ไหว้พระ 9 วัด ใน กทม. ตามแบบของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันนะครับ แล้วแต่ความสะดวกว่าจะไปวัดไหนก่อนหลัง ที่สำคัญแค่วางแผนการเดินทางให้ดี แค่นี้ก็ประหยัดได้ครับ ส่วนในแบบของผม ผมไม่ได้ใช้รถส่วนตัว จึงวางแผนการเดินทางและเรียงวัดตามนี้ครับ
วัดที่ 1 วัดสระเกศฯ(วัดภูเขาทอง) เพื่อให้ชีวิตดี ไม่ตกต่ำ
วัดที่ 2 วัดสุทัศน์ฯ เพื่อวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล
วัดที่ 3 วัดพระแก้ว ขอพรเรื่องเงินทองไหลมาเทมา
วัดที่ 4 วัดโพธิ์ เพื่อชีวิตร่มเย็น อยู่ดีกินดี
วัดที่ 5 วัดอรุณฯ เพื่อชีวิตรุ่งเรือง
วัดที่ 6 วัดกัลยาณมิตร เพื่อจะได้มีมิตรที่ดี
วัดที่ 7 วัดระฆัง เพื่อความมีชื่อเสียงในทางที่ดี
วัดที่ 8 วัดชนะสงคราม จะผ่านอุปสรรค์และสิ่งร้ายไปได้ด้วยดี
วัดที่ 9 วัดบวรนิเวศฯ ปราศจากภัยอันตรายทั้งปวง
ทั้งนี้บางท่านอาจจะตัด 2 วัดในรายชื่อข้างต้นทิ้งไปแล้วแทนที่ด้วย ศาลหลักเมืองกรุงเทพ และ ศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละท่านเลยครับ สามารถปรับใช้ได้
โดยศาลหลักเมืองกรุงเทพจะไหว้เพื่อความมั่นคงในชีวิต ส่วนศาลเจ้าพ่อเสือก็ไหว้เพื่ออำนาจบารมีนั่นเองครับ ปีแรกที่ผมไหว้ผมก็ไม่ได้ไปวัดกัลยาณมิตรครับ จำได้ว่าผมไปศาลหลักเมืองแทน แต่รีวิวนี้ผมไปตามที่เรียงไว้ข้างต้น...ว่าแล้วเราก็มาลุยกันเลยครับ ^ ^
สิ่งที่ต้องเตรียมในการไปไหว้พระ 9 วัด
-ทำร่างกายให้พร้อม
-วางแผนการจัดลำดับวัด กะเวลาให้เหมาะสม
-แต่งกายสุภาพ เหมาะกับการเข้าวัดเข้าวา
-เตรียมร่มไปด้วยก็ดี ถ้ากลัวดำก็จัดเสื้อแขนยาว แว่นตา หมวก โบกครีม เอาให้ครบครับ เพราะแดดบ้านเราไม่เคยปราณีใคร
-ยาดม ยาอม ยาหม่อง หรือยาต่างๆสำหรับท่านที่มีโรคประจำตัว หรือผู้สูงอายุครับ
-นำดื่ม อันนี้สำคัญครับ เตรียมไว้แต่ไม่ต้องเยอะเพราะหาซื้อตามทางได้
-เงินทำบุญ แนะนำให้แลกเหรียญไว้เลยครับ จะได้สะดวกเวลาใช้ รวมทั้งพวกธนบัตรย่อยก็ให้แลกไว้ครับ เพราะนอกจากใช้ทำบุญแล้วยังใช้เป็นค่ารถค่าเรือได้ครับ
-นอกนั้นของมีค่าต่างๆทั้งกล้อง เงิน โทรศัพท์ ฯลฯ ก็เตรียมกระเป๋าใส่ให้ดีครับ ระวังพวกล้วงกระเป๋าด้วย ผมยังไม่เคยเจอนะครับ แต่ก็ป้องกันไว้ก่อน พวกนี้บาปมันหนาครับ ในวัดในวาก็ไม่เว้น
ผมเริ่มจากวัดสระเกศฯเป็นวัดแรกเพราะนั่งเรือมาถึงเลยครับ แต่บางครั้งก็นั่งรถเมล์ หรือไม่ก็แท็กซี่มาครับ ซึ่งถ้านั่งเรือหรือรถเมล์มาก็ค่ารถไม่เกิน 30 บาท ครับ จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ แหะๆ
ผมเริ่มไหว้ตอน 9.30 น. พอมาถึงก็เข้าไหว้พระประธานก่อนครับ วัดนี้ให้ขอเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ครับ ให้ชีวิตไม่ตกต่ำ เป็นต้นครับ จากนั้นก็ขึ้นไปบนภูเขาทองไปสักการะพระสารีริกธาตุ แล้วก็ทำบุญตามศรัทธาครับ(ผมถือเคล็ดให้ลงท้ายด้วยเศษ 9 บาท ครับ เช่น 19,29,39.......เป็นต้นครับ แล้วแต่สะดวกได้เลย) หรือจะไม่ขึ้นภูเขาทองก็ได้ครับ ไหว้พระประธานเสร็จก็มาต่อที่วัดที่ 2 กันเลย
วัดที่ 2 ของเราก็คือวัดสุทัศน์ นั่นเองครับ เดินจากวัดสระเกศมานิดเดียวก็ถึง ไม่เสียตังแถมได้ชมการทำบาตรตอนเดินผ่านชุมชนบ้านบาตร รวมทั้งเสาชิงช้าที่ตั้งเด่นเป็นสง่าด้วยครับ ^ ^
วัดนี้ให้ขอเรื่องความคิด วิสัยทัศน์ ให้เรามีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและดีงามครับ
และจากวัดสุทัศน์ ถ้าใครจะไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือและศาลหลักเมืองก็ไปได้เลยครับ โดยไปที่ศาลเจ้าพ่อเสือก่อน จากนั้นก็เดินไปอีกหน่อยจะเป็นศาลหลักเมืองกรุงเทพครับ
จากวัดสุทัศน์ผมก็เดินมาวัดพระแก้วเป็นวัดที่ 3 ครับ ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปสวยๆได้เพียบโดยเฉพาะตรงกระทรวงกลาโหม ฮ่าๆ(ของเค้าสวยจริงๆ)
วัดพระแก้วอาจต้องใช้เวลาหน่อยครับเพราะไม่ว่าจะวันไหนๆก็คนเยอะครับ(ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของโลกนิครับ ว้าวๆ)
วัดนี้ให้ขอเรื่องโชคลาภเงินทองครับ รับรองไหลมาเทมามีให้ใช้ไม่ขาดมือ โดยเข้าไปกราบสักการะพระแก้วมรกตแล้วก็ขอจากท่านนั่นเองครับ
วัดที่ 4 วัดโพธิ์ เดินมาจากวัดพระแก้วแค่ชั่วอึดใจก็ถึงแล้วครับ เป็นวัดที่ผู้คนคลาคล่ำอีกวัดหนึ่ง วัดนี้ให้ขอเรื่องความร่มเย็นเป็นสุขของชีวิตครับ แล้วอย่าลืมไปสักการะพระนอน รวมทั้งเจดีย์ 4 รัชกาล(ร.๑-ร.๔) กันด้วยนะครับ วันที่ผมไปเป็นช่วงสงกรานต์ มีก่อเจดีย์ทรายกันด้วย น่ารักดีครับ ;)
เสร็จจากวัดโพธิ์ก็จะประมาณเที่ยงๆพอดี ก็ได้เวลาหาอะไรกินซึ่งร้านแถวท่าเตียนก็มีเยอะครับ ทั้งของคาวของหวาน ตอนนั้นผมกระหายของหวานมากก็เลยแวะร้านกาแฟเอาแอร์เย็นๆบรรยาหาศดีๆแล้วก็จัดโกโก้มา 1 แก้วครับ(เป็นคนไม่กินกาแฟ แต่ชอบนั่งร้านกาแฟ ฮ่าๆ) จากนั้นก็นั่งเลือกรูป อัพ FB อัพ IG & Line โอ้ย แล้วแต่จะคิดได้ครับ ฮ่าๆ ก็นั่งชิลตามอัธยาศัยเลย
จำชื่อร้านไม่ได้ ขออภัยด้วยครับ จำได้แค่ว่าเขาไม่ใส่น้ำตาลเลยครับ เขาจะมีน้ำเชื่อมให้เราเติมเองแล้วแต่ความชอบหวานน้อยหวานมาก หรือถ้าใครไม่ชอบกินของหวานก็มีร้านข้าวอยู่ข้างๆติดๆกัน ไหนจะร้านรถเข็นอีกมากมาย มีให้เลือกเยอะครับ พอเวลา 13.00 เราก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือข้ามฟากครับ เดินไปนิดเดียว เสียค่าเรือ 3 บาท นั่งกินลมไม่ทันอิ่มก็ถึงวัดอรุณแล้วครับ
ปีนี้วัดอรุณมีการปรับปรุงครับ รูปที่ได้เลยจะมีนั่งร้านเต็มไปหมด ส่วนรูปซ้ายล่างถ่ายไว้ตอนไหว้พระ 9 วัดครั้งแรกครับ เมื่อปีพ.ศ.2548 (นานมาก ฮ่าๆ) วัดนี้ให้ขอเรื่องความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ของชีวิตครับ เสร็จแล้วก็ออกมานั่งมอไซด์วินไปวัดต่อไปได้เลยครับ
จากวัดอรุณมาวัดกัลยาณมิตร วัดที่ 6 ของเรา จ่ายค่าแว๊นให้พี่วินไปแค่ 20 บาท พี่แกมาส่งแทบจะถึงธรณีประตูวัดครับ เยี่ยมมากๆไม่ต้องเดินไกล ฮ่าๆ
และแน่นอนครับชื่อวัดก็ตรงตัว กัลยาณมิตร ก็ต้องมาขอเรื่อมิตรสหาย ขอให้พบเจอแต่มิตรที่ดี มิตรที่มีอยู่ก็ขอให้ดีขึ้น ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
จบจากวัดกัลยาณมิตรก็ต่อแท็กซี่มาวัดระฆังครับ โชคดีหน่อยมีพี่แท็กซี่มาส่งผู้โดยสารในวัด ผมเลยไม่ได้เดินออกไปเรียกไกล แต่ถ้าไม่มีแท็กซี่เข้ามาเดี๋ยวนี้ก็ใช้บริการ Grap Taxi หรือ Uber ได้แล้วครับ ;) พี่แท็กซี่แกก็จะพามาถึงข้างในวัดเลย ค่าแท็กซี่ก็ประมาณ 45 บาท วัดนี้ให้ขอเรื่องชื่อเสียงของเราครับ ขอให้โด่งดังในด้านที่ดี เป็นต้น จากที่นี่ก็สามารถเรียกแท็กซี่ต่อไปวัดชนะสงครามได้เลยครับ แต่ผมชิลๆเลยเดินเข้าไปทางวังหลังหาซื้ออะไรกิน อยากบอกว่าในวังหลังของกินอร่อยๆเยอะมากกกกกก พอสุขสมอารมณ์หมายก็ไปขึ้นแท็กซี่ตรงข้างๆ รพ.ศิริราชครับ ใกล้ๆท่าเรือวังหลังเลย จะมีแท็กซี่มาวนรับผู้โดยสารเรื่อยๆ
จากวัดระฆังมาถึงวัดชนะสงครามวัดที่ 8 ของเรา จ่ายไป 55 บาทครับ ถ้าจะประหยัดก็เดินไปขึ้นรถเมล์หน้าศิริราชได้ครับ สาย 157 ลงแถวๆแยกคอกวัว แล้วเดินมาวัดชนะสงครามหรือวัดบวรก่อนก็ได้ครับ เมื่อมาถึงวัดชนะสงครามก็ขอพรเกี่ยวกับเรื่องอุปสรรค์ต่างๆ ขอให้เราชนะมันและผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ แล้วอย่างลืมสักการะสมเด็จวังหน้าในรัชกาลที่ 1 ด้วยนะครับ ศาลของท่านตั้งอยู่หน้าโบสถ์เลย พอไหว้เสร็จออกมาจากวัดระหว่างทางมีศาลเจ้าแม่กวนอิมอยู่ผมเลยเดินไปไหว้ท่านหน่อยครับ แวะเข้าห้องน้ำล้างไม้ล้างมือด้วย ศาลท่านอยู่ติดกับวัดชนะสงครามเลยครับ
ไปถึงก็ยืนสวดมนต์ตามป้ายเป็นภาษาไทยแต่เขียนคำจีน เหมือนคาราโอเกะ สวดไปบางคำไม่คุ้นปากก็เพี้ยนๆ ไม่รู้เจ้าแม่ท่านจะฟังออกหรือเปล่า หวังว่าท่านจะเข้าใจและไม่โกรธลูกช้าง เพราะลูกช้างตั้งใจอ่านแล้วระลึกถึงเจ้าแม่เต็มที่
และแล้วก็มาถึงวัดที่ 9 ครับ เดินจากวัดชนะสงครามมาไม่ไกล ผ่านถนนข้าวสารได้อาหารตาพอชื่นใจ เราก็จะมาถึงวัดบวรนิเวศวิหารครับ วัดนี้ให้ขอเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ พอไหว้พระเสร็จก็ตั้งจิตอธิฐานเพราะเป็นวัดสุดท้ายแล้ว ให้เราอุทิศส่วนบุญบารมีให้แก่ คุณบิดามารดา ครูบาร์อาจารย์ ผู้มีพระคุณ สิ่งศักดิ์สิทธ์ที่คุ้มครองคุณอยู่ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ก็ให้ท่านเหล่านั้นได้รับบารมีที่เราได้ทำในวันนี้ครับ ถึงตอนนี้ก็ออกมานั่งพักชิลๆได้ครับ เพราะวัดสุดท้ายจะแล้วเสร็จเวลา 15.00-16.30 ประมาณนี้ครับ ถ้าหิวก็ไปหาอะไรทานต่อได้เลย แถวนั้นของกินอร่อยๆเพียบบบบ
สรุปรายจ่ายทั้งหมด
ค่ารถมาวัดสระเกศ 30 บาท(ความจริงถูกกว่านี้ แต่ผมปัดให้เป็นเลขกลมๆไปครับ)
ค่าข้าวค่าน้ำรวมทั้งค่าขนมจุกจิก 100 บาท
ค่าเรือข้ามฝาก 3 บาท
ค่ามอไซด์วินไปวัดกัลป์ยาฯ 20 บาท
ค่าแท็กซี่ไปวัดระฆัง 45 บาท
ค่าแท็กซี่ไปวัดชนะสงคราม 55 บาท
ค่ารถกลับ 30 บาท
รวม 283 บาท
ซึ่งในนี้ยังไม่รวมค่าทำบุญนะครับ อันนี้อยู่ที่เราครับ ทำมากน้อยก็ได้เท่ากัน อยู่ที่ใจว่าบริสุทธิ์แค่ไหน นอกจากนี้ค่าดื่มกินของแต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากัน อันนี้ก็แล้วแต่ผู้อ่านว่าท่านกินเยอะแค่ไหนครับ และหากมากับเพื่อน ค่ารถก็จะถูกหารกันไป ราคาเฉลี่ยต่อคนก็จะยิ่งถูกลงอีกครับ ยังไงก็ไม่เกิน 300 ถ้ารวมเงินทำบุญ สมมุติวัดล่ะ 19 บาท(ส่วนใหญ่ผมจะถือเคล็ดนี้ครับ โดยจะไหว้พระมือเปล่า สวดมนต์ มีบ้างที่ซื้อดอกไม้ธูปเทียน ส่วนเงินก็นำไปทำบุญตู้บริจาคต่างๆครับ หรือบางวัดมีถวายสังฆทานผมก็ถวายครับ โดยจะซื้อมาจัดเองแล้วเอาไปถวาย) รวมๆแล้วยังไงก็ไม่ถึง 500 บาท ครับ
เห็นไหมครับ แค่ 1 วันเราก็สามารถไหว้พระ 9 วัดได้สบายๆ แถมได้เที่ยว ได้ความรู้ และได้ประหยัดด้วย ทำดีไม่ต้องรอครับ เอาวันที่สะดวก อย่างน้อยก็ได้ยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น ความรู้สึกตอนไหว้วัดที่ 9 เสร็จนี่มันสุดยอดอย่าบอกใครครับ ตอนสวดก็ตั้ง นโม 3 จบ แล้วท่านก็สวดบทที่ท่านได้ ไม่ต้องยาวมากเดี๋ยวจะไม่ครบ 9 วัด จากนั้นก็ตั้งจิตอธิฐานว่า ข้าพเจ้าตั้งใจมาไหว้พระ 9 วัด และวัดนี้เป็นวัดที่....ข้าพเจ้าขอให้.... จากนั้นก็กราบแล้วออกมาครับ ไม่ต้องนั่งแช่ พอวัดสุดท้ายก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลผลบารมีให้แก่ผู้มีพระคุณและเจ้ากรรมนายเวรของท่านอย่างที่ผมเขียนไว้ข้างต้นครับ
จบไปสำหรับรีวิวนี้ ผมตั้งใจทำเพราะอยากให้ทุกท่านได้เห็นว่าการทำบุญก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ ผมไม่รู้ว่ามันจะได้ผลตามที่ขอจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราอิ่มใจ รู้สึกเป็นสุข และหวังว่าทุกท่านคงจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ไม่มากก็น้อยครับ สุดท้ายนี้ก็ขออนุโมทนาหากท่านได้กระทู้นี้เป็นแรงบัลดาลใจและได้ลงมือทำ ขอให้ท่านพบเจอแต่สิ่งดีๆ มีชีวิตที่ดีครับ
สามารถติดตามภาพถ่ายสวยๆและสาระดีๆได้ตามนี้ครับ
เพจ อยากไปก็ไป Let's go
https://www.facebook.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%84%E0%B8%9B-Lets-go-734169426673167/
ผมจะรวมกระทู้ท่องเที่ยวดีๆไว้ที่นั่นครับ
FB : Ken Ken Ken
IG : Ken_Ken_368
[SR] ไหว้พระ 9 วัดใน กทม. ชิลๆ ด้วยงบไม่เกิน 300 บาท
วัดที่ 1 วัดสระเกศฯ(วัดภูเขาทอง) เพื่อให้ชีวิตดี ไม่ตกต่ำ
วัดที่ 2 วัดสุทัศน์ฯ เพื่อวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล
วัดที่ 3 วัดพระแก้ว ขอพรเรื่องเงินทองไหลมาเทมา
วัดที่ 4 วัดโพธิ์ เพื่อชีวิตร่มเย็น อยู่ดีกินดี
วัดที่ 5 วัดอรุณฯ เพื่อชีวิตรุ่งเรือง
วัดที่ 6 วัดกัลยาณมิตร เพื่อจะได้มีมิตรที่ดี
วัดที่ 7 วัดระฆัง เพื่อความมีชื่อเสียงในทางที่ดี
วัดที่ 8 วัดชนะสงคราม จะผ่านอุปสรรค์และสิ่งร้ายไปได้ด้วยดี
วัดที่ 9 วัดบวรนิเวศฯ ปราศจากภัยอันตรายทั้งปวง
ทั้งนี้บางท่านอาจจะตัด 2 วัดในรายชื่อข้างต้นทิ้งไปแล้วแทนที่ด้วย ศาลหลักเมืองกรุงเทพ และ ศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละท่านเลยครับ สามารถปรับใช้ได้
โดยศาลหลักเมืองกรุงเทพจะไหว้เพื่อความมั่นคงในชีวิต ส่วนศาลเจ้าพ่อเสือก็ไหว้เพื่ออำนาจบารมีนั่นเองครับ ปีแรกที่ผมไหว้ผมก็ไม่ได้ไปวัดกัลยาณมิตรครับ จำได้ว่าผมไปศาลหลักเมืองแทน แต่รีวิวนี้ผมไปตามที่เรียงไว้ข้างต้น...ว่าแล้วเราก็มาลุยกันเลยครับ ^ ^
สิ่งที่ต้องเตรียมในการไปไหว้พระ 9 วัด
-ทำร่างกายให้พร้อม
-วางแผนการจัดลำดับวัด กะเวลาให้เหมาะสม
-แต่งกายสุภาพ เหมาะกับการเข้าวัดเข้าวา
-เตรียมร่มไปด้วยก็ดี ถ้ากลัวดำก็จัดเสื้อแขนยาว แว่นตา หมวก โบกครีม เอาให้ครบครับ เพราะแดดบ้านเราไม่เคยปราณีใคร
-ยาดม ยาอม ยาหม่อง หรือยาต่างๆสำหรับท่านที่มีโรคประจำตัว หรือผู้สูงอายุครับ
-นำดื่ม อันนี้สำคัญครับ เตรียมไว้แต่ไม่ต้องเยอะเพราะหาซื้อตามทางได้
-เงินทำบุญ แนะนำให้แลกเหรียญไว้เลยครับ จะได้สะดวกเวลาใช้ รวมทั้งพวกธนบัตรย่อยก็ให้แลกไว้ครับ เพราะนอกจากใช้ทำบุญแล้วยังใช้เป็นค่ารถค่าเรือได้ครับ
-นอกนั้นของมีค่าต่างๆทั้งกล้อง เงิน โทรศัพท์ ฯลฯ ก็เตรียมกระเป๋าใส่ให้ดีครับ ระวังพวกล้วงกระเป๋าด้วย ผมยังไม่เคยเจอนะครับ แต่ก็ป้องกันไว้ก่อน พวกนี้บาปมันหนาครับ ในวัดในวาก็ไม่เว้น
ผมเริ่มจากวัดสระเกศฯเป็นวัดแรกเพราะนั่งเรือมาถึงเลยครับ แต่บางครั้งก็นั่งรถเมล์ หรือไม่ก็แท็กซี่มาครับ ซึ่งถ้านั่งเรือหรือรถเมล์มาก็ค่ารถไม่เกิน 30 บาท ครับ จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ แหะๆ
ผมเริ่มไหว้ตอน 9.30 น. พอมาถึงก็เข้าไหว้พระประธานก่อนครับ วัดนี้ให้ขอเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ครับ ให้ชีวิตไม่ตกต่ำ เป็นต้นครับ จากนั้นก็ขึ้นไปบนภูเขาทองไปสักการะพระสารีริกธาตุ แล้วก็ทำบุญตามศรัทธาครับ(ผมถือเคล็ดให้ลงท้ายด้วยเศษ 9 บาท ครับ เช่น 19,29,39.......เป็นต้นครับ แล้วแต่สะดวกได้เลย) หรือจะไม่ขึ้นภูเขาทองก็ได้ครับ ไหว้พระประธานเสร็จก็มาต่อที่วัดที่ 2 กันเลย
วัดที่ 2 ของเราก็คือวัดสุทัศน์ นั่นเองครับ เดินจากวัดสระเกศมานิดเดียวก็ถึง ไม่เสียตังแถมได้ชมการทำบาตรตอนเดินผ่านชุมชนบ้านบาตร รวมทั้งเสาชิงช้าที่ตั้งเด่นเป็นสง่าด้วยครับ ^ ^
วัดนี้ให้ขอเรื่องความคิด วิสัยทัศน์ ให้เรามีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและดีงามครับ
และจากวัดสุทัศน์ ถ้าใครจะไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือและศาลหลักเมืองก็ไปได้เลยครับ โดยไปที่ศาลเจ้าพ่อเสือก่อน จากนั้นก็เดินไปอีกหน่อยจะเป็นศาลหลักเมืองกรุงเทพครับ
จากวัดสุทัศน์ผมก็เดินมาวัดพระแก้วเป็นวัดที่ 3 ครับ ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปสวยๆได้เพียบโดยเฉพาะตรงกระทรวงกลาโหม ฮ่าๆ(ของเค้าสวยจริงๆ)
วัดพระแก้วอาจต้องใช้เวลาหน่อยครับเพราะไม่ว่าจะวันไหนๆก็คนเยอะครับ(ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของโลกนิครับ ว้าวๆ)
วัดนี้ให้ขอเรื่องโชคลาภเงินทองครับ รับรองไหลมาเทมามีให้ใช้ไม่ขาดมือ โดยเข้าไปกราบสักการะพระแก้วมรกตแล้วก็ขอจากท่านนั่นเองครับ
วัดที่ 4 วัดโพธิ์ เดินมาจากวัดพระแก้วแค่ชั่วอึดใจก็ถึงแล้วครับ เป็นวัดที่ผู้คนคลาคล่ำอีกวัดหนึ่ง วัดนี้ให้ขอเรื่องความร่มเย็นเป็นสุขของชีวิตครับ แล้วอย่าลืมไปสักการะพระนอน รวมทั้งเจดีย์ 4 รัชกาล(ร.๑-ร.๔) กันด้วยนะครับ วันที่ผมไปเป็นช่วงสงกรานต์ มีก่อเจดีย์ทรายกันด้วย น่ารักดีครับ ;)
เสร็จจากวัดโพธิ์ก็จะประมาณเที่ยงๆพอดี ก็ได้เวลาหาอะไรกินซึ่งร้านแถวท่าเตียนก็มีเยอะครับ ทั้งของคาวของหวาน ตอนนั้นผมกระหายของหวานมากก็เลยแวะร้านกาแฟเอาแอร์เย็นๆบรรยาหาศดีๆแล้วก็จัดโกโก้มา 1 แก้วครับ(เป็นคนไม่กินกาแฟ แต่ชอบนั่งร้านกาแฟ ฮ่าๆ) จากนั้นก็นั่งเลือกรูป อัพ FB อัพ IG & Line โอ้ย แล้วแต่จะคิดได้ครับ ฮ่าๆ ก็นั่งชิลตามอัธยาศัยเลย
จำชื่อร้านไม่ได้ ขออภัยด้วยครับ จำได้แค่ว่าเขาไม่ใส่น้ำตาลเลยครับ เขาจะมีน้ำเชื่อมให้เราเติมเองแล้วแต่ความชอบหวานน้อยหวานมาก หรือถ้าใครไม่ชอบกินของหวานก็มีร้านข้าวอยู่ข้างๆติดๆกัน ไหนจะร้านรถเข็นอีกมากมาย มีให้เลือกเยอะครับ พอเวลา 13.00 เราก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือข้ามฟากครับ เดินไปนิดเดียว เสียค่าเรือ 3 บาท นั่งกินลมไม่ทันอิ่มก็ถึงวัดอรุณแล้วครับ
ปีนี้วัดอรุณมีการปรับปรุงครับ รูปที่ได้เลยจะมีนั่งร้านเต็มไปหมด ส่วนรูปซ้ายล่างถ่ายไว้ตอนไหว้พระ 9 วัดครั้งแรกครับ เมื่อปีพ.ศ.2548 (นานมาก ฮ่าๆ) วัดนี้ให้ขอเรื่องความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ของชีวิตครับ เสร็จแล้วก็ออกมานั่งมอไซด์วินไปวัดต่อไปได้เลยครับ
จากวัดอรุณมาวัดกัลยาณมิตร วัดที่ 6 ของเรา จ่ายค่าแว๊นให้พี่วินไปแค่ 20 บาท พี่แกมาส่งแทบจะถึงธรณีประตูวัดครับ เยี่ยมมากๆไม่ต้องเดินไกล ฮ่าๆ
และแน่นอนครับชื่อวัดก็ตรงตัว กัลยาณมิตร ก็ต้องมาขอเรื่อมิตรสหาย ขอให้พบเจอแต่มิตรที่ดี มิตรที่มีอยู่ก็ขอให้ดีขึ้น ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
จบจากวัดกัลยาณมิตรก็ต่อแท็กซี่มาวัดระฆังครับ โชคดีหน่อยมีพี่แท็กซี่มาส่งผู้โดยสารในวัด ผมเลยไม่ได้เดินออกไปเรียกไกล แต่ถ้าไม่มีแท็กซี่เข้ามาเดี๋ยวนี้ก็ใช้บริการ Grap Taxi หรือ Uber ได้แล้วครับ ;) พี่แท็กซี่แกก็จะพามาถึงข้างในวัดเลย ค่าแท็กซี่ก็ประมาณ 45 บาท วัดนี้ให้ขอเรื่องชื่อเสียงของเราครับ ขอให้โด่งดังในด้านที่ดี เป็นต้น จากที่นี่ก็สามารถเรียกแท็กซี่ต่อไปวัดชนะสงครามได้เลยครับ แต่ผมชิลๆเลยเดินเข้าไปทางวังหลังหาซื้ออะไรกิน อยากบอกว่าในวังหลังของกินอร่อยๆเยอะมากกกกกก พอสุขสมอารมณ์หมายก็ไปขึ้นแท็กซี่ตรงข้างๆ รพ.ศิริราชครับ ใกล้ๆท่าเรือวังหลังเลย จะมีแท็กซี่มาวนรับผู้โดยสารเรื่อยๆ
จากวัดระฆังมาถึงวัดชนะสงครามวัดที่ 8 ของเรา จ่ายไป 55 บาทครับ ถ้าจะประหยัดก็เดินไปขึ้นรถเมล์หน้าศิริราชได้ครับ สาย 157 ลงแถวๆแยกคอกวัว แล้วเดินมาวัดชนะสงครามหรือวัดบวรก่อนก็ได้ครับ เมื่อมาถึงวัดชนะสงครามก็ขอพรเกี่ยวกับเรื่องอุปสรรค์ต่างๆ ขอให้เราชนะมันและผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ แล้วอย่างลืมสักการะสมเด็จวังหน้าในรัชกาลที่ 1 ด้วยนะครับ ศาลของท่านตั้งอยู่หน้าโบสถ์เลย พอไหว้เสร็จออกมาจากวัดระหว่างทางมีศาลเจ้าแม่กวนอิมอยู่ผมเลยเดินไปไหว้ท่านหน่อยครับ แวะเข้าห้องน้ำล้างไม้ล้างมือด้วย ศาลท่านอยู่ติดกับวัดชนะสงครามเลยครับ
ไปถึงก็ยืนสวดมนต์ตามป้ายเป็นภาษาไทยแต่เขียนคำจีน เหมือนคาราโอเกะ สวดไปบางคำไม่คุ้นปากก็เพี้ยนๆ ไม่รู้เจ้าแม่ท่านจะฟังออกหรือเปล่า หวังว่าท่านจะเข้าใจและไม่โกรธลูกช้าง เพราะลูกช้างตั้งใจอ่านแล้วระลึกถึงเจ้าแม่เต็มที่
และแล้วก็มาถึงวัดที่ 9 ครับ เดินจากวัดชนะสงครามมาไม่ไกล ผ่านถนนข้าวสารได้อาหารตาพอชื่นใจ เราก็จะมาถึงวัดบวรนิเวศวิหารครับ วัดนี้ให้ขอเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ พอไหว้พระเสร็จก็ตั้งจิตอธิฐานเพราะเป็นวัดสุดท้ายแล้ว ให้เราอุทิศส่วนบุญบารมีให้แก่ คุณบิดามารดา ครูบาร์อาจารย์ ผู้มีพระคุณ สิ่งศักดิ์สิทธ์ที่คุ้มครองคุณอยู่ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ก็ให้ท่านเหล่านั้นได้รับบารมีที่เราได้ทำในวันนี้ครับ ถึงตอนนี้ก็ออกมานั่งพักชิลๆได้ครับ เพราะวัดสุดท้ายจะแล้วเสร็จเวลา 15.00-16.30 ประมาณนี้ครับ ถ้าหิวก็ไปหาอะไรทานต่อได้เลย แถวนั้นของกินอร่อยๆเพียบบบบ
สรุปรายจ่ายทั้งหมด
ค่ารถมาวัดสระเกศ 30 บาท(ความจริงถูกกว่านี้ แต่ผมปัดให้เป็นเลขกลมๆไปครับ)
ค่าข้าวค่าน้ำรวมทั้งค่าขนมจุกจิก 100 บาท
ค่าเรือข้ามฝาก 3 บาท
ค่ามอไซด์วินไปวัดกัลป์ยาฯ 20 บาท
ค่าแท็กซี่ไปวัดระฆัง 45 บาท
ค่าแท็กซี่ไปวัดชนะสงคราม 55 บาท
ค่ารถกลับ 30 บาท
รวม 283 บาท
ซึ่งในนี้ยังไม่รวมค่าทำบุญนะครับ อันนี้อยู่ที่เราครับ ทำมากน้อยก็ได้เท่ากัน อยู่ที่ใจว่าบริสุทธิ์แค่ไหน นอกจากนี้ค่าดื่มกินของแต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากัน อันนี้ก็แล้วแต่ผู้อ่านว่าท่านกินเยอะแค่ไหนครับ และหากมากับเพื่อน ค่ารถก็จะถูกหารกันไป ราคาเฉลี่ยต่อคนก็จะยิ่งถูกลงอีกครับ ยังไงก็ไม่เกิน 300 ถ้ารวมเงินทำบุญ สมมุติวัดล่ะ 19 บาท(ส่วนใหญ่ผมจะถือเคล็ดนี้ครับ โดยจะไหว้พระมือเปล่า สวดมนต์ มีบ้างที่ซื้อดอกไม้ธูปเทียน ส่วนเงินก็นำไปทำบุญตู้บริจาคต่างๆครับ หรือบางวัดมีถวายสังฆทานผมก็ถวายครับ โดยจะซื้อมาจัดเองแล้วเอาไปถวาย) รวมๆแล้วยังไงก็ไม่ถึง 500 บาท ครับ
เห็นไหมครับ แค่ 1 วันเราก็สามารถไหว้พระ 9 วัดได้สบายๆ แถมได้เที่ยว ได้ความรู้ และได้ประหยัดด้วย ทำดีไม่ต้องรอครับ เอาวันที่สะดวก อย่างน้อยก็ได้ยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น ความรู้สึกตอนไหว้วัดที่ 9 เสร็จนี่มันสุดยอดอย่าบอกใครครับ ตอนสวดก็ตั้ง นโม 3 จบ แล้วท่านก็สวดบทที่ท่านได้ ไม่ต้องยาวมากเดี๋ยวจะไม่ครบ 9 วัด จากนั้นก็ตั้งจิตอธิฐานว่า ข้าพเจ้าตั้งใจมาไหว้พระ 9 วัด และวัดนี้เป็นวัดที่....ข้าพเจ้าขอให้.... จากนั้นก็กราบแล้วออกมาครับ ไม่ต้องนั่งแช่ พอวัดสุดท้ายก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลผลบารมีให้แก่ผู้มีพระคุณและเจ้ากรรมนายเวรของท่านอย่างที่ผมเขียนไว้ข้างต้นครับ
จบไปสำหรับรีวิวนี้ ผมตั้งใจทำเพราะอยากให้ทุกท่านได้เห็นว่าการทำบุญก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ ผมไม่รู้ว่ามันจะได้ผลตามที่ขอจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราอิ่มใจ รู้สึกเป็นสุข และหวังว่าทุกท่านคงจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ไม่มากก็น้อยครับ สุดท้ายนี้ก็ขออนุโมทนาหากท่านได้กระทู้นี้เป็นแรงบัลดาลใจและได้ลงมือทำ ขอให้ท่านพบเจอแต่สิ่งดีๆ มีชีวิตที่ดีครับ
สามารถติดตามภาพถ่ายสวยๆและสาระดีๆได้ตามนี้ครับ
เพจ อยากไปก็ไป Let's go
https://www.facebook.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%84%E0%B8%9B-Lets-go-734169426673167/
ผมจะรวมกระทู้ท่องเที่ยวดีๆไว้ที่นั่นครับ
FB : Ken Ken Ken
IG : Ken_Ken_368