พวกเราเลือกไปรถไฟ เพราะราคาถูกที่สุดแล้ว จริงๆรถฟรีก็มีนะ แต่เราติดเรียนเลยได้ไปรอบไม่ฟรี ถ้าจะไประนองด้วยรถไฟ ต้องไปลงที่ชุมพรแล้วต่อรถไป เพราะรถไฟไม่ผ่านระนองนะเออ

‘รถไฟสายใต้น่ากลัวนะแก เคยเห็นข่าวมั๊ย ที่ฆ่าข่มขืนอ่ะ’

‘นี่เป็นผู้หญิง 5 คน ไปกันตอนกลางคืนด้วย น่ากลัวจะตายไป’

โอ้โหววว คำพูดของเพื่อนๆ สารภาพเลยว่ากลัวจริง ไม่เคยนั่งรถไฟตอนกลางคืนเลยยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ นี่คุยกันในทีมว่าห้ามหลับ ต้องแบ่งเวรกันหลับ ชวนเพื่อนผู้ชายไปอีก 1 คนด้วย สรุปคือไปกัน 6 คน ชาย 1 หญิง 5




เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการนัดเจอกันที่หัวลำโพงประมาณหกโมงเย็น โชคดีที่เราจองตั๋วไว้ล่วงหน้า เพราะช่วงที่เราไปเป็นช่วงหยุดวันสงกรานต์พอดี คนแน่น ตั๋วเต็ม ต้องขอบคุณเพื่อนที่เรียนเซคเดียวกันไปแบ็คแพ็คที่สุราษฎร์วันเดียวกัน นางขับรถไปซื้อตั๋วล่วงหน้า เราเลยฝากด้วย ได้นั่งขบวนเดียวกัน ที่ติดๆกันด้วย อ่ะลงรูปให้เป็นการขอบคุณนาง


รถไฟที่เรานั่งเป็นรถด่วนขบวน 85 กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ราคา 232 บาท รถออกเวลา 19.30 น. ออกตรงเวลาเป๊ะเลย เพื่อนสปอยว่ารถไฟสายใต้ของแพง เราเลยกะจะไม่ซื้ออะไรเลย ซัดของกินกันมาตั้งแต่ที่มหาวิทยาลัย แล้วมีแค่น้ำติดตัวกันไปคนละขวดใหญ่ ปรากฏว่ารอดอ่ะ ไม่ซื้ออะไรเลย ทนได้555555 บนรถไฟไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย อาจเป็นเพราะมีเพื่อนไปเยอะเลยอุ่นใจด้วย นั่งคุย นั่งเล่นกันตลอดทาง









ถึงชุมพรประมาณ ตี 5 รถไฟเลทไปประมาณครึ่งชั่วโมง โอเคถือเป็นค่าที่พวกเรายอมรับได้555555 ลืมบอกไปว่าเรามาพร้อมเพื่อนคนหนึ่ง เค้ากลับชุมพรพอดี แม่เพื่อนที่มารอรับเลยเลี้ยงโจ๊กพวกเรา โจ๊กหมูใส่ใข่ 20 บาทเอง หาไม่ได้ในกรุงเทพนะเนี่ย


คนแถวนั้นเห็นเรามาเที่ยวก็ถามจะไปไหน คือเค้าใจดีอ่ะ แบบมาบอกทางว่าเราต้องไปแบบนี้ๆ นั่งรถตรงนี้นะ ต่อรถแบบนี้ ตอนแรกเราหาข้อมูลมาจะนั่งรถตู้ชุมพร-ระนองไป (ถ้าจะขึ้นต้องไปขึ้นที่ร้าน น.นม นะคะ ถามทางคนแถวนั้นได้เลย ใจดีมาก ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ราคา 120 บาท) แต่มีเสียงเพื่อนคนนึงบอกว่า

‘เห้ย โบกรถไปกันมั้ย’

อารมณ์แบบ เอาจริงอ่อ ไม่เคยโบก กลัวด้วย ไม่กล้าโบกอ่ะ มันจะมีรถกระบะเร้อออ เค้าจะรับเรามั๊ยวะ แต่ลองหน่อยดิวะ มาทั้งที ทำอะไรทำให้สุดดิ ไม่รอช้า หลังจากทำธุระเสร็จ ร่ำลาเพื่อนและแม่เพื่อน พวกเราลุยค่ะ ประสบการณ์โบกรถคันแรก
ใจมันแบบ เห้ยแก ชั้นไม่กล้ายกมือขึ้นโบกเลย เค้าไม่รับเราหรอกมั้ง ไปนั่งรถตู้แทนมะ
เราปล่อยรถผ่านไปหลายคัน ในที่สุด กระบะคันนั้นกำลังขับมา คือเล็งไว้ตั้งแต่เห็นจอดที่สถานีรถไฟแล้ว เป็นป้ายทะเบียนเป็นระนองไง555555 เราก็ตัดสินใจโบกกกก


ฟรึ่บบบบบ คันแรก ขับมา แล้วก็เริ่มชะลอ…
จอดค่ะ!

เห้ยเค้าจอด เค้าจอดดดดดดดดดดดด เป็นคุณลุงท่าทางใจดี ไอเราก็ติดๆขัดๆ ‘สวัสดีค่ะ คือพวกหนูจะไประนองค่ะ ขอติดรถไปข้างหน้าด้วยได้มั้ยคะ ผ่านแยกปฐมพรมั๊ยคะ’ (พี่ที่ร้านโจ๊กบอกให้มาตั้งต้นโบกที่นี่เพราะรถเยอะ) ลุงยิ้มแหยๆ ไม่รู้กลัวเราหรือเปล่า ลุงหยุดคิดสักพัก ในใจพวกเรานี่คิดไปแล้วว่าคงไม่รับเรา แต่ลุงบอกผ่านๆ โอ้โหวว อารมณ์แบบดีใจมากกกก กรี๊ดกร๊าดดดดดดด แล้วเราก็กระโดดขึ้นรถก่อนจะตรงไปยังข้างหน้าต่อไป
ใจชื้นเลยแบบโบกคันแรกก็ได้เลย คันต่อไปต้องได้อีกแน่ๆ ฮุๆๆๆ มันคือประสบการณ์โบกรถครั้งแรก ไม่ลองไม่รู้จริงๆ


นี่คือฤดูร้อน เมษา ที่เค้าว่ากันว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด
เวลาหกโมงเช้า
คุณคะ เดี๋ยวนะ หมอกลงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง อากาศเย็นนนนนนนนนนนน!!! มันเป็นไปได้!!!


ถึงแยกปฐมพร เราก็ลงขอบคุณคุณลงใจดีคนนั้นกันยกใหญ่ ก่อนจะรอโบกคันต่อไป เห็นพระกำลังเดินบิณฑบาต ทั้งตัวมีแต่น้ำเปล่า เลยถวายน้ำกัน เริ่มต้นวันดีๆแบบนี้ ตอนนั้นรู้สึกอิ่มเอมใจจริงๆค่ะ


โบกรถกันต่อ มีคันแรกก็ย่อมมีคันที่ สอง สาม สี่ ห้า ตามมา แถวนี้รถกระบะเยอะมากค่ะ เราประทับใจกระบะคันนึงมาก คือเราโบกกันแล้วเค้าขับเลยไป พวกเราก็โอเค ไม่เป็นไร เตรียมโบกคันต่อไป แต่เค้าขับถอยหลังมาหา แล้วถามว่าเราจะไปไหนกัน
พวกเรานึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนใจดีขนาดนี้ ลุงคนนี้บอกว่าเค้าไปแค่กระบุรีนะ ให้ติดรถไปได้ แต่ถ้าพ้นกระบุรีไปแล้วมันจะหารถโบกง่าย เพราะต่อไปจะเป็นทางตรงอย่างเดียว เราก็กระโดดขึ้นเลย พอถึงที่หมาย ลุงก็ลงมาบอกทางเรา แถมยังแนะนำให้แวะน้ำตกปุญญบาลก่อนสิ มันอยู่ข้างทางเลย แล้วก็บอกว่า

‘แต่ก่อนลุงก็มาโบกแบบนี้แหละ มาเที่ยวคนเดียว ลุงโบกพวกสิบล้อไป ยังไงก็โชคดีนะหนู’



โบกมาอีกคันแวะน้ำตกปุญญบาลกัน อยู่ข้างทางเลย เห็นป้ายคลองเสร็จตะกวดแล้วระแวงนิดๆ นี่พวกเราจะเสร็จมันมั๊ย555555 บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา สงสัยยังเช้ากันอยู่ เสียดายที่มาช่วงหน้าร้อน น้ำเลยน้อยไปหน่อย ถ้ามีน้ำคงจะกระโดดไปเล่นแล้วแน่ๆ



เราแวะเข้าห้องน้ำสักแปบนึงก็โบกรถกันต่อ คันนี้ไปถึงหน้า ‘อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว’ อยู่ในอำเภอเมือง ถึงตอนสิบโมงครึ่ง และนี่เป็นที่ๆเราจะนอนกันคืนนี้ค่ะ พวกเราจองที่พักล่วงหน้าไว้ในเน๊ต บ้านพัดลม 1 หลัง ราคา 600 บาท แนะนำให้จองล่วงหน้าในเน็ตก่อนนะคะ เพราะจนท.อุทยานบอกว่าจองในเน๊ตจะถูกกว่ามาจองที่นี่เลย เพราะหลังนึงราคา 1,500 บาท นะจ๊ะ โอ้โหวววว ต่างกันมากกว่าครึ่งอีกกกก!!

พวกเราเดินกันเข้าอุทยาน ทางก็ไม่ได้ไกลมากค่ะ เดินได้ แต่ชันเอาเรื่อง เดินหอบกันอยู่ค่ะ นี่ขนาดวัยรุ่นอายุ 20 นะเนี่ย 55555
มาถึงที่พักชื่อ ‘โกมาซุม 2’ แบบ เห้ยมันดีมากกกกกก ผิดคาดมาก มันเป็นห้องแอร์ มี 3 เตียง นอนได้ 6 คน มีเคเบิลทีวี มีตู้เย็น มีห้องซอยแยกด้วย แบบสวรรค์เลยยยยยย เห็นห้องแล้วทิ้งตัวลงนอนกันทันที รู้เลยว่าทำไมราคาจริงๆคือ 1,500 บาท


แว๊บไปซื้อข้าวเที่ยงที่ร้านสวัสดิการ มื้อนี้คนละ 40 บาท อร่อยดีค่ะ ^^


ถามที่เที่ยวพี่ที่ร้านสวัสดิการ จริงๆมีในใจแล้วค่ะ อยากไปบ่อน้ำร้อน กับภูเขาหญ้า พี่เค้าแนะนำว่าให้ออกไปตอนเย็นๆ เดี๋ยวจะเป็นลมเอา แถมแนะนำให้ไปเดินตลาดหงาวกันด้วยตอนประมาณทุ่มนึง เราเลยตกลงกันว่าจะออกจากที่นี่ประมาณบ่ายสามครึ่ง ไปบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง ก็เลยนอนเอาแรงกัน เพราะบนรถไฟแทบไม่ได้นอนเลย5555555
เราก็ออกมาเดินเล่นบ้าง อากาศค่อนข้างร้อน บรรยากาศเงียบเหงามาก น้ำตกหงาว เงียบหงาววววว สมชื่อ55555 เป็นเพราะหน้าร้อนด้วยค่ะ น้ำตกหงาวจะไม่มีน้ำ คนปกติเค้าไม่มาเที่ยวช่วงนี้กัน5555555 เราก็รู้มาก่อนนะคะ ถามเพื่อนถามพี่ที่เป็นคนระนองแล้ว แต่ไม่เป็นไร ที่พักอุทยานถูกค่ะ ยอมมม