รีวิวนี่เกิดขึ้นจากความสงสัยว่ามันจริงไหม ที่ในเว็บหรือบทความรถเชียร์กันโครมๆว่าล้อแม็กเบาๆนั้นดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ตามอ่านกระทู้และคอมเม้นต์ต่างๆหลายที่ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วย และคนที่ไม่เห็นด้วย ด้วยความสงสัยและอยากพิสูจน์ว่ามันจริงหรือไม่จริง จึงพยายามตระเวณหาล้อแม็กดีๆสักชุดมาลองใช้ โดยมีข้อแม้ว่า
1. ล้อที่จะเอามาใส่นั้นจะต้องเบากว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
2. หน้าตาผมไม่เน้นขอให้ใส่แล้วไม่ขี้เหร่กว่าล้อเดิมก็พอ (แต่ถ้าสวยได้ก็ดีนะ)
3. เรื่องนี้สำคัญมาก ต้องแข็งแรงทนทาน และปลอดภัย ผมจึงไม่เลือกล้อก้อป ล้อปลอมเด็ดขาด
4. ข้อแม้สุดท้ายของผมคือ จะต้องมีราคาที่ผมเอื้อมถึง ซึ่งผมตั้งงบไว้หมื่นกว่าๆครับ (ขอบ 15")
ด้วยข้อแม้ดังกล่าว ผมจึงตระเวณหาเบอร์ร้านแม็กโทรสอบถามราคา รวมถึงเพจต่างๆที่ประกาศขายล้อแม็กมือสอง จากการหาข้อมูลคร่าวๆ ก็พอได้ข้อมูลว่าในราคาที่ผมพอจ่ายไหวนี้ จะได้แม็กยี่ห้อ Lenso, Advanti, Enkei Tuning, และ Enkei Racing มือสองซึ่งอาจจะไม่ได้ลายฮิต RPF1 เพราะลายฮิตจะแพง แม้เป็นมือสองก็ตกสองหมื่นกว่าเข้าไปแล้ว เมื่อผมได้ยี่ห้อมาคร่าวๆ ผมก็เดินทางไปตามร้านต่างๆที่มียี่ห้อเหล่านี้ขาย ถือกิโลไปลองชั่งน้ำหนักเองกับมือ ตรงนี้ผมต้องขอขอบพระคุณ ร้าน T ร้านใหญ่ย่านติวานนท์ ร้าน N ร้านใหญ่ย่านลาดกระบัง และร้าน H ร้านย่านห้วยขวางที่รถซิ่งนิยมมาใช้บริการ ณ ที่นี้ด้วยครับที่ได้ข้อมูลต่างๆเหล่านี้มาเพราะทางร้านอำนวยความสะดวกให้ ยิ่งร้าน T นี่นะ พี่พนักงานร้านมาช่วยผมยกช่วยผมจับชั่งกิโลด้วยมือเขาเองเลย บริการดีฝุดๆเลย กราบบบบบบ.... (รึว่าพี่เขาอาจจะกลัวผมไปทำเซ่อซ่าจนของเค้าพังก็ไม่รู้นะ ><')
สำหรับรีวิวชิ้นนี้ขอตัดเรื่องความสวยงามของล้อแม็กออกไปนะครับ เรื่องความสวยเป็นเรื่องที่แต่ละคนชอบ เถียงกันไป 3 วัน 3 คืนก็คงจะจบกันยาก และในการเปลี่ยนล้อแม็กครั้งนี้ ผมจะเปลี่ยนแต่ล้อแม็ก โดยใช้ยางชุดเดิมที่เคยใส่กับล้อเดิมถอดเอามาใส่ล้อแม็กใหม่เลยครับ
จากการทดสอบชั่งน้ำหนักเองกะมือ ผลออกมาได้น้ำหนักคร่าวๆดังนี้ครับ (กิโลผม Made in China ครับ)
1. ก่อนอื่นล้อเดิมผมครับ เป็นล้ออัลติสหน้าหมู 1.6 ปี 2004 หนัก 8.5 กก. (กว้าง 6")
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. Lenso Project D Spec B หนัก 5.4 กก. ตัวนี้กว้าง 6.5" ครับ ล้อแม็กวงอื่นๆส่วนใหญ่จะกว้าง 7"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. Lenso Project D Spec K หนัก 6.9 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. Lenso D1CS หนัก 6.5 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. Lenso D1SF หนัก 5.7 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. Lenso Project D Spec F หนัก 6.8 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7. ตัวชูโรงของ Lenso ครับ เบาหวิว Lenso Venom Zero หนัก 5.4 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
8. อีกยี่ห้อนึงครับ Yachiyoda จำรุ่นไม่ได้ หนัก 7.1 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
9. และแม็กยอดฮิตครับ Enkei RPF1!!!!! วงนี้หนักเพียง 4.4 กก. เท่านั้น!!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
10. สุดท้าย พระเอกของงานนี้ครับ ล้อที่ผมเลือก Advanti N718 หนัก 5.1 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เกี่ยวกับล้อ Advanti
หลังจากที่มีหลายๆคอมเม้นต์แนะนำล้อ Advanti มา ผมก็พยายามหาข้อมูลของยี่ห้อนี้ครับ ทั้งหาเองในเน็ต และสอบถามจากร้าน ได้ความว่า Advanti เป็นยี่ห้อในเครือ Enkei Tuning มาเลยเซีย ซึ่งโรงงานที่ผลิต Advanti มีอยู่ 5 แห่งคือมาเลย์ ไต้หวัน และในจีน 3 แห่ง ซึ่งวงที่ผมได้มานี้ทางร้านบอกว่าผลิตในซูโจว (จีนนี่หว่า ><'') แต่มาตรฐานเดียวกับ Enkei Tuning มาเลย์ ผมจริงโอเคกับความน่าเชื่อถือ แล้วยังมีเสียงร่ำลือจากในเน็ตมาจากผู้ที่ใช้เองยืนยันว่ามันทนจริง ผมเลยสบายใจขึ้นอีกนิดครับ
ความรู้สึกด้านอัตราเร่ง
ล้อเดิมผมหนัก 8.5 กก. ล้อใหม่หนัก 5.1 กก. น้ำหนักที่หายไปคือ 3.4 กก. ต่อล้อนะครับ หลังเปลี่ยนล้อเสร็จเรียบร้อย ใส่เกียร์ถอยออกจากร้าน ผมก็รู้สึกได้ว่ามันเบาจริงอะไรจริง รู้สึกว่ากดคันเร่งเท่าเดิมแต่รถพุ่งกว่าเดิมจนรู้สึกได้ (รถผมเป็นเกียร์ธรรมดา) หลังจากนั้นขับกลับบ้านมาแบบรถติดๆ ใช้ความเร็วได้ไม่สูงนักตลอดทาง 60-80 เป็นช่วงที่เร็วเต็มที่แล้ว ก็ยังรู้สึกได้ชัดเจนว่ากดคันเร่งเท่าเดิมรถมันพุ่งกว่าเดิม สะพานเกือกม้าสะพานเดิมที่เคยขึ้นด้วยเกียร์ 4 แล้วกดเท่านี้จะรักษาความเร็วให้เท่าเดิมไม่ลดลง ครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าความเร็วมันค่อยๆไต่ขึ้นอย่างช้าๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับอัตราเร่งนี้ ผมคิดว่าไม่มากครับ 3%-5% เห็นจะได้
ความรู้สึกด้านการควบคุมบังคับรถ
ความรู้สึกคือล้อมันเบาลง พวงมาลัยก็เบาลง ทำให้รถหน้าไวขึ้นครับ ตรงนี้จะว่าชอบก็ไม่เชิงเท่าไรเพราะรู้สึกว่ายังไม่ค่อยชิน และในเมื่อพวงมาลัยมันเบาไป เวลาจะเลี้ยวก็หมุนง่ายไป ตอนขับไวๆคงต้องมีสติมากขึ้น อาจจะต้องเกร็งหรือใช้แรงบังคับมากขึ้นหรือเปล่ายังไม่ได้ลองครับ โค้งเดิมๆที่ผมชอบเล่นประจำของผมคือสะพานเกือกม้าเส้นวิภาที่กลับรถไปทางเกษตร และสะพานข้าม 5 แยกลาดพร้าวที่ขึ้นจากทางวิภาไปลงทางไปจตุจักร ผมใช้ความเร็วเท่าๆเดิมในการเข้าโค้งปรากฏว่าอาการหน้าดื้อลดลงชัดเจนมากๆครับ เมื่อผมหักพวงมาลัยเท่าเดิมล้อเดิมจะมีอาการแฉลบนิดๆเวลาเข้าโค้งลึกๆความเร็วไม่มาก ส่วนล้อใหม่นี้หักทางไหนไปทางนั้นเลยครับ ความรู้สึกยังไม่ชินเลยรู้สึกว่ามันเลี้ยวดีเกินไปจนแทบจะพุ่งเข้าไปในโค้งซะอย่างนั้น และบางทีผมก็รู้สึกว่าเวลาขับด้วยความเร็วปานกลาง ล้อมันเหมือนเบาๆลอยๆ หน้าไวๆ ผิดกับล้อเดิมที่ถึงแม้มันจะหนัก แต่ความรู้สึกในการขับรู้สึกว่ามันแน่น และ stable กว่า ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรขออนุญาติใช้ภาษาอังกฤษละกันครับ
ความรู้สึกเกี่ยวกับความนุ่มนวล
เมื่อขับผ่านถนนขรุขระ เช่น รอยปะผุ ล้อเดิมที่หนักๆจะดังตึงตังกว่า แต่จะดังแค่ครั้งเดียวแรงๆ ส่วนล้อใหม่ที่เบากว่านี้ ความตึงตังจะน้อยลงมาก แรงสะเทือนที่เข้ามาในห้องโดยสารก็น้อยกว่า แต่ความรู้สึกเหมือนสัมผัสได้ชัดเจนว่าล้อเราเหยียบลงไปบนสภาพหลุมอย่างไร เหมือนล้อมันแนบชิดถนนมากขึ้น เพราะฉะนั้นจากที่ล้อเดิมจะดังมากๆ "ตึงงงงงง...." เดียว ส่วนล้อใหม่เบาๆจะดังตึ๊บๆ 2-3 ครั้งต่อ 1 หลุมที่เจอครับ (แต่ถ้าขับให้ไวกว่าเดิมก็ตึงงงงงเหมือนกันนะ) ตรงนี้ไม่รู้จะเรียกว่าดีกว่าดีไหม แม้แต่ถนนเส้นเดิมที่เคยขับแล้วรู้สึกว่าเรียบๆ ไม่ค่อยขรุขระ ล้อใหม่ขับถนนเส้นเดียวกันนี้กลับรูสึกว่าขรุขระนิดๆ อาจจะเป็นเพราะผมยังไม่ชินครับ
ความรู้สึกเกี่ยวกับระยะเบรค
รู้สึกเบรคดีขึ้นกว่าเดิมแต่ยังไม่รู้สึกชัดเจนเหมือนตอนกดคันเร่งครับ การเบรคที่ดีขึ้นนี้รู้สึกพอๆกับเอาชายฉกรรจ์ลงจากรถไปคนสองคน ยังไม่ดีถึงขนาดเทียบกับการอัพเกรดผ้าเบรคได้ครับ แต่ผมได้ทดสอบเบรคแรงปานกลางแบบหัวทิ่มอยู่สองสามครั้งรู้สึกว่า ABS ยังไม่ทำงาน เดาว่ายังสามารถกดเบรคได้แรงกว่านี้อีกนิดครับ
ผลทดสอบอัตราเร่ง
ต่อไปจะเป็นผลที่วัดได้จริง ผลออกมาเป็นตัวเลข ไม่ได้ใช้แค่ความรู้สึกเหมือนที่เขียนไว้ด้านบนนะครับ สามารถรับชมได้ตามคลิปด้านล่างเลยครับ (ผมใช้เครื่อง 2zz-ge เครื่องตัวเดียวกับที่อยู่ใน Celica ครับ)
0-100 = 10. 32 -> 9.83 (เร็วขึ้น 0.7 วินาที หรือ 6.7%)
0-180 = 30. 03 -> 28.49 (เร็วขึ้น 1.93 วินาที หรือ 6.3%)
ผลวัดแรงม้าและแรงบิด
สีน้ำเงินคือล้อเดิม สีแดงคือล้อใหม่ครับ จากกราฟจะเห็นได้ว่าแรงบิดลดลง แรงม้าเพิ่มขึ้นครับ คนขับเทสคนละคนกัน ไม่รู้ว่าผลจะคลาดเคลื่อนรึเปล่า
ผลทดสอบอัตราการกินน้ำมัน
ผลการทดลอง อัตราการสิ้นเปลือง ระยะทาง 122 กม. ถนนโล่งๆ ขับความเร็ว 100 ตลอดทาง เปลี่ยนเกียร์ที่รอบ 3000 ทุกเกียร์ ล้อเดิมทำได้ 15.56 กม./ลิตร ส่วนล้อแม็กทำได้ 15.17 กม./ลิตร ผมเติมปั๊มเดิมทั้งก่อนขับและหลังขับเสร็จ ทั้งล้อเก่าล้อใหม่ครับ ผลที่ได้งงมาก ล้อเดิมประหยัดกว่าล้อแม็กเสียอีก สำหรับการวิ่งยาวๆ และแทบไม่มีการแตะเบรคเลย อาจจะมีการคลาดเคลื่อนก็เป็นได้ ถึงแม้จะพยายามควบคุมปัจจัยทั้งการขับขี่ การเติมให้เป๊ะๆแล้ว
สุดท้ายนี้ รีวิวด้านบนเป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งที่อาจไม่ได้ตรงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ไปเสียทั้งหมด สาเหตุที่ทำให้ผมเริ่มต้นเขียนรีวิวแชร์ข้อมูลให้สาธารณชนได้รับรู้ เหตุผลแรกเริ่มเดิมทีมาจากที่ตอนที่ผมหาข้อมูล มันหายากมาก มีคนพูดถึงเรื่องที่ผมอยากรู้น้อยมาก ถึงจะมีก็ไม่รู้ว่าจะเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ไหม ไม่มีการทดสอบออกมาเป็นตัวเลขให้เห็นกันชัดๆ ในเมื่อผมมีโอกาสผมจึงอยากแชร์ในสิ่งที่ผมทำมาให้คนที่กำลังหาข้อมูล ได้ประโยชน์จากส่วนนี้ครับ จะคุ้มค่าหรือไม่กับการที่ท่านคิดจะเปลี่ยนล้อแม็กสักชุด คงต้องเริ่มคิดว่าอยากได้อะไรจากล้อครับ ความเบา อัตราเร่ง การควบคุมรถที่ดีขึ้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือความสวยงาม แต่ละคนก็จะให้น้ำหนักกับสิ่งต่างๆเหล่านี้มากน้อยแตกต่างกันไปครับ เพราะฉะนั้นสำหรับคนนึงอาจจะบอกว่าชุดนี้คุ้ม แต่กับอีกคนอาจจะคิดว่าไม่คุ้มสำหรับเค้าก็ได้
สุดท้ายอีกครั้ง ส่วนตัวผมเองเป็นเพียงตาสีตาสาธรรมดา ไม่ได้ขับรถเก่ง ประสบการณ์การขับรถยังไม่ถึง 5 ปีด้วยซ้ำ ไม่ได้ทำงานในสายยานยนต์ ไม่ได้จบวิศวกรรม ผมเข้าใจว่ามีคนที่เก่งกว่าผมและรู้เยอะกว่าผมมากมาย ถ้ามีส่วนหนึ่งส่วนใดที่ผมผิดพลาดไป หรือไปขัดกับหลักการอะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หวังเพียงว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยละกันครับ
ขอขอบคุณ "
ร้านติวานนท์ยางยนต์" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเก็บข้อมูลสำหรับการทดลองครั้งนี้ครับ ..
Before:
After:
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิว ความคุ้มค่าของการเปลี่ยน "ล้อแม็ก"
1. ล้อที่จะเอามาใส่นั้นจะต้องเบากว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
2. หน้าตาผมไม่เน้นขอให้ใส่แล้วไม่ขี้เหร่กว่าล้อเดิมก็พอ (แต่ถ้าสวยได้ก็ดีนะ)
3. เรื่องนี้สำคัญมาก ต้องแข็งแรงทนทาน และปลอดภัย ผมจึงไม่เลือกล้อก้อป ล้อปลอมเด็ดขาด
4. ข้อแม้สุดท้ายของผมคือ จะต้องมีราคาที่ผมเอื้อมถึง ซึ่งผมตั้งงบไว้หมื่นกว่าๆครับ (ขอบ 15")
ด้วยข้อแม้ดังกล่าว ผมจึงตระเวณหาเบอร์ร้านแม็กโทรสอบถามราคา รวมถึงเพจต่างๆที่ประกาศขายล้อแม็กมือสอง จากการหาข้อมูลคร่าวๆ ก็พอได้ข้อมูลว่าในราคาที่ผมพอจ่ายไหวนี้ จะได้แม็กยี่ห้อ Lenso, Advanti, Enkei Tuning, และ Enkei Racing มือสองซึ่งอาจจะไม่ได้ลายฮิต RPF1 เพราะลายฮิตจะแพง แม้เป็นมือสองก็ตกสองหมื่นกว่าเข้าไปแล้ว เมื่อผมได้ยี่ห้อมาคร่าวๆ ผมก็เดินทางไปตามร้านต่างๆที่มียี่ห้อเหล่านี้ขาย ถือกิโลไปลองชั่งน้ำหนักเองกับมือ ตรงนี้ผมต้องขอขอบพระคุณ ร้าน T ร้านใหญ่ย่านติวานนท์ ร้าน N ร้านใหญ่ย่านลาดกระบัง และร้าน H ร้านย่านห้วยขวางที่รถซิ่งนิยมมาใช้บริการ ณ ที่นี้ด้วยครับที่ได้ข้อมูลต่างๆเหล่านี้มาเพราะทางร้านอำนวยความสะดวกให้ ยิ่งร้าน T นี่นะ พี่พนักงานร้านมาช่วยผมยกช่วยผมจับชั่งกิโลด้วยมือเขาเองเลย บริการดีฝุดๆเลย กราบบบบบบ.... (รึว่าพี่เขาอาจจะกลัวผมไปทำเซ่อซ่าจนของเค้าพังก็ไม่รู้นะ ><')
สำหรับรีวิวชิ้นนี้ขอตัดเรื่องความสวยงามของล้อแม็กออกไปนะครับ เรื่องความสวยเป็นเรื่องที่แต่ละคนชอบ เถียงกันไป 3 วัน 3 คืนก็คงจะจบกันยาก และในการเปลี่ยนล้อแม็กครั้งนี้ ผมจะเปลี่ยนแต่ล้อแม็ก โดยใช้ยางชุดเดิมที่เคยใส่กับล้อเดิมถอดเอามาใส่ล้อแม็กใหม่เลยครับ
จากการทดสอบชั่งน้ำหนักเองกะมือ ผลออกมาได้น้ำหนักคร่าวๆดังนี้ครับ (กิโลผม Made in China ครับ)
1. ก่อนอื่นล้อเดิมผมครับ เป็นล้ออัลติสหน้าหมู 1.6 ปี 2004 หนัก 8.5 กก. (กว้าง 6")
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. Lenso Project D Spec B หนัก 5.4 กก. ตัวนี้กว้าง 6.5" ครับ ล้อแม็กวงอื่นๆส่วนใหญ่จะกว้าง 7"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. Lenso Project D Spec K หนัก 6.9 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. Lenso D1CS หนัก 6.5 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. Lenso D1SF หนัก 5.7 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. Lenso Project D Spec F หนัก 6.8 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7. ตัวชูโรงของ Lenso ครับ เบาหวิว Lenso Venom Zero หนัก 5.4 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
8. อีกยี่ห้อนึงครับ Yachiyoda จำรุ่นไม่ได้ หนัก 7.1 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
9. และแม็กยอดฮิตครับ Enkei RPF1!!!!! วงนี้หนักเพียง 4.4 กก. เท่านั้น!!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
10. สุดท้าย พระเอกของงานนี้ครับ ล้อที่ผมเลือก Advanti N718 หนัก 5.1 กก.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เกี่ยวกับล้อ Advanti
หลังจากที่มีหลายๆคอมเม้นต์แนะนำล้อ Advanti มา ผมก็พยายามหาข้อมูลของยี่ห้อนี้ครับ ทั้งหาเองในเน็ต และสอบถามจากร้าน ได้ความว่า Advanti เป็นยี่ห้อในเครือ Enkei Tuning มาเลยเซีย ซึ่งโรงงานที่ผลิต Advanti มีอยู่ 5 แห่งคือมาเลย์ ไต้หวัน และในจีน 3 แห่ง ซึ่งวงที่ผมได้มานี้ทางร้านบอกว่าผลิตในซูโจว (จีนนี่หว่า ><'') แต่มาตรฐานเดียวกับ Enkei Tuning มาเลย์ ผมจริงโอเคกับความน่าเชื่อถือ แล้วยังมีเสียงร่ำลือจากในเน็ตมาจากผู้ที่ใช้เองยืนยันว่ามันทนจริง ผมเลยสบายใจขึ้นอีกนิดครับ
ความรู้สึกด้านอัตราเร่ง
ล้อเดิมผมหนัก 8.5 กก. ล้อใหม่หนัก 5.1 กก. น้ำหนักที่หายไปคือ 3.4 กก. ต่อล้อนะครับ หลังเปลี่ยนล้อเสร็จเรียบร้อย ใส่เกียร์ถอยออกจากร้าน ผมก็รู้สึกได้ว่ามันเบาจริงอะไรจริง รู้สึกว่ากดคันเร่งเท่าเดิมแต่รถพุ่งกว่าเดิมจนรู้สึกได้ (รถผมเป็นเกียร์ธรรมดา) หลังจากนั้นขับกลับบ้านมาแบบรถติดๆ ใช้ความเร็วได้ไม่สูงนักตลอดทาง 60-80 เป็นช่วงที่เร็วเต็มที่แล้ว ก็ยังรู้สึกได้ชัดเจนว่ากดคันเร่งเท่าเดิมรถมันพุ่งกว่าเดิม สะพานเกือกม้าสะพานเดิมที่เคยขึ้นด้วยเกียร์ 4 แล้วกดเท่านี้จะรักษาความเร็วให้เท่าเดิมไม่ลดลง ครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าความเร็วมันค่อยๆไต่ขึ้นอย่างช้าๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับอัตราเร่งนี้ ผมคิดว่าไม่มากครับ 3%-5% เห็นจะได้
ความรู้สึกด้านการควบคุมบังคับรถ
ความรู้สึกคือล้อมันเบาลง พวงมาลัยก็เบาลง ทำให้รถหน้าไวขึ้นครับ ตรงนี้จะว่าชอบก็ไม่เชิงเท่าไรเพราะรู้สึกว่ายังไม่ค่อยชิน และในเมื่อพวงมาลัยมันเบาไป เวลาจะเลี้ยวก็หมุนง่ายไป ตอนขับไวๆคงต้องมีสติมากขึ้น อาจจะต้องเกร็งหรือใช้แรงบังคับมากขึ้นหรือเปล่ายังไม่ได้ลองครับ โค้งเดิมๆที่ผมชอบเล่นประจำของผมคือสะพานเกือกม้าเส้นวิภาที่กลับรถไปทางเกษตร และสะพานข้าม 5 แยกลาดพร้าวที่ขึ้นจากทางวิภาไปลงทางไปจตุจักร ผมใช้ความเร็วเท่าๆเดิมในการเข้าโค้งปรากฏว่าอาการหน้าดื้อลดลงชัดเจนมากๆครับ เมื่อผมหักพวงมาลัยเท่าเดิมล้อเดิมจะมีอาการแฉลบนิดๆเวลาเข้าโค้งลึกๆความเร็วไม่มาก ส่วนล้อใหม่นี้หักทางไหนไปทางนั้นเลยครับ ความรู้สึกยังไม่ชินเลยรู้สึกว่ามันเลี้ยวดีเกินไปจนแทบจะพุ่งเข้าไปในโค้งซะอย่างนั้น และบางทีผมก็รู้สึกว่าเวลาขับด้วยความเร็วปานกลาง ล้อมันเหมือนเบาๆลอยๆ หน้าไวๆ ผิดกับล้อเดิมที่ถึงแม้มันจะหนัก แต่ความรู้สึกในการขับรู้สึกว่ามันแน่น และ stable กว่า ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรขออนุญาติใช้ภาษาอังกฤษละกันครับ
ความรู้สึกเกี่ยวกับความนุ่มนวล
เมื่อขับผ่านถนนขรุขระ เช่น รอยปะผุ ล้อเดิมที่หนักๆจะดังตึงตังกว่า แต่จะดังแค่ครั้งเดียวแรงๆ ส่วนล้อใหม่ที่เบากว่านี้ ความตึงตังจะน้อยลงมาก แรงสะเทือนที่เข้ามาในห้องโดยสารก็น้อยกว่า แต่ความรู้สึกเหมือนสัมผัสได้ชัดเจนว่าล้อเราเหยียบลงไปบนสภาพหลุมอย่างไร เหมือนล้อมันแนบชิดถนนมากขึ้น เพราะฉะนั้นจากที่ล้อเดิมจะดังมากๆ "ตึงงงงงง...." เดียว ส่วนล้อใหม่เบาๆจะดังตึ๊บๆ 2-3 ครั้งต่อ 1 หลุมที่เจอครับ (แต่ถ้าขับให้ไวกว่าเดิมก็ตึงงงงงเหมือนกันนะ) ตรงนี้ไม่รู้จะเรียกว่าดีกว่าดีไหม แม้แต่ถนนเส้นเดิมที่เคยขับแล้วรู้สึกว่าเรียบๆ ไม่ค่อยขรุขระ ล้อใหม่ขับถนนเส้นเดียวกันนี้กลับรูสึกว่าขรุขระนิดๆ อาจจะเป็นเพราะผมยังไม่ชินครับ
ความรู้สึกเกี่ยวกับระยะเบรค
รู้สึกเบรคดีขึ้นกว่าเดิมแต่ยังไม่รู้สึกชัดเจนเหมือนตอนกดคันเร่งครับ การเบรคที่ดีขึ้นนี้รู้สึกพอๆกับเอาชายฉกรรจ์ลงจากรถไปคนสองคน ยังไม่ดีถึงขนาดเทียบกับการอัพเกรดผ้าเบรคได้ครับ แต่ผมได้ทดสอบเบรคแรงปานกลางแบบหัวทิ่มอยู่สองสามครั้งรู้สึกว่า ABS ยังไม่ทำงาน เดาว่ายังสามารถกดเบรคได้แรงกว่านี้อีกนิดครับ
ผลทดสอบอัตราเร่ง
ต่อไปจะเป็นผลที่วัดได้จริง ผลออกมาเป็นตัวเลข ไม่ได้ใช้แค่ความรู้สึกเหมือนที่เขียนไว้ด้านบนนะครับ สามารถรับชมได้ตามคลิปด้านล่างเลยครับ (ผมใช้เครื่อง 2zz-ge เครื่องตัวเดียวกับที่อยู่ใน Celica ครับ)
0-100 = 10. 32 -> 9.83 (เร็วขึ้น 0.7 วินาที หรือ 6.7%)
0-180 = 30. 03 -> 28.49 (เร็วขึ้น 1.93 วินาที หรือ 6.3%)
ผลวัดแรงม้าและแรงบิด
สีน้ำเงินคือล้อเดิม สีแดงคือล้อใหม่ครับ จากกราฟจะเห็นได้ว่าแรงบิดลดลง แรงม้าเพิ่มขึ้นครับ คนขับเทสคนละคนกัน ไม่รู้ว่าผลจะคลาดเคลื่อนรึเปล่า
ผลทดสอบอัตราการกินน้ำมัน
ผลการทดลอง อัตราการสิ้นเปลือง ระยะทาง 122 กม. ถนนโล่งๆ ขับความเร็ว 100 ตลอดทาง เปลี่ยนเกียร์ที่รอบ 3000 ทุกเกียร์ ล้อเดิมทำได้ 15.56 กม./ลิตร ส่วนล้อแม็กทำได้ 15.17 กม./ลิตร ผมเติมปั๊มเดิมทั้งก่อนขับและหลังขับเสร็จ ทั้งล้อเก่าล้อใหม่ครับ ผลที่ได้งงมาก ล้อเดิมประหยัดกว่าล้อแม็กเสียอีก สำหรับการวิ่งยาวๆ และแทบไม่มีการแตะเบรคเลย อาจจะมีการคลาดเคลื่อนก็เป็นได้ ถึงแม้จะพยายามควบคุมปัจจัยทั้งการขับขี่ การเติมให้เป๊ะๆแล้ว
สุดท้ายนี้ รีวิวด้านบนเป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งที่อาจไม่ได้ตรงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ไปเสียทั้งหมด สาเหตุที่ทำให้ผมเริ่มต้นเขียนรีวิวแชร์ข้อมูลให้สาธารณชนได้รับรู้ เหตุผลแรกเริ่มเดิมทีมาจากที่ตอนที่ผมหาข้อมูล มันหายากมาก มีคนพูดถึงเรื่องที่ผมอยากรู้น้อยมาก ถึงจะมีก็ไม่รู้ว่าจะเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ไหม ไม่มีการทดสอบออกมาเป็นตัวเลขให้เห็นกันชัดๆ ในเมื่อผมมีโอกาสผมจึงอยากแชร์ในสิ่งที่ผมทำมาให้คนที่กำลังหาข้อมูล ได้ประโยชน์จากส่วนนี้ครับ จะคุ้มค่าหรือไม่กับการที่ท่านคิดจะเปลี่ยนล้อแม็กสักชุด คงต้องเริ่มคิดว่าอยากได้อะไรจากล้อครับ ความเบา อัตราเร่ง การควบคุมรถที่ดีขึ้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือความสวยงาม แต่ละคนก็จะให้น้ำหนักกับสิ่งต่างๆเหล่านี้มากน้อยแตกต่างกันไปครับ เพราะฉะนั้นสำหรับคนนึงอาจจะบอกว่าชุดนี้คุ้ม แต่กับอีกคนอาจจะคิดว่าไม่คุ้มสำหรับเค้าก็ได้
สุดท้ายอีกครั้ง ส่วนตัวผมเองเป็นเพียงตาสีตาสาธรรมดา ไม่ได้ขับรถเก่ง ประสบการณ์การขับรถยังไม่ถึง 5 ปีด้วยซ้ำ ไม่ได้ทำงานในสายยานยนต์ ไม่ได้จบวิศวกรรม ผมเข้าใจว่ามีคนที่เก่งกว่าผมและรู้เยอะกว่าผมมากมาย ถ้ามีส่วนหนึ่งส่วนใดที่ผมผิดพลาดไป หรือไปขัดกับหลักการอะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หวังเพียงว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยละกันครับ
ขอขอบคุณ "ร้านติวานนท์ยางยนต์" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเก็บข้อมูลสำหรับการทดลองครั้งนี้ครับ ..
Before:
After:
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/