นิทานก่อนนอน...สอนใจ

นิทานเรื่องนี้ ชื่อว่า...จะชื่อว่าอะไรก็ไม่สำคัญไปกว่าเนื้อเรื่องที่กำลังจะเล่านะคะ เรื่องมีอยู่ว่า มีชายหนุ่มสองคน เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม ลอยคอมาติดเกาะเกาะนึงซึ่งไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำบาดาล และเทวดาประจำเกาะ 1 องค์(ใช้ภาษาไทยผิดยังไงขอโทษด้วยค่ะ) ทั้งสองคนประทังชีวิตด้วยน้ำบาดาล แต่ก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการหิวได้สักเท่าไร ทันใดนั้น เทวดาก็ได้เสกเรือลำเล็กๆมา 1 ลำพร้อมไม้พาย 2 อัน พอสำหรับนั่ง 2 คน ชายหนุ่มคนแรกเห็นดังนั้นจึงดีใจและคิดว่าเป็นหนทางที่จะนำพาไปเพื่อจะได้ขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่แล่นเรือผ่านมา ชายหนุ่มคนแรกจึงได้ชักชวนให้ชายหนุ่มคนที่สอง ไปพร้อมกับตน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำปฏิเสธ พร้อมบอกว่า "ไปแล้วก็ไม่รู้จะเจออะไร จะตายกลางทะเลรึเปล่าก็ไม่รู้ สู้อยู่ที่นี่ ดื่มแค่น้ำบาดาลประทังชีวิต รอคนผ่านมาและขอความช่วยเหลืออยู่บนเกาะนี้ดีกว่า" สิ้นเสียงคำพูด ชายหนุ่มคนแรกยืนรอสักพักเผื่อชายหนุ่มคนที่สองจะเปลี่ยนใจ หลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจพายเรือออกไปจากเกาะ พายไปเรื่อยๆ ยิ่งห่างจากเกาะไปทุกทีๆ เขาคิดในใจว่าเขาผิดมั้ยที่ทิ้งชายหนุ่มอีกคนไว้บนเกาะแบบนั้น แต่ก็เป็นการตัดสินใจของชายหนุ่มคนที่สองนั้นแหละ คงไม่เป็นไรมั้ง ใกล้พลบค่ำ ชายหนุ่มคนแรก พายเรือไป เขาเห็นเหมือนเสาสูงอยู่ไกลๆ คับคล้ายคับคลาว่าคงเป็นเรือแน่นอน ยิ่งพายไป เรือลำใหญ่ยิ่งใกล้เข้ามา สามารถมองเห็นเสากระโดงและผ้าใบได้อย่างชัดเจน เขาจึงตะโกนขอความช่วยเหลือ และได้รับการช่วยเหลือจากเรือลำใหญ่ในที่สุด  ชายหนุ่มคนแรกไม่รู้เลยว่าเรือลำใหญ่ลำนี้กำลังจะแล่นไปที่ใด จนกระทั่งเขาเหลือบไปเห็นเกาะนั้นเกาะที่เขาเคยติดกับชายหนุ่มอีกคน ชายหนุ่มคนแรก มองเห็นว่าชายหนุ่มอีกคนนั้น ซูบผอมลงไปมาก แก้มตอบอย่างเห็นได้ชัด ช่างน่าสงสารเหลือเกิน พอชายหนุ่มที่ติดเกาะเห็นเรือลำใหญ่ผ่านมาเลยรีบว่ายน้ำมาขอความช่วยเหลือ แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิดนั้น ทำให้เขาไม่สามารถว่ายมาถึงตัวเรือได้ เขาหมดเรี่ยวแรงและขาดใจเสียก่อน...จบ...

ความจริงที่อยากจะสื่อสารก็คือ ทำไมคนเราไม่ชอบขวนขวาย แต่มักที่จะชอบขอความช่วยเหลือจากคนอื่นอยู่ตลอด ทั้งนี้อาจจะรวมกระทั่งแม้แต่เรื่องง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ก็ไม่คิดจะทำ คนที่ขวนขวายก็จะขวนขวายต่อไป ส่วนคนที่ไม่คิดจะทำอะไร ก็ไม่ทำอะไรเลย เราคิดว่า นิทานนี้อาจจะช่วยเตือนใจได้บ้างนะคะ ไว้สอนลูกเด็กเล็กแดงก็ได้ค่ะ ว่าถ้าเราสามารถทำอะไรได้ด้วยตนเองแล้วเนี้ย ก็ให้ทำไปเถอะค่ะ การลงมือทำอะไรได้ด้วยตนเอง มันช่วยฝึกอะไรหลายๆอย่างเลยนะคะ อย่าง ความรับผิดชอบ การได้ประสบการณ์ รวมถึงการประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นเลย ถ้าเราขัดสนสิ่งใดหรือต้องการความช่วยเหลือจากใคร เขาก็จะช่วย เคยมั้ยคะ สมมุติ เราอยากได้มือถือ หรืออะไรสักอย่าง พ่อแม่มักบอกว่า "ไหนลองเก็บตังค์ดูเองก่อน ขาดเหลือยังไงเดี๋ยวช่วยออกให้" พ่อแม่ฝึกให้พวกเรารับผิดชอบตั้งแต่เด็กค่ะ การพึ่งพาตนเอง การที่เรายืนได้ด้วยลำแข้งตัวเองนั้น ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม สักวันเราก็จะภูมิใจในสิ่งที่เราได้ทำมาค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่