ตั้งแต่หุ้นขึ้นมารอบนี้ตั้งแต่ต้นปีมา จาก 1288 ถึง 1416 ตลาดหุ้นขึ้นมาแล้วร่วม 10 % ขณะที่พอร์ตในช่วงขาขึ้นรอบแรกผมแทบจะไม่สามารถทำกำไรได้เลย แม้ว่าปัจจุบันจะสามารถสร้างผลตอบแทนทั้งพอร์ตใกล้เคียงกับตลาด คือประมาณ 9.7% โดยมาตีตื้นเอาช่วงหลังจากการมองตลาดผิดพลาด คิดว่าตลาดที่ขึ้นมาจะพาหุ้นส่วนใหญ่ตามขึ้นมาด้วย แต่ปรากฏหุ้นที่ผมถือในช่วงแรกแทบไม่ขยับ แม้ว่าจะพยายามปรับพอร์ตมาเล่นหุ้นที่ฝรั่งเล่นก็ตาม แต่ก็เป็นไปแบบระมัดระวังเพราะต้นทุนอยู่สูงกว่า และจากประสบการณ์ที่อยู่ในตลาดมาสิบกว่าปีเลยคิดว่าน่าจะสรุปความผิดพลาดเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้รุ่นใหม่ได้บ้างไม่มากก็น้อย
1) ใช้อารมณ์ในการเทรด
ผมเชื่อว่านี่เป็นปัญหาของเทรดเดอร์แทบทุกคนรวมทั้งผมด้วย ปัญหานี้เกิดจากความไม่นิ่งและอดทนไม่พอ แม้ว่าจะวางกลยุทธในการเทรดเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เมื่อสภาพตลาดดูเลวร้าย หุ้นที่เราถืออยู่ลงมาจนอยู่ระดับที่จิตใจไม่สามารถยอมรับสภาพได้ หรือสัญญาณเทคนิคบางค่าบอกให้ขาย ก็อยากที่จะคัทหุ้นทิ้ง หลายครั้งที่เมื่อคัทแล้วหุ้นกลับเด้งใส่หน้าทำให้พลาดโอกาสในการทำผลตอบแทนที่ดีได้ ลองย้อนกลับไปดู ในการเทรด 7 ใน 10 ครั้ง ที่หากเปลี่ยนจากการคัทเป็นซื้อเพิ่ม ทั้งที่พึ่งเกิดสัญญาณขาย ตรงนั้นกลับเป็นจุดซื้อที่ดีที่สุด แม้ว่าจะพยายามปรับสัญญาณให้ไวขึ้นก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้กับทุกเหตุการณ์ได้อยู่ดี
2) รีบร้อนขายเกินไป
ปัญหานี้อาจไม่ใช่เรื่องซีเรียสเท่าข้อแรก แต่ก็เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิม เมื่อหุ้นที่เราซื้อไว้ไม่นาน วิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกว่าพอใจ ในใจเรานึกอยากจะขายหุ้นออกมา ทั้งๆที่หุ้นอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลายครั้งจริงอยู่สามารถขายหุ้นได้ราคาและหุ้นก็ตกลงมาจากการขายไม่นาน แต่ก็รีรอที่จะซื้อกลับแม้บางทีก็ได้ส่วนต่างราคาที่ดีแล้วก็ตาม ทำให้ต้องไปไล่ซื้อหุ้นตัวเดิมที่ราคาสูงกว่าเดิมแทบทุกครั้ง
3) เล่นหุ้นหลายตัวเกินไป
ตรงนี้ที่จริงถือเป็นกลยุทธหนึ่งที่ใช้ได้ แต่น่าแปลกที่หลายคนบอกว่าควรเทรดหุ้นตัวเดียวเพราะจะทำให้ขายทัน แต่เนื่องจากขนาดพอร์ตของผมทำให้มีข้อจำกัดในหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งไม่สภาพคล่องไม่พอ และการซื้อไม้หนักๆในหุ้นขนาดเล็กมักจะกลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี น่าแปลกทั้งๆที่ผมมองว่าหุ้นเล็กมีการ swing สูงน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าผมสามารถทำเงินกับหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการ Swing สูงได้มากกว่า และสุดท้ายการเล่นหุ้นหลายตัวกลับกลายเป็นว่ามีแค่หุ้นอยู่ไม่กี่ตัวที่สร้างผลตอบแทนได้ดี
4)เล่นหุ้นขาลง
ตรงนี้นับเป็นเรื่องแปลกที่ผมหรือเชื่อว่ารายย่อยส่วนใหญ่ชอบเล่นหุ้นขาลง หรือหุ้นที่มีลุ้นรีบาวด์ แต่สุดท้ายหุ้นขาลงกลับสร้างผลตอบแทนที่แย่กว่าหุ้นขาขึ้น แม้ว่าใจจะปฏิเสธหรือไม่กล้าเล่น เพราะเห็นว่ามันอาจขึ้นมา 30-50 % แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายหุ้นขาขึ้นกลับยังขึ้นต่อไป ส่วนหุ้นขาลงก็ยังลงต่อไปตามโมเมนตัมที่มันมีอยู่นั่นเอง
5)เทรดบ่อยเกินไป
การเทรดหุ้นบ่อยเกินไปไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่ผมก็ยังแก้ไขไม่ได้ อาจเป็นเพราะยังติดอยู่กับสัญญาณและการมองหุ้นหลายตัวเกินไป ซึ่งกลายเป็นว่าถูกค่าโบรกกินไปไม่น้อย เมื่อมองย้อนกลับไปดูประวัติการซื้อขายหุ้นของตัวเองก็มึนไปเหมือนกันไม่คิดว่าตัวเองจะเทรดบ่อยขนาดนี้
หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยครับ ทิ้งท้ายขอฝากถึงรายย่อยมือใหม่ที่คิดรวยทางลัดจากตลาด Tfex นะครับ โดยเฉพาะบางคนไม่รู้อะไรเลย หุ้นก็แทบไม่เคยเล่นแต่ดันมาจับ Tfex เลย ท่านจะหมดตัวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว อย่างรวดเร็ว สนามแห่งนี้ไม่มีคำว่าโชคหรือลาภลอย แต่วัดกันที่ความรู้และหน้าตัก ฝรั่งไม่ได้เงินเพราะดวงดีแต่เค้าวางแผนกันเป็นระบบ เพื่อกวาดเงินพวกคุณเข้ากระเป๋าแบบไม่ให้ทันตั้งตัว ถ้ามือใหม่อย่าริอ่านมาเล่นตลาดอนุพันธ์เด็ดขาด ไม่งั้นหมดตัวแน่นอน รอบนี้เล่นกันถึงตายครับ ถ้าไม่ force sell ไม่เลิก ด้วยความเป็นห่วงจริงๆครับ รอบนี้ฝรั่งชนะขาด ตั้งแต่ปลายมีนา กินเงินกองทุนและรายย่อยผ่านตลาด Tfex มหาศาล ส่วนตลาดหุ้นรายย่อยก็แทบไม่ได้อะไรเพราะขายหมูไปก่อน ส่วนโบรกได้หุ้นเพราะซื้อสะสมตามฝรั่ง แต่ที่เจ็บหนักเลยคือรายย่อยที่ short Tfex นี่กระอักไปตามๆกัน สังเกตช่วงที่ผ่านมาบอร์ดสินธรเงียบเหงาผิดปรกติทั้งที่หุ้นขึ้น
แชร์ความผิดพลาดการเทรดของผมและฝากถึงมือใหม่
ตั้งแต่หุ้นขึ้นมารอบนี้ตั้งแต่ต้นปีมา จาก 1288 ถึง 1416 ตลาดหุ้นขึ้นมาแล้วร่วม 10 % ขณะที่พอร์ตในช่วงขาขึ้นรอบแรกผมแทบจะไม่สามารถทำกำไรได้เลย แม้ว่าปัจจุบันจะสามารถสร้างผลตอบแทนทั้งพอร์ตใกล้เคียงกับตลาด คือประมาณ 9.7% โดยมาตีตื้นเอาช่วงหลังจากการมองตลาดผิดพลาด คิดว่าตลาดที่ขึ้นมาจะพาหุ้นส่วนใหญ่ตามขึ้นมาด้วย แต่ปรากฏหุ้นที่ผมถือในช่วงแรกแทบไม่ขยับ แม้ว่าจะพยายามปรับพอร์ตมาเล่นหุ้นที่ฝรั่งเล่นก็ตาม แต่ก็เป็นไปแบบระมัดระวังเพราะต้นทุนอยู่สูงกว่า และจากประสบการณ์ที่อยู่ในตลาดมาสิบกว่าปีเลยคิดว่าน่าจะสรุปความผิดพลาดเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้รุ่นใหม่ได้บ้างไม่มากก็น้อย
1) ใช้อารมณ์ในการเทรด
ผมเชื่อว่านี่เป็นปัญหาของเทรดเดอร์แทบทุกคนรวมทั้งผมด้วย ปัญหานี้เกิดจากความไม่นิ่งและอดทนไม่พอ แม้ว่าจะวางกลยุทธในการเทรดเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เมื่อสภาพตลาดดูเลวร้าย หุ้นที่เราถืออยู่ลงมาจนอยู่ระดับที่จิตใจไม่สามารถยอมรับสภาพได้ หรือสัญญาณเทคนิคบางค่าบอกให้ขาย ก็อยากที่จะคัทหุ้นทิ้ง หลายครั้งที่เมื่อคัทแล้วหุ้นกลับเด้งใส่หน้าทำให้พลาดโอกาสในการทำผลตอบแทนที่ดีได้ ลองย้อนกลับไปดู ในการเทรด 7 ใน 10 ครั้ง ที่หากเปลี่ยนจากการคัทเป็นซื้อเพิ่ม ทั้งที่พึ่งเกิดสัญญาณขาย ตรงนั้นกลับเป็นจุดซื้อที่ดีที่สุด แม้ว่าจะพยายามปรับสัญญาณให้ไวขึ้นก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้กับทุกเหตุการณ์ได้อยู่ดี
2) รีบร้อนขายเกินไป
ปัญหานี้อาจไม่ใช่เรื่องซีเรียสเท่าข้อแรก แต่ก็เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิม เมื่อหุ้นที่เราซื้อไว้ไม่นาน วิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกว่าพอใจ ในใจเรานึกอยากจะขายหุ้นออกมา ทั้งๆที่หุ้นอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลายครั้งจริงอยู่สามารถขายหุ้นได้ราคาและหุ้นก็ตกลงมาจากการขายไม่นาน แต่ก็รีรอที่จะซื้อกลับแม้บางทีก็ได้ส่วนต่างราคาที่ดีแล้วก็ตาม ทำให้ต้องไปไล่ซื้อหุ้นตัวเดิมที่ราคาสูงกว่าเดิมแทบทุกครั้ง
3) เล่นหุ้นหลายตัวเกินไป
ตรงนี้ที่จริงถือเป็นกลยุทธหนึ่งที่ใช้ได้ แต่น่าแปลกที่หลายคนบอกว่าควรเทรดหุ้นตัวเดียวเพราะจะทำให้ขายทัน แต่เนื่องจากขนาดพอร์ตของผมทำให้มีข้อจำกัดในหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งไม่สภาพคล่องไม่พอ และการซื้อไม้หนักๆในหุ้นขนาดเล็กมักจะกลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี น่าแปลกทั้งๆที่ผมมองว่าหุ้นเล็กมีการ swing สูงน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าผมสามารถทำเงินกับหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการ Swing สูงได้มากกว่า และสุดท้ายการเล่นหุ้นหลายตัวกลับกลายเป็นว่ามีแค่หุ้นอยู่ไม่กี่ตัวที่สร้างผลตอบแทนได้ดี
4)เล่นหุ้นขาลง
ตรงนี้นับเป็นเรื่องแปลกที่ผมหรือเชื่อว่ารายย่อยส่วนใหญ่ชอบเล่นหุ้นขาลง หรือหุ้นที่มีลุ้นรีบาวด์ แต่สุดท้ายหุ้นขาลงกลับสร้างผลตอบแทนที่แย่กว่าหุ้นขาขึ้น แม้ว่าใจจะปฏิเสธหรือไม่กล้าเล่น เพราะเห็นว่ามันอาจขึ้นมา 30-50 % แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายหุ้นขาขึ้นกลับยังขึ้นต่อไป ส่วนหุ้นขาลงก็ยังลงต่อไปตามโมเมนตัมที่มันมีอยู่นั่นเอง
5)เทรดบ่อยเกินไป
การเทรดหุ้นบ่อยเกินไปไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่ผมก็ยังแก้ไขไม่ได้ อาจเป็นเพราะยังติดอยู่กับสัญญาณและการมองหุ้นหลายตัวเกินไป ซึ่งกลายเป็นว่าถูกค่าโบรกกินไปไม่น้อย เมื่อมองย้อนกลับไปดูประวัติการซื้อขายหุ้นของตัวเองก็มึนไปเหมือนกันไม่คิดว่าตัวเองจะเทรดบ่อยขนาดนี้
หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยครับ ทิ้งท้ายขอฝากถึงรายย่อยมือใหม่ที่คิดรวยทางลัดจากตลาด Tfex นะครับ โดยเฉพาะบางคนไม่รู้อะไรเลย หุ้นก็แทบไม่เคยเล่นแต่ดันมาจับ Tfex เลย ท่านจะหมดตัวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว อย่างรวดเร็ว สนามแห่งนี้ไม่มีคำว่าโชคหรือลาภลอย แต่วัดกันที่ความรู้และหน้าตัก ฝรั่งไม่ได้เงินเพราะดวงดีแต่เค้าวางแผนกันเป็นระบบ เพื่อกวาดเงินพวกคุณเข้ากระเป๋าแบบไม่ให้ทันตั้งตัว ถ้ามือใหม่อย่าริอ่านมาเล่นตลาดอนุพันธ์เด็ดขาด ไม่งั้นหมดตัวแน่นอน รอบนี้เล่นกันถึงตายครับ ถ้าไม่ force sell ไม่เลิก ด้วยความเป็นห่วงจริงๆครับ รอบนี้ฝรั่งชนะขาด ตั้งแต่ปลายมีนา กินเงินกองทุนและรายย่อยผ่านตลาด Tfex มหาศาล ส่วนตลาดหุ้นรายย่อยก็แทบไม่ได้อะไรเพราะขายหมูไปก่อน ส่วนโบรกได้หุ้นเพราะซื้อสะสมตามฝรั่ง แต่ที่เจ็บหนักเลยคือรายย่อยที่ short Tfex นี่กระอักไปตามๆกัน สังเกตช่วงที่ผ่านมาบอร์ดสินธรเงียบเหงาผิดปรกติทั้งที่หุ้นขึ้น