ความเดิมจากตอนที่แล้ว เราเดินทางจาก Shirakawa-go ไป Kanazawa เพื่อขึ้นรถไฟไปเกียวโต
ลงรถบัสที่ Kanazawa Station ณ ป้ายรถบัสหมายเลข 2 ใกล้ๆกับ Kanazawa JR Station เพียง 2 นาที
เมื่อเดินเข้าไปภายในสถานี จะเจอ Tourist Information อยู่ทางขวามือ
ท่านใดที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ก็เข้าไปถามได้เลย มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษคอยให้คำแนะนำ
ส่วนเราไปซื้อตั๋วที่ห้องจำหน่ายตั๋ว มีป้ายบอกทางชัดเจน
ได้ตั๋วมาแล้วเรียบร้อย ราคา 6900 yen = 2070 บาท เราสามารถเลือกที่นั่งได้นะ แต่ต้องจ่ายเพิ่ม
อันนี้เป็นราคารวม fee จองที่นั่งแล้ว ถ้าจองที่นั่งตั๋วจะระบุเลขที่นั่งชัดเจน
ของเราตู้ที่ 3 ที่นั่ง 3B
เตรียมตัวไปชานชาลากันได้เลยยย
เช็คอีกสักรอบเพื่อความแน่ใจว่าเราจะไม่นั่งรถไฟผิดขบวน
ไปยืนต่อแถวตามขบวนรถของเรา หมายเลข 3
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที ก็ถึงเกียวโต
เข้าพักโรงแรมเพราะเที่ยวมาทั้งวันแว้ว เจอกันพรุ่งนี้เช้าจ้า
วันแรกในเกียวโต เราไปเที่ยวที่ไหนบ้าง?
- Fushimi Inari Shrine
- Tofukuji Temple
- Kiyomizu
- Ginkakuji
ตอนเช้าเราเดินจากโรงแรมไปขึ้นรถ JR ที่สถานี Kyoto ไปลงที่สถานี Inari ขึ้นสาย Nara Line
สถานี Inari อยู่ห่างจากสถานี Kyoto เพียง 2 ป้ายเท่านั้น
ค่าตั๋วจาก Kyoto -> Inari 140 yen = 42 บาท
เมื่อลงรถไฟที่สถานี Inari จะเจอวัดอยู่ตรงข้ามสถานีเลย ใกล้มากกก
วัดที่นี่ ฟรีค่าเข้าชมนะ เดินรอบๆได้เลย
จะเห็นว่ามีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกปั้นอยู่ภายในวัด เพราะมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นผู้ส่งสาร หรือผู้แจ้งข่าวนั่นเอง
ภายในวัดจะมีศาลเล็กๆตั้งอยู่โดยรอบ
ถึงแล้ว ทางเข้าเสาโทเรอิ มุมยอดฮิตของมหาชน
เสาโทริอิในวัด ได้รับการบริจาคโดยประชาชนและบริษัท จะมีนามผู้บริจาคและวันที่เขียนบอกว่าบริจาคเสานี้เมื่อไรอยู่บนเสา โดยราคาจะเริ่มค้นที่ 400000 เยน สำหรับเสาต้นเล็กๆ และเสาค้นใหญ่ราคาจะสูงถึง 1 ล้านเยน
ใครสนใจจะเดินขึ้นไปบนจุดสูงสุดของยอดเขาก็ได้นะ เดินไปตามทางเสาโทริอิเนี่ยแหละ ไป-กลับใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
แต่เราขอไปที่อื่นนะคะ ไว้รอบหน้าจะกลับมาเดิน
ขากลับออกมาจากวัด มีตลาดของกินอยู่ด้วย เรื่องของกินเราสนใจ
เราสนใจขนมร้านนี้ ฮิฮิ กลิ่นหอมมากกก ชวนให้เสียเงินสุดๆ ไส้ถั่วแดงล่ะ รสชาติโอเคนะ แป้งนุ่ม ไม่หวาน
[รีวิว] ทริปญี่ปุ่น ตอนที่ 4 Kyoto ที่ไม่มีขนมโตเกียว
ลงรถบัสที่ Kanazawa Station ณ ป้ายรถบัสหมายเลข 2 ใกล้ๆกับ Kanazawa JR Station เพียง 2 นาที
เมื่อเดินเข้าไปภายในสถานี จะเจอ Tourist Information อยู่ทางขวามือ
ท่านใดที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ก็เข้าไปถามได้เลย มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษคอยให้คำแนะนำ
ส่วนเราไปซื้อตั๋วที่ห้องจำหน่ายตั๋ว มีป้ายบอกทางชัดเจน
ได้ตั๋วมาแล้วเรียบร้อย ราคา 6900 yen = 2070 บาท เราสามารถเลือกที่นั่งได้นะ แต่ต้องจ่ายเพิ่ม
อันนี้เป็นราคารวม fee จองที่นั่งแล้ว ถ้าจองที่นั่งตั๋วจะระบุเลขที่นั่งชัดเจน
ของเราตู้ที่ 3 ที่นั่ง 3B
เตรียมตัวไปชานชาลากันได้เลยยย
เช็คอีกสักรอบเพื่อความแน่ใจว่าเราจะไม่นั่งรถไฟผิดขบวน
ไปยืนต่อแถวตามขบวนรถของเรา หมายเลข 3
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที ก็ถึงเกียวโต
เข้าพักโรงแรมเพราะเที่ยวมาทั้งวันแว้ว เจอกันพรุ่งนี้เช้าจ้า
วันแรกในเกียวโต เราไปเที่ยวที่ไหนบ้าง?
- Fushimi Inari Shrine
- Tofukuji Temple
- Kiyomizu
- Ginkakuji
ตอนเช้าเราเดินจากโรงแรมไปขึ้นรถ JR ที่สถานี Kyoto ไปลงที่สถานี Inari ขึ้นสาย Nara Line
สถานี Inari อยู่ห่างจากสถานี Kyoto เพียง 2 ป้ายเท่านั้น
ค่าตั๋วจาก Kyoto -> Inari 140 yen = 42 บาท
เมื่อลงรถไฟที่สถานี Inari จะเจอวัดอยู่ตรงข้ามสถานีเลย ใกล้มากกก
วัดที่นี่ ฟรีค่าเข้าชมนะ เดินรอบๆได้เลย
จะเห็นว่ามีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกปั้นอยู่ภายในวัด เพราะมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นผู้ส่งสาร หรือผู้แจ้งข่าวนั่นเอง
ภายในวัดจะมีศาลเล็กๆตั้งอยู่โดยรอบ
ถึงแล้ว ทางเข้าเสาโทเรอิ มุมยอดฮิตของมหาชน
เสาโทริอิในวัด ได้รับการบริจาคโดยประชาชนและบริษัท จะมีนามผู้บริจาคและวันที่เขียนบอกว่าบริจาคเสานี้เมื่อไรอยู่บนเสา โดยราคาจะเริ่มค้นที่ 400000 เยน สำหรับเสาต้นเล็กๆ และเสาค้นใหญ่ราคาจะสูงถึง 1 ล้านเยน
ใครสนใจจะเดินขึ้นไปบนจุดสูงสุดของยอดเขาก็ได้นะ เดินไปตามทางเสาโทริอิเนี่ยแหละ ไป-กลับใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
แต่เราขอไปที่อื่นนะคะ ไว้รอบหน้าจะกลับมาเดิน
ขากลับออกมาจากวัด มีตลาดของกินอยู่ด้วย เรื่องของกินเราสนใจ
เราสนใจขนมร้านนี้ ฮิฮิ กลิ่นหอมมากกก ชวนให้เสียเงินสุดๆ ไส้ถั่วแดงล่ะ รสชาติโอเคนะ แป้งนุ่ม ไม่หวาน