ต่อจากฉบับที่ 3 กันเรยนะครับ วันนี้ จะเล่าเรื่องตอนขึ้นกองร้อย และการทำงาน ในกองร้อย ผม ตำแหน่ง ทหารบริการ ทำงานเกี่ยวกับบริการทุกอย่างในกองร้อย
ไม่ว่าจะเป็น เสิรืฟน้ำ เสิร์ฟอาหาร ยกกระเป๋าไปส่งนายสิบ นายร้อย
หรือ แม้แต่ ทำกับข้าวให้นายร้อยกิน
ก็ต้องทำ แต่ส่วนมากที่ทำจะเป็นงานบริการที่เกี่ยวกับเอกสารครับ
มา 2เดือนแรก เอกสารเยอะมาก เราทำคนเดียว ด้วยอารมณ์ที่ว่า จบ ม.6 มาไม่ได้หวังว่าจะเอาดีด้านเอกสารเท่าไหร่ แต่ก็ได้มาอยู่ส่วนงานนี้ ต่อมา เดือนที่ 3 เราก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้น
ปวดหัวหนักกว่าเดิม นั่นคือ จากเป็นเด้ก รับ-ส่งเอกสาร ต้องมาดูแลการเงินแทนจ่าคนเดิมที่ปรับย้ายไปอยู่ กอรมน.เพราะ แกต้องไปทำงานที่นั้นก่อน 1 ปี เพื่อ เอายศ ร้อยตรี
ผมก็ต้องทำทุกอย่าง
เกี่ยวกับการเงิน ไม่ว่าจะเป็น ค่าเบี้ยเลี้ยง/ค่าประกอบเลี้ยง/ค่าครองชีพพลทหาร/เงินเดือนพลทหาร เรารับผิดชอบหมด เมื่อกันยายน2558
เหตุการณ์อะไรก็ปกติดีทุกอย่างอะแหละ แต่หลัง ตุลา 58 จนถึงปัจจุบัน
ได้มีการเปลี่ยน ผู้บังคับบัญชากองร้อย มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 58 เหตุการมันก็เริ่มจะมีอะไรแปลกๆขึ้นครับ นั่นคือ กองร้อยเงียบขึ้นนะ เพราะเอาทหารไปอยู่บ้านนายมากขึ้น ผบ.ร้อย คนใหม่ ขี้งกขึ้น แร้วก็อะไรหลายๆอย่าง ทึ่ทำให้ผมรู้สึกเอื่อมระอา กับ ผบ.ร้อยคนนี้
ก่อนทหารใหม่จะขึ้นกองร้อย ผุ้กองคนนี้ได้ให้ผมเอายัตร ATM ของทหารแต่ละคน ไปกดเงินออกมาคนละ 3000 เพื่อ เอาไปจ่ายค่าขนมที่ทหารใหม่ ได้คิดกันไว้ตั้งแต่ที่อยู่หน่วยฝึก
บางคนก็กินแค่700 บางคนก็กินแค่400 แต่ให้กดมาทั้งหมด คนละ 3000 ทหารใหม่ผลัด 2/58 นี้มีมาทั้งหมด 28คน 28x3000=84,000 อต่ในความจริงที่ต้องส่งให้ ร้านค่าสวัสดิการของหน่วยฝึก รวมๆแล้ว แค่36,000 พอผมเข้าไปถาม เค้าก็บอกว่า กดมาคนละ 3000 ส่วนใครทั่กินไม่ถึง
ก็จะเอาส่วนต่างไปคืนพวกมัน จนกระทั้งทุกวันนี้ ผมยังไม่เห็นมีทหารคนไหน ได้ตังคืนเลยสักบาท คิดแล้วท้อใจแทนทหารไทยที่โดนโกง เป็นคนที่แบบว่าอะไรผิด คือผิดนะ แต่ถ้าเราไม่ผิดเราจะเถียง ผมแค่พลทหารแหละครับ แต่โดนผู้กองด่าว่า ปาก...... แต่ผมไม่สนใจเรย เพราะ มันก็จริงของเค้าที่ว่ามาอะนะ ผมเคยเถียง กับผู้กองคนนี้ ทจนเค้า ต้องเงียบ และไล่ผมออกจากห้องเค้า เพราะ เค้าเถียงผมไม่ทัน 55+. คิดมาแร้ว สะใจนะ เรื่องมันไม่ได้มีแค่นี้หร่อก เด่วพรุ่งนี้ผมจะมาเล่าาต่อนะครับ
ไดอารี่ของตุ๊ด ฉบับที่4
ไม่ว่าจะเป็น เสิรืฟน้ำ เสิร์ฟอาหาร ยกกระเป๋าไปส่งนายสิบ นายร้อย
หรือ แม้แต่ ทำกับข้าวให้นายร้อยกิน
ก็ต้องทำ แต่ส่วนมากที่ทำจะเป็นงานบริการที่เกี่ยวกับเอกสารครับ
มา 2เดือนแรก เอกสารเยอะมาก เราทำคนเดียว ด้วยอารมณ์ที่ว่า จบ ม.6 มาไม่ได้หวังว่าจะเอาดีด้านเอกสารเท่าไหร่ แต่ก็ได้มาอยู่ส่วนงานนี้ ต่อมา เดือนที่ 3 เราก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้น
ปวดหัวหนักกว่าเดิม นั่นคือ จากเป็นเด้ก รับ-ส่งเอกสาร ต้องมาดูแลการเงินแทนจ่าคนเดิมที่ปรับย้ายไปอยู่ กอรมน.เพราะ แกต้องไปทำงานที่นั้นก่อน 1 ปี เพื่อ เอายศ ร้อยตรี
ผมก็ต้องทำทุกอย่าง
เกี่ยวกับการเงิน ไม่ว่าจะเป็น ค่าเบี้ยเลี้ยง/ค่าประกอบเลี้ยง/ค่าครองชีพพลทหาร/เงินเดือนพลทหาร เรารับผิดชอบหมด เมื่อกันยายน2558
เหตุการณ์อะไรก็ปกติดีทุกอย่างอะแหละ แต่หลัง ตุลา 58 จนถึงปัจจุบัน
ได้มีการเปลี่ยน ผู้บังคับบัญชากองร้อย มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 58 เหตุการมันก็เริ่มจะมีอะไรแปลกๆขึ้นครับ นั่นคือ กองร้อยเงียบขึ้นนะ เพราะเอาทหารไปอยู่บ้านนายมากขึ้น ผบ.ร้อย คนใหม่ ขี้งกขึ้น แร้วก็อะไรหลายๆอย่าง ทึ่ทำให้ผมรู้สึกเอื่อมระอา กับ ผบ.ร้อยคนนี้
ก่อนทหารใหม่จะขึ้นกองร้อย ผุ้กองคนนี้ได้ให้ผมเอายัตร ATM ของทหารแต่ละคน ไปกดเงินออกมาคนละ 3000 เพื่อ เอาไปจ่ายค่าขนมที่ทหารใหม่ ได้คิดกันไว้ตั้งแต่ที่อยู่หน่วยฝึก
บางคนก็กินแค่700 บางคนก็กินแค่400 แต่ให้กดมาทั้งหมด คนละ 3000 ทหารใหม่ผลัด 2/58 นี้มีมาทั้งหมด 28คน 28x3000=84,000 อต่ในความจริงที่ต้องส่งให้ ร้านค่าสวัสดิการของหน่วยฝึก รวมๆแล้ว แค่36,000 พอผมเข้าไปถาม เค้าก็บอกว่า กดมาคนละ 3000 ส่วนใครทั่กินไม่ถึง
ก็จะเอาส่วนต่างไปคืนพวกมัน จนกระทั้งทุกวันนี้ ผมยังไม่เห็นมีทหารคนไหน ได้ตังคืนเลยสักบาท คิดแล้วท้อใจแทนทหารไทยที่โดนโกง เป็นคนที่แบบว่าอะไรผิด คือผิดนะ แต่ถ้าเราไม่ผิดเราจะเถียง ผมแค่พลทหารแหละครับ แต่โดนผู้กองด่าว่า ปาก...... แต่ผมไม่สนใจเรย เพราะ มันก็จริงของเค้าที่ว่ามาอะนะ ผมเคยเถียง กับผู้กองคนนี้ ทจนเค้า ต้องเงียบ และไล่ผมออกจากห้องเค้า เพราะ เค้าเถียงผมไม่ทัน 55+. คิดมาแร้ว สะใจนะ เรื่องมันไม่ได้มีแค่นี้หร่อก เด่วพรุ่งนี้ผมจะมาเล่าาต่อนะครับ