คนที่ให้แฟนเลี้ยงหรือซื้อของให้เปล่า ๆ นี่ไม่รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหรือคุณค่าในตัวเองลดลง หรือรู้สึกแย่บ้างหรือคะ ?

ช่วงนี้มีหลายกระทู้มาก ที่บ่นทำนองว่า แฟนมาเกาะ ให้ซื้อของให้นู่นนี่ ทะเลาะกันเรื่องเงินๆ ทองๆ
ในแง่มุมของคนที่ทนให้เขาเกาะ หรือเต็มใจทุ่มเทให้เราก็พอเข้าใจนะคะ ด้วยรักหรืออะไรก็ตามแต่

แต่เราอดสงสัยไม่ได้จริงๆ กับทัศนคติหรือมุมมองในการใช้ชีวิตของคนที่เป็นฝ่ายรับ คือ
- ให้แฟนซื้อของให้
- ให้แฟนเลี้ยงนู่นเลี้ยงนี่
วางเงื่อนไขว่าในกรณีที่
- ตัวเองมีฐานะพอกันกับแฟน
- ไม่นับกรณีพิเศษ อย่างวันเกิด เลื่อนตำแหน่ง (ที่เป็นของฝ่ายเดียว)

ในมุมมองของเรา เรารู้สึกว่า
- คนเป็นแฟนกันควรดูแลซึ่งกันและกัน ถ้าฐานะพอกันก็ควรเฉลี่ยกัน
- หรือฐานะแฟนดีกว่า เราก็ควรตอบแทนเขาบ้างเป็นครั้งคราว เช่น เขาเลี้ยงอาหารมื้อหรู เราเลี้ยงขนมเขาบ้างก็ได้

ถ้าเป็นเรา ปล่อยให้คนมาเลี้ยงตลอด ให้ของเปล่า ๆ ไม่ได้ตอบแทนอะไร
เรารู้สึกเหมือนตัวเองมีคุณค่าน้อยลงค่ะ
คือ เงินเราก็มีนะ เราก็เลี้ยงตัวเองได้นะ

เราไม่ชอบเลยเวลาผู้ชายใจป้ำ แบบที่เลี้ยงเราฝ่ายเดียว เราจะตอบแทนอะไรก็ห้าม
เธอ คือเราก็อยากทำอะไรให้เธอบ้างมั้ยล่ะ เธออย่าทำเหมือนเราทำอะไรให้เธอไม่ได้สิ
ฉันเป็นแฟนนะ ไม่ได้เป็นลูก มันดูเหมือนโดนมองว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้

อยากจะลองถามดู หรือใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ
รู้สึกแย่มั้ย ? ถ้าเราต้องเป็นฝ่ายถูกเลี้ยงอย่างเดียวเลย

ปล. กรณีนี้ไม่นับรวมคู่ที่อยู่กินกันแล้ว (สามี-ภรรยา หรือเพศเดียวกันที่อยู่ด้วยกันก็ตามแต่) นะคะ
เพราะคิดว่า แม่บ้านทำงานบ้านเลี้ยงลูก อีกฝ่ายหาเงินเข้าบ้าน ไม่ใช่เรื่องแปลก (หรือผู้ชายทำงานบ้าน ผู้หญิงหาเงินเข้าบ้าน เราก็ไม่รู้สึกแปลกค่ะ)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
โลกเรานี้มีผู้คนมากมายหลากหลายประเภทครับ

ทั้งผู้หญิงที่รู้สึกว่า ตัวเองดูแลตัวเองได้ พึ่งพาตัวเองเป็น ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและความเท่าเทียม มากกว่าการพึ่งพาใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษจนตัวเองรู้สึกด้อยค่า

ผู้หญิงที่รู้สึกว่า ตัวเองเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า ต้องการได้รับการเลี้ยงดู เอาอกเอาใจ ต้องการมีใครสักคนไว้คอยพึ่งพาอาศัย และภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของคนคนนั้น

ผู้ชายที่รู้สึกว่า เราคือคนที่ต้องคอยดูและปกป้องคนที่เรารัก ไปพร้อมๆกับสอนให้เค้ารู้จักถึงความเข้มแข็งและคุณค่าในตัวเอง คิดว่าชีวิตคู่คือการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ดูแลกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่หน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

และผู้ชายที่รู้สึกว่า เพศชายคือเพศที่แข็งแรงกว่า และการดูแลรับผิดชอบเรื่องต่างๆของฝ่ายหญิง คือหน้าที่ของฝ่ายชาย การให้ฝ่ายหญิงมาดูแลเขากลับคืนเป็นการทำให้เขารู้สึกว่าเขาอ่อนแอ ปกป้องใครไม่ได้ จึงไม่ต้องการให้ใครมาดูแลเพราะเหมือนเป็นการดูถูกตัวเอง

ผมไม่อยากตัดสินว่าคนประเภทไหนคือคนดี คนชั่ว คิดแบบไหนคือถูก หรือผิด เพราะต่างคนต่างก็คิดคนละแบบ ต่างคนต่างก็ถูกเลี้ยงดู หรือมีประสบการณ์ชีวิตที่พบเจอมาต่างกัน เอาเป็นว่า คุณเป็นแบบไหน คิดแบบไหน ก็จงเลือกคู่ที่มีแนวคิดตรงกันกับคุณ แล้วไม่ต้องไปกล่าวโทษคู่ที่มีแนวคิดต่างจากคุณก็พอครับ
ความคิดเห็นที่ 9
หลายคนที่คิดว่า ให้แฟนเลี้ยง ไม่รักศักดิ์ศรี

แต่ในใจลึก ๆ แล้ว ก็อยากได้ของฟรี อยากได้ของฝากแพง ๆ
อยากไปกินด้วย เที่ยวด้วย ทุกที่ที่หรู ๆ

และจะทำทีว่าช่วยจ่าย ไม่อยากได้เลย ไม่อยากได้ฟรี
แต่พอจะจ่าย ก็จะจ่ายน้อยที่สุด จ่ายพอเป็นพิธี ไม่ให้ใครว่าได้ว่า เกาะเขากิน หรือหลอกกิน

บางคนก็ทำแค่นี้แล้ว แม้แต่ตัวเองก็ยังเชื่อเลยว่า
ไม่ได้ต้องการของเขา และเชื่อด้วยว่า ตัวเองรักศักดิ์ศรี มีศักดิ์ศรีครบถ้วน

ที่จริงแล้ว ผู้ชายไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่า ผู้หญิงคนไหน อยากได้ หรือไม่อยากได้ของเรา
นิสัยดี หรือไม่ดี หลอกกิน หรือ ยอมแลกอะไร เพื่อให้ได้มา

แต่ที่ไม่พูด ไม่แสดงออก ก็มี 2 เหตุผล

อย่างหนึ่ง คือ รักเธอจริง ๆ วันหนึ่งเธอก็เป็นภรรยาเรา
อย่างไรเสีย เราก็จะเลี้ยงดูเธอเป็นภรรยาตลอดชีวิต

ไม่ว่า ก่อนหรือหลังแต่งงาน ไม่ว่า เธอหาเงินเองได้ หรือไม่ต้องหาเงินเลย
เงินของเรา ก็เป็นของเธออยู่ดี เธอจะใช้เงินสามี หรือจะใช้เงินพ่อแม่ก็ไม่ต่างกัน

ส่วนอีกประเภทหนึ่ง ก็แค่คิดว่า เงินที่ใช้ ก็เพื่อแลกเปลี่ยนความสุข
ถึงเธอจะกินด้วย หรือเรากินคนเดียว ก็จ่ายไม่ต่างกันเท่าไหร่ ดังนั้น อย่าคิดเล็กคิดน้อยเลย

แต่ถ้าเจอผู้หญิง คิดเล็กคิดน้อย ก็จะพยายามไม่เข้าใกล้ เพราะพวกเธอเป็น feminist
พวกเธออยากเป็นผู้หญิง แต่ก็อยากเป็นผู้ชายด้วย .. เข้าใจยาก
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าถามพี่นะ แฟน หรือ สามีให้โดยเสน่หา ไม่ใช่เรื่องแปลก
หรือ ตามเทศกาล ตามความเหมาะสมก้อ ไม่แปลกเช่นกัน
แต่ทีแปลกที่พี่เห็น แฟน หรือ มนุษย์เมียทำกันคือ
ควบคุมการใช้เงินของสามี ทั้งที่เป็นเงินสามี
แต่พอตัวเองซื้อได้ ไม่เป็นไร แต่ใช้เงินแฟน ใช้เงินสามี ด้วยเหตผลล้านแปด
หรือ อยากรู้ทุกสิ่งอย่างทีเป็นอาณาเขต หรือ อาณาจักรของสามี (สามีตรงนี้ไม่รวมพวกเจ้าชู้ไม่มีความรับผิดชอบนะ)
ไม่ว่าจะแฟนหรือเมีย พี่มองว่าสิ่งเหล่านี้ถ้า ละ บ้างก้อจะดี
การหารหรือแชร์กันบ้างมันควรเป้นเรื่องปกตไม่ใช่หรอ
มันใช่หน้าที่ของ ผช ไหมที่ต้องไปรับเลี่ยงลูกสาวเขาแทนพ่อแม่
แล้ว ผช หร่ะ จากพ่อแม่ใครรับเลี้ยง มันควรจะต้องช่วยกัน
ก้อปากบอกร่วมกันสร้างครอบครัวตัวเองไม่ใช่หรา
อีกอย่าง ผญ จะมีลูก ถ้าเป้นไปได้ควรทำงาน
ไม่มีอะไรการันตีชีวิตคู่หรอกนะ หาความมั่นคงจากตรงไหนกัน
นอกจากทำให้ดีทีสุด แต่สิ่งที่มีอยู่ในมือตัวเองทีควบคุมได้
สิ่งนั้นแหละ มั่นคงที่สุดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 63
ไม่ค่ะ ไม่รู้สึกคุณค่าลดอะไร

การให้ด้วยความรัก ด้วยเสน่หา ถือเป็นเกียรติด้วยซ้ำ ว่าเรามีคุณค่า ดีพอ มีคนมารัก เอ็นดู

แต่ไม่ได้คิดเอาเปรียบนะคะ เราเองก็ต้องตอบแทนเขาด้วย ด้วยการเป็นคู้รัก คู่ชีวิตที่ดี ไม่เรียกร้องอะไรฝืนธรรมชาติ หากเขารักเราและอยากปฏิบัติเราด้วยความพิเศษ เราก็ยินดีรับในน้ำใจ แต่จะไม่หว่านเสน่ห์หลอกลวงผู้ใดเพื่อสิ่งของค่ะ วิสัยคนขี้โกงเราไม่เอา

เราไม่ใช่เฟมินิสต์ค่ะ ถึงความเห็นเราในหลายกระทู้จะดูชัดเจน จริงจัง แต่เราไม่ใช่พวกเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศแบบฝืนความจริง เราต้องการเพียงความสมดุลย์ "การรู้หน้าที่" ของทุกเพศ แกร่งเมื่อควรแกร่ง อ่อนเพื่อความสมดุลย์ เราเชื่อในความสอดคล้องระหว่างกัน ไม่จำเป็นต้องเท่าเทียมเหมือนๆกันไปหมด เพราะหากเสมอเหมือนกันหมดก็ไม่จำเป็นต้องมีกันและกัน

เราเชื่อเพคยงว่าไม่ว่าจะเพศใด สิ่งที่ควรมีเสมอกันคือ "ศีล" ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 26
ถ้าผู้ชาย ซื้อของให้ตลอด.  ออกเงินตลอด  กลัวว่าจะหาว่ามาเกาะกิน.  อยากอธิบายสั้นๆดังนี้

ถ้าจีบกันใหม่ๆ.  .  อันนี้มันช่วงโปรจะปล้ำครับ

ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว (โดน....). คือ ความใส่ใจ ดูแล

ถ้าแต่งงานกันแล้วเป็นครอบครัว.   อันนี้เรียก ความรับผิดชอบบ

หมายเหตุ. 1 ขึ้นอยู่กับฐานทางการเงินของแต่ละคน ทั้ง. ญ.  ช. ที่เราไม่รู้
                  2 ขึ้นอยู่กับ การพูดคุยตกลงกัน ของทั้งสองฝ่าย ที่เราไม่รู้
                  3 ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของทั้งสองฝ่าย. ว่าต้องการอะไร ที่เราไม่รู้

ปล.  อย่าไปอิจฉาริษยาเขา.   เพราะเขาทำบุญมาดีกว่าเรา จึงได้เจอคนดีๆ กว่าที่เราเจอ.  และมันไม่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีหรือคุณค่าของตัวเองจะลดลง
เพราะถ้าคนให้เต็มใจให้ และคนรับก็ไม่ได้ไปหลอกปอกลอก ผู้ให้ และมิได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินเงินทองของมีค่าใดๆ

อีกแง่มุนหนึ่ง
                 เสี่ยพาหมอนวด. เด็กไซด์. ไปเลี้ยงข้าว ซื้อกระเป๋า  โน้นนี่นั้น. เพื่อหวัง. ปี้. กัน.  อันนี้ ต่างหากที่ทำให้คุณค่าในตัวเองลดลง เพราะต้องขาย ......... แลกมาซึ่งทรัพย์สิน เงินทอง ของมีค่า.  และผู้ให้ก็ให้เพื่อหวัง ปี้.    อะครับ. ( แต่บางท่านมองว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกันทางการค้าก็อาจเป็นได้)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่