดินกันเองกันเองดีกว่า มันก็ไม่ได้ไกลด้วย เช้าๆ อากาศดีเดินสบาย
ก่อนเลี้ยวเข้าหน้าหาด เจอ 7-11 ก็แวะซื้อของกินกับของใช้ก่อน ฝั่งตรงข้ามมีโลตัส เอ็กซ์เพรสด้วยนะคะ
ให้ลูกนั่งพัก กินปาท่องโก๋ กินขนมกินนมก่อน เพราะบ่นหิวแล้ว ถ่ายใบเสร็จเก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายไว้ด้วย 555
ถึงทางแยก ที่พักของเราต้องเลี้ยวซ้าย เดินมาหน้าหาด ถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือธรรมดา ถ่ายย้อนแสง ได้รูปแบบนี้ก็ดูสวยดีนะ
เดินผ่านร้านหนูโภชนา คิดไว้แล้วว่า กลางวันนี้เจอกัน
เดินมาอีกนิด ก็ถึงที่พักของเราสองแม่ลูกวันนี้แล้ว บ้านกรูด อาเคเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปาค่ะ
ถึงร้านกาแฟของรีสอร์ทก่อน
เดินเข้าไปติดต่อตรงฟร้อนท์ เพื่อฝากกระเป๋ากับพนักงาน น้องๆ เค้าเช็คห้องให้ค่ะ ปรากฎว่าห้องที่เราจองไว้ยังมีแขกเข้าพัก
เราเลยต้องรอเช็คอินตามเวลาคือบ่ายสองค่ะ
ฝากกระเป๋าเสร็จ ลูกขอลงสระว่ายน้ำเลย แต่ว่าสระเปิด 08.00 น. เราเลยบอกว่าให้เล่นน้ำทะเลก่อน
มาทะเลจะลงแต่สระว่ายน้ำ อย่างนี้เที่ยวแถวบ้านก็ได้มั๊ยคะคุณลูก
หาดตอนเช้าๆ เงียบ สงบ ดีค่ะ แต่ที่จริงก็เงียบสงบแบบนี้ทั้งวันนะคะ
ปล่อยเด็กลงน้ำ มีคนเล่นอยู่ก่อนหน้าแล้วค่ะ พักที่เดียวกับเรา ไอ้แสบเราไปตีสนิทกับเค้า แล้วก็เล่นน้ำด้วยเลย