เราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นเคื่องยนต์เมื่อไร

กระทู้คำถาม
ผมอยากทราบว่าเราควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์เมื่อระยะกี่กิโล  และชนิดของน้ำหล่อเย็นควรเป็นแบบไหนครับ เป็นรถวีออสตอนนี้วิ่งมา 45000กว่าๆ km.ครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ตามคู่มือเลยครับ

ถ้าเป็นฮอนด้า เดี๋ยวนี้น้ำยาหล่อเย็น ถ่ายครั้งแรกหลัง 10 ปี หรือ 2แสนกม.
ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ทุกๆ 2 หมื่น กม.  ฯลฯ

แต่หลายๆคนอาจจะยังเคยชินกับองค์ความรู้เดิมๆและทัศนคติแบบเก่าๆ

ปัจจุบันค่ายรถยนต์หลายๆค่าย กำลังมีเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น
เหตุผลประการหนึ่งก็เพราะ สิ่งที่ถ่ายออกมาจากรถ ม้นคือสารเคมีอันตรายหรือมลพิษ
ที่ต้องมีการจัดการให้เหมาะสม

ปกติถ้าใครเข้าศูนย์ฯ  ศูนย์มีหน้าที่ต้องดำเนินการจัดการให้ถูกฎหมายและหลักการ
ซึ่งก็มีต้นทุนสำหรับการดำเนินการตรงนี้ด้วย บางบริษัทได้มาตรฐาน ISO14001  
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรีวิวกระบวนการเหล่านี้ใหม่ ซึ่งการพัฒนาคุณภาพขิ้นส่วนและวัสดุในรถยนต์
ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นและมีรอบการเปลี่ยนถ่ายเปลี่ยนทิ้งน้อยลงก็เป็นวิธีการหนึ่ง
ที่ดีกับทั้งผู้ใช้งานและตัวบริษัทเอง

คูลแลนท์ใช้งานได้ยาวนานขึ้น จากเดิมๆที่ 4หมื่นกม.หรือ2ปี   เป็น แสนหก หรือสองแสน กม. (8ปี 10 ปี)
อายุการใช้งานเพิ่มขึ้นประมาณ 4 หรือ 5 เท่า  แต่ราคาไม่ได้เพิ่มขึ้น 4-5 เท่า นั่นหมายถึงในภาพรวมๆแล้ว
เขาได้กำไรจากกระบวนการนี้ลดลงด้วยซ้ำ แต่จะได้คืนมาในเรื่องของภาพลักษณ์ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

หลายๆคนชอบที่จะเปลี่ยนถ่าย เปลี่ยนทิ้ง  เร็วกว่ากำหนด โดยความเคยชินกับสิ่งที่เคยปฏิบัติและความเชื่อเก่าๆ
ทั้งๆที่คู่มือก็ระบุไว้อย่างชัดเจนและมีการรับประกันในเบื้องต้น 3 ปี 1แสนกม.ให้อยู่แล้ว

ถ้าการเปลี่ยนถ่าย เปลี่ยนทิ้ง เร็วขึ้น มันดีจริง  ทำไมบริษัทเขาจะไม่ระบุลงไปในคู่มือ
เพราะเขาเองก็จะได้เงินมากขึ้น ความเสี่ยงต่อความเสียหายของตัวรถและเครื่องยนต์ก็จะน้อยลงอีกด้วย
แต่เขาก็ยังไม่เอาเลย ทั้งๆที่เขามีภาระในการรับประกันอยู่นะ ก็เพราะว่ามันไม่จำเป็นนั่นเอง

การทิ้งสารเคมีอันตรายแบบที่เปลี่ยนถ่ายกันเองหรือตามอู่ทั่วไป
แล้วนำไปทิ้งถังขยะหรือทิ้งลงท่อระบายน้ำ  ล้วนเป็นมีวิธีการจัดการสารเคมีอันตรายอย่างไม่เหมาะสม
แล้วผลมันก็จะย้อนกลับมาหาพวกเราเอง ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
จะลดหรือเพิ่มมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมและลูกหลานของเรา ก็อยู่ที่ตัวของพวกเราแต่ละคนเองนั่นแหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่