สวัสดีค่า มาต่อกันแล้วค่ะ กับวันที่ 2 ของการเที่ยวในญี่ปุ่นในแถบคันไซ ต้องขอโทษที่หายไปตั้ง 4 วัน พอดีว่าไปทำธุระ และเมื่อวานไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่นครปฐมมาค่ะ สำหรับใครที่หลังไมค์มา เราตอบให้แล้วนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่เรากลับมาตอบช้า แหะๆ
ครั้งหนึ่งที่เจแปน #1 คืนแรกที่สนามบิน วันแรกที่โอซาก้า :
http://ppantip.com/topic/35031973/
เอาล่ะค่ะ เรามาเริ่มกันเลยเนอะ วันนี้เราจะพาทัวร์กันที่เมืองเกียวโตค่ะ ดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณ ที่ที่เราจะได้เห็นสาวญี่ปุ่นมากมายใส่ชุดกิโมโนกัน ดูแล้วเข้ากั๊นเข้ากัน กับความงดงามของศาลเจ้า หรือวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต อดีตเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นด้วยนะคะ แต่พอถึง ค.ศ. 1869 (ยุคฟื้นฟูจักรวรรดิ) ราชสำนักก็ได้ย้ายเมืองหลวงไปยังกรุงโตเกียว ค่ะ หากอยากทราบประวัติกันยาวๆ ก็ตามที่ลิงค์ใน spoil ด้านล่างนี้เลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%B0_(%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87)
สำหรับการเดินทางในวันนี้นะคะ เราจะใช้ JR West Kansai Area Pass อีกเช่นเคย ผสมกับ Kyoto Bus One Day Pass ในราคา 500 yen ค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางวันนี้ อาหารเช้า เราทานที่โรงแรมค่ะ (ประหยัดเงิน ข้าวปั้นมีทุกมื้อ มีคนบอกว่าอร่อยมาก แต่เราไม่ได้ชิมเลยค่ะ ชอบกินยากิโซบะ กับซุปมิโซะ) เมื่ออิ่มแล้ว ก็ลุยกันเลย วันนี้ถ้าจำไม่ผิด อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 องศา ลมนี่พัดมาเรื่อยๆค่ะ พัดมาทีก็สั่นที เพราะเตรียมเสื้อผ้ามาบางไปกับอากาศที่หนาวลง (ตอนจะไปก็นึกว่าสัก 15 องศา ก่อนไปเช็คสภาพอากาศกันดีๆนะคะ เดี๋ยวจะเหมือนเรา)
เริ่มต้นกันที่สถานี Shin-Osaka นะคะ เราเข้าในส่วนที่เป็น JR Station ขั้นตอนการเข้าสถานี ไม่ยากค่ะ เดินผ่านช่องสำหรับรถเข็นคนพิการ ที่จะอยู่ใกล้กับห้องนายสถานี โชว์พาสให้เจ้าหน้าที่ดู ก็ผ่านได้อย่างสวยๆ
ปลายทางแรกของเราคือ ศาลเจ้า Fushimi Inari โดยเราจะนั่งไปลง JR Inari เพราะศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ตรงข้ามกับสถานี JR เลยค่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่มีเวลาเปิดปิดนะคะ สามารถไปได้ตลอด ใครจะเก็บไว้เป็นที่สุดท้ายตอนเย็นๆก็ได้ค่ะ แต่เรากลัวหลอน แฮ่ๆ
หากเราเลือกจาก Hyperdia โดยให้ปลายทางเป็น Inari เว็บ Hyperdia จะทำการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดมาให้โดยผลจะเป็นแบบนี้นะคะ
อธิบายตามภาพนะคะ เราเริ่มต้นกันที่สถานี Shin-Osaka ขึ้นที่ชานชลาที่ 12 (Departure Track. คือเลขชานชลาที่รถไฟขบวนนั้นๆกำลังจะออก) พอไปถึง Kyoto เนี่ย ที่ Kyoto อาจจะจอดที่ชานชลาหลัก (ในรูปนี้ไม่ได้บอกถึง Arrival Track ซึ่งเป็นชานชลาที่จอดปลายทาง ในบางครั้งเราจะเห็น Arrival Track/Departure Track คือหมายถึง ขบวนนี้ไปถึงที่ Track ไหน และขบวนที่เราจะเปลี่ยน จะต้องไปขึ้นที่ Track ไหน) ให้เราออกมาจากขบวน และเดินไปตามทางที่ไปชานชลาที่ 9 ค่ะ มีเวลาในการเปลี่ยนขบวน ประมาณ 10 นาที ขอบอกว่าถ้าไม่มีสัมภาระขนาดใหญ่ ยังไงก็ทันค่ะ อาจจะเดินเร็วๆนิดหน่อย แต่ถ้าพลาด ก็อาจจะรอขบวนถัดไปประมาณ 9 - 20 นาที แล้วแต่วันที่เราจะไป และช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ
เมื่อมาถึงสถานี JR Inari ทางออกหาไม่ยากค่ะ จะมีป้ายบอกว่าไป Fushimi Inari ค่ะ เมื่อออกมาจากสถานีจะเจอบรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ ศาลเจ้าอยู่ตรงข้ามเลย
ออกมาจากสถานีจะได้เห็นเสาแบบนี้เลยค่ะ
สาวๆในชุดกิโมโน
เดินผ่านเสาคู่แรก ก็จะได้บรรยากาศแบบนี้ค่ะ
เดินเข้าไปอีกนิด ทางด้านซ้ายมือ จะมีที่ให้เราชำระล้างมือ ล้างปากกันด้วยค่ะ (ตอนล้างปาก ขอความกรุณาเอาน้ำจากกระบวย เทใส่มือเราก่อนนะคะ แล้วค่อยเอาน้ำจากที่มือเราใช้บ้วนปาก อย่าเอาปากเรา สัมผัสกับกระบวยโดยตรงค่ะ เพราะมีคนมาใช้ต่อจากเราอีกค่ะ)
รูปปั้นสุนัขจิ้งจอกฝั่งซ้าย
และฝั่งขวา
ประตูก่อนที่เราจะขึ้นไปด้านบน เพื่อที่จะผ่านมวลหมู่เสาโทริอิค่ะ
ขึ้นไปด้านบนแล้ว มองหันกลับมาอีกสักหน่อยค่ะ เราจะเห็นศาลเจ้าหลักอยู่ด้านล่าง ตรงนี้จะมีที่ให้เราได้เขียนป้าย หรือเช่าเสาโทริอิไม้ขนาดเล็กๆ เอาไว้เขียนคำขอต่างๆได้ค่ะ
ก่อนจะเข้าสู่เสาโทริอิที่เรียงรายกันหลายร้อยต้นค่ะ
ขอเก็บภาพสักนิด
[CR] ครั้งหนึ่งที่เจแปน #2 – Kyoto one day (Fushimi Inari แวะร้านข้าวปลาไหลย่างร้านดัง ต่อด้วยวัดทอง ปิดท้ายที่วัดน้ำใส)
ครั้งหนึ่งที่เจแปน #1 คืนแรกที่สนามบิน วันแรกที่โอซาก้า : http://ppantip.com/topic/35031973/
เอาล่ะค่ะ เรามาเริ่มกันเลยเนอะ วันนี้เราจะพาทัวร์กันที่เมืองเกียวโตค่ะ ดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณ ที่ที่เราจะได้เห็นสาวญี่ปุ่นมากมายใส่ชุดกิโมโนกัน ดูแล้วเข้ากั๊นเข้ากัน กับความงดงามของศาลเจ้า หรือวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต อดีตเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นด้วยนะคะ แต่พอถึง ค.ศ. 1869 (ยุคฟื้นฟูจักรวรรดิ) ราชสำนักก็ได้ย้ายเมืองหลวงไปยังกรุงโตเกียว ค่ะ หากอยากทราบประวัติกันยาวๆ ก็ตามที่ลิงค์ใน spoil ด้านล่างนี้เลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับการเดินทางในวันนี้นะคะ เราจะใช้ JR West Kansai Area Pass อีกเช่นเคย ผสมกับ Kyoto Bus One Day Pass ในราคา 500 yen ค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางวันนี้ อาหารเช้า เราทานที่โรงแรมค่ะ (ประหยัดเงิน ข้าวปั้นมีทุกมื้อ มีคนบอกว่าอร่อยมาก แต่เราไม่ได้ชิมเลยค่ะ ชอบกินยากิโซบะ กับซุปมิโซะ) เมื่ออิ่มแล้ว ก็ลุยกันเลย วันนี้ถ้าจำไม่ผิด อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 องศา ลมนี่พัดมาเรื่อยๆค่ะ พัดมาทีก็สั่นที เพราะเตรียมเสื้อผ้ามาบางไปกับอากาศที่หนาวลง (ตอนจะไปก็นึกว่าสัก 15 องศา ก่อนไปเช็คสภาพอากาศกันดีๆนะคะ เดี๋ยวจะเหมือนเรา)
เริ่มต้นกันที่สถานี Shin-Osaka นะคะ เราเข้าในส่วนที่เป็น JR Station ขั้นตอนการเข้าสถานี ไม่ยากค่ะ เดินผ่านช่องสำหรับรถเข็นคนพิการ ที่จะอยู่ใกล้กับห้องนายสถานี โชว์พาสให้เจ้าหน้าที่ดู ก็ผ่านได้อย่างสวยๆ
ปลายทางแรกของเราคือ ศาลเจ้า Fushimi Inari โดยเราจะนั่งไปลง JR Inari เพราะศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ตรงข้ามกับสถานี JR เลยค่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่มีเวลาเปิดปิดนะคะ สามารถไปได้ตลอด ใครจะเก็บไว้เป็นที่สุดท้ายตอนเย็นๆก็ได้ค่ะ แต่เรากลัวหลอน แฮ่ๆ
หากเราเลือกจาก Hyperdia โดยให้ปลายทางเป็น Inari เว็บ Hyperdia จะทำการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดมาให้โดยผลจะเป็นแบบนี้นะคะ
อธิบายตามภาพนะคะ เราเริ่มต้นกันที่สถานี Shin-Osaka ขึ้นที่ชานชลาที่ 12 (Departure Track. คือเลขชานชลาที่รถไฟขบวนนั้นๆกำลังจะออก) พอไปถึง Kyoto เนี่ย ที่ Kyoto อาจจะจอดที่ชานชลาหลัก (ในรูปนี้ไม่ได้บอกถึง Arrival Track ซึ่งเป็นชานชลาที่จอดปลายทาง ในบางครั้งเราจะเห็น Arrival Track/Departure Track คือหมายถึง ขบวนนี้ไปถึงที่ Track ไหน และขบวนที่เราจะเปลี่ยน จะต้องไปขึ้นที่ Track ไหน) ให้เราออกมาจากขบวน และเดินไปตามทางที่ไปชานชลาที่ 9 ค่ะ มีเวลาในการเปลี่ยนขบวน ประมาณ 10 นาที ขอบอกว่าถ้าไม่มีสัมภาระขนาดใหญ่ ยังไงก็ทันค่ะ อาจจะเดินเร็วๆนิดหน่อย แต่ถ้าพลาด ก็อาจจะรอขบวนถัดไปประมาณ 9 - 20 นาที แล้วแต่วันที่เราจะไป และช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ
เมื่อมาถึงสถานี JR Inari ทางออกหาไม่ยากค่ะ จะมีป้ายบอกว่าไป Fushimi Inari ค่ะ เมื่อออกมาจากสถานีจะเจอบรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ ศาลเจ้าอยู่ตรงข้ามเลย
ออกมาจากสถานีจะได้เห็นเสาแบบนี้เลยค่ะ
สาวๆในชุดกิโมโน
เดินผ่านเสาคู่แรก ก็จะได้บรรยากาศแบบนี้ค่ะ
เดินเข้าไปอีกนิด ทางด้านซ้ายมือ จะมีที่ให้เราชำระล้างมือ ล้างปากกันด้วยค่ะ (ตอนล้างปาก ขอความกรุณาเอาน้ำจากกระบวย เทใส่มือเราก่อนนะคะ แล้วค่อยเอาน้ำจากที่มือเราใช้บ้วนปาก อย่าเอาปากเรา สัมผัสกับกระบวยโดยตรงค่ะ เพราะมีคนมาใช้ต่อจากเราอีกค่ะ)
รูปปั้นสุนัขจิ้งจอกฝั่งซ้าย
และฝั่งขวา
ประตูก่อนที่เราจะขึ้นไปด้านบน เพื่อที่จะผ่านมวลหมู่เสาโทริอิค่ะ
ขึ้นไปด้านบนแล้ว มองหันกลับมาอีกสักหน่อยค่ะ เราจะเห็นศาลเจ้าหลักอยู่ด้านล่าง ตรงนี้จะมีที่ให้เราได้เขียนป้าย หรือเช่าเสาโทริอิไม้ขนาดเล็กๆ เอาไว้เขียนคำขอต่างๆได้ค่ะ
ก่อนจะเข้าสู่เสาโทริอิที่เรียงรายกันหลายร้อยต้นค่ะ
ขอเก็บภาพสักนิด