ตลอดการเดินทางบนรถไฟก็จะมีพ่อค้า แม่ค้า แวะเวียนกันมาขายของ เป็นข้าวบ้าง น้ำดื่มบ้าง ผลัดเปลี่ยนกันไป รถไฟก็จะจอดให้คนขึ้นตามสถานีใหญ่ๆ  ด้วยความที่ก่อนไปก็ตุนขนมกันไว้เลยไม่ค่อยหิว แม่ค้ามาขายข้าวเราก็ไม่ซื้อ (หยิ่งไง^_^) พอออกจากตัวเมืองกรุงเทพเท่านั้นละ แม่ค้าหายไปไหนกันหมด เริ่มหิวข้าวแล้วสิที่นี้ด้วยความที่ว่างเราก็เลยนั่งเล่นกันไปเรื่อยหาอะไรดู บางคนก็นอน เช่นป้าเต้ยของเรา555 พอถึงเวลา 3 ทุ่ม นึกขึ้นได้ว่ามีรายการหน้ากากนักร้องถ่ายทอดสด เอาละครับเราก็เปิดเฟสบุ๊คดูไลฟ์สดทันที หาเรื่องทำฆ่าเวลา ดูไปก็ลุ้นไป จนคนที่นั่งอยู่อีกฟากชะโงกหน้ามาดูกับเราด้วย5555 ดูกันเพลินเลย พอถึงสถานีเพชรบุรี แม่ค้าก็เริ่มขึ้นมาขายของอีกครั้ง ที่นี้ มีอะไรมาขายเราก็ซื้อหมด ซื้อข้าว ซื้อน้ำ (หิวกันมากกก) ข้าวก็ราคาไม่แพง กล่องละ20 บาทเป็นกล่องโฟม รสชาติอร่อยมาก เปล่าหรอกหิว (ล้อเล่น) ก็ตามสั่งทั่วไป กินแก้หิวได้ พอกินข้าวเสร็จก็เริ่มไม่มีอะไรทำ เริ่มง่วง เราก็ผลัดกันนอน นอนไปเล่นไป มีเวลาว่างถึงขนาดที่ว่านั่งนับสถานีที่จอดกันเลยทีเดียว จากหัวลำโพงสู่บ้านกรูด 63 สถานีจ้า ซึ่งตอนนั้นผ่านไปเพียงแค่23 สถานี

หลังจากป้าเต้ยผู้ตื่นจากการหลับไหล ก็มีแรงละไงชวนกันร้องเพลง นึกเพลงอะไรได้ก็ร้อง ร้องไปคนก็มอง พยายามจะเบาเสียงลงแต่ก็หลุดขำทุกที่ เล่นมุกบ้างอะไรบ้าง เหลืออีก40สถานี นั่งกันจนเมื่อยก้น ยาวไปกับค่ำคืนนี้ครับ~


และแล้วก็ถึงสถานีบ้านกรูดเราก็เตรียมตัวลงจากรถไฟ ปรากฎว่าลงผิดฝั่งไปลงอีกทางที่เป็นราง ผมนี่ยืนรอรถไฟออกเลยครับ ค่อยข้ามมายังฝั่งสถานี (งัวเงียตื่นเลยมึนกันหมด) เรามาถึงสถานีบ้านกรูดเวลา ประมาณตี 01.20น. เพราะรถไฟดีเลย์เล็กน้อย ทำให้ไปถึงช้ากว่าจากกำหนดการ 30 นาที



บรรยากาศก็ มีนายสถานีอยู่สองคน กับคนที่มารอขึ้นรถไฟประมาณ 2-3 คน เราก็แยกย้ายกันไปถ่ายรูปจับจองที่นั่ง ที่นอน เนื่องจากเรามาถึงกันดึกมาก ทำให้ต้องนอนกันที่สถานีรถไฟ เพื่อรอเวลาเช้า อากาศแถวนั้นค่อนข้างเย็น ยุงก็มีนะ ฉีดยากันกระจายเลย ระหว่างที่เพื่อนบางคนนอนก็มี เพื่อนเราอีกสองไปเดินสำรวจพื้นที่ ถ่ายรูป เก็บบรรยากาศยามกลางคืน จะเห็นได้ว่าที่นี่เป็นเมืองที่สงบมากกก สงบสิตีหนึ่งแล้วนะหมาหอนด้วย555








หลังกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาอันสมควร เดินทางสู่ที่พักตลอด2คืนของเรา แล้วจะไปยังไงกันดี? ระหว่างที่เราหาทางไปที่พักกันอยู่ เพื่อนก็เจอกับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงรับจ้างที่เป็นรถโดยสารของที่นี่ คุณลุงมายืนรอลูกค้าอยู่บริเวณสถานีรถไฟ คุณลุงชื่อลุงชาย ถามลุงชายว่ามีรถอื่นไหมที่ใช้ในการเดินทาง ลุงบอกว่าที่นี่ใช้รถมอเตอร์ไซเป็นยานพาหนะกันทุกบ้าน หลังจากตกลงเรื่องราคากันแล้ว ค่าโดยสารคุณลุงคิดเราคนละ 30 บาท ก็เตรียมตัวขนกระเป๋าขึ้นรถลุง 6 ชีวิตนั่งกันไปบนรถมอเตอร์ไซค์พ่วงของลุง  


ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงบ้านพัก พวกเราได้โทรจองไว้ล่วงหน้าบ้านพักของเราชื่อว่า ธารวรา บีช รีสอร์ท พี่เจ้าของรีสอร์ทใจดีมากตอบไลน์เร็วตลอด พวกเราจองห้องพักไว้สองห้องพี่เขาเปลี่ยนห้องให้เป็นห้องsea view หนึ่งห้องในราดาเดิมด้วย ใจดีมากครับ ซึ่งพอถึงที่พักเราก็จัดการจ่ายค่าห้องแล้วก็ช่วยกันขนของเข้าที่พัก ภายในห้องพักก็มีเตียง 3 เตียง เราจึงแบ่งกันนอน ห้องละ 3 คน ข้างในมีโต๊ะเครื่องแป้ง แอร์ พัดลม ทีวี ตู้เย็น เรียกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกมีพร้อมครบครัน   



ขอบคุณภาพประกอบสวยๆจาก ธารวรา บีช รีสอร์ท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/Tharnvara/?fref=ts
  


เดี๋ยวมาเล่าต่อสักครู่นะครับ