= หนทางต่างกัน แต่ปลายทางเดียวกัน = (ตีความเข้าข้างตนเอง)

กราบสวัสดี ผู้ที่รักในพระเจ้าทุกท่าน

เนื่องจากมนุษย์แต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน
พระเจ้าจึงทรงมอบความเชื่อให้แต่ละคนด้วยวิธีที่ต่างกัน บ้างก็ผ่านทางประสบการณ์ตรง บ้างก็ผ่านทางผู้ประกาศข่าวประเสริฐ
พระเจ้าทรงสอนแต่ละคนด้วยวิธีที่ต่างกัน เราแต่ละคนจึงมีประสบการณ์กับพระเจ้าที่ไม่เหมือนกัน
และแต่ละคนก็มีแนวทางที่แตกต่างกัน

ในพระธรรมโรมบทที่ 14 ได้เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ไว้
แม้ว่าผมจะสรุปโดยยกมาเพียงบางข้อ     แต่ผมกราบแนะนำท่านให้ตามไปอ่านเนื้อหาที่ครบถ้วนสมบูรณ์
--------------

พระธรรมโรม บทที่ 14

ข้อที่ 2 คนหนึ่งถือว่าจะกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่อีกคนหนึ่งที่ยังอ่อนในความเชื่ออยู่ก็กินแต่ผักเท่านั้น
ข้อที่ 3 อย่าให้คนที่กินนั้นดูหมิ่นคนที่ไม่ได้กิน และอย่าให้คนที่มิได้กินกล่าวโทษคนที่ได้กิน เหตุว่าพระเจ้าได้ทรงโปรดรับเขาไว้แล้ว

ข้อที่ 5 คนหนึ่งถือว่าวันหนึ่งดีกว่าอีกวันหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งถือว่าทุกวันเหมือนกัน ขอให้ทุกคนมีความแน่ใจในความคิดเห็นของตนเถิด

ข้อที่ 6 ผู้ที่ถือวันก็ถือเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และผู้ที่ไม่ถือวันก็ไม่ถือเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ที่กินก็กินเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเขาขอบพระคุณพระเจ้า และผู้ที่มิได้กินก็มิได้กินเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และยังขอบพระคุณพระเจ้า

ข้อที่ 10 แต่ตัวท่านเล่า เหตุไฉนท่านจึงกล่าวโทษพี่น้องของท่าน หรือเหตุไฉนท่านจึงดูหมิ่นพี่น้องของท่าน เพราะว่าเราทุกคนต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์
ข้อที่ 12 ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า

-------------
คนที่กินทุกอย่างก็ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานสิ่งนี้มาให้
คนที่เลือกกินเพียงบางอย่างก็ถวายเกียรติให้พระองค์

คนที่ไม่ถือวันสำคัญก็ถวายเกียรติให้พระองค์
คนที่ถือวันสำคัญก็ถวายเกียรติให้พระองค์

แม้วิถีชีวิตจะต่างกัน แต่เราก็ต่างรู้สึกขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณีเช่นกัน
-----------

บทความนี้ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเรื่องกิน กับการนับวันสำคัญเท่านั้น
แต่รวมถึงการดำเนินชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย

------------

บทความนี้เป็นการตีความเอาเอง มิได้เป็นข้อเท็จจริงที่ชี้ขาดความถูกต้องแต่อย่างใด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่