ความเดิมจากกระทู้ที่แล้วนะครับ
http://ppantip.com/topic/34956684 ตอนนั้นทำไว้ถึงตอนที่ 10
ตอนนี้เรื่องจบแล้วเลยอยากมาทำให้ครอบคลุมให้หมด
(ช่วงต้นตอนที่ 11) "เพชรในเลือด" เป็นฉากที่หมอคังและหมอยุนตบมุกคุยกันว่าน่าจะหยิบไปคนละเม็ดดีไหม
ถ้ามองผ่านๆมันก็จะเป็นแค่เพชรที่ผ่านการผ่าตัดมาจากท้องของจินยองซูเท่านั้น (เอาจริงๆผมก็มองข้ามไปแล้วแหละ)
แต่บังเอิญว่าฉากนี้ใส่มาทั้งตอนใกล้จบตอน 10 และช่วงเริ่มตอนที่ 11 ซึ่งองค์ประกอบศิลป์ของฉากก็ดูสวยงามลึกลับ
น่าหลงไหลเหลือเกิน ทั้งๆที่ถ้าคิดตามความเป็นจริงมันน่าจะช่วนอ้วกและไม่ควรใส่มาให้ผู้ชมดู
แล้วต้องการจะสื่ออะไร? เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วมีหนังเรื่อง Blood Diamond นำเสนอเรื่องเพชรสีเลือด หรือที่เรียกว่า
เพชรแห่งความขัดแย้ง (Conflict Diamond)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ "เพชรที่ผลิตในพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฎซึ่งต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ พวกกบฎขายเพชรนี้เพื่อใช้เป็นทุนในการซื้ออาวุธหรือเป็นทุนเสริมสร้างให้กองทัพแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในด้านอื่นๆ เพชรสีเลือดนี้มักจะได้มาจากแรงงานที่ถูกบังคับทั้งชาย หญิงและเด็ก นอกจากนี้แล้วยังได้จากการขโมยระหว่างการขนส่งหรือจากการโจมตีเหมืองของผู้ประกอบการอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งบางครั้งอาจถึงขั้นใช้ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่เลยก็ได้ หลังจากนั้นเพชรจะถูกขนส่งเข้าสู่ตลาดเพชรนานาชาติแล้วขายในรูปอัญมณีที่ถูกกฎหมาย เพชรเหล่านี้ถือว่าเป็นแหล่งทุนหลักของกลุ่มกบฎแต่บางครั้งการค้าอาวุธ ขนของเถื่อน และโกงเพชรก็เป็นปัจจัยที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มกบฎเช่นกัน เงินจำนวนมหาศาลเหล่านี้ล้วนเป็นเดิมพันและสินบนที่ได้มาจากกระบวนการข่มขู่ การทรมาน และการฆาตกรรม และนี่คือที่มาของการใช้คำว่า เพชรสีเลือด"
http://www.geothai.net/blood-diamond/
เพชรสีเลือดเป็นศัพท์เฉพาะ แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าเพชรสีเลือดทุกเม็ดจะต้องเปื้อนเลือดหรือมีสีแดงฉาน แต่มันเป็นความเปรียบ
ให้รู้ว่าเพชรเหล่านี้ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาบ้างกว่าจะมาสู่มือเจ้าของ ทั้งการขโมยกันเพราะความโลภ หรือการสังหารเพื่อให้ได้เพชรมา
เพชรแห่งความขัดแย้งนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจำนวนหนึ่งในอัฟริกา การที่เพชรแปดเปิ้อนไปด้วยเลือดนี้ก็ทำให้เพชรที่เข้าสู่
ตลาดโลกย่อมมีเพชรที่ผิดกฎหมายปะปนเข้ามา ทำให้บางทีคนซื้อก็ไม่รู้ว่าเพชรที่ตนถือครองอยู่อาจเปื้อนเลือดของใครมาแล้วบ้าง ขอไม่ลงราย
ละเอียดมากกว่านี้แล้ว ถ้าอยากอ่านต่อ
http://www.geothai.net/blood-diamond/
ในเรื่อง DOTS จะมีการพูดถึงสงครามกลางเมืองในประเทศอุรุค และ Argus ก็ต้องเป็นฝ่ายจัดเพชรเพื่อเตรียมอาวุธ
เอาใจฝ่ายนายพลอามังที่เตรียมการก่อปฏิวัติในอุรุค และทางอเมริกาก็สนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเพื่อที่จะได้จัดตั้งฝ่าย
Pro-American ขึ้นในอุรุค ทำให้คำสั่งจากเบื้องบนของกองทัพเกาหลีคืออยู่เฉยไว้ซะ
ถ้าทีมงานตั้งใจจะสื่อความหมายแบบนี้จริงๆ ก็ต้องนับเลยว่าลงทุนมากก ตั้งแต่เขียนให้จินยองซูเกิดความโลภแล้วกลืน
เพชรเข้าไป จนเมื่อผ่าตัดออกมาแล้วมันกลายเป็น"เพชรสีเลือด" แบบที่เห็น
ถ้าได้กลับไปดูช่วงเริ่มฉากที่ 11 อีกครั้ง อารมณ์อาจจะเปลี่ยนไป การล้อเล่นของหมอสองคนอาจจะไม่ใช่เพื่อแค่ความตลก
อย่างเดียว อาจจะสื่อว่าแม้แต่หมอทั้งคู่ที่ยึดมั่นในศีลธรรมอาจจะตาลุกวาวเมื่อได้เห็นได้ เพราะเพชรคือ"ความยั่วยวน" และเพชร
เป็นสิ่งที่ผู้หญิงปรารถนา อย่างที่ Argus เคยได้พูดเอาไว้
พูดถึงเรื่องเลือดๆแล้วไปถึงฉากที่ Argus ตายกันบ้าง
คราวนี้เป็น Blood Money เป็นศัพท์ที่หมายถึงเงินที่ได้มาด้วยชีวิตของผู้อื่น ความร่ำรวยของ Argus ได้มาจากการเหยียบย่ำ
ชีวิตของคนอื่นมากมาย รวมถึงเด็กผู้บริสุทธิ์ด้วย
หลัง Argus ตายไป ชีจินก็มานั่งรำลึกถึงความหลังที่เคยดีกับ Argus แต่ยูชีจินก็ต้องการที่จะลืมความทรงจำทั้งที่ดีและไม่ดี
ระหว่างเขากับ Argus ไปให้หมด เลยเผารูปทิ้ง ทางด้านจิตใจหรือทางด้านพิธีกรรม การเผาสิ่งที่เชื่อมโยงกับอดีตจะเป็นการ
ช่วยให้ลืมความเจ็บปวดไปได้
http://intentblog.com/burning-away-ties-bind-using-ritual-transformation/
ในฉากเดียวกันก็เป็นตอนที่โมยอนเดินมาหลบอยู่ข้างหลังกำแพงคนละข้างกับชีจินแล้วรู้สึกว่าตัวเองช่วยอะไรชีจินไม่ได้เลย
แถมก่อนหน้านี้ยังจะมาแอบน้อยใจชีจินที่ต้องโกหกและมีความลับเยอะ ทำภารกิจเสี่ยงตาย แทนที่จะเข้าใจสิ่งที่ชีจินคิด
จนชีจินต้องถามว่า "นี่เราจะเลิกกันเหรอ" โมยอนได้เห็นถึงความเจ็บปวดของชีจิน ได้เข้าใจ
สิ่งที่ชีจินจะต้องได้เจอในการต้องทำหน้าที่เป็นทหาร บางครั้งก็ต้องสังหารคนที่ตัวเองผูกพันธ์ด้วยเพราะอยู่คนละฝั่ง
แต่โมยอนก็ไม่สามารถแม้กระทั่งที่จะไปปิดตาของชีจินเพื่อให้ชีจินลืมเรื่องที่เลวร้าย เหมือนที่ชีจินปิดตาของโมยอนเพื่อไม่ให้โมยอน
เห็นภาพที่ Argus โดนยิง โมยอนจึงเสียใจและทำได้เพียงแค่จินตนาการว่าตัวเองจะสามารถช่วยลบความเจ็บปวดให้ชีจินได้บ้าง
นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โมยอนอยากที่จะเคียงข้างชีจินให้ถึงที่สุด
อยากจะเข้าใจชีจินในทุกๆเรื่อง
โมยอนอยากจะสามารถพูดกับชีจินได้ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่มีปัญหาใหญ่ๆกัน
ตั้งแต่ที่ตกลงคบกัน แต่คราวนี้โมยอนจะไม่หนีอีกต่อไป โมยอนจะเผชิญกับความจริง แม้สุดท้ายอาจจะสมหวังหรือเจ็บปวดก็ตาม
ผมใช้เวลาคิดมาหลายอาทิตย์แล้วเนี่ยว่าแก้วสีทองแดงนี้สื่อถึงอะไร ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันมีความหมายที่ทีมงานต้องการจะสื่อ
เพราะ 1. จับไปที่ภาพแก้วนานอยู่เหมือนกัน 2. เป็นแก้วกินน้ำที่สีประหลาดดี เคยเห็นแต่แก้วสเตนเลสสีเงิน 3. องค์ประกอบฉาก
ดูให้โฟกัสกับแก้วมากโดยเฉพาะฉากที่กอดกัน
เลยไม่ค่อยกล้าฟันธง แต่จากที่ไปลองหาๆดูแล้ว สีทองแดงในไบเบิ้ลหมายถึงการเสียสละของพระเยซู แต่ไม่น่าใช่มั้ง ผมเลยไปหา
ว่าโลหะทองแดงเป็นสัญลักษณ์ของเทพีวีนัส แล้วผมก็มาเห็นว่าในตอน 11-12 มีรูปปั้นของ Shy Venus โผล่มาในแหล่งกบดานของ
Argus
https://www.google.co.th/search?q=shy+venus&biw=1280&bih=855&source=lnms&tbm=isch&sa=X&sqi=2&ved=0ahUKEwjIiM_hnJXMAhXEFpQKHcv0BDMQ_AUIBigB
เลยน่าคิดเหมือนกันนะว่า อาจจะเกี่ยวกันก็ได้ หรือมันก็เป็นแก้วใส่กาแฟเฉยๆ!
ส่วนเทพีวีนัสก็เป็นเทพีแห่ง "ความรัก" ดังนั้นฉากที่ทั้งคู่กอดกันข้างบนก็เป็นสัญลักษณ์แทนความรักของทั้งคู่?
----ก่อนหน้านี้แก้วคู่นี้เคยโผล่มาแล้วตอนที่ทั้งคู่มาดื่มกาแฟคุยกันหลังจากที่รถดิ่งตกน้ำไป ทีมงานอาจจะแค่ต้องการเชื่อมทั้งสอง
ฉากด้วยการปรากฎตัวของแก้วใส่กาแฟสีเดิมก็ได้ จริงๆสีแก้วไม่ได้มีความหมายอะไร 555+
วาเลนไทน์
เป็นชื่อของสาวสุดเซ็กซี่ ของเรานั่นเอง น่าสนใจตรงที่โมยอนและชีจินเลือกให้เธอเป็นผู้ปกครองของฟาติมา
ถ้าจำกันได้ ชื่อที่ Argus เรียกฟาติมาคือ "ดอกกุหลาบสีแดง" และ"วาเลนไทน์"ก็จะได้มาอยู่กับ "ดอกกุหลาบสีแดง"
เป็นสัญลักษณ์ที่น่ารักดี
ถ้าในฉากนี้สื่อถึงความรักแล้ว ในเรื่องนี้นอกจากความรักคู่หลัก สิ่งที่เรื่อง DOTS สื่ออยู่เสมอคือความรักต่อเพื่อน
มนุษย์ ผู้ส่งฟาติมาเรียนเป็นคนเกาหลี ผู้ทื่จะได้มาเป็นผู้ปกครองของฟาติมาเป็นคนตะวันตกซักชาติ (มีคนวิเคราะห์ว่าน่า
จะเป็นพวกโรมาเนีย) และฟาติมาก็เป็นเด็กจากอุรุค ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนทั้งสามคนยังเป็นคนแปลกหน้ากันอยู่เลย แต่ตอนนี้
ทั้งสามคนกำลังจะมีความสัมพันธ์แบบพิเศษทั้งที่มีความแตกต่างทางเชื้อชาติและพื้นเพ
ฉากนี้เป็นฉากที่คังโมยอนไปขอลาออกกับผอ. โรงพยาบาลฮันซ็อกวอน ซ็อกวอนไม่อยากให้โมยอนออก แต่โมยอนถาม
ผอ.กลับแบบกัดๆว่า "หรือคุณจะลาออกเอง" แล้วซ็อกวอนก็รีบเอามือจับป้ายชื่อพร้อมตำแหน่งของตัวเอง 5555+
รีบปกป้องตำแหน่งของตัวเองแบบไม่ปล่อยเลยนะ ผอ. (ตอนที่ 13)
การเปลี่ยนฉากที่เนียนตาและมีความหมาย
ช่วงประมาณนาทีที่ 20 ของตอนที่ 13 มีการเปลี่ยนฉากจากที่มยองจูและซอแดยองคุยกัน โดยเริ่มจากที่
ทั้งคู่ดึงป้ายเตือนอันตรายออก เป็นอันบ่งบอกถึงการเสร็จสิ้นหน้าที่รักษาความสงบของทีม จากนั้นตัดภาพไปยัง
สถานที่ต่างๆของอุรุค (ตามแบบวันปัจฉิมนิเทศน์ในโรงเรียน มักจะมี VTR ฉายภาพตึกต่างๆวันที่จะจากลาจาก
สถานศึกษา) จากนั้นตัดภาพไปยังเรืออันเป็นพาหนะเดินทาง สื่อถึงการเตรียมตัวกลับ พร้อมทั้งหินนำโชค
ที่เป็นตัวสื่อสารถึงการจะจากไปหรือจะได้กลับมาอุรุคอีกครั้ง จากนั้นก็ตัดภาพไปที่ทุกคนเตรียมตัวกลับเกาหลี
ลางบอกเหตุอันตราย
ก่อนที่คู่รองจะไปทะเลาะกันแล้วเลิกกัน ก็มีป้ายที่เป็นลางบอกเหตุว่า "พร้อมรับการต่อสู้ โจมตีเต็มกำลัง"
พอทะเลาะแล้วเลิกกันเสร็จ ก็จบด้วยป้ายคติพจน์ของทหาร ที่หมายความว่า"ถ้ายังไม่เข้าใจกัน ก็ต้องทำให้เข้าใจกันให้ได้"
เป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่
เครื่องแต่งกายของแพทย์
เท่าที่ผมเข้าใจคือไม่มีกฎห้ามหมอใส่ยีนส์ และมันก็ไม่ได้สามารถวัดความสามารถของหมอด้วยชุดแต่งตัวได้
แต่มันอยู่ที่ธรรมเนียมที่ไม่มีเขียนบอก และความเชื่อใจของคนไข้ที่มีต่อหมอ เรื่องให้หมอคิมแต่งตัวแบบนี้จะสื่ออะไรได้บ้าง?
(ตอนที่ 15)การใช้หมวกเปรียบเทียบยศกลับมาอีกแล้ว ทำให้ซอแดยองต้องต่ำต้อยอีกแล้ว จากนั้นซอแดยองก็พูดว่า
"ผมไม่อยากไปขัดขวางการเจริญทางหน้าที่การงานของคุณ"
จากนั้นก็ตัดภาพไปยังใบลาออกของซอแดยองบนโต๊ะของพ่อมยองจู ภาพจับไปที่ยศบนหมวกของพ่อมยองจู ซอแดยองต้องลาออกเพราะ
ยศสินะ ฉากนี้ไม่ได้พูดซักคำแต่ก็สื่อความได้
Descendants of The Sun: มาหาช่วยกันหาสัญลักษณ์/องค์ประกอบเล็กๆน้อยๆของเรื่องอีกครั้งนึงครับ
ตอนนี้เรื่องจบแล้วเลยอยากมาทำให้ครอบคลุมให้หมด
(ช่วงต้นตอนที่ 11) "เพชรในเลือด" เป็นฉากที่หมอคังและหมอยุนตบมุกคุยกันว่าน่าจะหยิบไปคนละเม็ดดีไหม
ถ้ามองผ่านๆมันก็จะเป็นแค่เพชรที่ผ่านการผ่าตัดมาจากท้องของจินยองซูเท่านั้น (เอาจริงๆผมก็มองข้ามไปแล้วแหละ)
แต่บังเอิญว่าฉากนี้ใส่มาทั้งตอนใกล้จบตอน 10 และช่วงเริ่มตอนที่ 11 ซึ่งองค์ประกอบศิลป์ของฉากก็ดูสวยงามลึกลับ
น่าหลงไหลเหลือเกิน ทั้งๆที่ถ้าคิดตามความเป็นจริงมันน่าจะช่วนอ้วกและไม่ควรใส่มาให้ผู้ชมดู
แล้วต้องการจะสื่ออะไร? เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วมีหนังเรื่อง Blood Diamond นำเสนอเรื่องเพชรสีเลือด หรือที่เรียกว่า
เพชรแห่งความขัดแย้ง (Conflict Diamond)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพชรสีเลือดเป็นศัพท์เฉพาะ แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าเพชรสีเลือดทุกเม็ดจะต้องเปื้อนเลือดหรือมีสีแดงฉาน แต่มันเป็นความเปรียบ
ให้รู้ว่าเพชรเหล่านี้ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาบ้างกว่าจะมาสู่มือเจ้าของ ทั้งการขโมยกันเพราะความโลภ หรือการสังหารเพื่อให้ได้เพชรมา
เพชรแห่งความขัดแย้งนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจำนวนหนึ่งในอัฟริกา การที่เพชรแปดเปิ้อนไปด้วยเลือดนี้ก็ทำให้เพชรที่เข้าสู่
ตลาดโลกย่อมมีเพชรที่ผิดกฎหมายปะปนเข้ามา ทำให้บางทีคนซื้อก็ไม่รู้ว่าเพชรที่ตนถือครองอยู่อาจเปื้อนเลือดของใครมาแล้วบ้าง ขอไม่ลงราย
ละเอียดมากกว่านี้แล้ว ถ้าอยากอ่านต่อ http://www.geothai.net/blood-diamond/
ในเรื่อง DOTS จะมีการพูดถึงสงครามกลางเมืองในประเทศอุรุค และ Argus ก็ต้องเป็นฝ่ายจัดเพชรเพื่อเตรียมอาวุธ
เอาใจฝ่ายนายพลอามังที่เตรียมการก่อปฏิวัติในอุรุค และทางอเมริกาก็สนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเพื่อที่จะได้จัดตั้งฝ่าย
Pro-American ขึ้นในอุรุค ทำให้คำสั่งจากเบื้องบนของกองทัพเกาหลีคืออยู่เฉยไว้ซะ
ถ้าทีมงานตั้งใจจะสื่อความหมายแบบนี้จริงๆ ก็ต้องนับเลยว่าลงทุนมากก ตั้งแต่เขียนให้จินยองซูเกิดความโลภแล้วกลืน
เพชรเข้าไป จนเมื่อผ่าตัดออกมาแล้วมันกลายเป็น"เพชรสีเลือด" แบบที่เห็น
ถ้าได้กลับไปดูช่วงเริ่มฉากที่ 11 อีกครั้ง อารมณ์อาจจะเปลี่ยนไป การล้อเล่นของหมอสองคนอาจจะไม่ใช่เพื่อแค่ความตลก
อย่างเดียว อาจจะสื่อว่าแม้แต่หมอทั้งคู่ที่ยึดมั่นในศีลธรรมอาจจะตาลุกวาวเมื่อได้เห็นได้ เพราะเพชรคือ"ความยั่วยวน" และเพชร
เป็นสิ่งที่ผู้หญิงปรารถนา อย่างที่ Argus เคยได้พูดเอาไว้
พูดถึงเรื่องเลือดๆแล้วไปถึงฉากที่ Argus ตายกันบ้าง
คราวนี้เป็น Blood Money เป็นศัพท์ที่หมายถึงเงินที่ได้มาด้วยชีวิตของผู้อื่น ความร่ำรวยของ Argus ได้มาจากการเหยียบย่ำ
ชีวิตของคนอื่นมากมาย รวมถึงเด็กผู้บริสุทธิ์ด้วย
หลัง Argus ตายไป ชีจินก็มานั่งรำลึกถึงความหลังที่เคยดีกับ Argus แต่ยูชีจินก็ต้องการที่จะลืมความทรงจำทั้งที่ดีและไม่ดี
ระหว่างเขากับ Argus ไปให้หมด เลยเผารูปทิ้ง ทางด้านจิตใจหรือทางด้านพิธีกรรม การเผาสิ่งที่เชื่อมโยงกับอดีตจะเป็นการ
ช่วยให้ลืมความเจ็บปวดไปได้
http://intentblog.com/burning-away-ties-bind-using-ritual-transformation/
ในฉากเดียวกันก็เป็นตอนที่โมยอนเดินมาหลบอยู่ข้างหลังกำแพงคนละข้างกับชีจินแล้วรู้สึกว่าตัวเองช่วยอะไรชีจินไม่ได้เลย
แถมก่อนหน้านี้ยังจะมาแอบน้อยใจชีจินที่ต้องโกหกและมีความลับเยอะ ทำภารกิจเสี่ยงตาย แทนที่จะเข้าใจสิ่งที่ชีจินคิด
จนชีจินต้องถามว่า "นี่เราจะเลิกกันเหรอ" โมยอนได้เห็นถึงความเจ็บปวดของชีจิน ได้เข้าใจ
สิ่งที่ชีจินจะต้องได้เจอในการต้องทำหน้าที่เป็นทหาร บางครั้งก็ต้องสังหารคนที่ตัวเองผูกพันธ์ด้วยเพราะอยู่คนละฝั่ง
แต่โมยอนก็ไม่สามารถแม้กระทั่งที่จะไปปิดตาของชีจินเพื่อให้ชีจินลืมเรื่องที่เลวร้าย เหมือนที่ชีจินปิดตาของโมยอนเพื่อไม่ให้โมยอน
เห็นภาพที่ Argus โดนยิง โมยอนจึงเสียใจและทำได้เพียงแค่จินตนาการว่าตัวเองจะสามารถช่วยลบความเจ็บปวดให้ชีจินได้บ้าง
นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โมยอนอยากที่จะเคียงข้างชีจินให้ถึงที่สุด
อยากจะเข้าใจชีจินในทุกๆเรื่อง
โมยอนอยากจะสามารถพูดกับชีจินได้ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่มีปัญหาใหญ่ๆกัน
ตั้งแต่ที่ตกลงคบกัน แต่คราวนี้โมยอนจะไม่หนีอีกต่อไป โมยอนจะเผชิญกับความจริง แม้สุดท้ายอาจจะสมหวังหรือเจ็บปวดก็ตาม
ผมใช้เวลาคิดมาหลายอาทิตย์แล้วเนี่ยว่าแก้วสีทองแดงนี้สื่อถึงอะไร ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันมีความหมายที่ทีมงานต้องการจะสื่อ
เพราะ 1. จับไปที่ภาพแก้วนานอยู่เหมือนกัน 2. เป็นแก้วกินน้ำที่สีประหลาดดี เคยเห็นแต่แก้วสเตนเลสสีเงิน 3. องค์ประกอบฉาก
ดูให้โฟกัสกับแก้วมากโดยเฉพาะฉากที่กอดกัน
เลยไม่ค่อยกล้าฟันธง แต่จากที่ไปลองหาๆดูแล้ว สีทองแดงในไบเบิ้ลหมายถึงการเสียสละของพระเยซู แต่ไม่น่าใช่มั้ง ผมเลยไปหา
ว่าโลหะทองแดงเป็นสัญลักษณ์ของเทพีวีนัส แล้วผมก็มาเห็นว่าในตอน 11-12 มีรูปปั้นของ Shy Venus โผล่มาในแหล่งกบดานของ
Argus
https://www.google.co.th/search?q=shy+venus&biw=1280&bih=855&source=lnms&tbm=isch&sa=X&sqi=2&ved=0ahUKEwjIiM_hnJXMAhXEFpQKHcv0BDMQ_AUIBigB
เลยน่าคิดเหมือนกันนะว่า อาจจะเกี่ยวกันก็ได้ หรือมันก็เป็นแก้วใส่กาแฟเฉยๆ!
ส่วนเทพีวีนัสก็เป็นเทพีแห่ง "ความรัก" ดังนั้นฉากที่ทั้งคู่กอดกันข้างบนก็เป็นสัญลักษณ์แทนความรักของทั้งคู่?
----ก่อนหน้านี้แก้วคู่นี้เคยโผล่มาแล้วตอนที่ทั้งคู่มาดื่มกาแฟคุยกันหลังจากที่รถดิ่งตกน้ำไป ทีมงานอาจจะแค่ต้องการเชื่อมทั้งสอง
ฉากด้วยการปรากฎตัวของแก้วใส่กาแฟสีเดิมก็ได้ จริงๆสีแก้วไม่ได้มีความหมายอะไร 555+
วาเลนไทน์
เป็นชื่อของสาวสุดเซ็กซี่ ของเรานั่นเอง น่าสนใจตรงที่โมยอนและชีจินเลือกให้เธอเป็นผู้ปกครองของฟาติมา
ถ้าจำกันได้ ชื่อที่ Argus เรียกฟาติมาคือ "ดอกกุหลาบสีแดง" และ"วาเลนไทน์"ก็จะได้มาอยู่กับ "ดอกกุหลาบสีแดง"
เป็นสัญลักษณ์ที่น่ารักดี
ถ้าในฉากนี้สื่อถึงความรักแล้ว ในเรื่องนี้นอกจากความรักคู่หลัก สิ่งที่เรื่อง DOTS สื่ออยู่เสมอคือความรักต่อเพื่อน
มนุษย์ ผู้ส่งฟาติมาเรียนเป็นคนเกาหลี ผู้ทื่จะได้มาเป็นผู้ปกครองของฟาติมาเป็นคนตะวันตกซักชาติ (มีคนวิเคราะห์ว่าน่า
จะเป็นพวกโรมาเนีย) และฟาติมาก็เป็นเด็กจากอุรุค ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนทั้งสามคนยังเป็นคนแปลกหน้ากันอยู่เลย แต่ตอนนี้
ทั้งสามคนกำลังจะมีความสัมพันธ์แบบพิเศษทั้งที่มีความแตกต่างทางเชื้อชาติและพื้นเพ
ฉากนี้เป็นฉากที่คังโมยอนไปขอลาออกกับผอ. โรงพยาบาลฮันซ็อกวอน ซ็อกวอนไม่อยากให้โมยอนออก แต่โมยอนถาม
ผอ.กลับแบบกัดๆว่า "หรือคุณจะลาออกเอง" แล้วซ็อกวอนก็รีบเอามือจับป้ายชื่อพร้อมตำแหน่งของตัวเอง 5555+
รีบปกป้องตำแหน่งของตัวเองแบบไม่ปล่อยเลยนะ ผอ. (ตอนที่ 13)
การเปลี่ยนฉากที่เนียนตาและมีความหมาย
ช่วงประมาณนาทีที่ 20 ของตอนที่ 13 มีการเปลี่ยนฉากจากที่มยองจูและซอแดยองคุยกัน โดยเริ่มจากที่
ทั้งคู่ดึงป้ายเตือนอันตรายออก เป็นอันบ่งบอกถึงการเสร็จสิ้นหน้าที่รักษาความสงบของทีม จากนั้นตัดภาพไปยัง
สถานที่ต่างๆของอุรุค (ตามแบบวันปัจฉิมนิเทศน์ในโรงเรียน มักจะมี VTR ฉายภาพตึกต่างๆวันที่จะจากลาจาก
สถานศึกษา) จากนั้นตัดภาพไปยังเรืออันเป็นพาหนะเดินทาง สื่อถึงการเตรียมตัวกลับ พร้อมทั้งหินนำโชค
ที่เป็นตัวสื่อสารถึงการจะจากไปหรือจะได้กลับมาอุรุคอีกครั้ง จากนั้นก็ตัดภาพไปที่ทุกคนเตรียมตัวกลับเกาหลี
ลางบอกเหตุอันตราย
ก่อนที่คู่รองจะไปทะเลาะกันแล้วเลิกกัน ก็มีป้ายที่เป็นลางบอกเหตุว่า "พร้อมรับการต่อสู้ โจมตีเต็มกำลัง"
พอทะเลาะแล้วเลิกกันเสร็จ ก็จบด้วยป้ายคติพจน์ของทหาร ที่หมายความว่า"ถ้ายังไม่เข้าใจกัน ก็ต้องทำให้เข้าใจกันให้ได้"
เป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่
เครื่องแต่งกายของแพทย์
เท่าที่ผมเข้าใจคือไม่มีกฎห้ามหมอใส่ยีนส์ และมันก็ไม่ได้สามารถวัดความสามารถของหมอด้วยชุดแต่งตัวได้
แต่มันอยู่ที่ธรรมเนียมที่ไม่มีเขียนบอก และความเชื่อใจของคนไข้ที่มีต่อหมอ เรื่องให้หมอคิมแต่งตัวแบบนี้จะสื่ออะไรได้บ้าง?
(ตอนที่ 15)การใช้หมวกเปรียบเทียบยศกลับมาอีกแล้ว ทำให้ซอแดยองต้องต่ำต้อยอีกแล้ว จากนั้นซอแดยองก็พูดว่า
"ผมไม่อยากไปขัดขวางการเจริญทางหน้าที่การงานของคุณ"
จากนั้นก็ตัดภาพไปยังใบลาออกของซอแดยองบนโต๊ะของพ่อมยองจู ภาพจับไปที่ยศบนหมวกของพ่อมยองจู ซอแดยองต้องลาออกเพราะ
ยศสินะ ฉากนี้ไม่ได้พูดซักคำแต่ก็สื่อความได้