สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 85
ชื่อกระทู้ คือ รีวิวปรับทุกข์ >>> คือ การรีวิว งั้นแปลว่า ไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์จากคู่กรณี
ถามตรงๆ ว่า
" ถ้าคุณ ตกลงกันได้ ได้เงินคืน หรือไรก็แล้วแต่ คุณจะลบกระทู้หรือไม่ ....??? "
ถ้าใช่.... ผมขอเดินออกไปอย่างเงียบๆ ไม่ขอยุ่งกับกระทู้
แต่ถ้าไม่.... ผมจะช่วยยำ ให้อีกแรงนึง ครับ
ต้องเข้าใจนะครับ ว่า ที่ผ่านมา กระทู้แนวที่เอาพันทิพเป็นตัวประกัน มีมาบ่อยมาก แล้วสุดท้าย พอตกลงกันเองได้ ก็ ลบกระทู้ ถีบหัวเรือส่งเพื่อนสมาชิก เป็นหมาไปเลย...
ถามตรงๆ ว่า
" ถ้าคุณ ตกลงกันได้ ได้เงินคืน หรือไรก็แล้วแต่ คุณจะลบกระทู้หรือไม่ ....??? "
ถ้าใช่.... ผมขอเดินออกไปอย่างเงียบๆ ไม่ขอยุ่งกับกระทู้
แต่ถ้าไม่.... ผมจะช่วยยำ ให้อีกแรงนึง ครับ
ต้องเข้าใจนะครับ ว่า ที่ผ่านมา กระทู้แนวที่เอาพันทิพเป็นตัวประกัน มีมาบ่อยมาก แล้วสุดท้าย พอตกลงกันเองได้ ก็ ลบกระทู้ ถีบหัวเรือส่งเพื่อนสมาชิก เป็นหมาไปเลย...
แอสซาซิน ถูกใจ, Pun Arun ทึ่ง, dewicetoni ถูกใจ, Spaghettification ถูกใจ, Kuchiki_R ถูกใจ, BARBIEEYE ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1395602 ถูกใจ, Nakarovski ถูกใจ, pumpkinsster ถูกใจ, gudjung26 ถูกใจรวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 8
ต่อวันที่ 4 นะคะ... (ด้านบนที่ไม่พอค่ะ)
จากนั้นก็ไม่มีอะไร พาไปร้าน super market ละลายเงินวอน ซึ่งเป็นร้านฟันลูกทัวร์หัวแบะเช่นเคย
ขนมและของแพงมาก น้องเราบอก ดูราคาขนมบางอย่าง แพงกว่าข้างนอกตามร้านสะดวกซื้อเกือบเท่านึงค่ะ -_-''
เราไม่ได้ซื้ออะไรนอกจากสาหร่ายหนึ่งห่อไปฝากแม่.. ส่วนคนอื่นๆบางคนก็ซื้อหลายแสนวอน เพราะไม่มีเวลาไปซื้อของฝากเลยสักวัน โอกาสสุดท้ายแล้วอย่างไรก็ต้องซื้อที่นี่ (ไม่นับว่าร้านอื่นๆ ญาติๆเราก็ซื้อโสมซื้อสมุนไพรโน่นนี้ หมดกันไปเป็นล้านวอนค่ะ)
พอใกล้ถึงร้านซูเปอร์ หัวหน้าทัวร์ลูกอมเธอก็มาเก็บ passport ของลูกทัวร์ทุกคนไปโดยบอกจะเอาไปเชคอิน (เป็นตัวประกัน? อุ๊ปส์)
ประมาณ 4 โมงเย็นก็ถึงร้าน เราถามหัวหน้าทัวร์ลูกอมว่าอยู่ได้ถึงกี่โมงคะ? เธอบอกว่า ได้ถึง 5โมงครึ่งเลยค่าาาา เด๋วจะเอา passport ไปเชคอินให้ก่อนค่ะ (ฮะ?? คือให้เวลาซื้อของในซูเปอร์ชั่วโมงครึ่ง?) คือได้ข่าวว่า flight 19:35 (แต่ delay หรือเลื่อนเป็น 19:55 ค่ะ)
แต่ลูกทัวร์ต้องเผื่อเวลาไปแพคของ โหลดกระเป๋า ทำ tax refund ผ่าน ตม. ไหนจะต้องไปตามซื้อของใน duty free สนามบินต่ออีกเพราะบางอย่างก็ยังหาซื้อไม่ได้ รวมทั้งซื้อข้าวเย็นกินอีก (หัวหน้าทัวร์แจ้งว่า jin air ไม่มี เสิร์ฟอาหารเย็น มีเป็น snack box ซึ่งเราคงต้องหาข้าวเย็นกินเองเพราะไม่รวมในโปรแกรมทัวร์ รวมทั้งกว่าจะถึง กทม.ก็ปาไป เที่ยงคืน >< ถ้าเป็นเวลาเกาหลี ก็ตีสอง คงหิวมาก)
เราเลยรีบบอกว่าไม่เอาค่ะพี่ ขอไปเร็วกว่านั้น แล้วรีบไปบอกญาติๆให้รีบๆซื้อ เด๋วจะได้มีเวลาในสนามบินเยอะหน่อย ต้องไปหาข้าวเย็นทานด้วยอีก สรุปก็ได้ออกกันเกือบๆ 5 โมง เดินทางอีกครึ่งชั่วโมง ก็ถึงสนามบินค่ะ
ก่อนออกจากซูเปอร์เธอก็มาทวงเก็บค่าทิปไปค่ะ
ตอนแรกญาติๆเราก็มีดราม่ากันอีก ว่าโห บริการห่วยแตก ทัวร์พังเละเทะขนาดนี้ ยังกล้ามาทวงเก็บค่าทิปคนละ 1000 บาทอีกเหรอ (30 กว่าคน 3หมื่นกว่าบาทค่ะ) งงค่ะ ญาติเราบางคนก็โวยวายจะไม่ยอมจ่ายค่ะ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันแย่มาก แล้วมาบังคับเก็บได้ยังไง...
ญาติเราบางคนเที่ยวทัวร์บ่อย (แบบทัวร์ดีๆหน่อย) เค้าก็บอกว่า ทิปมันเป็นสิ่งที่อยู่ที่ลูกทัวร์พอใจจะให้เท่าไหร่ที่เหมาะสมกับบริการไม่ใช่เหรอ มาบังคับเก็บเท่านั้นเท่านี้ได้อย่างไร ถ้าจะคิดเป็น fix ทำไมไม่เก็บรวมกับค่าทัวร์ไปเลยตั้งแต่แรก ทำไมต้องเรียกว่าทิป...
เออ เราก็สงสัยเหมือนกันค่ะ แต่เราก็เห็นหลายๆเจ้าเขาขายทัวร์กันแบบนี้ มันก็เขียนอยู่ในโปรแกรมแบบนี้อยู่แล้ว จริงๆเราก็รับได้นะ ถ้าบริการดี.. ตอนนั้นเราไปเกาหลีกับทัวร์ถูกๆ เค้าเก็บแค่ 600 บาทค่ะ เค้าบอกว่าเป็นของ คนขับ+ไกด์เกาหลี+หัวหน้าทัวร์ไทย ไปแบ่งๆกันเอง เราก็รับได้ จ่ายให้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง แถมตอนกลับถึงไทยเราก็ยังทิปเฉพาะหัวหน้าทัวร์ไทยเพิ่มไปอีก 1000 นึงเพราะเค้าดูแลเรากับแม่ดี เราว่าของแบบนี้มันน่าจะอยู่ที่ความพอใจนะ
แต่สุดท้ายก็ยอมจ่ายๆไปเหอะเพราะ passport อยู่ที่เค้าหมดค่ะ ถ้าไม่จ่ายก็กลัวเด๋วเค้าไม่คืนให้ อยากกลับบ้านเต็มแก่แล้วด้วย ยังงัยก็ได้ขอกลับบ้านแล้วเหอะนาทีนี้ T_T ซึ่งพอตกลงกัน คุณลูกอมหัวหน้าทัวร์ก็ยอมลดให้นิดหน่อย โดยไม่เก็บของเด็กเล็ก 4 คนค่ะ ส่วนผู้ใหญ่กับเด็กโตเก็บคนละ 1000 บาท (แม่แฟนเราเป็นคนถือเงิน ก็จ่ายไปแบบงงๆเพราะทัวร์บอกว่าคนละพัน แต่พอเรามาเชคให้โปรแกรมดูอีกที โปรแกรมแรกสุดที่เค้าส่งให้เราเดินทาง 9-13 เมษา เก็บค่าทิป 600 บาทค่ะ / แต่พอทัวร์เลื่อนวันก็มีแก้ในโปรแกรมเป็นเก็บคนละ 900 บาท (อันนี้เราไม่ทราบว่าเขาได้แจ้งล่วงหน้ามาหรือเปล่า) / พอวันจริงมาเนียนเก็บคนละ 1000 บาทค่ะ -- คือสรุปแล้ว 100*30 คน ก็ 3000 แระ เกือบเท่าส่วนลดที่ลดให้เด็กแล้วป่ะคะ? ซึ่งตรงนี้เราไม่รอบคอบกันเอง โทษใครไม่ได้ค่ะ นาทีนั้น ทุกคนอยากกลับบ้านมากกกกกกก ไม่มีใครอยากจะอยู่แล้วเกาหลี ก็ยอมจ่ายๆไปจะได้จบๆซะที)
แถมสุดท้ายเรื่องบุฟเฟ่ขาปู ก็ไม่มี (โปรแกรมทัวร์ครั้งแรกที่เราจองไปที่เดินทางวันที่ 9 เมษา มีรวม บุฟเฟ่ห์ ขาปู) แต่ทัวร์ไม่ได้แจ้งเราว่าหากย้ายวันแล้ว จะตัดบุฟเฟ่ขาปูออก แจ้งแค่ว่าโปรแกรมเหมือนๆเดิม แต่เพิ่มแถม ซอรัคซานให้ (แอบตัดออกไปจากโปรแกรมที่พิมพ์มาให้) อี้เราทวงถาม เพราะยังเข้าใจอยู่ว่าจะได้กิน แต่จนมาถึงวันสุดท้ายแล้ว ก็ยังงงอยู่ว่า แล้วขาปูอยู่ไหน? เลยถามไกด์ นางก็โทรไปเคลียร์ถามให้อีก แต่ก็ได้คำตอบว่า group นี้ไม่มีรวมขาปูนะค๊าาา... แต่อันนี้เค้าอาจแก้ในโปรแกรมแล้ว พวกเราคงผิดเองไม่ได้อ่านในละเอียดเองเพราะนึกว่าเหมือนเดิมทุกอย่างแค่ได้แถมที่เที่ยว
สรุปทัวร์นี้คือ ตุกติกทุกขั้นตอน อะไรตัดทิ้งได้ก็รีบทำ ช่องทางไหนเอาเปรียบลูกทัวร์ได้ ก็ทำหมด
(วันแรกที่บัสไม่มา ที่จริงจองเอาไว้แค่ครึ่งวันรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่บังเอิญครอบครัวเราไม่มีใครติด ตม.ต้องรอเคลียร์เลยสักคน เลยออกมาได้ไม่สายมาก -_-")
- ไกด์เถื่อนคนแรก ถ้าให้เราเดา ก็คงโดนจับๆมาวางให้เป็นล่ามคุยกับไกด์เกาหลี สวมรอยรับหน้าเป็นไกด์ไปก่อน (เพราะดูไม่มีความรู้อะไรเลย แถมยังตื่นเต้นเวลาไปเที่ยว)
- ไกด์เกาหลี ก็คงเป็น sitting guide (อันนี้บังเอิญขากลับเรานั่งติดกับพี่หัวหน้าทัวร์กรุปอื่นค่ะ เราเล่าให้ฟัง เค้าก็อธิบายว่าแบบนี้เค้าเรียกว่า sitting guide ปกติจะจ้างมาให้มารับที่แอร์พอร์ท พอพ้นก็ลงไป ให้มันไม่ผิดกฎหมาย ส่วนมากจะไม่มีหน้าที่อะไร อาจจะมีคอยซื้อตั๋วให้เพราะเขามีบัตรไกด์ อาจได้ส่วนลดของทัวร์อะไรแบบนั้น แต่คนนี้เขาก็อยู่กับเราตลอดทริปค่ะ แค่ไม่พูดไม่บริการอะไรเลย)
- ไกด์ลูซี่ มาวันที่ 3 ทางทัวร์คงเห็นว่าไม่ไหวแล้ว คงต้องจ้างไกด์ตัวจริงแล้วเพราะทริปเละทุกวัน แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ และยังมีปัญหาเรื่องต้องไปแจ้งความอีก ไกด์คนเกาหลีก็ไม่ยอมไปให้ และหากเรื่องถึงตำรวจเด๋วจะซวยไปกันใหญ่ นางคงไม่รู้ว่าก่อนนางมา ทัวร์นี้มาคุขนาดไหน เพราะสังเกตว่าการพูดจาได้ KY สุดๆ...
(แก้ไขเพิ่มเติมนะคะ : KY เป็นคำย่อที่มักใช้ในเวปบอร์ดของญี่ปุ่นหรือแชทสั้นๆน่ะค่ะ
มาจากทำว่า 空気読めない(Kuuki yomenai) แปลเป็นไทยว่าประมาณว่า อ่านบรรยากาศไม่ออก หรือ ประมาณว่า ไม่รู้กาลเทศะ ค่ะ)
** เช่น วันแรกที่นางมา ยังถามพวกเราอยู่เลย ว่า
เอ.... ปกติทุกคนเค้าไปเที่ยวเกาะนามิกันนะคะ ครอบครัวนี้เคยมากันหลายรอบแล้วใช่ไหมคะ ครั้งนี้เลยไม่ไปกัน? (พวกเรางง เพราะญาติๆไม่เคยมาเกาหลีค่ะ แล้วทัวร์ก็ตัดนามิออกไปเองทำให้เราอดไป)
แล้วยังถามว่า เอ.. ปกติจะมีน้องนักศึกษามาคอยถ่ายรูปและบริการเติมน้ำเติมอาหารให้นะคะ ทำไมไม่มีเหรอคะ (เออ... หนูก็อยากรู้ค่ะ คาดหวังจะได้เจอโอปป้าหล่อๆบ้างอะไรบ้างนะคะ T_T ส่วนหน้าที่นี้ คุณหัวหน้าทัวร์ลูกอมและสามีเป็นคนทำเองค่ะ บางทีก็คิดว่าแปลกดีนะคะ เป็นเจ้าของบริษัทใจคอจะไม่จ้างใครมาช่วยบ้างเลยเหรอคะ?)
เอ... ทริปนี้ทำไมไม่มีใครสั่งสตอเบอรี่เลยค่ะ ปกติทัวร์จะแจ้งก่อนไม่ใช่เหรอคะ ว่าถ้าจะซื้อสตอเบอรี่กลับบ้าน มีให้สั่งบนรถได้นะคะ กรุปนี้ไม่มีสั่งกันเหรอคะ? (เราก็เพิ่งทราบว่ามีตอนคุณลูซี่พูดขึ้นมานี่แหละค่ะ) สรุปแล้วคือเราไปทัวร์จริงๆหรือเปล่าคะเนี่ย ทำไมไม่มีอะไรปกติเลยสักอย่าง --" ไปถึงสนามบิน เราก็เห็นคณะอื่นเค้าถือถุงผ้าทองๆ ใส่สตอเบอรี่ถือขึ้นเครื่องกันหมดเลยค่ะ พอไปถึงสนามบิน พวเราก็ทำได้แค่รีบๆๆ ไปทำ tax refund (แถวยาวมาก) คลำๆกันไปเอง รีบๆเข้าไปต่อคิวรับเงินด้านใน รีบทานข้าวเย็น แล้วก็วิ่งไปขึ้นเครื่อง ไม่มีเวลาชอปหรือดูอะไรใน duty free แล้วค่ะ จบทริปกันไปแบบทุลักทุเล.. (โชคดีที่คุณหัวหน้าทัวร์ลูกอม นั่งรถมาเชคอิน group ให้ก่อน และช่วยจัดที่นั่งให้คณะเรา ไม่อย่างนั้นก็คงมีรายการได้วิ่งป่าราบกันขึ้นเครื่องแน่ค่ะ เพราะกว่าจะมาถึงสนามบิน ก็ห้าโมงครึ่งแล้ว อันนี้ก็ต้องขอขอบคุณนะคะ)
หลังจบทริป
เดินทางถึงเมืองไทย ปกติหัวหน้าทัวร์ก็น่าจะมีการร่ำลาบ้าง แต่นี่คุณลูกอมเธอไปเลยค่ะ หน้าตายังไม่มองกันเลยค่ะ 5555
(อันนี้น้องเราพูดนะ เพราะตอนที่คณะเราเดินออกจากรับกระเป๋า น้องก็เห็นเค้าเพราะเราเดินผ่านเค้ากัน แต่เค้าไม่มีมาพูดอะไรสักคำเลยค่ะ ส่วนตัวเราเองไม่ได้สังเกตค่ะ เพราะไม่ได้สนใจ)
สงสัยเค้าก็คงสาปส่งคณะเราเหมือนกันค่ะ ^^;;
และแล้วเรื่องราวทัวร์เกาหลีมหากาพย์ของเราก็จบลงด้วยดี...
ทุกคนได้กลับบ้านด้วยความสวัสดิภาพ แต่ไม่พร้อมความประทับใจใดๆ...
ขอบคุณที่ติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้กันนะคะ...
ส่วนเรื่องจะเป็นอย่างไร คำตอบจากทั้งสอง บ. ที่พาเราไปจะมาชี้แจ้งว่าอย่างไร หากมีมา เราก็มาอัพเดทให้ทราบนะคะ
เรื่องที่กลัวว่าเราจะมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม เพื่อเอาผลประโยชน์จากเวปนี้ เราคงห้ามความคิดใครไม่ได้ค่ะ
ใครใคร่จะคิดอย่างไร ทำอย่างไร ก็เอาที่สบายใจได้เลยค่ะ...
เราไม่ต้องการให้ใครมาช่วยซ้ำเติมทัวร์หรืออะไร ส่วนตัวเราเองแล้ว เราแค่อยากได้คำตอบความจริง ความโปร่งใสอะไรบ้าง หรืออย่างน้อยก็คำขอโทษของผู้มีส่วนรับผิดชอบ เพราะตลอดการเดินทางมา เราแทบจะไม่ได้ยินอะไรในทำนองนั้นเลย มีแต่คุณไกด์ลูซี่ที่มาใหม่เท่านั้นที่พูดจาขอโทษขอโพยหากมีความผิดพลาดตามสคริปเวลาจบทัวร์ แต่นอกนั้นเราก็ยังไม่เห็นความจริงใจอะไรอย่างอื่นเลยจากทัวร์นี้ค่ะ...
ส่วนทางทัวร์นั้นจะรับผิดชอบอะไรอย่างไร เราไม่ทราบและเราไม่ได้เรียกร้องค่ะ
แต่หากมีมา เราก็ยินดีชี้แจ้งว่าอะไรอย่างไรเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน
ส่วนจะรับหรือไม่ ลบหรือไม่ ฟ้องหรือไม่ เราขอเรียนตามตรงว่าตอนนี้ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การตัดสินใจของเราคนเดียว แต่เป็นของลูกทัวร์อีก 30 กว่าคนด้วยค่ะ หวังว่าคงเข้าใจกันนะคะ...
ในส่วนของตัวเราคนเดียวแล้ว เฉพาะในส่วนของตัวเรา หากทางทัวร์ชดเชยอะไรมาเรายินดีนำไปบริจาคทำบุญทั้งหมดไม่เอาอะไรค่ะ..
เผื่อเกิดชาติหน้าฉันใด ผลบุญจะได้ส่งผลให้เราไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกค่ะ... (-/\-)
ที่เรามาโพสต์เพราะเราไม่ชอบเรื่องแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมกับเราและครอบครัวเลย มันแย่มากแล้วเราก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบที่เราโดนอีก
ที่จริงครอบครัวเราก็เป็นคนง่ายๆ ถึงจะรู้สึกแย่แค่ไหนแต่ก็ไม่มีใครคิดอยากออกมาทำอะไร เพราะมันเหนื่อยและยุ่งยาก ทุกคนกลับมาแล้วก็บอกช่างมันเถอะ ลืมๆมันไปซะ แค่เรามาโพสต์เรายังแทบจะทะเลาะกับแฟน เพราะเค้ากลัวว่าเด๋วจะมีเรื่องกัน พอทัวร์ขู่จะฟ้อง ญาติๆเราบางคนก็กลัวค่ะ..
เราคิดว่ามีคนอีกมากในประเทศไทยที่โดนอะไรแบบนี้ แต่ขี้เกียจและรู้สึกยุ่งยากที่จะออกมาทำอะไรสักอย่าง...
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องราวของเรา จะเป็นประโยชน์ให้ใครสักคนบ้างก็ยังดี
หรือเผื่อผู้ประกอบการทัวร์ไหนได้ผ่านมาเห็นก็จะได้ดูไว้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่เอาไปทำกับใครแบบนี้อีกค่ะ...
แค่ความเห็นใจ และกำลังใจที่หลายๆท่านสละเวลามาอ่าน กดโหวตให้ พิมพ์คอมเม้นให้ รวมถึงให้คำแนะนำต่างๆ ก็ทำให้เราดีใจมากแล้วค่ะ
ด้วยความเคารพค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ...
'Be the change that you wish to see in the world.'
— Mahatma Gandhi
จากนั้นก็ไม่มีอะไร พาไปร้าน super market ละลายเงินวอน ซึ่งเป็นร้านฟันลูกทัวร์หัวแบะเช่นเคย
ขนมและของแพงมาก น้องเราบอก ดูราคาขนมบางอย่าง แพงกว่าข้างนอกตามร้านสะดวกซื้อเกือบเท่านึงค่ะ -_-''
เราไม่ได้ซื้ออะไรนอกจากสาหร่ายหนึ่งห่อไปฝากแม่.. ส่วนคนอื่นๆบางคนก็ซื้อหลายแสนวอน เพราะไม่มีเวลาไปซื้อของฝากเลยสักวัน โอกาสสุดท้ายแล้วอย่างไรก็ต้องซื้อที่นี่ (ไม่นับว่าร้านอื่นๆ ญาติๆเราก็ซื้อโสมซื้อสมุนไพรโน่นนี้ หมดกันไปเป็นล้านวอนค่ะ)
พอใกล้ถึงร้านซูเปอร์ หัวหน้าทัวร์ลูกอมเธอก็มาเก็บ passport ของลูกทัวร์ทุกคนไปโดยบอกจะเอาไปเชคอิน (เป็นตัวประกัน? อุ๊ปส์)
ประมาณ 4 โมงเย็นก็ถึงร้าน เราถามหัวหน้าทัวร์ลูกอมว่าอยู่ได้ถึงกี่โมงคะ? เธอบอกว่า ได้ถึง 5โมงครึ่งเลยค่าาาา เด๋วจะเอา passport ไปเชคอินให้ก่อนค่ะ (ฮะ?? คือให้เวลาซื้อของในซูเปอร์ชั่วโมงครึ่ง?) คือได้ข่าวว่า flight 19:35 (แต่ delay หรือเลื่อนเป็น 19:55 ค่ะ)
แต่ลูกทัวร์ต้องเผื่อเวลาไปแพคของ โหลดกระเป๋า ทำ tax refund ผ่าน ตม. ไหนจะต้องไปตามซื้อของใน duty free สนามบินต่ออีกเพราะบางอย่างก็ยังหาซื้อไม่ได้ รวมทั้งซื้อข้าวเย็นกินอีก (หัวหน้าทัวร์แจ้งว่า jin air ไม่มี เสิร์ฟอาหารเย็น มีเป็น snack box ซึ่งเราคงต้องหาข้าวเย็นกินเองเพราะไม่รวมในโปรแกรมทัวร์ รวมทั้งกว่าจะถึง กทม.ก็ปาไป เที่ยงคืน >< ถ้าเป็นเวลาเกาหลี ก็ตีสอง คงหิวมาก)
เราเลยรีบบอกว่าไม่เอาค่ะพี่ ขอไปเร็วกว่านั้น แล้วรีบไปบอกญาติๆให้รีบๆซื้อ เด๋วจะได้มีเวลาในสนามบินเยอะหน่อย ต้องไปหาข้าวเย็นทานด้วยอีก สรุปก็ได้ออกกันเกือบๆ 5 โมง เดินทางอีกครึ่งชั่วโมง ก็ถึงสนามบินค่ะ
ก่อนออกจากซูเปอร์เธอก็มาทวงเก็บค่าทิปไปค่ะ
ตอนแรกญาติๆเราก็มีดราม่ากันอีก ว่าโห บริการห่วยแตก ทัวร์พังเละเทะขนาดนี้ ยังกล้ามาทวงเก็บค่าทิปคนละ 1000 บาทอีกเหรอ (30 กว่าคน 3หมื่นกว่าบาทค่ะ) งงค่ะ ญาติเราบางคนก็โวยวายจะไม่ยอมจ่ายค่ะ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันแย่มาก แล้วมาบังคับเก็บได้ยังไง...
ญาติเราบางคนเที่ยวทัวร์บ่อย (แบบทัวร์ดีๆหน่อย) เค้าก็บอกว่า ทิปมันเป็นสิ่งที่อยู่ที่ลูกทัวร์พอใจจะให้เท่าไหร่ที่เหมาะสมกับบริการไม่ใช่เหรอ มาบังคับเก็บเท่านั้นเท่านี้ได้อย่างไร ถ้าจะคิดเป็น fix ทำไมไม่เก็บรวมกับค่าทัวร์ไปเลยตั้งแต่แรก ทำไมต้องเรียกว่าทิป...
เออ เราก็สงสัยเหมือนกันค่ะ แต่เราก็เห็นหลายๆเจ้าเขาขายทัวร์กันแบบนี้ มันก็เขียนอยู่ในโปรแกรมแบบนี้อยู่แล้ว จริงๆเราก็รับได้นะ ถ้าบริการดี.. ตอนนั้นเราไปเกาหลีกับทัวร์ถูกๆ เค้าเก็บแค่ 600 บาทค่ะ เค้าบอกว่าเป็นของ คนขับ+ไกด์เกาหลี+หัวหน้าทัวร์ไทย ไปแบ่งๆกันเอง เราก็รับได้ จ่ายให้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง แถมตอนกลับถึงไทยเราก็ยังทิปเฉพาะหัวหน้าทัวร์ไทยเพิ่มไปอีก 1000 นึงเพราะเค้าดูแลเรากับแม่ดี เราว่าของแบบนี้มันน่าจะอยู่ที่ความพอใจนะ
แต่สุดท้ายก็ยอมจ่ายๆไปเหอะเพราะ passport อยู่ที่เค้าหมดค่ะ ถ้าไม่จ่ายก็กลัวเด๋วเค้าไม่คืนให้ อยากกลับบ้านเต็มแก่แล้วด้วย ยังงัยก็ได้ขอกลับบ้านแล้วเหอะนาทีนี้ T_T ซึ่งพอตกลงกัน คุณลูกอมหัวหน้าทัวร์ก็ยอมลดให้นิดหน่อย โดยไม่เก็บของเด็กเล็ก 4 คนค่ะ ส่วนผู้ใหญ่กับเด็กโตเก็บคนละ 1000 บาท (แม่แฟนเราเป็นคนถือเงิน ก็จ่ายไปแบบงงๆเพราะทัวร์บอกว่าคนละพัน แต่พอเรามาเชคให้โปรแกรมดูอีกที โปรแกรมแรกสุดที่เค้าส่งให้เราเดินทาง 9-13 เมษา เก็บค่าทิป 600 บาทค่ะ / แต่พอทัวร์เลื่อนวันก็มีแก้ในโปรแกรมเป็นเก็บคนละ 900 บาท (อันนี้เราไม่ทราบว่าเขาได้แจ้งล่วงหน้ามาหรือเปล่า) / พอวันจริงมาเนียนเก็บคนละ 1000 บาทค่ะ -- คือสรุปแล้ว 100*30 คน ก็ 3000 แระ เกือบเท่าส่วนลดที่ลดให้เด็กแล้วป่ะคะ? ซึ่งตรงนี้เราไม่รอบคอบกันเอง โทษใครไม่ได้ค่ะ นาทีนั้น ทุกคนอยากกลับบ้านมากกกกกกก ไม่มีใครอยากจะอยู่แล้วเกาหลี ก็ยอมจ่ายๆไปจะได้จบๆซะที)
แถมสุดท้ายเรื่องบุฟเฟ่ขาปู ก็ไม่มี (โปรแกรมทัวร์ครั้งแรกที่เราจองไปที่เดินทางวันที่ 9 เมษา มีรวม บุฟเฟ่ห์ ขาปู) แต่ทัวร์ไม่ได้แจ้งเราว่าหากย้ายวันแล้ว จะตัดบุฟเฟ่ขาปูออก แจ้งแค่ว่าโปรแกรมเหมือนๆเดิม แต่เพิ่มแถม ซอรัคซานให้ (แอบตัดออกไปจากโปรแกรมที่พิมพ์มาให้) อี้เราทวงถาม เพราะยังเข้าใจอยู่ว่าจะได้กิน แต่จนมาถึงวันสุดท้ายแล้ว ก็ยังงงอยู่ว่า แล้วขาปูอยู่ไหน? เลยถามไกด์ นางก็โทรไปเคลียร์ถามให้อีก แต่ก็ได้คำตอบว่า group นี้ไม่มีรวมขาปูนะค๊าาา... แต่อันนี้เค้าอาจแก้ในโปรแกรมแล้ว พวกเราคงผิดเองไม่ได้อ่านในละเอียดเองเพราะนึกว่าเหมือนเดิมทุกอย่างแค่ได้แถมที่เที่ยว
สรุปทัวร์นี้คือ ตุกติกทุกขั้นตอน อะไรตัดทิ้งได้ก็รีบทำ ช่องทางไหนเอาเปรียบลูกทัวร์ได้ ก็ทำหมด
(วันแรกที่บัสไม่มา ที่จริงจองเอาไว้แค่ครึ่งวันรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่บังเอิญครอบครัวเราไม่มีใครติด ตม.ต้องรอเคลียร์เลยสักคน เลยออกมาได้ไม่สายมาก -_-")
- ไกด์เถื่อนคนแรก ถ้าให้เราเดา ก็คงโดนจับๆมาวางให้เป็นล่ามคุยกับไกด์เกาหลี สวมรอยรับหน้าเป็นไกด์ไปก่อน (เพราะดูไม่มีความรู้อะไรเลย แถมยังตื่นเต้นเวลาไปเที่ยว)
- ไกด์เกาหลี ก็คงเป็น sitting guide (อันนี้บังเอิญขากลับเรานั่งติดกับพี่หัวหน้าทัวร์กรุปอื่นค่ะ เราเล่าให้ฟัง เค้าก็อธิบายว่าแบบนี้เค้าเรียกว่า sitting guide ปกติจะจ้างมาให้มารับที่แอร์พอร์ท พอพ้นก็ลงไป ให้มันไม่ผิดกฎหมาย ส่วนมากจะไม่มีหน้าที่อะไร อาจจะมีคอยซื้อตั๋วให้เพราะเขามีบัตรไกด์ อาจได้ส่วนลดของทัวร์อะไรแบบนั้น แต่คนนี้เขาก็อยู่กับเราตลอดทริปค่ะ แค่ไม่พูดไม่บริการอะไรเลย)
- ไกด์ลูซี่ มาวันที่ 3 ทางทัวร์คงเห็นว่าไม่ไหวแล้ว คงต้องจ้างไกด์ตัวจริงแล้วเพราะทริปเละทุกวัน แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ และยังมีปัญหาเรื่องต้องไปแจ้งความอีก ไกด์คนเกาหลีก็ไม่ยอมไปให้ และหากเรื่องถึงตำรวจเด๋วจะซวยไปกันใหญ่ นางคงไม่รู้ว่าก่อนนางมา ทัวร์นี้มาคุขนาดไหน เพราะสังเกตว่าการพูดจาได้ KY สุดๆ...
(แก้ไขเพิ่มเติมนะคะ : KY เป็นคำย่อที่มักใช้ในเวปบอร์ดของญี่ปุ่นหรือแชทสั้นๆน่ะค่ะ
มาจากทำว่า 空気読めない(Kuuki yomenai) แปลเป็นไทยว่าประมาณว่า อ่านบรรยากาศไม่ออก หรือ ประมาณว่า ไม่รู้กาลเทศะ ค่ะ)
** เช่น วันแรกที่นางมา ยังถามพวกเราอยู่เลย ว่า
เอ.... ปกติทุกคนเค้าไปเที่ยวเกาะนามิกันนะคะ ครอบครัวนี้เคยมากันหลายรอบแล้วใช่ไหมคะ ครั้งนี้เลยไม่ไปกัน? (พวกเรางง เพราะญาติๆไม่เคยมาเกาหลีค่ะ แล้วทัวร์ก็ตัดนามิออกไปเองทำให้เราอดไป)
แล้วยังถามว่า เอ.. ปกติจะมีน้องนักศึกษามาคอยถ่ายรูปและบริการเติมน้ำเติมอาหารให้นะคะ ทำไมไม่มีเหรอคะ (เออ... หนูก็อยากรู้ค่ะ คาดหวังจะได้เจอโอปป้าหล่อๆบ้างอะไรบ้างนะคะ T_T ส่วนหน้าที่นี้ คุณหัวหน้าทัวร์ลูกอมและสามีเป็นคนทำเองค่ะ บางทีก็คิดว่าแปลกดีนะคะ เป็นเจ้าของบริษัทใจคอจะไม่จ้างใครมาช่วยบ้างเลยเหรอคะ?)
เอ... ทริปนี้ทำไมไม่มีใครสั่งสตอเบอรี่เลยค่ะ ปกติทัวร์จะแจ้งก่อนไม่ใช่เหรอคะ ว่าถ้าจะซื้อสตอเบอรี่กลับบ้าน มีให้สั่งบนรถได้นะคะ กรุปนี้ไม่มีสั่งกันเหรอคะ? (เราก็เพิ่งทราบว่ามีตอนคุณลูซี่พูดขึ้นมานี่แหละค่ะ) สรุปแล้วคือเราไปทัวร์จริงๆหรือเปล่าคะเนี่ย ทำไมไม่มีอะไรปกติเลยสักอย่าง --" ไปถึงสนามบิน เราก็เห็นคณะอื่นเค้าถือถุงผ้าทองๆ ใส่สตอเบอรี่ถือขึ้นเครื่องกันหมดเลยค่ะ พอไปถึงสนามบิน พวเราก็ทำได้แค่รีบๆๆ ไปทำ tax refund (แถวยาวมาก) คลำๆกันไปเอง รีบๆเข้าไปต่อคิวรับเงินด้านใน รีบทานข้าวเย็น แล้วก็วิ่งไปขึ้นเครื่อง ไม่มีเวลาชอปหรือดูอะไรใน duty free แล้วค่ะ จบทริปกันไปแบบทุลักทุเล.. (โชคดีที่คุณหัวหน้าทัวร์ลูกอม นั่งรถมาเชคอิน group ให้ก่อน และช่วยจัดที่นั่งให้คณะเรา ไม่อย่างนั้นก็คงมีรายการได้วิ่งป่าราบกันขึ้นเครื่องแน่ค่ะ เพราะกว่าจะมาถึงสนามบิน ก็ห้าโมงครึ่งแล้ว อันนี้ก็ต้องขอขอบคุณนะคะ)
หลังจบทริป
เดินทางถึงเมืองไทย ปกติหัวหน้าทัวร์ก็น่าจะมีการร่ำลาบ้าง แต่นี่คุณลูกอมเธอไปเลยค่ะ หน้าตายังไม่มองกันเลยค่ะ 5555
(อันนี้น้องเราพูดนะ เพราะตอนที่คณะเราเดินออกจากรับกระเป๋า น้องก็เห็นเค้าเพราะเราเดินผ่านเค้ากัน แต่เค้าไม่มีมาพูดอะไรสักคำเลยค่ะ ส่วนตัวเราเองไม่ได้สังเกตค่ะ เพราะไม่ได้สนใจ)
สงสัยเค้าก็คงสาปส่งคณะเราเหมือนกันค่ะ ^^;;
และแล้วเรื่องราวทัวร์เกาหลีมหากาพย์ของเราก็จบลงด้วยดี...
ทุกคนได้กลับบ้านด้วยความสวัสดิภาพ แต่ไม่พร้อมความประทับใจใดๆ...
ขอบคุณที่ติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้กันนะคะ...
ส่วนเรื่องจะเป็นอย่างไร คำตอบจากทั้งสอง บ. ที่พาเราไปจะมาชี้แจ้งว่าอย่างไร หากมีมา เราก็มาอัพเดทให้ทราบนะคะ
เรื่องที่กลัวว่าเราจะมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม เพื่อเอาผลประโยชน์จากเวปนี้ เราคงห้ามความคิดใครไม่ได้ค่ะ
ใครใคร่จะคิดอย่างไร ทำอย่างไร ก็เอาที่สบายใจได้เลยค่ะ...
เราไม่ต้องการให้ใครมาช่วยซ้ำเติมทัวร์หรืออะไร ส่วนตัวเราเองแล้ว เราแค่อยากได้คำตอบความจริง ความโปร่งใสอะไรบ้าง หรืออย่างน้อยก็คำขอโทษของผู้มีส่วนรับผิดชอบ เพราะตลอดการเดินทางมา เราแทบจะไม่ได้ยินอะไรในทำนองนั้นเลย มีแต่คุณไกด์ลูซี่ที่มาใหม่เท่านั้นที่พูดจาขอโทษขอโพยหากมีความผิดพลาดตามสคริปเวลาจบทัวร์ แต่นอกนั้นเราก็ยังไม่เห็นความจริงใจอะไรอย่างอื่นเลยจากทัวร์นี้ค่ะ...
ส่วนทางทัวร์นั้นจะรับผิดชอบอะไรอย่างไร เราไม่ทราบและเราไม่ได้เรียกร้องค่ะ
แต่หากมีมา เราก็ยินดีชี้แจ้งว่าอะไรอย่างไรเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน
ส่วนจะรับหรือไม่ ลบหรือไม่ ฟ้องหรือไม่ เราขอเรียนตามตรงว่าตอนนี้ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การตัดสินใจของเราคนเดียว แต่เป็นของลูกทัวร์อีก 30 กว่าคนด้วยค่ะ หวังว่าคงเข้าใจกันนะคะ...
ในส่วนของตัวเราคนเดียวแล้ว เฉพาะในส่วนของตัวเรา หากทางทัวร์ชดเชยอะไรมาเรายินดีนำไปบริจาคทำบุญทั้งหมดไม่เอาอะไรค่ะ..
เผื่อเกิดชาติหน้าฉันใด ผลบุญจะได้ส่งผลให้เราไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกค่ะ... (-/\-)
ที่เรามาโพสต์เพราะเราไม่ชอบเรื่องแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมกับเราและครอบครัวเลย มันแย่มากแล้วเราก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบที่เราโดนอีก
ที่จริงครอบครัวเราก็เป็นคนง่ายๆ ถึงจะรู้สึกแย่แค่ไหนแต่ก็ไม่มีใครคิดอยากออกมาทำอะไร เพราะมันเหนื่อยและยุ่งยาก ทุกคนกลับมาแล้วก็บอกช่างมันเถอะ ลืมๆมันไปซะ แค่เรามาโพสต์เรายังแทบจะทะเลาะกับแฟน เพราะเค้ากลัวว่าเด๋วจะมีเรื่องกัน พอทัวร์ขู่จะฟ้อง ญาติๆเราบางคนก็กลัวค่ะ..
เราคิดว่ามีคนอีกมากในประเทศไทยที่โดนอะไรแบบนี้ แต่ขี้เกียจและรู้สึกยุ่งยากที่จะออกมาทำอะไรสักอย่าง...
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องราวของเรา จะเป็นประโยชน์ให้ใครสักคนบ้างก็ยังดี
หรือเผื่อผู้ประกอบการทัวร์ไหนได้ผ่านมาเห็นก็จะได้ดูไว้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่เอาไปทำกับใครแบบนี้อีกค่ะ...
แค่ความเห็นใจ และกำลังใจที่หลายๆท่านสละเวลามาอ่าน กดโหวตให้ พิมพ์คอมเม้นให้ รวมถึงให้คำแนะนำต่างๆ ก็ทำให้เราดีใจมากแล้วค่ะ
ด้วยความเคารพค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ...
'Be the change that you wish to see in the world.'
— Mahatma Gandhi
สมาชิกหมายเลข 854522 ถูกใจ, kaidaow ถูกใจ, ผู้ชมทางบ้าน(ตัวจริง) ถูกใจ, Patty Hewes ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2745278 ถูกใจ, Artiste สยอง, mamano ถูกใจ, คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ ถูกใจ, คนทางเกวียน สยอง
ความคิดเห็นที่ 5
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อัพเดทใหม่นะคะ
เช้านี้
ทาง บ. คุณหัวหน้าทัวลูกอม ได้โทรเข้ามาหาอี้เรา โดยจะให้เราลบกระทู้ออก
และ ขอให้เราลบพวกใบเสร็จต่างๆและเอกสารตารางการนำเที่ยวที่แจกให้เราออก ขู่ด้วยว่าการลงเอกสารแบบนี้เราจะโดนฟ้องค่ะ
บอกว่า ตัวเค้าเองจองตั๋วกับทาง 168 ไว้สำหรับทำกรุปลูกทัวร์อีก 160 กว่าคน
บอกว่า กลัวทาง 168 จะโกรธไม่ยอมออกตั๋วให้เค้าค่ะ และเค้ายังมีมัดจำอีกเป็นแสนบาท กลัวจะไม่ได้เงินคืน เพราะกระทู้นี้
จะทำให้ส่งกระทบลูกทัวร์คนอื่นๆของเค้าอีก 160 กว่าคน ที่เค้าไปจองตั๋วไว้กับ 168...
คือขอโทษนะคะ มันใช่ปัญหาเราไหมคะ?
ถ้าทาง 168 เบี้ยวเงินคุณ หรือไม่ออกตั๋วให้ คุณต้องไปฟ้อง 168 ป่าวคะ ไม่ใช่ฟ้องเราค่ะ
คือเราขอสอบถามผู้รู้ได้ไหมคะ ถ้าทั้งๆที่เราทำการเบลอชื่อ บ.ออก ใช้นามสมมุติ ไม่ลง link ใดๆที่พาดพิงไปโดยตรง
เราแค่เล่าเรื่องประสบการณ์ทัวร์ที่เราโดนมา ใบเสร็จรับเงินที่เราจ่าย มันผิดกฎหมายมากเลยเหรอคะ?
จริงๆตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะฟ้อง สคบ. หรือลงชื่อ บ.เค้าตรงๆเพราะคิดว่าเค้าก็คงยังต้องทำมาหากินต่อไป
แค่อยากได้คำตอบความจริงของคำถาม (ที่ไม่เคยมีคนตอบ)
และ อยากให้คนอื่นๆ รู้ประสบการณ์ของเรา จะได้ระวังในการซื้อทัวร์ครั้งต่อๆไป
ต้องถึงขนาดมาขู่ฟ้องกันเลยเหรอคะ?
อันนี้ที่เค้าส่งมาให้อี้เรา แล้วอี้มาโพสต์ต่อให้เราอ่านค่ะ
ส่วนเราตอบไปแบบนี้ค่ะ
ปล. เค้าไม่ได้ติดต่อเรามาโดยตรงนะคะ ทั้งที่จริงๆ เบอร์เรา กับไลน์เราเค้าก็มีหมด
เพราะเราคุยกับเค้าเรื่องโปรแกรมก่อนเดินทาง พออี้เราถาม เค้าก็บอกว่า เรา block line เค้าค่ะ ซึ่งความจริงเราไม่เคย block เลยค่ะ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ต่อวันที่ 3 ค่ะ....
จบเรื่อง passport ไป ทุกคนแฮปปี้เลิกกังวล (เพราะไม่รู้ถ้า สถานทูตไม่เปิด จะทำทันไหม วันจันทร์จะกลับแล้ว ตอนแรกก็เครียดกันมากๆเพราะไม่เหลืออะไรเลย บัตรประชาชน ก็ไปกับกระเป๋าสตางค์ด้วย จำไว้นะคะ พวกหน้า passport / บัตรประชาชน ควร xerox copy เก็บไว้ แล้วก็ scan เก็บไว้ใน email หรือที่ปลอดภัยอื่นๆด้วย หากมีเหตุฉุกเฉิน จะได้เก็บไว้ยืนยันตัวตนได้ค่ะ **เวลาเดินทาง เราเก็บ copy passport ไว้ในกระเป๋าเดินทางทุกใบ มีถ่ายเก็บไว้ในโทรศัพท์ และส่งเข้าเมลล์ตัวเองไว้ด้วยค่ะ เผื่อฉุกเฉินถ้ามี internet ก็ยังหาได้)
ลุงเราก็อุตส่าห์ใจดี ยังทิปทั้งเจ๊ไกด์ และไกด์ลูซี่ และยามเฝ้าตึกไปอีกหลายพันบาทค่ะ (ยามให้เงินวอน) อารมณ์ว่าดีใจได้ของคืน
หัวหน้าทัวร์ที่ตอนแรกบอกว่าคงไม่ได้คืนแล้วแหละ คงหายไปแล้ว ไม่ต้องไปดูกล้องวงจรปิดอะไร ก็หน้าแห้งกันไป เพราะในที่สุดลุงเราก็ได้ของคืนครบทุกรายการค่ะ
ที่ฮาคือ อี้เราด่าเจ๊ไกด์ว่า "แกนี่มันไม่ได้เรื่องเลยยย..." (เมื่อคืนไม่ยอมตามเรื่อง ไม่ยอมไปแจ้งความอะไรเลย จนไกด์ใหม่มาทำให้)
**ไม่ใช่แก แบบแรงๆนะคะ คืออี้เราพูดแกเป็นปกติเลยค่ะ ปกติก็พูดกับลูกหลานก็เรียกแบบพวกแกๆๆตลอด พูดกับไกด์ก็เรียกแบบนี้แต่แรกค่ะ
เจ๊ไกด์แกพูดกลับมาว่า "พี่.. คนไทยด้วยกันอย่ามาล้มทับกัน เมื่อคืนหนูสวดมนต์ให้พี่แล้ว"
(ประมาณว่าชั้นช่วยสวดมนต์ให้ได้ของคืนแล้วนะจ๊ะ พวกเธอถึงได้ของคืนเนี่ย)
5555555 ขรรรมแรงค่ะ
มุกนี้บ้านเราเล่นกันจนกลับไทยเลยค่ะ และคาดว่าจะพูดถึงกันไปอีกหลายปีค่ะ
หลังจาก shop Duty free เสร็จ ก็ขึ้นรถ ดราม่าอีกเรื่องก็บังเกิดค่ะ
ลูกทัวร์มาครบแล้ว แต่รถก็ไม่ยอมออกสักที พวกเราก็เริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหมู่คณะผู้ดูแลเราโวยวายกันอยู่ข้างหน้า
สรุปเรื่องคือ ไกด์คนเกาหลี นางไล่ เจ๊ไกด์ของเราลงจากรถบัสค่ะ
บอกว่ายังงัยๆก็ต้องให้ชีไป ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ (o_O ห๊ะ คือสรุปแล้ว เจ๊ไกด์เราไม่มีใบอนุญาตค่ะ เผลอๆอาจจะไม่ได้เป็นไกด์เลยด้วยซ้ำ)
โอ... นี่ตกลงเรามาเที่ยวกับทัวร์เถื่อนผิดกฎหมายเหรอคะเนี่ย...?
ขนาดวันนี้โปรแกรมไม่มีอะไรซับซ้อน ยังมีดราม่าได้ไม่เว้นแต่ละวันค่ะ
คือทะเลาะกันอยู่นั่นค่ะ เสียเวลาเถียงกันบนรถไปอีก
จนมีใครสักคนพูดขึ้นมาว่า งั้นก็ไปๆก่อนได้ไหม หิวแล้ว พาไปกินข้าวเที่ยงก่อนได้ไหม แล้วจะอะไรยังงัยพวกคุณก็ค่อยไปตกลงกันเอาเอง
สุดท้ายหลังทานข้าวเสร็จ เจ๊ไกด์ ก็ยอมจากไปโดยดีค่ะ...
(ท่ามกลางความโล่งอกของลูกทัวร์คณะเราค่ะ ใจก็ตุ้มๆต่อมๆ ถ้าตำรวจมาจับจริงๆ ลูกทัวร์จะโดนจับส่งกลับด้วยไหม -_-" )
ช่วงบ่าย ก็ไปวัง ชางด๊อกค่ะ ก็ได้เที่ยวปกติดี มีเวลาให้ประมาณ 50 นาทีค่ะ
วังช่วงนี้สวยดีค่ะ มีดอกไม้บาน มีซากุระนิดๆ แต่ส่วนใหญ่ที่บานคือดอก Azalea ค่ะ วังนี้เราเคยมาครั้งนึงแล้ว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยค่ะ
สมาชิกส่วนหนึ่ง รุ่นลูกหลาน ถ้าทัวร์สนุก เราก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกัน ว่าทริปนี้จะดีแค่ไหน..
มันหาโอกาสมาเที่ยวไกลๆด้วยกันแบบนี้ยากจริงๆค่ะ ><;;
สมาชิกรุ่นใหญ่ ^^
เที่ยวเสร็จจากวังชางด๊อก ก็ประมาณ 15:30 ค่ะ วันนี้สรุปก็ไป Seoul Tower ไม่ทันแล้ว ก็เลยเหลือเป็นแค่มยองดง กับทงแดมุน (เหมือนตอนที่เราขอทัวร์ปรับโปรแกรมเมื่อตอนเช้า --" ทีตอนเช้าขอเป็นแบบนี้แต่แรก คุณลูกอมก็บอกไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ พอสุดท้ายไม่ทันก็แบบนี้อยู่ดี)
จากนั้น ก็ไปชอปปิ้งมยองดงค่ะ โอเคปกติดี
ดราม่าเล็กอีกเรื่องคือ น้องสาวอีกคน จะหาร้านเครื่องสำอางร้านหนึ่ง เลยขอให้ไกด์ หรือหัวหน้าทัวร์พาไป (จำไม่ได้ค่ะ น้องมาเล่าให้ฟังทีหลัง) เค้าก็พาน้องไปเดินหา แถมรู้สึกหาไม่เจอด้วย แถมทิ้งน้องไว้กลางทางคนเดียวกลางเมียงดง บอกประมาณพี่มีธุระ ต้องไปซื้อของไปก่อนนะแล้วก็หายไปเลย น้องต้องเดินอยู่คนเดียวไปๆมาๆจนหาญาติเจอแล้วก็เกาะกลุ่มไปด้วยเอง --" กลับมาน้องบ่นใหญ่เลยว่าโดนทิ้งกลางทาง.. เวลาให้ซื้อของมีน้อยมากค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมง ซื้อไรแทบไม่ทันเลยค่ะ เราได้แต่หยิบๆๆๆอย่างเดียว @_@
มยองดง เจอร้านรถเข็น หอยเชล ย่างชีส อร่อยมากค่ะ เป็นความดีงามอย่างนึงของทริปนี้เลยค่ะ ใครมีโอกาสไปอย่าพลาดชิมนะคะ
ถึงราคาจะแพงไปหน่อย (ตัวละ 8000won) แต่เราว่าคุ้มค่ะ หอยตัวใหญ่มาก
เสร็จจาก มยองดง ก็ไปทงแดมุนค่ะ
พอไปถึง ก็ประมาณ 18:30 น.แล้ว ไกด์นัดเวลากลับ 21:30 ค่ะ
แต่ก่อนนั้นก็คือไปทานข้าวเย็นก่อน เป็นไก่ตุ๋นโสม
ซึ่งเราเคยมาทัวร์แล้ว เมนูนี้ เราทานไม่ได้เลยค่ะ แล้วแฟนเราก็บ่นๆพอดีว่าปวดท้องๆไม่ค่อยดีไม่อยากกินอะไร ก็เลยยืนเถียงๆกันตอนจะขึ้นลิฟท์ไปร้านอาหาร (ตึกข้างๆ Doota ในทงแดมุนแหละค่ะ) ว่าเอางัยดีไม่กินไม๊ ก็เลยบอกน้องสาวแล้วก็แยกตัวไปเดินเลยดีกว่า แฟนเราก็ตะโกนบอกน้องว่าฝากบอกบ้านพี่ด้วย แต่น้องอาจจะไม่ได้ยินเพราะคนเยอะ วุ่นวายมาก (บ้านเราขึ้นลิฟท์ไปแล้ว) เราก็เลยออกไปเดินๆเองเผื่อหาอย่างอื่นใกล้ๆกินแทน อีกอย่างคือเราอยากไปเดินดูตึก Dongdaemun design plaza เห็นว่าเค้ามีจัดกุหลาบ LED แต่โปรแกรมหมดไปแล้วเมื่อเดือนกุมพา แต่ถ้ามีเวลาก็อยากลองเสี่ยงเดินไปดู เผื่อยังมีอยู่ ปรากฎว่า ยังมีอยู่นะคะ ยังไม่ได้ยกเลิกไปจ้า เห็นเค้าว่าเลื่อนเป็นแสดงถึงช่วงเดือน พ.ค. ค่ะ ใครไปช่วงนี้ ก็ยังไปดูได้นะคะ เราก็กินข้าวใน food court ที่ห้างแถวๆใต้สถานีทงแดมุนค่ะ อร่อยและมีคุณภาพกว่าอาหารทัวร์เยอะค่ะ อาหารก็ไม่ได้แพงนะคะ เรากินชุดหมูทอด 8000 วอนเอง แต่ portion ใหญ่มาก ทานได้สองคนเลย ><
ของใน ทงแดมุน เราว่าไม่ค่อยมีอะไรนะ ตึกที่ของถูก ก็อารมณ์ประมาณ platinum บ้านเรา เสื้อผ้าก็เฉยๆ ไม่ได้ถูกมาก ต่อราคาได้บ้าง มีตั้งแต่ ราคาประมาณ 300 บาท ไปจนเป็นพัน แต่คุณภาพดูไม่ค่อยโอเคกับราคาค่ะ
ส่วนตึก Doota จะของแพงกว่า มีพวกแบรนด์เกาหลี / นำเข้า สวยๆด้วย มีร้านเครื่องสำอางพอกรุบกริบ หากไปมยองดงยังเก็บไม่หมด ก็มาต่อที่นี่ได้ อยู่ชั้นบนๆค่ะ
ที่แปลกใจคือ รถบัสไปจอดรับตรงตึก Dongdaemun Design Plaza แต่ไกด์ไม่มีบอกลูกทัวร์สักคำว่าข้างในมีดอกไม้ LED สวยๆ ไปถ่ายรูปได้ อย่างน้อยก็ได้ประทับใจ งงกันไป เราแยกตัวไปเดินเองก่อนก็เลยเจอได้ถ่ายรูปพอกรุบกริบ
ทัวร์นัด 21:30 ค่ะ กลับถึงโรงแรมก็สี่ทุ่มกว่าๆ...
ถึงเวลา กลับโรงแรมนอน
เข้านอนด้วยความดีใจ พรุ่งนี้เราจะได้กลับบ้านแร้ววววววววว........
อ่อ ระหว่างทางกลับ น้องสาวคนนึงทวงถามมาว่า ตกลงเราไม่ได้ใส่ชุดฮันบกถ่ายรูปแล้วเหรอคะ?
ทางทัวร์ก็เลยบอกว่า ไปไม่ทันเลยตัดออกนะคะ แต่ถ้าอยากไป พรุ่งนี้พอจะพาไปได้ แต่ต้องออกเช้าหน่อย 7 โมงกว่า (รีบเลย เพราะที่จริงที่ใส่ชุดฮันบกก็เป็นร้านรัฐบาลอีกร้าน ไปแล้วทัวร์คงได้ค่าคอม) แต่คุยๆกันแล้ว สรุปทุกคนไม่เอา ตื่นไม่ไหว เพราะต้องแพคกระเป๋าเตรียมกลับด้วย กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็สี่ห้าทุ่มแล้ว...
พรุ่งนี้ทัวร์นัด 6-7-8 เหมือนเดิมค่ะ....
- - - - - - - - - -
day 4
- - - - - - - - - -
เด๋วมาต่อนะคะ ไม่รู้กระทู้จะโดนปลิวไปก่อนไหม T_T
รีบสุดๆแล้วจริงๆค่ะ
อัพเดทใหม่นะคะ
เช้านี้
ทาง บ. คุณหัวหน้าทัวลูกอม ได้โทรเข้ามาหาอี้เรา โดยจะให้เราลบกระทู้ออก
และ ขอให้เราลบพวกใบเสร็จต่างๆและเอกสารตารางการนำเที่ยวที่แจกให้เราออก ขู่ด้วยว่าการลงเอกสารแบบนี้เราจะโดนฟ้องค่ะ
บอกว่า ตัวเค้าเองจองตั๋วกับทาง 168 ไว้สำหรับทำกรุปลูกทัวร์อีก 160 กว่าคน
บอกว่า กลัวทาง 168 จะโกรธไม่ยอมออกตั๋วให้เค้าค่ะ และเค้ายังมีมัดจำอีกเป็นแสนบาท กลัวจะไม่ได้เงินคืน เพราะกระทู้นี้
จะทำให้ส่งกระทบลูกทัวร์คนอื่นๆของเค้าอีก 160 กว่าคน ที่เค้าไปจองตั๋วไว้กับ 168...
คือขอโทษนะคะ มันใช่ปัญหาเราไหมคะ?
ถ้าทาง 168 เบี้ยวเงินคุณ หรือไม่ออกตั๋วให้ คุณต้องไปฟ้อง 168 ป่าวคะ ไม่ใช่ฟ้องเราค่ะ
คือเราขอสอบถามผู้รู้ได้ไหมคะ ถ้าทั้งๆที่เราทำการเบลอชื่อ บ.ออก ใช้นามสมมุติ ไม่ลง link ใดๆที่พาดพิงไปโดยตรง
เราแค่เล่าเรื่องประสบการณ์ทัวร์ที่เราโดนมา ใบเสร็จรับเงินที่เราจ่าย มันผิดกฎหมายมากเลยเหรอคะ?
จริงๆตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะฟ้อง สคบ. หรือลงชื่อ บ.เค้าตรงๆเพราะคิดว่าเค้าก็คงยังต้องทำมาหากินต่อไป
แค่อยากได้คำตอบความจริงของคำถาม (ที่ไม่เคยมีคนตอบ)
และ อยากให้คนอื่นๆ รู้ประสบการณ์ของเรา จะได้ระวังในการซื้อทัวร์ครั้งต่อๆไป
ต้องถึงขนาดมาขู่ฟ้องกันเลยเหรอคะ?
อันนี้ที่เค้าส่งมาให้อี้เรา แล้วอี้มาโพสต์ต่อให้เราอ่านค่ะ
ส่วนเราตอบไปแบบนี้ค่ะ
ปล. เค้าไม่ได้ติดต่อเรามาโดยตรงนะคะ ทั้งที่จริงๆ เบอร์เรา กับไลน์เราเค้าก็มีหมด
เพราะเราคุยกับเค้าเรื่องโปรแกรมก่อนเดินทาง พออี้เราถาม เค้าก็บอกว่า เรา block line เค้าค่ะ ซึ่งความจริงเราไม่เคย block เลยค่ะ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ต่อวันที่ 3 ค่ะ....
จบเรื่อง passport ไป ทุกคนแฮปปี้เลิกกังวล (เพราะไม่รู้ถ้า สถานทูตไม่เปิด จะทำทันไหม วันจันทร์จะกลับแล้ว ตอนแรกก็เครียดกันมากๆเพราะไม่เหลืออะไรเลย บัตรประชาชน ก็ไปกับกระเป๋าสตางค์ด้วย จำไว้นะคะ พวกหน้า passport / บัตรประชาชน ควร xerox copy เก็บไว้ แล้วก็ scan เก็บไว้ใน email หรือที่ปลอดภัยอื่นๆด้วย หากมีเหตุฉุกเฉิน จะได้เก็บไว้ยืนยันตัวตนได้ค่ะ **เวลาเดินทาง เราเก็บ copy passport ไว้ในกระเป๋าเดินทางทุกใบ มีถ่ายเก็บไว้ในโทรศัพท์ และส่งเข้าเมลล์ตัวเองไว้ด้วยค่ะ เผื่อฉุกเฉินถ้ามี internet ก็ยังหาได้)
ลุงเราก็อุตส่าห์ใจดี ยังทิปทั้งเจ๊ไกด์ และไกด์ลูซี่ และยามเฝ้าตึกไปอีกหลายพันบาทค่ะ (ยามให้เงินวอน) อารมณ์ว่าดีใจได้ของคืน
หัวหน้าทัวร์ที่ตอนแรกบอกว่าคงไม่ได้คืนแล้วแหละ คงหายไปแล้ว ไม่ต้องไปดูกล้องวงจรปิดอะไร ก็หน้าแห้งกันไป เพราะในที่สุดลุงเราก็ได้ของคืนครบทุกรายการค่ะ
ที่ฮาคือ อี้เราด่าเจ๊ไกด์ว่า "แกนี่มันไม่ได้เรื่องเลยยย..." (เมื่อคืนไม่ยอมตามเรื่อง ไม่ยอมไปแจ้งความอะไรเลย จนไกด์ใหม่มาทำให้)
**ไม่ใช่แก แบบแรงๆนะคะ คืออี้เราพูดแกเป็นปกติเลยค่ะ ปกติก็พูดกับลูกหลานก็เรียกแบบพวกแกๆๆตลอด พูดกับไกด์ก็เรียกแบบนี้แต่แรกค่ะ
เจ๊ไกด์แกพูดกลับมาว่า "พี่.. คนไทยด้วยกันอย่ามาล้มทับกัน เมื่อคืนหนูสวดมนต์ให้พี่แล้ว"
(ประมาณว่าชั้นช่วยสวดมนต์ให้ได้ของคืนแล้วนะจ๊ะ พวกเธอถึงได้ของคืนเนี่ย)
5555555 ขรรรมแรงค่ะ
มุกนี้บ้านเราเล่นกันจนกลับไทยเลยค่ะ และคาดว่าจะพูดถึงกันไปอีกหลายปีค่ะ
หลังจาก shop Duty free เสร็จ ก็ขึ้นรถ ดราม่าอีกเรื่องก็บังเกิดค่ะ
ลูกทัวร์มาครบแล้ว แต่รถก็ไม่ยอมออกสักที พวกเราก็เริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหมู่คณะผู้ดูแลเราโวยวายกันอยู่ข้างหน้า
สรุปเรื่องคือ ไกด์คนเกาหลี นางไล่ เจ๊ไกด์ของเราลงจากรถบัสค่ะ
บอกว่ายังงัยๆก็ต้องให้ชีไป ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ (o_O ห๊ะ คือสรุปแล้ว เจ๊ไกด์เราไม่มีใบอนุญาตค่ะ เผลอๆอาจจะไม่ได้เป็นไกด์เลยด้วยซ้ำ)
โอ... นี่ตกลงเรามาเที่ยวกับทัวร์เถื่อนผิดกฎหมายเหรอคะเนี่ย...?
ขนาดวันนี้โปรแกรมไม่มีอะไรซับซ้อน ยังมีดราม่าได้ไม่เว้นแต่ละวันค่ะ
คือทะเลาะกันอยู่นั่นค่ะ เสียเวลาเถียงกันบนรถไปอีก
จนมีใครสักคนพูดขึ้นมาว่า งั้นก็ไปๆก่อนได้ไหม หิวแล้ว พาไปกินข้าวเที่ยงก่อนได้ไหม แล้วจะอะไรยังงัยพวกคุณก็ค่อยไปตกลงกันเอาเอง
สุดท้ายหลังทานข้าวเสร็จ เจ๊ไกด์ ก็ยอมจากไปโดยดีค่ะ...
(ท่ามกลางความโล่งอกของลูกทัวร์คณะเราค่ะ ใจก็ตุ้มๆต่อมๆ ถ้าตำรวจมาจับจริงๆ ลูกทัวร์จะโดนจับส่งกลับด้วยไหม -_-" )
ช่วงบ่าย ก็ไปวัง ชางด๊อกค่ะ ก็ได้เที่ยวปกติดี มีเวลาให้ประมาณ 50 นาทีค่ะ
วังช่วงนี้สวยดีค่ะ มีดอกไม้บาน มีซากุระนิดๆ แต่ส่วนใหญ่ที่บานคือดอก Azalea ค่ะ วังนี้เราเคยมาครั้งนึงแล้ว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยค่ะ
สมาชิกส่วนหนึ่ง รุ่นลูกหลาน ถ้าทัวร์สนุก เราก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกัน ว่าทริปนี้จะดีแค่ไหน..
มันหาโอกาสมาเที่ยวไกลๆด้วยกันแบบนี้ยากจริงๆค่ะ ><;;
สมาชิกรุ่นใหญ่ ^^
เที่ยวเสร็จจากวังชางด๊อก ก็ประมาณ 15:30 ค่ะ วันนี้สรุปก็ไป Seoul Tower ไม่ทันแล้ว ก็เลยเหลือเป็นแค่มยองดง กับทงแดมุน (เหมือนตอนที่เราขอทัวร์ปรับโปรแกรมเมื่อตอนเช้า --" ทีตอนเช้าขอเป็นแบบนี้แต่แรก คุณลูกอมก็บอกไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ พอสุดท้ายไม่ทันก็แบบนี้อยู่ดี)
จากนั้น ก็ไปชอปปิ้งมยองดงค่ะ โอเคปกติดี
ดราม่าเล็กอีกเรื่องคือ น้องสาวอีกคน จะหาร้านเครื่องสำอางร้านหนึ่ง เลยขอให้ไกด์ หรือหัวหน้าทัวร์พาไป (จำไม่ได้ค่ะ น้องมาเล่าให้ฟังทีหลัง) เค้าก็พาน้องไปเดินหา แถมรู้สึกหาไม่เจอด้วย แถมทิ้งน้องไว้กลางทางคนเดียวกลางเมียงดง บอกประมาณพี่มีธุระ ต้องไปซื้อของไปก่อนนะแล้วก็หายไปเลย น้องต้องเดินอยู่คนเดียวไปๆมาๆจนหาญาติเจอแล้วก็เกาะกลุ่มไปด้วยเอง --" กลับมาน้องบ่นใหญ่เลยว่าโดนทิ้งกลางทาง.. เวลาให้ซื้อของมีน้อยมากค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมง ซื้อไรแทบไม่ทันเลยค่ะ เราได้แต่หยิบๆๆๆอย่างเดียว @_@
มยองดง เจอร้านรถเข็น หอยเชล ย่างชีส อร่อยมากค่ะ เป็นความดีงามอย่างนึงของทริปนี้เลยค่ะ ใครมีโอกาสไปอย่าพลาดชิมนะคะ
ถึงราคาจะแพงไปหน่อย (ตัวละ 8000won) แต่เราว่าคุ้มค่ะ หอยตัวใหญ่มาก
เสร็จจาก มยองดง ก็ไปทงแดมุนค่ะ
พอไปถึง ก็ประมาณ 18:30 น.แล้ว ไกด์นัดเวลากลับ 21:30 ค่ะ
แต่ก่อนนั้นก็คือไปทานข้าวเย็นก่อน เป็นไก่ตุ๋นโสม
ซึ่งเราเคยมาทัวร์แล้ว เมนูนี้ เราทานไม่ได้เลยค่ะ แล้วแฟนเราก็บ่นๆพอดีว่าปวดท้องๆไม่ค่อยดีไม่อยากกินอะไร ก็เลยยืนเถียงๆกันตอนจะขึ้นลิฟท์ไปร้านอาหาร (ตึกข้างๆ Doota ในทงแดมุนแหละค่ะ) ว่าเอางัยดีไม่กินไม๊ ก็เลยบอกน้องสาวแล้วก็แยกตัวไปเดินเลยดีกว่า แฟนเราก็ตะโกนบอกน้องว่าฝากบอกบ้านพี่ด้วย แต่น้องอาจจะไม่ได้ยินเพราะคนเยอะ วุ่นวายมาก (บ้านเราขึ้นลิฟท์ไปแล้ว) เราก็เลยออกไปเดินๆเองเผื่อหาอย่างอื่นใกล้ๆกินแทน อีกอย่างคือเราอยากไปเดินดูตึก Dongdaemun design plaza เห็นว่าเค้ามีจัดกุหลาบ LED แต่โปรแกรมหมดไปแล้วเมื่อเดือนกุมพา แต่ถ้ามีเวลาก็อยากลองเสี่ยงเดินไปดู เผื่อยังมีอยู่ ปรากฎว่า ยังมีอยู่นะคะ ยังไม่ได้ยกเลิกไปจ้า เห็นเค้าว่าเลื่อนเป็นแสดงถึงช่วงเดือน พ.ค. ค่ะ ใครไปช่วงนี้ ก็ยังไปดูได้นะคะ เราก็กินข้าวใน food court ที่ห้างแถวๆใต้สถานีทงแดมุนค่ะ อร่อยและมีคุณภาพกว่าอาหารทัวร์เยอะค่ะ อาหารก็ไม่ได้แพงนะคะ เรากินชุดหมูทอด 8000 วอนเอง แต่ portion ใหญ่มาก ทานได้สองคนเลย ><
ของใน ทงแดมุน เราว่าไม่ค่อยมีอะไรนะ ตึกที่ของถูก ก็อารมณ์ประมาณ platinum บ้านเรา เสื้อผ้าก็เฉยๆ ไม่ได้ถูกมาก ต่อราคาได้บ้าง มีตั้งแต่ ราคาประมาณ 300 บาท ไปจนเป็นพัน แต่คุณภาพดูไม่ค่อยโอเคกับราคาค่ะ
ส่วนตึก Doota จะของแพงกว่า มีพวกแบรนด์เกาหลี / นำเข้า สวยๆด้วย มีร้านเครื่องสำอางพอกรุบกริบ หากไปมยองดงยังเก็บไม่หมด ก็มาต่อที่นี่ได้ อยู่ชั้นบนๆค่ะ
ที่แปลกใจคือ รถบัสไปจอดรับตรงตึก Dongdaemun Design Plaza แต่ไกด์ไม่มีบอกลูกทัวร์สักคำว่าข้างในมีดอกไม้ LED สวยๆ ไปถ่ายรูปได้ อย่างน้อยก็ได้ประทับใจ งงกันไป เราแยกตัวไปเดินเองก่อนก็เลยเจอได้ถ่ายรูปพอกรุบกริบ
ทัวร์นัด 21:30 ค่ะ กลับถึงโรงแรมก็สี่ทุ่มกว่าๆ...
ถึงเวลา กลับโรงแรมนอน
เข้านอนด้วยความดีใจ พรุ่งนี้เราจะได้กลับบ้านแร้ววววววววว........
อ่อ ระหว่างทางกลับ น้องสาวคนนึงทวงถามมาว่า ตกลงเราไม่ได้ใส่ชุดฮันบกถ่ายรูปแล้วเหรอคะ?
ทางทัวร์ก็เลยบอกว่า ไปไม่ทันเลยตัดออกนะคะ แต่ถ้าอยากไป พรุ่งนี้พอจะพาไปได้ แต่ต้องออกเช้าหน่อย 7 โมงกว่า (รีบเลย เพราะที่จริงที่ใส่ชุดฮันบกก็เป็นร้านรัฐบาลอีกร้าน ไปแล้วทัวร์คงได้ค่าคอม) แต่คุยๆกันแล้ว สรุปทุกคนไม่เอา ตื่นไม่ไหว เพราะต้องแพคกระเป๋าเตรียมกลับด้วย กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็สี่ห้าทุ่มแล้ว...
พรุ่งนี้ทัวร์นัด 6-7-8 เหมือนเดิมค่ะ....
- - - - - - - - - -
day 4
- - - - - - - - - -
เด๋วมาต่อนะคะ ไม่รู้กระทู้จะโดนปลิวไปก่อนไหม T_T
รีบสุดๆแล้วจริงๆค่ะ
Light Cotton ถูกใจ, ลูกตาลตุ๊ต๊ะ ถูกใจ, i am tabo ถูกใจ, close2heaven ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1230542 ถูกใจ, วันดีๆ สยอง
ความคิดเห็นที่ 48
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อัพเดทใหม่นะคะ
เช้านี้
ทาง บ. คุณหัวหน้าทัวลูกอม ได้โทรเข้ามาหาอี้เรา โดยจะให้เราลบกระทู้ออก
และ ขอให้เราลบพวกใบเสร็จต่างๆและเอกสารตารางการนำเที่ยวที่แจกให้เราออก ขู่ด้วยว่าการลงเอกสารแบบนี้เราจะโดนฟ้องค่ะ
บอกว่า ตัวเค้าเองจองตั๋วกับทาง 168 ไว้สำหรับทำกรุปลูกทัวร์อีก 160 กว่าคน
บอกว่า กลัวทาง 168 จะโกรธไม่ยอมออกตั๋วให้เค้าค่ะ และเค้ายังมีมัดจำอีกเป็นแสนบาท กลัวจะไม่ได้เงินคืน เพราะกระทู้นี้
จะทำให้ส่งกระทบลูกทัวร์คนอื่นๆของเค้าอีก 160 กว่าคน ที่เค้าไปจองตั๋วไว้กับ 168...
คือขอโทษนะคะ มันใช่ปัญหาเราไหมคะ?
ถ้าทาง 168 เบี้ยวเงินคุณ หรือไม่ออกตั๋วให้ คุณต้องไปฟ้อง 168 ป่าวคะ ไม่ใช่ฟ้องเราค่ะ
คือเราขอสอบถามผู้รู้ได้ไหมคะ ถ้าทั้งๆที่เราทำการเบลอชื่อ บ.ออก ใช้นามสมมุติ ไม่ลง link ใดๆที่พาดพิงไปโดยตรง
เราแค่เล่าเรื่องประสบการณ์ทัวร์ที่เราโดนมา ใบเสร็จรับเงินที่เราจ่าย มันผิดกฎหมายมากเลยเหรอคะ?
จริงๆตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะฟ้อง สคบ. หรือลงชื่อ บ.เค้าตรงๆเพราะคิดว่าเค้าก็คงยังต้องทำมาหากินต่อไป
แค่อยากได้คำตอบความจริงของคำถาม (ที่ไม่เคยมีคนตอบ)
และ อยากให้คนอื่นๆ รู้ประสบการณ์ของเรา จะได้ระวังในการซื้อทัวร์ครั้งต่อๆไป
ต้องถึงขนาดมาขู่ฟ้องกันเลยเหรอคะ?
อันนี้ที่เค้าส่งมาให้อี้เรา แล้วอี้มาโพสต์ต่อให้เราอ่านค่ะ
ส่วนเราตอบไปแบบนี้ค่ะ
ปล. เค้าไม่ได้ติดต่อเรามาโดยตรงนะคะ ทั้งที่จริงๆ เบอร์เรา กับไลน์เราเค้าก็มีหมด
เพราะเราคุยกับเค้าเรื่องโปรแกรมก่อนเดินทาง พออี้เราถาม เค้าก็บอกว่า เรา block line เค้าค่ะ ซึ่งความจริงเราไม่เคย block เลยค่ะ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อัพเดทใหม่นะคะ
เช้านี้
ทาง บ. คุณหัวหน้าทัวลูกอม ได้โทรเข้ามาหาอี้เรา โดยจะให้เราลบกระทู้ออก
และ ขอให้เราลบพวกใบเสร็จต่างๆและเอกสารตารางการนำเที่ยวที่แจกให้เราออก ขู่ด้วยว่าการลงเอกสารแบบนี้เราจะโดนฟ้องค่ะ
บอกว่า ตัวเค้าเองจองตั๋วกับทาง 168 ไว้สำหรับทำกรุปลูกทัวร์อีก 160 กว่าคน
บอกว่า กลัวทาง 168 จะโกรธไม่ยอมออกตั๋วให้เค้าค่ะ และเค้ายังมีมัดจำอีกเป็นแสนบาท กลัวจะไม่ได้เงินคืน เพราะกระทู้นี้
จะทำให้ส่งกระทบลูกทัวร์คนอื่นๆของเค้าอีก 160 กว่าคน ที่เค้าไปจองตั๋วไว้กับ 168...
คือขอโทษนะคะ มันใช่ปัญหาเราไหมคะ?
ถ้าทาง 168 เบี้ยวเงินคุณ หรือไม่ออกตั๋วให้ คุณต้องไปฟ้อง 168 ป่าวคะ ไม่ใช่ฟ้องเราค่ะ
คือเราขอสอบถามผู้รู้ได้ไหมคะ ถ้าทั้งๆที่เราทำการเบลอชื่อ บ.ออก ใช้นามสมมุติ ไม่ลง link ใดๆที่พาดพิงไปโดยตรง
เราแค่เล่าเรื่องประสบการณ์ทัวร์ที่เราโดนมา ใบเสร็จรับเงินที่เราจ่าย มันผิดกฎหมายมากเลยเหรอคะ?
จริงๆตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะฟ้อง สคบ. หรือลงชื่อ บ.เค้าตรงๆเพราะคิดว่าเค้าก็คงยังต้องทำมาหากินต่อไป
แค่อยากได้คำตอบความจริงของคำถาม (ที่ไม่เคยมีคนตอบ)
และ อยากให้คนอื่นๆ รู้ประสบการณ์ของเรา จะได้ระวังในการซื้อทัวร์ครั้งต่อๆไป
ต้องถึงขนาดมาขู่ฟ้องกันเลยเหรอคะ?
อันนี้ที่เค้าส่งมาให้อี้เรา แล้วอี้มาโพสต์ต่อให้เราอ่านค่ะ
ส่วนเราตอบไปแบบนี้ค่ะ
ปล. เค้าไม่ได้ติดต่อเรามาโดยตรงนะคะ ทั้งที่จริงๆ เบอร์เรา กับไลน์เราเค้าก็มีหมด
เพราะเราคุยกับเค้าเรื่องโปรแกรมก่อนเดินทาง พออี้เราถาม เค้าก็บอกว่า เรา block line เค้าค่ะ ซึ่งความจริงเราไม่เคย block เลยค่ะ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สมาชิกหมายเลข 854522 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1664709 ถูกใจ, pumpkinsster ถูกใจ, เกาะแน่นแน่นนะน้องนะ ถูกใจ, pang_mint ถูกใจ, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ถูกใจ, wanshida ถูกใจ, -LucifeR- ชื่อนี้ใช้ได้หรือยัง ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 139
ข้อชี้แจงจากทางคุณจุ๋มนะคะ
อันนี้เป็นข้อความชี้แจงจากทาง 168 นะคะ
สรุป ตามที่เราเข้าใจคือ (หากไม่ใช่ก็แก้ได้นะคะ เพราะเราอ่านแล้วบางประเด็นก็งงๆค่ะ)
1.เรื่องไม่มีที่นั่ง ทาง 168 แจ้งแต่แรกแล้วว่าที่ไม่ครบ แต่ทาง คุณลูกอมไม่ได้แจ้งกับ group เราตามตรง รอจนสุดท้ายไม่มีที่ค่อยอ้างว่าสายการบิน cancel ที่นั่ง
โดยเสนอคืนเงิน หรือให้เราย้ายวันเดินทางแทน โดยจะมีโปรแกรมแถม Seoraksan ให้
**อันนี้อัพเดทอีกที ทางญาติเราแจ้งว่าหลังจากฟังคุณลูกอม(ตอนแรกแจ้งมาว่าโดนจินแอร์ดึงที่คืน) ก็ได้คุยกับคุณจุ๋มถึงประเด็นนี้แล้ว เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ได้ขอที่คืน แต่ที่ไม่พอแต่แรกแล้วไม่ได้แจ้งทางเราให้ทราบเพราะคิดว่าใกล้ๆจะได้ที่สรุป แต่จนถึงใกล้ๆแล้วก็ยังหาไม่ได้ ก็เลยหลุดทั้งหมด
2.โปรแกรมท่องเที่ยวที่เราได้ลงไว้ คุณลูกอมไปเอาของทัวร์เจ้าอื่นมาปรับเพิ่มแล้วเสนอเราเอาเอง ทางเจ้าของที่คิดโปรแกรมไม่ทราบและไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
อันนี้เราขอโทษด้วยนะคะ เราไม่ทราบจริงๆว่าเป็นของ บ.ไหนขาย แต่ทางคุณลูกอมส่งและพิมพ์ให้เราโดยแจกให้ในวันเดินทางเราจึงเข้าใจว่าเป็นโปรแกรมที่นำมาขายให้เราค่ะ เพราะไม่มีระบุชื่อ บ.อื่นๆนอกจากของทาง คุณลูกอมนะคะ
(แต่ขอเรียนแจ้งตามตรงว่า การที่จะไปเที่ยว 4 ที่ในวันแรก มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ)
3.เรื่องนี้เราถือว่าคุณลูกอมเป็นคนรับผิดชอบ ไม่ใช่ 168 เพราะ คุณลูกอมเป็นคนตกลงกับทางเราเรื่องโปรแกรม ทาง 168 เพียงทำตามที่คุณลูกอมแจ้งเท่านั้น
(แต่นั่นไม่ได้หมายถึง กรณีที่ไปแล้วมีปัญหาต่างๆ เช่นรถไม่มา ไม่มีโรงแรม ไกด์แย่ etc. ส่วนตรงนี้ทาง 168 บอกว่าเป็นความผิดของ land เกาหลีเท่านั้น
*** ถ้าเป็นไปได้ เราอยากทราบว่า land เกาหลีที่ใช้ ชื่อ บ. อะไรค่ะ หากเลือกไปกับทัวร์ครั้งหน้า เราจะได้สอบถามทางทัวร์ที่เราจะซื้อว่าไปกับเจ้านี้หรือเปล่า จะได้ไม่เอาค่ะ กลัว
4. สรุปคือ คุณลูกอมเป็นคนขอตัดโปรแกรมเอง 168 ไม่เกี่ยว สั่งมาก็ทำตามนั้น
5. clear ค่ะ
6.อันนี้ขัดแย้งกันเองนะคะ เนื่องจากทางคุณลูกอมได้คุยกับทางเราตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องรวม กระเช้าขึ้น Seoraksan ตั้งแต่ยังไม่มีประเด็นเรื่องอีก 3 ที่เที่ยว ว่าตัดไม่ตัดค่ะ
ส่วนทางคุณลูกอม แจ้งคุณจุ๋มหรือไม่ เราไม่ทราบค่ะ
7. clear ค่ะ
8. clear ค่ะ
*** เคสที่บอกลูกค้าขอเปลี่ยนทุก 30 นาที คือตอนไหนคะ?
เฉพาะข้อมูลกับที่คุยกับเรานะคะ โดนครั้งแรกที่เราเห็น program final ที่ส่งมาให้ ประมาณวันที่ 5 เมษา (โปรแกรมที่ไปเที่ยว 4 ที่ในวันแรก) เราแจ้งทางบ้านไปว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะวันแรก ถึงสนามบิน 8 โมง
กว่าจะออก ตม.ไปได้ มันเสียเวลา ไม่มีทางเที่ยวทัน ให้ลองคุยกับทางทัวร์ดูว่าปรับเปลี่ยนอย่างไรได้ไหม (ตอนนั้นเรายังไม่กลับไทย อี้เป็นคนถามให้)
เราคุยกับคุณลูกอมครั้งแรก วันที่ 11 โดยส่งโปรแกรมที่เราต้องการปรับให้เค้า แต่เค้าโทรมาแจ้งว่าไม่ได้ๆๆ พร้อมชี้แจง เหตุผลต่างๆนาๆ
แล้ววันรุ่งขึ้น (วันที่ 12) เราก็ลองปรับโปรแกรมใหม่ให้ส่วนที่เค้าแจ้งว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นตามเดิม เข้าร้านเหมือนเดิมหมดแค่สลับที่เที่ยวก่อนหลัง
ตอนส่งโปรแกรมเค้าก็บอกโอเค แจ้งทางอี้เรา และโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้หน้างาน ซึ่งตรงนี้ตอนแรกเราก็สบายใจ
เพราะหากว่าเกิดเหตุสุดวิสัยอะไร เช่นออกมาได้สาย หรืออื่นๆ โปรแกรมก็ยังพอปรับได้ ตราบใดที่เราไม่ได้เพิ่มอะไรเอง แต่สุดท้ายก็อย่างที่เล่าไปทั้งหมดค่ะ
ทางเรามาได้รับโปรแกรม final ที่เป็นภาษาอังกฤษ ในเช้าวันที่จะเดินทางค่ะ
โดยเราอ่านแล้วก็โอเคตามนั้น ติดแค่เรื่องวันจันทร์วังปิดเท่านั้น ให้เค้าไปดูมาว่าจะทำอย่างไร ซึ่งทางอี้เราก็บอกว่า เด๋วเค้าจะคุยที่สนามบิน แค่นั้นค่ะ เราเองไม่ได้ขอปรับเปลี่ยนอะไรอีก
ส่วนเรื่องเกาะนามิ ทันทีที่ได้ทราบว่า วันแรกทางทัวร์จะตัดออก เราบอกตอนนั้นเลยว่าถ้าวันนี้ไม่ได้ไป ขอไปวันพรุ่งนี้แทนได้ไหม ไม่ได้แจ้งเช้าวันที่จะไปนะคะ
เพราะเราทราบว่าอย่างไรก็เป็นทางผ่านระหว่างกลับเข้าโซลอยู่แล้วเลยลองถามดู
(เราดูจากในแผนที่ ตั้งแต่วันแรกของการเดินทางจากสนามบิน ก็ผ่านทางที่จะแยกไป nami แต่พูดอย่างไรคุณลูกอมก็ไม่ยอมแวะไปก่อน ยืนยันจะไปซอรัคซานก่อนให้ได้ค่ะ ส่วนจากโรงแรมเราไม่ทราบว่าทางทัวร์จะย้ายเราไปโรงแรมอื่นค่ะ)
เราคิดว่าประเด็นที่ไปไม่ได้เพราะ :
1.คุณเอาค่าไปเที่ยวเกาะนามิ ไปแทนค่าขึ้นกระเช้าแล้ว (ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าแถมเพิ่มให้ อันนี้เราสังเกตเอาจากในไลน์ที่ส่งมาให้นะคะ หากเข้าใจผิดอย่างไรก็ชี้แจงได้นะคะ)
2.คุณย้ายเราไปนอนโรงแรมไกลจากซอรัคซาน ใช้เวลาเดินทางนานมาก ไม่สามารถไปซอรัคซานตอนเช้าแล้วทันไปที่อื่นต่อได้
ซึ่งอันนี้ถ้าคุณบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของ land ก็แสดงว่า land คุณแย่มากค่ะ
ความจริงเรื่องเปลี่ยนโรงแรม เราว่ามันก็ปกติของทัวร์ แต่อย่างน้อยก็ควรเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้กัน โรงแรมใน Seoul ก็ควรเป็นใน Seoul
การย้ายไปที่อื่นที่ไกลๆทำให้เสียเวลาท่องเที่ยวไปวันละ 2 ชั่วโมงโดยเปล่าประโยชน์ เราว่ามันไม่ใช่ค่ะ
พอวันที่สองก็ตรงไป Everland เลย บอกว่า nami ไปไม่ได้ไม่ใช่ทางผ่าน
(งงค่ะ คือเราดูโปรแกรมทัวร์อื่น จาก Seoraksan เขาก็ไปแวะเที่ยวนามิก่อนไป Everland กันได้หมด ยกเว้นกรุปเราค่ะ)
ส่วนเรื่องต้องไปที่ไหนก่อนหลัง เราว่าไม่ใช่ประเด็นนะคะ จะบอกว่า land เขาจองตั๋วมาก่อน ต้องเข้าตอนนั้นตอนนี้ เราว่ามันไม่ใช่อ่ะค่ะ
เพราะไปถึงสถานที่เที่ยว ก็เห็นไกด์วิ่งไปซื้อตั๋วตลอด ต้องยืนรอตั๋วทุกครั้งที่ไปถึงไม่เห็นมีอะไรเตรียมมาก่อนเลยค่ะ งง...
(เราเคยมาทัวร์เกาหลีแล้ว กรุปที่เราไปไม่เคยต้องยืนรอไกด์วิ่งไปซื้อตั๋วเลยค่ะ ไปถึงเขาก็มีเอกสารแสดงคนตรวจให้เราขึ้นเรือ หรือเข้าชมได้เลย)
เท่าที่เราอ่านมา เรารู้สึกว่าทางนั้นจะว่าลูกค้าเยอะตลอด ขอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
เราขอทราบรายละเอียดได้ไหมคะ ว่าขอเปลี่ยนอะไรบ้าง เมื่อไหร่? เพราะเท่าที่เราทราบ เราเองขอเปลี่ยนตามโปรแกรมก่อนเดินทางเท่านั้นเองค่ะที่เราส่งไป
กับเรื่องวันที่ 2 เพราะวันแรกออกสายมาก ไม่ได้ไปเกาะ เราถามว่าไปวันรุ่งขึ้นแทนได้ไหม แต่สรุปก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรให้เรานะคะ
ส่วนโปรแกรมวันอื่นๆ เราไม่ได้ขออะไรเลย นอกจากวันที่ทางทัวร์เปลี่ยนมาเองที่จะไปเยอะๆในวันเดียว (แต่ก็แจ้งเราว่าไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ไปไม่ทันเองต้องย้าย namsan tower ไปวันสุดท้ายเอง)
ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่นะคะ ในเมื่อคุณกำหนดโปรแกรมมาให้เรา เราดูแล้วมันเป็นไปไม่ได้ เราขอปรับตั้งแต่ต้นก่อนเดินทางแล้ว
เราไม่ได้ไป join ทัวร์แบบไปรวมกับคนอื่นเขาแล้วแสดงความเยอะ เราเข้าใจมาตลอดว่าโปรแกรม group เราสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมตามสถานะการณ์ที่หน้างาน
แต่สุดท้ายมันก็ออกมาแบบที่เห็นน่ะค่ะ อาจจะด้วยหลายๆอย่างเช่นข้อจำกัดเรื่องเวลา และการเดินทางในช่วงเทศกาลด้วยทำให้ยิ่งทำให้แย่ไปกันใหญ่
อย่างไรเราขอขอบพระคุณๆจุ๋มมากๆที่รับผิดชอบ แสดงตัวออกมาชี้แจงให้ได้ทราบนะคะ ทำให้เราได้เข้าใจเพิ่มเติมว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับ group เราค่ะ
เพราะเรื่องจะไม่มีคนดูแล ทางเราเองก็ไม่ได้รับการแจ้งให้ทราบแต่อย่างใด ถ้าหากทราบว่าการไปเที่ยวของเราจะทำให้ทัวร์ต้องลำบากขนาดนี้
และทำให้การเดินทางมันจะต้องเต็มไปด้วยอุปสรรคขนาดนี้ เราก็คงไม่เลือกที่จะเดินทางตั้งแต่แรกค่ะ...
เราคงเลือกไปกับเจ้าที่มีความพร้อมให้กับเรามากกว่าค่ะ
เราต้องขอโทษด้วยที่การออกมาเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคณะเราในพันทิพ เป็นช่องทางทำให้คู่แข่งทางธุรกิจของทางคุณจุ๋มนำมาใช้ประโยชน์
เราเชื่อว่าหากคุณไม่ได้ทำอะไรผิดจริง และอธิบายแบบจริงใจและตรงไปตรงมา เราเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจและให้โอกาสนะคะ
ส่วนอีกฝั่ง ตั้งแต่เกิดเรื่อง เราไม่ทราบว่าตกลงเรื่องมันอย่างไรค่ะ
(สงสัยเตรียมฟ้องเราทีเดียวเลย แต่ก็โอเคค่ะ ตั้งแต่ตัดสินใจจะมาเล่าเรื่องนี้ เราก็ทำใจรับสภาพได้ ว่าถ้าสุดท้ายว่าการที่เราจะออกมาพูดความจริง
มาเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับมา มันเป็นสิ่งผิด ก็ให้รู้ไปว่าบรรทัดฐานของสังคมไทยมันเป็นแบบนั้นเอง ตั้งแต่ต้นแล้วเราไม่ได้ตั้งใจมาเรียกร้องอะไรอยู่ แค่อยากเป็นตัวอย่าง ให้คนอื่นระวังไว้ จะได้ไม่ต้องมาเจออะไรแบบเราค่ะ)
ขอบคุณมากค่ะ
อันนี้เป็นข้อความชี้แจงจากทาง 168 นะคะ
สรุป ตามที่เราเข้าใจคือ (หากไม่ใช่ก็แก้ได้นะคะ เพราะเราอ่านแล้วบางประเด็นก็งงๆค่ะ)
1.เรื่องไม่มีที่นั่ง ทาง 168 แจ้งแต่แรกแล้วว่าที่ไม่ครบ แต่ทาง คุณลูกอมไม่ได้แจ้งกับ group เราตามตรง รอจนสุดท้ายไม่มีที่ค่อยอ้างว่าสายการบิน cancel ที่นั่ง
โดยเสนอคืนเงิน หรือให้เราย้ายวันเดินทางแทน โดยจะมีโปรแกรมแถม Seoraksan ให้
**อันนี้อัพเดทอีกที ทางญาติเราแจ้งว่าหลังจากฟังคุณลูกอม(ตอนแรกแจ้งมาว่าโดนจินแอร์ดึงที่คืน) ก็ได้คุยกับคุณจุ๋มถึงประเด็นนี้แล้ว เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ได้ขอที่คืน แต่ที่ไม่พอแต่แรกแล้วไม่ได้แจ้งทางเราให้ทราบเพราะคิดว่าใกล้ๆจะได้ที่สรุป แต่จนถึงใกล้ๆแล้วก็ยังหาไม่ได้ ก็เลยหลุดทั้งหมด
2.โปรแกรมท่องเที่ยวที่เราได้ลงไว้ คุณลูกอมไปเอาของทัวร์เจ้าอื่นมาปรับเพิ่มแล้วเสนอเราเอาเอง ทางเจ้าของที่คิดโปรแกรมไม่ทราบและไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
อันนี้เราขอโทษด้วยนะคะ เราไม่ทราบจริงๆว่าเป็นของ บ.ไหนขาย แต่ทางคุณลูกอมส่งและพิมพ์ให้เราโดยแจกให้ในวันเดินทางเราจึงเข้าใจว่าเป็นโปรแกรมที่นำมาขายให้เราค่ะ เพราะไม่มีระบุชื่อ บ.อื่นๆนอกจากของทาง คุณลูกอมนะคะ
(แต่ขอเรียนแจ้งตามตรงว่า การที่จะไปเที่ยว 4 ที่ในวันแรก มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ)
3.เรื่องนี้เราถือว่าคุณลูกอมเป็นคนรับผิดชอบ ไม่ใช่ 168 เพราะ คุณลูกอมเป็นคนตกลงกับทางเราเรื่องโปรแกรม ทาง 168 เพียงทำตามที่คุณลูกอมแจ้งเท่านั้น
(แต่นั่นไม่ได้หมายถึง กรณีที่ไปแล้วมีปัญหาต่างๆ เช่นรถไม่มา ไม่มีโรงแรม ไกด์แย่ etc. ส่วนตรงนี้ทาง 168 บอกว่าเป็นความผิดของ land เกาหลีเท่านั้น
*** ถ้าเป็นไปได้ เราอยากทราบว่า land เกาหลีที่ใช้ ชื่อ บ. อะไรค่ะ หากเลือกไปกับทัวร์ครั้งหน้า เราจะได้สอบถามทางทัวร์ที่เราจะซื้อว่าไปกับเจ้านี้หรือเปล่า จะได้ไม่เอาค่ะ กลัว
4. สรุปคือ คุณลูกอมเป็นคนขอตัดโปรแกรมเอง 168 ไม่เกี่ยว สั่งมาก็ทำตามนั้น
5. clear ค่ะ
6.อันนี้ขัดแย้งกันเองนะคะ เนื่องจากทางคุณลูกอมได้คุยกับทางเราตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องรวม กระเช้าขึ้น Seoraksan ตั้งแต่ยังไม่มีประเด็นเรื่องอีก 3 ที่เที่ยว ว่าตัดไม่ตัดค่ะ
ส่วนทางคุณลูกอม แจ้งคุณจุ๋มหรือไม่ เราไม่ทราบค่ะ
7. clear ค่ะ
8. clear ค่ะ
*** เคสที่บอกลูกค้าขอเปลี่ยนทุก 30 นาที คือตอนไหนคะ?
เฉพาะข้อมูลกับที่คุยกับเรานะคะ โดนครั้งแรกที่เราเห็น program final ที่ส่งมาให้ ประมาณวันที่ 5 เมษา (โปรแกรมที่ไปเที่ยว 4 ที่ในวันแรก) เราแจ้งทางบ้านไปว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะวันแรก ถึงสนามบิน 8 โมง
กว่าจะออก ตม.ไปได้ มันเสียเวลา ไม่มีทางเที่ยวทัน ให้ลองคุยกับทางทัวร์ดูว่าปรับเปลี่ยนอย่างไรได้ไหม (ตอนนั้นเรายังไม่กลับไทย อี้เป็นคนถามให้)
เราคุยกับคุณลูกอมครั้งแรก วันที่ 11 โดยส่งโปรแกรมที่เราต้องการปรับให้เค้า แต่เค้าโทรมาแจ้งว่าไม่ได้ๆๆ พร้อมชี้แจง เหตุผลต่างๆนาๆ
แล้ววันรุ่งขึ้น (วันที่ 12) เราก็ลองปรับโปรแกรมใหม่ให้ส่วนที่เค้าแจ้งว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นตามเดิม เข้าร้านเหมือนเดิมหมดแค่สลับที่เที่ยวก่อนหลัง
ตอนส่งโปรแกรมเค้าก็บอกโอเค แจ้งทางอี้เรา และโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้หน้างาน ซึ่งตรงนี้ตอนแรกเราก็สบายใจ
เพราะหากว่าเกิดเหตุสุดวิสัยอะไร เช่นออกมาได้สาย หรืออื่นๆ โปรแกรมก็ยังพอปรับได้ ตราบใดที่เราไม่ได้เพิ่มอะไรเอง แต่สุดท้ายก็อย่างที่เล่าไปทั้งหมดค่ะ
ทางเรามาได้รับโปรแกรม final ที่เป็นภาษาอังกฤษ ในเช้าวันที่จะเดินทางค่ะ
โดยเราอ่านแล้วก็โอเคตามนั้น ติดแค่เรื่องวันจันทร์วังปิดเท่านั้น ให้เค้าไปดูมาว่าจะทำอย่างไร ซึ่งทางอี้เราก็บอกว่า เด๋วเค้าจะคุยที่สนามบิน แค่นั้นค่ะ เราเองไม่ได้ขอปรับเปลี่ยนอะไรอีก
ส่วนเรื่องเกาะนามิ ทันทีที่ได้ทราบว่า วันแรกทางทัวร์จะตัดออก เราบอกตอนนั้นเลยว่าถ้าวันนี้ไม่ได้ไป ขอไปวันพรุ่งนี้แทนได้ไหม ไม่ได้แจ้งเช้าวันที่จะไปนะคะ
เพราะเราทราบว่าอย่างไรก็เป็นทางผ่านระหว่างกลับเข้าโซลอยู่แล้วเลยลองถามดู
(เราดูจากในแผนที่ ตั้งแต่วันแรกของการเดินทางจากสนามบิน ก็ผ่านทางที่จะแยกไป nami แต่พูดอย่างไรคุณลูกอมก็ไม่ยอมแวะไปก่อน ยืนยันจะไปซอรัคซานก่อนให้ได้ค่ะ ส่วนจากโรงแรมเราไม่ทราบว่าทางทัวร์จะย้ายเราไปโรงแรมอื่นค่ะ)
เราคิดว่าประเด็นที่ไปไม่ได้เพราะ :
1.คุณเอาค่าไปเที่ยวเกาะนามิ ไปแทนค่าขึ้นกระเช้าแล้ว (ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าแถมเพิ่มให้ อันนี้เราสังเกตเอาจากในไลน์ที่ส่งมาให้นะคะ หากเข้าใจผิดอย่างไรก็ชี้แจงได้นะคะ)
2.คุณย้ายเราไปนอนโรงแรมไกลจากซอรัคซาน ใช้เวลาเดินทางนานมาก ไม่สามารถไปซอรัคซานตอนเช้าแล้วทันไปที่อื่นต่อได้
ซึ่งอันนี้ถ้าคุณบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของ land ก็แสดงว่า land คุณแย่มากค่ะ
ความจริงเรื่องเปลี่ยนโรงแรม เราว่ามันก็ปกติของทัวร์ แต่อย่างน้อยก็ควรเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้กัน โรงแรมใน Seoul ก็ควรเป็นใน Seoul
การย้ายไปที่อื่นที่ไกลๆทำให้เสียเวลาท่องเที่ยวไปวันละ 2 ชั่วโมงโดยเปล่าประโยชน์ เราว่ามันไม่ใช่ค่ะ
พอวันที่สองก็ตรงไป Everland เลย บอกว่า nami ไปไม่ได้ไม่ใช่ทางผ่าน
(งงค่ะ คือเราดูโปรแกรมทัวร์อื่น จาก Seoraksan เขาก็ไปแวะเที่ยวนามิก่อนไป Everland กันได้หมด ยกเว้นกรุปเราค่ะ)
ส่วนเรื่องต้องไปที่ไหนก่อนหลัง เราว่าไม่ใช่ประเด็นนะคะ จะบอกว่า land เขาจองตั๋วมาก่อน ต้องเข้าตอนนั้นตอนนี้ เราว่ามันไม่ใช่อ่ะค่ะ
เพราะไปถึงสถานที่เที่ยว ก็เห็นไกด์วิ่งไปซื้อตั๋วตลอด ต้องยืนรอตั๋วทุกครั้งที่ไปถึงไม่เห็นมีอะไรเตรียมมาก่อนเลยค่ะ งง...
(เราเคยมาทัวร์เกาหลีแล้ว กรุปที่เราไปไม่เคยต้องยืนรอไกด์วิ่งไปซื้อตั๋วเลยค่ะ ไปถึงเขาก็มีเอกสารแสดงคนตรวจให้เราขึ้นเรือ หรือเข้าชมได้เลย)
เท่าที่เราอ่านมา เรารู้สึกว่าทางนั้นจะว่าลูกค้าเยอะตลอด ขอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
เราขอทราบรายละเอียดได้ไหมคะ ว่าขอเปลี่ยนอะไรบ้าง เมื่อไหร่? เพราะเท่าที่เราทราบ เราเองขอเปลี่ยนตามโปรแกรมก่อนเดินทางเท่านั้นเองค่ะที่เราส่งไป
กับเรื่องวันที่ 2 เพราะวันแรกออกสายมาก ไม่ได้ไปเกาะ เราถามว่าไปวันรุ่งขึ้นแทนได้ไหม แต่สรุปก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรให้เรานะคะ
ส่วนโปรแกรมวันอื่นๆ เราไม่ได้ขออะไรเลย นอกจากวันที่ทางทัวร์เปลี่ยนมาเองที่จะไปเยอะๆในวันเดียว (แต่ก็แจ้งเราว่าไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ไปไม่ทันเองต้องย้าย namsan tower ไปวันสุดท้ายเอง)
ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่นะคะ ในเมื่อคุณกำหนดโปรแกรมมาให้เรา เราดูแล้วมันเป็นไปไม่ได้ เราขอปรับตั้งแต่ต้นก่อนเดินทางแล้ว
เราไม่ได้ไป join ทัวร์แบบไปรวมกับคนอื่นเขาแล้วแสดงความเยอะ เราเข้าใจมาตลอดว่าโปรแกรม group เราสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมตามสถานะการณ์ที่หน้างาน
แต่สุดท้ายมันก็ออกมาแบบที่เห็นน่ะค่ะ อาจจะด้วยหลายๆอย่างเช่นข้อจำกัดเรื่องเวลา และการเดินทางในช่วงเทศกาลด้วยทำให้ยิ่งทำให้แย่ไปกันใหญ่
อย่างไรเราขอขอบพระคุณๆจุ๋มมากๆที่รับผิดชอบ แสดงตัวออกมาชี้แจงให้ได้ทราบนะคะ ทำให้เราได้เข้าใจเพิ่มเติมว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับ group เราค่ะ
เพราะเรื่องจะไม่มีคนดูแล ทางเราเองก็ไม่ได้รับการแจ้งให้ทราบแต่อย่างใด ถ้าหากทราบว่าการไปเที่ยวของเราจะทำให้ทัวร์ต้องลำบากขนาดนี้
และทำให้การเดินทางมันจะต้องเต็มไปด้วยอุปสรรคขนาดนี้ เราก็คงไม่เลือกที่จะเดินทางตั้งแต่แรกค่ะ...
เราคงเลือกไปกับเจ้าที่มีความพร้อมให้กับเรามากกว่าค่ะ
เราต้องขอโทษด้วยที่การออกมาเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคณะเราในพันทิพ เป็นช่องทางทำให้คู่แข่งทางธุรกิจของทางคุณจุ๋มนำมาใช้ประโยชน์
เราเชื่อว่าหากคุณไม่ได้ทำอะไรผิดจริง และอธิบายแบบจริงใจและตรงไปตรงมา เราเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจและให้โอกาสนะคะ
ส่วนอีกฝั่ง ตั้งแต่เกิดเรื่อง เราไม่ทราบว่าตกลงเรื่องมันอย่างไรค่ะ
(สงสัยเตรียมฟ้องเราทีเดียวเลย แต่ก็โอเคค่ะ ตั้งแต่ตัดสินใจจะมาเล่าเรื่องนี้ เราก็ทำใจรับสภาพได้ ว่าถ้าสุดท้ายว่าการที่เราจะออกมาพูดความจริง
มาเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับมา มันเป็นสิ่งผิด ก็ให้รู้ไปว่าบรรทัดฐานของสังคมไทยมันเป็นแบบนั้นเอง ตั้งแต่ต้นแล้วเราไม่ได้ตั้งใจมาเรียกร้องอะไรอยู่ แค่อยากเป็นตัวอย่าง ให้คนอื่นระวังไว้ จะได้ไม่ต้องมาเจออะไรแบบเราค่ะ)
ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
รีวิวปรับทุกข์ เสียเงินกว่าครึ่งล้าน ไปเที่ยวทัวร์(เถื่อน?)ที่เกาหลี กับ บ. WORST TRIP HOLIDAY และ xxx 168
- ครอบครัวเราประมาณ 35 คน จะมีจัดไหว้เชงเม้งและไปเที่ยวด้วยกันทุกปี (ในประเทศ และต่างประเทศสลับกันไปทุกปี)
- ปีนี้สรุปว่าจะไปเกาหลีได้จองทัวร์ไปเกาหลี แบบกรุปเหมา เฉพาะครอบครัวเรา กับทาง บ. WORST TRIP HOLIDAY (เดาเองนะคะ คงไม่มีใครตั้งชื่อ บ.ทัวร์ว่า worst เนอะ? ต้องโฆษณาชวนชื่อว่าของตัวดีสุดก่อนทั้งนั้นแหละ) ซึ่งเรามาทราบทีหลัง ว่าเค้าส่งเราต่อให้กับ บ. xxx 168 ที่กำลังมีดราม่าอยู่ในตอนนี้ค่ะ
- ทางทัวร์ก็ส่งโปรแกรมให้เลือกพร้อมทั้ง quote ราคามาให้ ซึ่งเราก็คุยกันตกลงเรื่องต่างๆ เช่นการปรับเปลี่ยนโปรแกรมบ้างเพราะเราคนแก่และเด็กเยอะ รวมทั้งเรื่อง request อาหารพิเศษให้กับพี่ชายที่เป็นมะเร็ง คือขอเป็นปลาและผักให้สำหรับ 1 ที่ และทั้งกรุปจะไม่ทานเนื้อวัว ได้ตกลงกันเรียบร้อยก่อนจะจ่ายเงินค่ามัดจำสำหรับค่าเครื่องบิน และเงินที่ค้างทั้งหมดก่อนการเดินทางตามเงื่อนไขการจองทัวร์ครบถ้วนถูกต้องทุกประการ โดยมัดจำทัวร์ให้ใบเสร็จมา แต่ตอนมาเก็บเต็มบอกว่าไม่ได้เอามา ถ้าต้องการจะส่งมาให้ทีหลัง โดยเข้ามาเก็บเป็นเงินสดไปที่ บ.ครอบครัวเราค่ะ ทางเราก็ไว้ใจเพราะเคยใช้บริการกันมาแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร (เบื้องแรก 31 คน แต่ต่อมามีคนไปเพิ่ม)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- โปรแกรมที่เลือกคือ เกาหลี-ซากุระ-ขาปู เดินทางวันที่ 9 เมษายน
- ตามโปรแกรมเราจะเดินทางกันในวันที่ 9 เมษายน แต่พอวันที่ 4-5 เมษา ทางทัวร์ก็มาแจ้งกระทันหันว่าไปไม่ได้แล้ว ไม่มีตั๋ว โดยแจ้งเหตุผลต่างๆ บอกไปไม่ได้ ตั๋วถูกแคนเซิลยกกรุป โดยทางสายการบิน จินแอร์เกาหลีดึงที่คืนเพราะมีแต่กรุปคนไทยเต็มลำ ต้องแคนเซิลกรุปคนไทยทิ้ง 3 กรุป เพื่อเผื่อตั๋วให้คนเกาหลีบ้าง (เราไม่ทราบว่าความจริงคืออะไร แต่ทาง บ. Worst trip holiday แจ้งเรามาแบบนี้) และเราก็เพิ่งทราบว่าทัวร์ที่เราซื้อ ส่งต่อเราให้กับ บ. xxx168 จากหลักฐานที่มาแจ้งว่าเค้าโอนเงินให้ทางทัวร์นั้นแล้วค่ะ โดยทางเราเสียหายเพราะญาติๆจากหาดใหญ่ก็จองตั๋วเครื่องบิน มากทม.แล้ว **อันนี้ทัวร์ xxx168 รับผิดชอบ โดยการจ่ายค่าเลื่อนตั๋วให้ค่ะ หลายคนเตรียมลางาน / เลื่อนทริปเพื่อจัดเวลามาให้ตรงกันแล้ว เราเอง กลับจากญี่ปุ่นในวันที่ 8 เพื่อเตรียมเดินทางไปกับคณะในวันที่ 9 ตามโปรแกรมเดิมของเรา พี่บางคนที่ตกลงว่าจะซื้อตั๋วไปเองโดยเจอที่เกาหลี ได้ซื้อตั๋วไปและออกตั๋วเรียบร้อยแล้ว **สุดท้ายพี่สองคนนี้เค้าเลยไปเที่ยวเอง นับว่าโชคดีมากเลยค่ะที่ไม่ต้องไปกับเรา -_-"
- ทัวร์เสนอให้เราเลื่อนไปวันที่ 14-18 หรือ 15-19 แทน โดยเสนอว่าโปรแกรมจะเหมือนๆเดิม แต่จะมีแถมโปรแกรมเพิ่มเติมให้ ทัวร์บอกขอเลื่อนวันถ้าเป็น period 14-18 / 15-19 ยังมีที่นั่งว่างอยู่หากเรายอมเลื่อน จะเพิ่มโปรแกรมแถมให้ โดยถ้าไป 14-18 ได้ไปซอรัคซาน รวมขึ้นกระเช้า
ถ้าเลือกไป 15-19 ได้แถมซอรัคซาน + รถไฟชมวิวริมทะเล sea train
- ทางคณะเราตกลงเลือกไปวันที่ 14-18 เพราะจะได้ไม่ต้องลางานมาก
- program tour ก่อนจองพูดได้ทุกอย่าง โอเคอย่าง จ่ายเงินแล้วใกล้ๆไปกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เป็นอะไรๆก็ไม่ได้ แจ้งไม่ทัน ปรับไม่ได้ ทางเกาหลีไม่ยอม บลา บลา บลา...
ทัวร์แจ้งมาในเบื้องแรกว่า โปรแกรมเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่เพิ่มแถมเที่ยว Seoraksan เพิ่มให้ฟรี
ทางครอบครัวเราเห็นว่า คงเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ และจะไปหาทัวร์อื่นก็คงจองและหาตั๋วให้เราไม่ทันแล้ว แต่ทัวร์นี้เค้ามีที่ ก็เลยตกลงไป ตอนทัวร์มาแจ้งว่าไม่ได้ตั๋วเครื่องบิน ก็วันที่ 4-5 เมษาแล้ว (ตามโปรแกรมเดิม เดินทางวันที่ 9 เงินค่าทัวร์ก็จ่ายไปหมดแล้วด้วย)
เนื่องจากเป็น group เหมา ตอนขายทัวร์บอกดิบดี ว่าโปรแกรมปรับเปลี่ยนได้ตามเราต้องการ รถบัสมีเฉพาะกรุปเรา ขอแค่ห้ามเปลี่ยนโรงแรมเพราะจองไปแล้ว คณะเรา 17 ห้องเด๋วจะหาโรงแรมไม่ได้ กับต้องเข้าร้านรัฐบาลที่กำหนดให้ครบทุกร้าน ซึ่งทางเราก็ตกลงไม่มีปัญหาอะไร
ที่ต้องการไปแบบกรุปเหมาเฉพาะกรุปเราเพราะคิดว่าหากเห็นโปรแกรมแล้วมันแน่นเกินไป อาจต้องการปรับเปลี่ยนโปรแกรมไม่ให้รีบเร่งจนเกินไปเพราะมีทั้งคนแก่ต้องใช้ wheelchair / สว. 60-70 หลายคน / มีผู้ป่วยมะเร็ง / มี infant และ เด็กเล็กอีกหลายคน แล้วคนเราก็เยอะเกินพอ อย่างไรก็สามารถจัดกรุปเต็มๆได้อยู่แล้ว
- พอไปถึงเกาหลี กลับมีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน เดี๋ยวสามารถอ่านรายละเอียดได้ใน มหากาพย์วันต่างๆเลยค่ะ
โดยสรุปย่อๆ เรื่องที่แย่ๆ สำหรับเราคือ
1.ไปถึง ไม่มีบัส ปล่อยให้รอถึงเที่ยง (flight land 8:00 am)
2.เปลี่ยนโรงแรมและอาหารแทบทุกอย่างจากที่ตกลงกันในตอนแรก ย้ายโรงแรมไปไกลสุดกู่ ตัดโปรแกรมอาหารดีๆทิ้งเกือบหมด
3.ตัดที่เที่ยวออกหลายที่ โดยไม่มีการบอกว่าจะชดเชยหรือทดแทนโปรแกรมให้อย่างไรเลย
4.วันที่สองไม่มีโรงแรมจะนอน ต้องให้ลูกทัวร์อยู่บนบัสขับวนหาโรงแรมนอนไปเรื่อยๆจนเที่ยงคืนตีหนึ่งกว่าจะหาโรงแรมได้ในที่สุด
5.ไกด์ทะเลาะกันเอง เอาคนไทยไม่มีใบอนุญาตมาเป็นไกด์ จนทะเลาะกันและมีการไล่กันลงจากรถกันเองต่อหน้าลูกทัวร์
6.คนใน group passport หาย แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอ (สุดท้ายได้คืนค่ะ อ่านได้ในเรื่องราวโดยละเอียด)
7.คนขับรถไม่ค่อยเป็นงาน วันสุดท้ายพาขับหลงทาง / มาสาย เสียเวลาหลายชั่วโมง
8.จัดโปรแกรมได้ห่วยแตก จัดแบบจงใจว่ายังไงก็ไปไม่ทันแน่นอน เพื่อให้พอถึงเวลากลายเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่สามารถไปได้จริง เหมือนจงใจทำเพื่อประหยัดค่าเข้าชมสถานที่ พอเราขอปรับโปรแกรมให้สลับที่เที่ยวแต่ละวันเพื่อจะได้ไปทัน กลับอ้างว่า land เกาหลีห้ามเปลี่ยน ทั้งๆที่ตอนจองทัวร์บอกปรับเปลี่ยนได้ทุกอย่างยกเว้นโรงแรมนอนและต้องเข้าร้านรัฐบาล
9.เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ทางหัวหน้าทัวร์ไม่มีการพูดชี้แจงออกไมค์กับลูกทัวร์เลย ว่ามีอะไร เกิดอะไรขึ้นทำไมเป็นแบบนี้ ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้าย ก็ยังไม่มีการชี้แจงแบบเคลียร์เลยสักครั้ง ขนาดเรายกมือถามในบัสว่า บ. land ที่ไปชื่อ บ.อะไรคะ ยังไม่ยอมบอกเลยค่ะ เปลี่ยนเรื่องพูดค่ะ
ส่วนเรื่องอื่นๆปลีกย่อยเยอะแยะ ไม่ได้ถึงกับเป็นคอขาดบาดตาย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความไม่ professional / จิตใจคิดเอาเปรียบลูกทัวร์ / รวมถึงความไร้ความสามารถและไร้ความรับผิดชอบของเจ้าของ บ.ทัวร์ที่เราซื้อไป เอะอะก็จะโทษแต่ฝั่ง land เอะอะ ก็โทษแต่ทางเกาหลี ว่าไม่ยอมค่ะ ไม่ช่วยเหลือลูกทัวร์เลย ทั้งๆที่ทางคณะเรา เลือกไว้วางใจใช้ บ.คุณ แต่กลับทำกับพวกเราแบบนี้
คือบางคนอาจมองว่า ทัวร์ก็คงแค่ขายส่งต่อให้ บ.อื่น แต่พอเวลามีปัญหา ก็จะโทษแต่ บ.ต้นทาง เราว่าไม่ใช่นะคะ ถึงคุณจะแค่กินค่าคอมเฉยๆ แต่ลูกค้า "เลือก" ไว้วางใจที่จะซื้อกับคุณค่ะ ถือว่าจ่ายเงินให้คุณค่ะ คุณควรมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าจะปัดสวะไปให้ บ.ที่ใช้งานกับทาง land เกาหลีอย่างเดียวนะคะ อย่างน้อยๆหน้างานคุณต้องช่วยรับผิดชอบก่อน แล้วค่อยไปไล่บี้เคลียร์กันเอง เพราะพวกคุณคงไม่ได้ติดต่อธุรกิจกันเป็นครั้งแรกหรอกนะคะ? มันไม่ใช่ปัญหาของลูกทัวร์ค่ะ ส่วนเรื่องการบริการเราไม่มีติดอะไร คุณหัวหน้าทัวร์ก็คอยช่วยเติมอาหาร และจัดที่นั่งขากลับให้ เราไม่ได้เรื่องมากว่าต้องมาบริการกันมากมาย ขอแค่ได้เที่ยวครบ สนุกสนานก็พอใจแล้ว
เราไม่ได้หวังจะเรียกร้องอะไร ให้คุณมาทำอะไรให้ เพราะมันคงไม่มีอะไรที่คุณทำได้แล้ว...
แต่เราหวังจะให้เรื่องของเราเป็นตัวอย่าง ให้คนอื่นๆ ครอบครัวคนอื่นไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แย่ๆแบบเรา
ไม่ต้องมาเลือกเจออะไรแย่ๆแบบนี้และระมัดระวังในการเลือกไว้ใจ บ.ทัวร์กันมากขึ้น
รวมถึงอยากให้ บ.ต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีบทเรียน รู้จักซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ และหัดแก้ปัญหาให้มันดีกว่านี้ค่ะ
ผิดเพียงครั้งเดียวที่คุณคิดว่าลูกทัวร์คงไม่รู้เรื่องอะไร มันอาจไม่ใช่แบบนั้นค่ะ
สมัยนี้ลูกทัวร์ไม่โง่ และโลกเราก็มีสิ่งที่เรียกว่า internet อยากทราบอยากรู้ข้อมูลอะไรก็แค่ปลายนิ้วค่ะ
กำไรจากการหลอกลวงคนได้มาแค่ไม่กี่หมื่นบาท ผลกรรมอาจทำให้คุณเสียอะไรหลายๆอย่างที่ใช้เวลาสั่งสมมันมาค่ะ...
เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น เพราะสิ่งที่เราสูญเสียมันมากกว่าเงินที่จ่ายเป็นค่าทัวร์
บางครอบครัวเค้าก็ไม่ได้มีเงินเยอะแยะ ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ แต่ก็เลือกมากับคุณ
สิ่งที่เราสูญเสียเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต และความรู้สึกของคน 30 กว่าคนค่ะ
โอกาสที่เสียไป คุณรับผิดชอบไหวไหมคะ?
คนแก่อายุ 70-80ปี จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาหลีสนุกๆพร้อมๆกับครอบครัวทุกคนได้อีกกี่ครั้งคะ? ปีนี้เราตัดสินใจไปเกาหลีกันทั้งๆที่เกินงบประมาณที่ปกติจัดกันทุกปี เพราะมีพี่ในครอบครัวพูดว่า พ่อแม่เค้าแก่มากแล้ว ปีหน้าก็ยังไม่รู้จะยังเดินไหวหรือเปล่า และพี่ชายที่เป็นมะเร็ง ก็ยังพอแข็งแรงอยู่ อยากรีบไปเที่ยวต่างประเทศกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัวตอนที่ยังมีโอกาส... โฮ.. ดราม่า.. (T^T)
เพื่อนๆของพี่ชายคนที่เค้าเป็นมะเร็งอยู่ อีกสองบ้านเค้าขอไปด้วยกับครอบครัวเราด้วย เพราะอยากจะไปเที่ยวกับพี่ เค้าจะรู้สึกอย่างไรคะ?
คนที่เค้าต้องลางาน ต้องแคนเซิลทริปที่จะไปที่อื่น เพื่อมาไปด้วยกันเพราะอยากไปเที่ยวสนุกกันพร้อมหน้ากับครอบครัว คุณชดใช้ความรู้สึกเค้าอย่างไรได้เหรอคะ?
ถ้าจะบอกว่า budget ไม่พอ ขาดทุนบ้าบออะไร ทำไมคุณไม่แจ้งตั้งแต่ตอนแรกคะ? ถ้ามันทำไม่ได้ออกไม่ได้จริงๆ เราก็พร้อมจะเข้าใจ เอาเงินคืนแล้วไปเที่ยวใกล้ๆกันเองก็ได้ ไม่เห็นต้องอยากจะได้ลูกค้าจนต้องทำให้อะไรๆมันเลวร้ายกันไปถึงขั้นนี้เลยค่ะ
ทำไมถึงต้องมาแก้ปัญหาด้วยการพยายามโกงลูกทัวร์ด้วยการทำโปรแกรมให้มันเละเน่าเฟะขนาดนี้? เพียงเพื่อจะประหยัดค่าเข้า คนละไม่กี่บาทเหรอคะ? เอาโปรแกรมเยอะๆมาขายเพื่อหลอกล่อให้ลูกค้าอยากไป แล้วค่อยไปทำให้มันเป็นไปไม่ได้เพื่อมัดมือชกตัดออกเหรอคะ?
เราต้องการคำอธิบายค่ะ และหากพวก ทัวร์ 2 บ.ที่เรากล่าวถึง จะอ้างพาดพิงว่าไปจ้างที่อื่นต่อ หรืออ้างว่าเป็นความผิดแลนด์เกาหลีต่ออีกทอด เป็นความผิดของคนอื่นอย่างไร ก็ออกมาเคลียร์ให้เราทราบพร้อมหลักฐานเลยค่ะ ว่าคุณจ้างใคร อะไรยังไง
ไม่งั้นเราก็จะถือว่า เราจ่ายเงินให้คุณ จ้างคุณพาไป ก็คุณนั่นแหละค่ะ ที่เป็นต้นเหตุของทัวร์งี่เง่านี่ค่ะ...
ส่วนทาง xxx168 เราต้องการหลักฐาน ที่บอกว่า Jin air cancel group เรา และคนไทยทั้ง 3 group ที่เดินทางวันที่ 9 เมษา เพื่อเอาที่ให้คนเกาหลีค่ะ เราอยากทราบว่าเรื่องที่คุณแจ้งๆเรามา ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือโกหกหลอกลวงคะ? หรือจริงๆคุณไม่ได้จ่ายเงินค่าตั๋วตั้งแต่แรกจนทำให้ที่หลุดอดไปกันทั้งคณะ.. เราต้องการจะส่งเรื่องไปสอบถามทาง Jin air โดยตรงด้วยค่ะว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยเหรอ? ต้องทำอย่างไรบ้างคะ?
หากเพื่อนๆท่านใดอยู่ในวงการ หรือพอทราบข้อมูล ขอรบกวนช่วยให้ข้อมูลเรื่องพวกนี่ด้วยนะคะ
อยากเรียกร้องให้มีการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่อง บ.ขายทัวร์เป็นทอดๆให้ต้องลงแจ้งด้วย ว่าความจริงไป บ.ไหนจัด ผู้บริโภคจะได้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจจองทัวร์ค่ะ T_T
ส่วนทางคุณ ลูกอมพูดแล้วหอม หัวหน้าทัวร์และเจ้าของ บ. Worst trip holiday คุณรู้เรื่องรู้ชะตากรรม group เราตั้งแต่แรกใช่ไหมคะ?
ทำไมคุณถึงทำได้ลงคะ? ทั้งๆที่ บ.ของครอบครัวเราก็เคยจ้าง บ.คุณลูกอมให้จัดทริปพนักงานให้ และยังคิดว่าจะใช้บริการในโอกาสต่อๆไป ถึงได้ไว้วางใจเลือกคุณมาทำ tour ให้เรา แต่ทำไมคุณถึงทำกับเราแบบนี้คะ? แล้วหน้างาน คุณเป็นถึงเจ้าของ บ.ที่บอกว่ามีความรักในอาชีพ มีศรัทธา และตั้งใจจะบริการลูกทัวร์ให้ดีที่สุด ทำไมคุณไม่สามารถ fight เรื่องโปรแกรมอะไรให้เราได้เลยคะ? ทำไมคุณไม่แจ้งรายละเอียดให้กับคณะเราอย่างจริงใจคะ? หรือคุณก็จงใจเตี๊ยมกันมาแต่แรกกับ บ.xxx168 อยู่แล้วคะ?
เรื่องราวแต่ละวันโดยละเอียดกำลังตามมานะคะ
เนื่องจากมันยาวมาก และมีรูป กับข้อความที่เราอาจจะจำเป็นต้องตัดออกเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบ้าง
จะรีบมาลงต่อเร็วๆเลยค่