สวัสดีค่ะ วันนี้เราขอระบายเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษในคลาสของเราเองให้กับคนที่ไม่เก่งอังกฤษ และอาจเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้
เราเป็นนักเรียนคนหนึ่งที่ต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษ อยากเก่ง อยากสนทนาโต้ตอบได้เหมือนกับคนอื่นๆ
ประโยคให้กำลังใจมากมาย ที่เห็นตามเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ คำพูดสวยหรูที่บอกกับพวกเราว่า
"อยากพูดอังกฤษได้ ต้องฝึกพูดบ่อยๆ
ถูกผิดไม่เป็นไร ขอแค่ได้ลองพูดมันออกมา"
เราก็เคยเชื่อแบบนั้นนะ เราพยายามที่จะพูดประโยคยาวๆ มากขึ้น
ใส่ออพชั่นการบรรยายให้ยากขึ้นกว่าเดิมสมกับอายุ
ก็ไม่อยากให้ใครมาว่าว่า โตขนาดนี้ยังแต่งได้แต่ประโยคอนุบาลๆ อย่าง I'm shy. I'm cold. My name is...
bla bla bla ทั้งหลายแหล่ที่ทุกคนต้องเคยเจอตั้งแต่สมัยประถม
ผลของความพยายามอาจใช้ได้กับอาจารย์ฝรั่งนะคะ
เวลาเราแต่งประโยคผิด สำเนียงแปร่งเขาก็จะแก้ให้และตบท้ายด้วยการให้กำลังใจว่า ดีแล้ว คุณได้พยายามแล้ว
แต่มันไม่ได้ผลกับอาจารย์สอนอิ๊งที่เป็นคนไทยนะคะ
อาจารย์คนนี้ พูดเสียงดังใส่ ด่าความโง่งมของเราให้ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจน
พูดประโยคบั่นทอนกำลังใจต่างๆ นานา
บอกว่าเรียนมายังไง ควายได้ขนาดนี้
คือเราก็ยอมรับว่าเราแต่งประโยคผิดจริง
และเราคิดว่าที่อาจารย์พูดแบบนั้นอาจเป็นรูปแบบการสอนอย่างหนึ่ง
คนไทยส่วนมากมีความเชื่อว่า
ประโยคหรือถ้อยคำดูถูกสามารถก่อให้เกิดพลังฮึดสู้ได้
แต่มันใช้ไม่ได้กับทุกคนนะคะ
เราไม่อยากคุยกับอาจารย์คนไทยที่สอนอิ๊งคนนั้นอีกเลย
ถึงเจอกันในคลาส เขาเรียกให้ตอบ ก็ตอบไปงั้นๆ อ่ะค่ะ ไม่ได้ครีเอทอะไร
เรียกว่า เรียนให้ผ่านๆ ชั่วโมงนี้ไป
ความสนใจเรื่องการสนทนาภาษาอังกฤษมันยังมีอยู่นะ
แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับความมั่นใจที่หายไปแล้ว
ก็อยากฝากให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง อารจารย์ หรือใครก็ตามแต่ที่ต้องการสอนใครสักคน
อาจเป็นบุตรหลาน ลูกศิษย์ หรือคนสนิทของท่านก็ตาม
พลังของกำลังใจ มีค่ามากกว่าที่พวกคุณคิดนะคะ
หมดสมัยที่ต้องพูดจากันด้วยอารมย์และเอาความต้องการของตัวเองไปกดขี่คนอื่นแล้วนะคะ
ทุกคนมีความรู้สึกและมีความคิดเป็นของตัวเอง
คุณอาจจะหวังดี แต่คำพูดบางคำมันส่งผลตรงกันข้ามนะคะ
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ
และเราเชื่อว่า เด็กๆ หลายคนต้องการการยอมรับจากคนใกล้ตัวเสมอ
สร้างแรงผลักดันให้เขาด้วยกำลังใจ
ดีกว่าสร้างฝันร้ายด้วยคำด่าทอนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ สวัสดี
KKM.
จากใจ นักเรียนไม่เก่งอังกฤษคนหนึ่ง
เราเป็นนักเรียนคนหนึ่งที่ต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษ อยากเก่ง อยากสนทนาโต้ตอบได้เหมือนกับคนอื่นๆ
ประโยคให้กำลังใจมากมาย ที่เห็นตามเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ คำพูดสวยหรูที่บอกกับพวกเราว่า
"อยากพูดอังกฤษได้ ต้องฝึกพูดบ่อยๆ
ถูกผิดไม่เป็นไร ขอแค่ได้ลองพูดมันออกมา"
เราก็เคยเชื่อแบบนั้นนะ เราพยายามที่จะพูดประโยคยาวๆ มากขึ้น
ใส่ออพชั่นการบรรยายให้ยากขึ้นกว่าเดิมสมกับอายุ
ก็ไม่อยากให้ใครมาว่าว่า โตขนาดนี้ยังแต่งได้แต่ประโยคอนุบาลๆ อย่าง I'm shy. I'm cold. My name is...
bla bla bla ทั้งหลายแหล่ที่ทุกคนต้องเคยเจอตั้งแต่สมัยประถม
ผลของความพยายามอาจใช้ได้กับอาจารย์ฝรั่งนะคะ
เวลาเราแต่งประโยคผิด สำเนียงแปร่งเขาก็จะแก้ให้และตบท้ายด้วยการให้กำลังใจว่า ดีแล้ว คุณได้พยายามแล้ว
แต่มันไม่ได้ผลกับอาจารย์สอนอิ๊งที่เป็นคนไทยนะคะ
อาจารย์คนนี้ พูดเสียงดังใส่ ด่าความโง่งมของเราให้ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจน
พูดประโยคบั่นทอนกำลังใจต่างๆ นานา
บอกว่าเรียนมายังไง ควายได้ขนาดนี้
คือเราก็ยอมรับว่าเราแต่งประโยคผิดจริง
และเราคิดว่าที่อาจารย์พูดแบบนั้นอาจเป็นรูปแบบการสอนอย่างหนึ่ง
คนไทยส่วนมากมีความเชื่อว่า
ประโยคหรือถ้อยคำดูถูกสามารถก่อให้เกิดพลังฮึดสู้ได้
แต่มันใช้ไม่ได้กับทุกคนนะคะ
เราไม่อยากคุยกับอาจารย์คนไทยที่สอนอิ๊งคนนั้นอีกเลย
ถึงเจอกันในคลาส เขาเรียกให้ตอบ ก็ตอบไปงั้นๆ อ่ะค่ะ ไม่ได้ครีเอทอะไร
เรียกว่า เรียนให้ผ่านๆ ชั่วโมงนี้ไป
ความสนใจเรื่องการสนทนาภาษาอังกฤษมันยังมีอยู่นะ
แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับความมั่นใจที่หายไปแล้ว
ก็อยากฝากให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง อารจารย์ หรือใครก็ตามแต่ที่ต้องการสอนใครสักคน
อาจเป็นบุตรหลาน ลูกศิษย์ หรือคนสนิทของท่านก็ตาม
พลังของกำลังใจ มีค่ามากกว่าที่พวกคุณคิดนะคะ
หมดสมัยที่ต้องพูดจากันด้วยอารมย์และเอาความต้องการของตัวเองไปกดขี่คนอื่นแล้วนะคะ
ทุกคนมีความรู้สึกและมีความคิดเป็นของตัวเอง
คุณอาจจะหวังดี แต่คำพูดบางคำมันส่งผลตรงกันข้ามนะคะ
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ
และเราเชื่อว่า เด็กๆ หลายคนต้องการการยอมรับจากคนใกล้ตัวเสมอ
สร้างแรงผลักดันให้เขาด้วยกำลังใจ
ดีกว่าสร้างฝันร้ายด้วยคำด่าทอนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ สวัสดี
KKM.