นอนไม่หลับค่ะ เครียดสงสารเเม่

วันนี้เเม่ไปรับจ้างเเถวบ้าน  ให้เราไปช่วยกวาดใบไม้ เเล้วคนจ้างเค้าก้ให้เอาขวดไปทิ้ง เเต่เเม่เราขอเอากลับไปบ้านเพื่อไว้ขาย เราอายมากเเถวนั้นมีเเต่คนรู้จักขี่รถผ่านไปมา เราเลยเดินหนีเเม่ซะงั้น กลับมาร้องให้ที่บ้านน้อยใจชะตาชีวิตตัวเอง เเต่คิดได้สงสารเเม่เลยกลับไปช่วยเเม่ต่อ ขนขวดกลับมาอย่าทุลักทุเล บางส่วนเเม่เอาไปทิ้งบ้างเพราะขนไม่ใหว เราไม่มีรถมีเพียงจักรยานสองคันช่วยกันขน พอกลับมาเเม่เเบ่งให้เราสองร้อย เราน้ำตาคลอเลยคือเเม่ทำมาทั้งวัน เราเเค่ไปกวาดใบไม้ไม่ถึงชั่วโมง ที่เราเครียดคือตอนนี้เราเพิ่งเริ่มทำงาน ไปพักข้างนอกเพราะที่ทำงานไกลมาก เเต่เรากับเเม่ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง จึงต้องอยู่ร่วมกับญาติหลายๆคน มีทั้งจิตไม่ปกติ ขี้เมา ด่าเเม่เราเช้าเย็น เราเป็นห่วงเเม่จังค่ะ ชวนไปอยู่ด้วยก็ไม่ไปห่วงต้นไม้กลัวไม่มีใครรดน้ำให้  อยากมีบ้านเป็นของตัวเองก็คงได้เเค่ฝันค่ะ  มนุษเงินเดือนเดือนเเรกไม่พอใช้เลยจริงๆ คราวนี้เลยเครียดค่ะ อยากเก็บตังซื้อบ้าน เเต่คงเป็นสิบปีกลัวเเม่จะไม่อยู่จนถึงวันนั้น อยากมีรถวันหยุดขับรถไปเที่ยวทะเล อยู่กันสองคนเเม่ลูก เเต่พอมองดูความจริงเเล้วยากเสียเหลือเกินค่ะ คือตอนนี้เรานอนไม่หลับเลย เครียด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
สู้ๆครับ เป็นกำลังใจครับ อ่านแล้วสัมผัสถึงความอัดอั้น ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ได้มากเลยครับ ....
เข้าใจอารมณ์เลยครับ ตัวผมเองตอนเด็กก็คล้ายกันต้องออดทนดู พ่อแม่ ลำบากมากๆ

ผมอยากแนะนำแบบนี้ครับ ถ้าคุณมีเป้าหมายเพื่อให้คุณแม่คุณได้มีโอกาสสบายๆจริง คุณต้องทำใจไว้เลยนะครับ
คุณต้องพยายามมากกว่าเดิม ต้องลำบากกว่าเดิม ต้องลุยให้มากกว่าเดิม เพื่อโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ถึงจะสำเร็จครับ
ถ้าคุณ อยากช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคุณแม่คุณมากพอ ก่อนจะไม่มีโอกาส คุณจะทำได้ครับ
[ผมเองก็มีแรงผลักดันอันนี้เป็นแกนหลักชีวิตเหมือนกัน และพยายามหนักมาก ตั้งแต่ตอนเรียน และสำเร็จหลังเรียนจบ ใน 1-2ปี จนคิดว่าวันนี้อยู่ในระดับที่ พอใจ ผมบอกได้เลย มันจะคุ้มค่ามากๆที่จะได้เห็น ได้สัมผัส พ่อแม่ อยู่ในภาวะวางใจ สบายใจ และภูมิใจกับสิ่งต่างๆที่ได้มา]

ผมเข้าใจว่า จขกท. อยู่ในวัยเรียนอะนะครับ
ผมเองก็รู้สึกตั้งใจจะทำแบบนี้ตอนเรียนเหมือนกัน เพราะ เริ่มสัมผัส เริ่มรับรู้สภาพความกดดันๆต่างๆได้ชัดเจนขึ้น

ในวัยเรียนทำอะไรได้ไม่มากครับ ทำได้แค่เป็นภาระให้น้อยที่สุดได้เท่านั้นเอง [จะต้องอดทนมากๆเลย อย่าท้อละ]

แล้วก็อดทนและเป็นกำลังให้คุณแม่เยอะๆ
แล้วก็หมั่นคุยกับคุณแม่บ่อยๆ เล่าถึงการเรียนต่างๆ การจะประสบความเร็จในการเรียนเยอะๆ
ผมว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนน้ำมันที่คอยเติมกำลังใจคุณแม่ได้เยอะเลยครับ มันเป้นเหมือน "ความหวัง"
ที่เค้าจะหวังแล้วมีความสุขกับมันได้เยอะมากๆ

แต่ในขณะที่ทำอะไรไม่ได้มาก แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ทำอะไรคนะครับ

วัยเรียนคือการเตรียมพร้อมตัวเราให้พร้อมที่สุด... เมื่อจบไปแล้วต้องโดดเด่นที่สุดครับ ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยความโดดเด่นได้
หมายความว่า นี่คือทางลัดที่จะทำให้เป้าหมายเราในการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของเค้าได้เร็วที่สุดครับ
ถ้าเริ่มต้นได้สวยอะไรจะง่ายขึ้นเยอะเหมือนว่าวที่ติดลมบนเลยครับ

ไม่ว่าจะเรียนอะไรสายไหน ขอให้รู้ว่า จบไปจะทำอะไรให้ได้... พอรู้จะทำอะไรก็จะรู้ว่าจะใช้ Skill ไหนบ้าง

หลังจากนั้น ฝึก ทักษะนั้น ให้หนักๆ ในห้องเรียนมันมีแค่ 10% เท่านั้นแล่ะ คุณมีเวลาอีก ปีในการฝึกตรงนี้
ฝึกให้หนักๆ ให้ต่อเนื่อง เหมือนคนที่จุดไฟด้วยหินด้วยไม้ ถ้าทำๆหยุดๆมันก็ไม่ติดไม่เกิดผล ให้ทำต่อเนื่องๆ มันจะเกิดผลเอง

เชื่อเถอะครับ วันที่คุณจบมาเมื่อไหร่ คุณจะพุ่งทะยาน ทันที จากนั้นความฝันต่างๆ ที่คุณจะทำให้คุณแม่ของคุณ "ไม่ยากอีกต่อไป"

จะทำแบบนี้ได้จริงๆ คุณต้องมี "ศรัทธา" และ "ตั้งใจทำเพื่อคุณแม่" มากพอ คุณจะทำเร็จเพราะระหว่างทาง จะมีสิ่งต่างๆเข้ามาในชีวิตคุณมากมายและพอคุณนอกเส้นทางได้ง่ายๆเลย

สู้ๆครับ ที่ผมพิมพ์ยาวๆก็ เพราะว่า ผมเองก็เคนยืนในจุดนั้นมาเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่