สวัสดีค่ะ วันนี้เจ้าของกระทู้ขอมารีวิว ทริปเที่ยวสงกรานต์ที่ผ่านมา สำหรับ ไทรโยค และ สังขละบุรี
ทริปนี้ มีเพื่อนมาจากมาเลเซีย 2 คน คนไทย 2 คนไปร่วมกัน หากรีวิวผิดพลาดอย่างไร โปรดให้อภัยนะคะ
วันที่ 1 : รับเพื่อนที่สนามบิน รอนานมากเพราะเพื่อนบอกคนเยอะ กว่าจะออกจาก กทม.ได้ก็10 โมงกว่าๆ
แล้วเจอรถติดที่แถวนครปฐมและบ้านโป่งทำให้ไปถึงที่พัก 15。00น. ซึ่งเกือบจะไม่ทันเล่น แพ อิอิ
รีบเลยจ้า เปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนชุดพร้อมลุย
แล้วก็ได้ลงน้ำกันสนุกสนานสำหรับคนไทย ส่วนรูปที่โชว์ได้มาจากเพื่อนคนมาเลย์ เพราะลงน้ำไปปุ๊บ
จมน้ำปั๊บเลยตัดสินใจนั่งแพกลับ โปรแกรมนี้ ทางรีสอร์ตจะแขกที่มาพักรวมตัวกันที่ท่าน้ำ มีทั้งแพเปียกและเรือ
สำหรับผู้อาวุโส (ไม่เปียกเลย) ขับพาไป ประมาณ 2 KM แล้วปล่อยให้เราลง จากนั้นว่ายน้ำกลับมาเอง
ตอนเล่นสนุกมากคะ ตอนขึ้นจากน้ำรู้สึกเหนือยเหมือนกัน อันนี้ชอบมากคะ
จากนั้นกลับมานั่งกินเบียร์ คุยกัน เล่นน้ำจากหน้าแพพัก รอเวลาอาหารเย็น
ตกเย็นทางรีสอร์ตมีอาหารเย็นจัดให้พร้อม มีคาราโอเกะ และ กิจกรรม จากรีสอร์ตด้วย
อันนี้ชอบนะคะ สนุกดี แต่เพือนเราฟังไม่ออกเลยไม่ขำด้วย
จากนั้นทุกคนมาดูโชว์ แสงสีเสียง ตรงทางรถไฟ ฝั่งตรงข้ามรีสอร์ต
เราว่าคุ้มนะคะ แต่ไม่ได้ไปดูเพราะว่า เพือนบอกไม่ไป แต่มองจากที่พัก
มีจุดพุ และ กิจกรรมเล่นรอบกองไฟต่อด้วย
วันที่2 : ตอนเช้าตื่นมาสายๆ ไปทานอาหารเช้า และไปเที่ยวถ้ำกระแซ
รีสอร์ตพาไปเหมือนเดิมคะ ไปนั่งเรือข้ามฟากจากจุดที่ล่องแพเมื่อวานแต่วันนี้ไปเรือไม่เปียกนะคะ
แต่ทางขึ้นทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน จากนั้นกลับมาเก็บของเดินทางต่อไปที่ สังขละบุรี
ระหว่างทาง แวะร้าน ชนบท ที่เป็น TheMust จากเพื่อนๆบอกมา
อาหารอร่อยคะ บ้านๆ ราคาไม่แพง หมดนี้ รวมไก่รวนด้วย 730 บาท ถือว่าใช้ได้ ให้ 7/10
ส่วนตัวไม่ชอบรสชาติ ปลาตะเพียนต้มเค็ม เพราะไม่มีรสหวานตัด ไม่เหมือนที่บ้านทำ
และนั่งรถต่อไปยาวๆ โชคดีที่เพื่อนไม่บ่น ระหว่างมีแวะ 7-11 ให้เติมพลัง กันนิดหน่อย
ไปถึงสังขละบุรี เย็นแล้วคะ ประมาณ 16.30 น. แดดกำลังแรง
อันนี้ขอบอกความผิดพลาด จองโรงแรมผิดไปจองที่ ในตัวเมืองกาญฯ
ทำให้ระหว่างทางต้องหาที่พักใหม่ไปด้วย ไปได้ที่ แพ แสงจันทร์ฉาย เป็นห้องพักบนน้ำไม่ใช่แพ
ตอนจองถามว่ามีแอร์ไหม พี่เค้าบอกมี เราก็โอเค เพื่อนจะได้ทนได้ แต่พอไปถึงจริงๆ ไม่มีแอร์ เพื่อนแบบ แอบเซงไม่กล้าด่า 555+
แฟนเราก็บอกว่า ไม่ไหวหรอก มันร้อน ทนได้ 15 นาทีหลังจากดูห้อง มันร้อนจริงๆคะ เพราะว่า แดดส่องพอดี เลยบอกพี่น้อยเจ้าของแพ
ว่าเพื่อนไม่ไหว พี่น้อยเจ้าของแพใจดีคะ บอกกลางคืนจะดีขึ้น (ในใจคิดกว่าดี คงเป็นหมูปิ้งกันหมดแล้ว)
เลยบอกไม่ไหวจริงๆ พี่เค้าใจดีมาก บอกไม่เป็นไม่คิดค่าห้องด้วย แต่เราเกรงใจ
เลยบอกว่าจะใช้บริการนั่งเรือดูวัด และ จ่ายค่าที่พัก500 บาท
ระหว่างนั้นก็พาที่พักไว้แล้ว คือ พรไพลิน มีห้อง4 คนนอนเหลือพอดี เลยรีบบึ่งไปเลยคะ
หลังจากที่ได้ที่พักที่มีแอร์ วิวสวยงามแล้ว ด้วยความดีใจ นั่งพักรอเวลาทานอาหารเย็น
เพราะวันที่ไป มีโปรโมชั่นเป็น บุฟเฟ่ห์ อาหารเช้า รวมที่พัก 4900 บาท/ ห้อง 4 คน
ส่วนอีกคืนย้ายไปนอนห้อง2 คนเพราะไม่มีโปร และ ราคาถูกกว่า
วันที่3: รีบตื่นกันแต่เช้า 5.00น. เพื่อไปตักบาตรที่สะพานมอญ
ที่นี่ทำให้เห็นถึงความไม่สามัคคีของฝั่งไทยและมอญเพราะ คนไทยบอกวันนี้ไม่มีตักบาตร
แต่ด้วยความที่เก็บข้อมูลเยอะ เลยลองเดินตามที่รีวิวกัน เห็นมีร้านตั้งขายเพียบเลยที่ฝั่งมอญ
แอบฟังพี่อีกกลุ่มคุยกับแม่ค้าแถวนั้น ว่า มีปัญหากัน2ฝั่งเหมือนกำลังเลือกตั้งอะไรสักอย่าง
แต่ในที่สุดได้ตักบาตร ตอน 7.30น. พระมาช้ามาก อิอิ คนเยอะด้วยคะ เพื่อนชอบบอกที่บ้านเค้าไม่มีแบบนี้
ระหว่างรอตักบาตรจะมีน้องๆมาถามว่า ปะเเป้ง ทะนาคาแบบ พิมพ์เป็นรูปไหม อันนี้เพื่อนลองเหมือนเดิม
น้องไม่เรียกเงินคะ ตามแต่จะให้
จากนั้น เราเดินเล่นที่สะพานมอญ ซื้อของตามประสาผู้หญิง ในความรุ้สึก
ที่นี่ขายของคล้ายๆกับ เชียงใหม่ และเชียงราย แต่ราคาถูกกว่า 100-200 บาท ส่วนตัวไม่ได้ซื้ออะไรเยอะคะ
เดินข้ามกลับมาฝั่งไทยเพื่อจะกลับโรงแรม ทานอาหารเช้าเพราะหิวกันแล้ว
อันนี้ขอฝากนะคะ คนที่มาเที่ยว อย่าทิ้งขยะตามจุดที่พักดูวิว เพราะระหว่างทางเดินกลับ
เจอแก้วกาแฟ ถุงพลาสติค หลายจุด ทำให้เสียบรรยากาศ
หลังจากกลับมาเตรียมพร้อมเพื่อจะลุยรอบสาย นั่งเรือไปชม วัดบาดาล
เจอไกด์เด็กน้อย พูดเก่ง ฉะฉาน อธิบายเข้าใจ ให้ค่าขนมตามสมัครใจคะ
วิวระหว่างนั่งเรือ
จากนั้นไปวัดหลวงพ่ออุตตามะ ไปทันจังหวะ แจกลูกประคำพอดีคะ ดีใจมากๆๆ
แวะทานเที่ยงที่ โรงแรมสีแดง(จำชื่อผิดขออภัย)
หลังจากนั้นไม่รู้ไปไหน เพื่อนกลัวเปียก กลับโรงแรม เพื่อจะพัก แต่ไฟดับ ซึ่งเตรียมใจมาแล้วเลยนั่งกินเบียร์กันต่อ
ตกกลางคืนไปเดิน ถนนคนเดินหาของกินเล่นไปเรื่อย จากนั้นกลับที่พัก นอนคะ
วันที่4: วันกลับแล้วตื่นสายกันหน่อย เนื่องจากดึกจากเมื่อคืน ทานอาหารเช้า เตรียมตัวกลับ กทม.
ระหว่างทางแวะ บ้านโป่ง ทาน ก๊วยเตี๊ยวนางงาม บะหมี่ทำเอง หมูแดงทำเอง อร่อยมากคะ
แวะอีกตอนบ่ายแก่ๆที่ ตลาดนครชัยศรี ร้านนี้นำเสนอคะ เหมาะอากาศร้อนมาก อยู่ข้างๆโรงเจ
หลังจากนั้นเดินทางกลับ กทม. โดยสวัสดิภาพ
อาจจะมีผิดพลาดบ้าง ยังไงต้องขออภัยนะคะ
[CR] CR : ไทรโยค-สังขละบุรี 3 คืน 4 วัน
ทริปนี้ มีเพื่อนมาจากมาเลเซีย 2 คน คนไทย 2 คนไปร่วมกัน หากรีวิวผิดพลาดอย่างไร โปรดให้อภัยนะคะ
วันที่ 1 : รับเพื่อนที่สนามบิน รอนานมากเพราะเพื่อนบอกคนเยอะ กว่าจะออกจาก กทม.ได้ก็10 โมงกว่าๆ
แล้วเจอรถติดที่แถวนครปฐมและบ้านโป่งทำให้ไปถึงที่พัก 15。00น. ซึ่งเกือบจะไม่ทันเล่น แพ อิอิ
รีบเลยจ้า เปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนชุดพร้อมลุย
แล้วก็ได้ลงน้ำกันสนุกสนานสำหรับคนไทย ส่วนรูปที่โชว์ได้มาจากเพื่อนคนมาเลย์ เพราะลงน้ำไปปุ๊บ
จมน้ำปั๊บเลยตัดสินใจนั่งแพกลับ โปรแกรมนี้ ทางรีสอร์ตจะแขกที่มาพักรวมตัวกันที่ท่าน้ำ มีทั้งแพเปียกและเรือ
สำหรับผู้อาวุโส (ไม่เปียกเลย) ขับพาไป ประมาณ 2 KM แล้วปล่อยให้เราลง จากนั้นว่ายน้ำกลับมาเอง
ตอนเล่นสนุกมากคะ ตอนขึ้นจากน้ำรู้สึกเหนือยเหมือนกัน อันนี้ชอบมากคะ
จากนั้นกลับมานั่งกินเบียร์ คุยกัน เล่นน้ำจากหน้าแพพัก รอเวลาอาหารเย็น
ตกเย็นทางรีสอร์ตมีอาหารเย็นจัดให้พร้อม มีคาราโอเกะ และ กิจกรรม จากรีสอร์ตด้วย
อันนี้ชอบนะคะ สนุกดี แต่เพือนเราฟังไม่ออกเลยไม่ขำด้วย
จากนั้นทุกคนมาดูโชว์ แสงสีเสียง ตรงทางรถไฟ ฝั่งตรงข้ามรีสอร์ต
เราว่าคุ้มนะคะ แต่ไม่ได้ไปดูเพราะว่า เพือนบอกไม่ไป แต่มองจากที่พัก
มีจุดพุ และ กิจกรรมเล่นรอบกองไฟต่อด้วย
วันที่2 : ตอนเช้าตื่นมาสายๆ ไปทานอาหารเช้า และไปเที่ยวถ้ำกระแซ
รีสอร์ตพาไปเหมือนเดิมคะ ไปนั่งเรือข้ามฟากจากจุดที่ล่องแพเมื่อวานแต่วันนี้ไปเรือไม่เปียกนะคะ
แต่ทางขึ้นทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน จากนั้นกลับมาเก็บของเดินทางต่อไปที่ สังขละบุรี
ระหว่างทาง แวะร้าน ชนบท ที่เป็น TheMust จากเพื่อนๆบอกมา
อาหารอร่อยคะ บ้านๆ ราคาไม่แพง หมดนี้ รวมไก่รวนด้วย 730 บาท ถือว่าใช้ได้ ให้ 7/10
ส่วนตัวไม่ชอบรสชาติ ปลาตะเพียนต้มเค็ม เพราะไม่มีรสหวานตัด ไม่เหมือนที่บ้านทำ
และนั่งรถต่อไปยาวๆ โชคดีที่เพื่อนไม่บ่น ระหว่างมีแวะ 7-11 ให้เติมพลัง กันนิดหน่อย
ไปถึงสังขละบุรี เย็นแล้วคะ ประมาณ 16.30 น. แดดกำลังแรง
อันนี้ขอบอกความผิดพลาด จองโรงแรมผิดไปจองที่ ในตัวเมืองกาญฯ
ทำให้ระหว่างทางต้องหาที่พักใหม่ไปด้วย ไปได้ที่ แพ แสงจันทร์ฉาย เป็นห้องพักบนน้ำไม่ใช่แพ
ตอนจองถามว่ามีแอร์ไหม พี่เค้าบอกมี เราก็โอเค เพื่อนจะได้ทนได้ แต่พอไปถึงจริงๆ ไม่มีแอร์ เพื่อนแบบ แอบเซงไม่กล้าด่า 555+
แฟนเราก็บอกว่า ไม่ไหวหรอก มันร้อน ทนได้ 15 นาทีหลังจากดูห้อง มันร้อนจริงๆคะ เพราะว่า แดดส่องพอดี เลยบอกพี่น้อยเจ้าของแพ
ว่าเพื่อนไม่ไหว พี่น้อยเจ้าของแพใจดีคะ บอกกลางคืนจะดีขึ้น (ในใจคิดกว่าดี คงเป็นหมูปิ้งกันหมดแล้ว)
เลยบอกไม่ไหวจริงๆ พี่เค้าใจดีมาก บอกไม่เป็นไม่คิดค่าห้องด้วย แต่เราเกรงใจ
เลยบอกว่าจะใช้บริการนั่งเรือดูวัด และ จ่ายค่าที่พัก500 บาท
ระหว่างนั้นก็พาที่พักไว้แล้ว คือ พรไพลิน มีห้อง4 คนนอนเหลือพอดี เลยรีบบึ่งไปเลยคะ
หลังจากที่ได้ที่พักที่มีแอร์ วิวสวยงามแล้ว ด้วยความดีใจ นั่งพักรอเวลาทานอาหารเย็น
เพราะวันที่ไป มีโปรโมชั่นเป็น บุฟเฟ่ห์ อาหารเช้า รวมที่พัก 4900 บาท/ ห้อง 4 คน
ส่วนอีกคืนย้ายไปนอนห้อง2 คนเพราะไม่มีโปร และ ราคาถูกกว่า
วันที่3: รีบตื่นกันแต่เช้า 5.00น. เพื่อไปตักบาตรที่สะพานมอญ
ที่นี่ทำให้เห็นถึงความไม่สามัคคีของฝั่งไทยและมอญเพราะ คนไทยบอกวันนี้ไม่มีตักบาตร
แต่ด้วยความที่เก็บข้อมูลเยอะ เลยลองเดินตามที่รีวิวกัน เห็นมีร้านตั้งขายเพียบเลยที่ฝั่งมอญ
แอบฟังพี่อีกกลุ่มคุยกับแม่ค้าแถวนั้น ว่า มีปัญหากัน2ฝั่งเหมือนกำลังเลือกตั้งอะไรสักอย่าง
แต่ในที่สุดได้ตักบาตร ตอน 7.30น. พระมาช้ามาก อิอิ คนเยอะด้วยคะ เพื่อนชอบบอกที่บ้านเค้าไม่มีแบบนี้
ระหว่างรอตักบาตรจะมีน้องๆมาถามว่า ปะเเป้ง ทะนาคาแบบ พิมพ์เป็นรูปไหม อันนี้เพื่อนลองเหมือนเดิม
น้องไม่เรียกเงินคะ ตามแต่จะให้
จากนั้น เราเดินเล่นที่สะพานมอญ ซื้อของตามประสาผู้หญิง ในความรุ้สึก
ที่นี่ขายของคล้ายๆกับ เชียงใหม่ และเชียงราย แต่ราคาถูกกว่า 100-200 บาท ส่วนตัวไม่ได้ซื้ออะไรเยอะคะ
เดินข้ามกลับมาฝั่งไทยเพื่อจะกลับโรงแรม ทานอาหารเช้าเพราะหิวกันแล้ว
อันนี้ขอฝากนะคะ คนที่มาเที่ยว อย่าทิ้งขยะตามจุดที่พักดูวิว เพราะระหว่างทางเดินกลับ
เจอแก้วกาแฟ ถุงพลาสติค หลายจุด ทำให้เสียบรรยากาศ
หลังจากกลับมาเตรียมพร้อมเพื่อจะลุยรอบสาย นั่งเรือไปชม วัดบาดาล
เจอไกด์เด็กน้อย พูดเก่ง ฉะฉาน อธิบายเข้าใจ ให้ค่าขนมตามสมัครใจคะ
วิวระหว่างนั่งเรือ
จากนั้นไปวัดหลวงพ่ออุตตามะ ไปทันจังหวะ แจกลูกประคำพอดีคะ ดีใจมากๆๆ
แวะทานเที่ยงที่ โรงแรมสีแดง(จำชื่อผิดขออภัย)
หลังจากนั้นไม่รู้ไปไหน เพื่อนกลัวเปียก กลับโรงแรม เพื่อจะพัก แต่ไฟดับ ซึ่งเตรียมใจมาแล้วเลยนั่งกินเบียร์กันต่อ
ตกกลางคืนไปเดิน ถนนคนเดินหาของกินเล่นไปเรื่อย จากนั้นกลับที่พัก นอนคะ
วันที่4: วันกลับแล้วตื่นสายกันหน่อย เนื่องจากดึกจากเมื่อคืน ทานอาหารเช้า เตรียมตัวกลับ กทม.
ระหว่างทางแวะ บ้านโป่ง ทาน ก๊วยเตี๊ยวนางงาม บะหมี่ทำเอง หมูแดงทำเอง อร่อยมากคะ
แวะอีกตอนบ่ายแก่ๆที่ ตลาดนครชัยศรี ร้านนี้นำเสนอคะ เหมาะอากาศร้อนมาก อยู่ข้างๆโรงเจ
หลังจากนั้นเดินทางกลับ กทม. โดยสวัสดิภาพ
อาจจะมีผิดพลาดบ้าง ยังไงต้องขออภัยนะคะ