เป็นการขี่ในวันนี้วันที่ 18 ผ่านมาหมาดๆ ครับ เลยอยากมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก่อนจะลืม

Stage 1 เชียงใหม่-ลำปาง
ผมออกตี 4 ครับ เพราะเคยขี่มาแล้วครั้งหนึ่ง อุบล-เชียงใหม่ ถ้าไม่รีบออกแต่เช้ามันจะถึงมืด
ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ไปลำปาง ขี่ง่ายครับ เช้ามืดไม่ค่อยมีรถ แต่ผมก็ขี่ไม่เร็วหรอก มันมืด
แวะเติมน้ำมันที่ลำปาง 250 บาท

Stage 2 ลำปาง-เด่นชัย
ถนนแถวๆ กาแฟถิ่นไทยอะไรนั่น ยังไม่เสร็จเลย ใช้เวลาทำนานมาก
ฟ้าเริ่มสางก่อนถึงเด่นชัย ปกติด่านจะเยอะมากแถวนี้ แต่ไม่มีใครตรวจอะไรเลย
สงสัยเจ้าหน้าที่เหนื่อยช่วงสงกรานต์


แวะจอดกินข้าวปั๊มแถวเด่นชัย


กินง่ายๆ เสียเวลาไม่ได้ ข้าวราดแกง แอบแพงเหมือนกัน 40 บาท
แต่หมูเยอะ เลยให้อภัย

Stage 3 เด่นชัย-วังทอง
ช่วงป่าเขาก่อนถึงอุตรดิษฐ์ มีโอกาศได้สัมผัสอากาศเย็นที่สุดของทริป คือ 26 องศา
และหลังจากลงเขามาก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ แดดก็จะค่อยๆ แรงขึ้นตามเวลา


กลางทางอุตรดิษฐ์-พิษณุโลก ทางตรงๆ ยาวๆ อุณหภูมิ 34 องศา
ข้าวเต็มท้อง ตื่นก็เช้า เลยเกิดอาการง่วงครับ ง่วงไม่ขับ แวะจอดพักสายตาศาลาริมทาง
จากนั้นค่อยเดินทางต่อบายพาสไปวังทองเลย

Stage 4 วังทอง-อช.น้ำหนาว
ช่วงนี้ร่างกายก็ยังฟิตนะ ถนนสาย 12 ที่เป็นข่าวอุโมงต้นไม้ถูกตัด ผมแอบเสียดายนะ
แต่ดูแล้วครับ แถวๆ หล่มสักที่มีปลูกกะหล่ำ ต้นไม่ใหญ่ถูกตัดไปแค่บางส่วน ยังเหลือเยอะอยู่
แต่ไม่รู้จะตัดอีกหรือไม่ เติมน้ำมันไปอีก 200 บาทแถวหล่มสัก


แถวๆ เขาค้อ เริ่มเมื่อยก้น มันกดทับ จำเป็นต้องจอดพัก
ใจจริงผมก็อยากพักแถวปั๊มนะ แต่หลายปั๊มไม่มีร่มเลย ไม่ได้กลัวอะไรหรอก
กลัวเบาะร้อน อากาศก็ร้อนอยู่แล้ว ขอเบาะเย็นหน่อยก็ได้

ขึ้นไปบนน้ำหนาว หนาวสุดคือ 38 องศา ป่ายังช่วยอะไรไม่ได้ อากาศช่วงนี้

Stage 5 อช.น้ำหนาว-หนองเรือ
พอลงจากน้ำหนาวมาไม่ต้องพูดถึง เขตชัยภูมิ อุณหภูมิทะลุ 40 องศา
แต่ผมว่าพอไหวนะ เหมือนเราค่อยๆ ปรับตัวมาเรื่อยๆ
ถ้าให้นั่งในห้องแอร์ แล้วโผล่ออกไป 40 องศาเลย อันนี้อาจจะช๊อคได้


แวะพักล้างหน้าที่ปั๊มแถวชุมแพ ร่มไม้เล็กๆ มีค่ามาก เพื่อไม่ให้เบาะร้อน
เที่ยงพอดีด้วยครับที่ชุมแพ


ผมดูอุณหภูมิจากเรือนไมล์ครับ สนใจเป็นพิเศษด้วย อยากรู้ว่าเราจะไหวไหม
ปรากฏว่าทะลุ 43 องศาครับ จากชุมแพ บางช่วงถึง 44 แต่ไม่ถึง 45 ครับ
ผมจ้องตลอด และเติมน้ำมันที่แถวๆ หนองเรืออีก 250 บาท

Stage 6 หนองเรือ-โกสุมพิสัย
ร้อนสุดๆ ครับ 43-44 องศาตลอด ผมไม่ได้เข้าขอนแก่นนะครับ ใช้บายพาสไปโคราช
พอเข้าถนนมิตรภาพ รถเยอะมาก แต่แป๊บเดียวครับก็เลี้ยวซ้ายไปมหาสารคาม


ก่อนเข้าโกสุมพิสัย สภาพร่างกายไม่ไหวครับ มันเจ็บก้น เมื่อยหลัง เมื่อยไหล่
ต้องแวะพักศาลาริมทางอีก น้ำเย็นๆ ในกระติกช่วยได้เยอะครับ ผมไม่ได้กินข้าวเที่ยงด้วย
กินขนมเอาครับ ห้ามท้องอิ่ม แต่ให้มีพลังงานก็พอ
เพราะถ้าท้องอิ่ม มันจะง่วงครับ ได้ผลนะครับ ไม่ง่วงจริงๆ
จะแวะนั่งชิวกินกาแฟก็ไม่ได้ครับ มันจะเสียเวลา
ผมว่าตรงจุดนี้ ท้อมาก ไม่อยากขี่แล้ว เหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็ต้องขี่ เพราะขี่มาแล้ว
จุดนี้ก็ระยะรวมราวๆ 600-700 กิโลเมตรแล้วครับ ผมเลยคิดว่า ลิมิตต่อวันไม่ควรเกินนี้นะ

Stage 7 โกสุมพิสัย-ร้อยเอ็ด
ก่อนเข้ามหาสารคามก็เลี้ยงเมืองเอาครับ พอเขตจังหวัดร้อยเอ็ด ก็เกิดพายุฤดูร้อนพัดมาพอดี
ลมมันตีด้านข้าง ขี่เร็วไม่ได้เลย เสียการทรงตัว


อุณหภูมิลดอย่างรวดเร็วครับ จาก 43 เหลือ 30 จากลมล้วนๆ
จริงๆ แล้ว 30 ก็ไม่ได้เย็นเลยนะ แต่ถ้าคิดว่าเจอ 44 มา แล้วมาได้ 30 โอ้ สดชื่นมาก


แดดไม่ออกแล้ว เลยจอดไหนก็ได้ แวะล้างหน้าที่ปั๊มแถวร้อยเอ็ด

Stage 8 ร้อยเอ็ด-ยโสธร
ผมผ่าเมืองทั้งสองจังหวัดเลย ไม่ได้ไปทางบายพาส เพราะผมว่ามันอ้อมเกินไป
ที่ยโสฝนตกครับ แต่ตกไปก่อนแล้ว


เติมน้ำมันครั้งสุดท้าย 200 บาท ที่ปั๊มแถวยโสธร
กะว่าขี่ไปถึงที่หมายระดับน้ำมันก็จะลดลงพอๆ กับตอนออกตัวมา
รวมเสียค่าน้ำมันไป 900 บาทครับ โซฮอ 91
กับระยะทางเกือบ 1000 กิโลเมตร เร็วสุดที่ผมบิด ไม่เกิน 130 ครับ กลัว
แรกๆ ว่าจะขี่แค่ 100 ด้วยซ้ำ แต่เครื่องมันพาไป เกินร้อยอยู่เรื่อย

Stage 9 ยโสธร-อุบล
เป็นกันไหมครับ stage สุดท้าย มันทำไมนานจัง นานมาก ไม่ถึงสักที
ก้นก็เจ็บจนชินไปเลย ระบมจนชินชา
หลังไหล่ที่เมื่อย เป็นเพราะอยู่ท่าเดิมตลอด พอจอดพัก ยืนเดิน ช่วยได้ครับ
มันจะหายเมื่อยเอง สรุปถึงที่หมาย 18.30 น

สรุป ไม่แนะนำให้ขี่เชียงใหม่-อุบล หรืออุบล-เชียงใหม่ ในวันเดียว
ผมใช้เวลาไปทั้งหมด 14 ชั่วโมงครึ่ง รวมพัก ออกมืด ถึงมืด