คุ้ยสามก๊ก
ชุด ศึกชิงเกงจิ๋ว
“เล่าเซี่ยงชุน”
ตอนที่ ๑ กวนอูดูหมิ่นซุนกวน
เมื่อ ขงเบ้ง และชาวเมืองยก เล่าปี่ ขึ้นป็นฮันต๋งอ๋อง แล้วมีหนังสือไปกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ หนังสือนั้นผ่านมาถึง โจโฉ หรือ วุยอ๋อง อ่านได้ความว่า เล่าปี่ตั้งตัวเป็นอ๋อง ก็โกรธมาก ด่าว่า
“ อ้ายชาติทอเสื่อขาย ตั้งตัวเองเป็นเจ้า กูจะกำจัดเสียให้ได้ “
แล้วก็เก็บหนังสือนั้นไว้เสีย ไม่นำขึ้นถวายฮ่องเต้ และตระเตรียมทหาร จะไปรบกับ เล่าปี่ สุมาอี้จึงทูล ว่า
“ อย่าเพ่อออกไปให้ทหารลำบากก่อน ข้าพเจ้ามีอุบายสิ่งหนึ่ง มิพักให้ไปรบเลย จะให้ เล่าปี่ มีภัยขึ้นในเมืองเสฉวนต่าง ๆ ได้ ถ้าเห็นอิดโรยแล้ว จึงค่อยยกไปให้มีชัยชนะโดยง่าย “
โจโฉ ได้ฟังดังนั้น จึงถามสุมาอี้ว่าจะทำประการใด สุมาอี้ก็บรรยายว่า
“ ซึ่งเมืองกังตั๋ง ซุนกวนยกน้องสาวให้ เล่าปี่ นั้น ควรเราจะยุยงให้ ซุนกวน มีความโกรธ ไปคืนเอาเมืองเกงจิ๋ว เล่าปี่ก็จะมิให้โดยง่าย ทั้งสองฝ่ายก็จะเป็นอริแก่กัน แล้วจึงใช้คนดีมีฝีปาก ไปเกลี้ยกล่อม ซุนกวน ให้ยกไปตีเมืองเกงจิ๋ว ครั้น เล่าปี่ รู้แล้วก็จะยกทหารจากเมืองเสฉวน แลเมืองฮันต๋งมาช่วยเมืองเกงจิ๋ว ภายหลังท่านจึงยกทหารไปตีเมืองฮันต๋งและเมืองเสฉวน เล่าปี่ก็เป็นธุระทั้งสองฝ่ายมิให้ช่วยกันได้ เราก็จะได้ชัยชนะโดยง่าย “
โจโฉ ก็เห็นชอบด้วย จึงให้ บ้วนทง เป็นผู้ถือหนังสือไปเจรจากับ ซุนกวน ที่เมืองกังตั๋ง ซุนกวน ได้รับหนังสือ อ่านดู มีใจความว่า
“ เรามิได้ไปมาหากันช้านาน ก็เพราะ เล่าปี่ ตั้งตัวเป็นเจ้าที่เมืองเสฉวน แลเมืองฮันต๋ง จึงขาดไมตรีกัน ถ้ากระไรขอให้ท่านไปรบเอาเมืองเกงจิ๋วเถิด ฝ่ายเราก็จะยกไปรบเมืองฮันต๋งแลเมืองเสฉวน เล่าปี่ก็จะพะว้าพะวังสองฝ่าย เห็นจะสู้เราไม่ได้ ภายหลังเราจึงค่อยแบ่งปันกัน แล้วเราก็จะตั้งความสัตย์ มิได้คิดเบียดเบียนกันเลย “
ซุนกวน จึงเอาหนังสือนั้นไปปรึกษากับ เตียวเจียว แลขุนนางทั้งปวง ต่างก็เห็นชอบตามที่ โจโฉ ขอความร่วมมือมา แต่ จูกัดกิ๋น บอกว่า
“ ข้าพเจ้ารู้ว่า กวนอู ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเกงจิ๋วนั้น เล่าปี่ก็ขอเมียให้จนเกิดบุตรสองคน เป็นหญิงคนหนึ่ง เป็นชายคนหนึ่ง บุตรหญิงนั้นยังหาผัวมิได้ ข้าพเจ้าขออาสาเป็นพ่อสื่อ ไปขอให้แก่บุตรท่าน ถ้ากวนอูยอมให้แล้ว เราจึงคิดการกับ กวนอู ไปกำจัด โจโฉ เสีย ถ้ากวนอูมิยอมให้ เราก็จะไปช่วยโจโฉ รบเอาเมืองเกงจิ๋ว “
ซุนกวนก็เห็นชอบตาม จูกัดกิ๋น แนะนำ จึงส่งตัว บ้วนทง คืนกลับเมืองฮูโต๋ แล้วส่ง จูกัดกิ๋น ไปเมือง เกงจิ๋ว จูกัดกิ๋นก็ไปหา กวนอู เอ่ยปากขอลูกสาวให้แต่งงานกับลูกชาย ซุนกวน แต่กวนอู ปฏิเสธอย่างไม่เกรงใจว่า
“อันบุตรของเรานี้เป็นชาติเชื้อเหล่าเสือ ไม่สมควรจะให้แก่สุนัข..........”
เมื่อ จูกัดกิ๋นกลับมาเล่าให้ ซุนกวนฟัง ซุนกวนก็โกรธ จะยกพลไปตีเมืองเกงจิ๋ว ที่ปรึกษาก็ว่า
“ อัน โจโฉ นี้คิดจะใคร่ชิงเอาราชสมบัติพระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็นานอยู่แล้ว แต่ทว่าเกรงเล่าปี่อยูจึงมิอาจทำการได้ แลบัดนี้ให้คนถือหนังสือมา จะให้เราไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วนั้น ก็เหมือนหนึ่งจะแกล้งเอาภัยมาให้เรา “
ซุนกวน ก็ว่า เล่าปี่ หลอกลวงว่าจะคืนเกงจิ๋วให้ตั้งนานแล้ว ก็ไม่ให้ ที่ปรึกษาก็แย้งว่า
“ บัดนี้ โจหยิน คุมทหารอยู่รักษาเมืองอ้วนเซีย แฮหัวตุ้น อยู่รักษาเมืองซงหยง ก็เป็นทางบก หามีแม่น้ำกั้นหน้าไม่ เหตุใดจึงไม่ไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วเล่า ซึ่งจะให้เราไปตีนี้ ท่านยังไม่คิดเห็นประหลาดหรือ ท่านจงใช้ให้ทหารไปหา โจโฉว่าให้ใช้ โจหยิน ไปรบเอาเมืองเกงจิ๋วเถิด ถ้ากวนอู รู้ ก็จะยกไปตีเมืองอ้วนเซีย แล้วท่านจึงวกไปตีเมืองเมืองเกงจิ๋ว ก็จะได้ไม่ขัดสน “
เมื่อ ซุนกวน ส่งหนังสือแจ้งให้โจโฉรับทราบ โจโฉ ก็ตกลงและให้ ซุนกวน ยกทัพเรือไปตีเมืองเกงจิ๋ว ตามสะดวก
ฝ่ายเล่าปี่ที่เมืองเสฉวน ก็ให้สร้างวังแลจัดแจงบ้านเมืองบริบูรณ์แล้ว ให้นามว่าเมืองเซ็งโต๋ และให้ตระเตรียมทแกล้วทหารแลเครื่องศัตราวุธไว้ให้พร้อมที่จะทำสงครามทุกประการ
ครั้นแจ้งจากกองสอดแนมว่า โจโฉ ได้ร่วมมิกับ ซุนกวน จะมาตีเมืองเกงจิ๋ว ก็ปรึกษาขงเบ้ง ว่าจะคิดประการใด ขงเบงก็ว่า
“ ข้าพเจ้าคิดเห็นว่า โจโฉจะยกมาจริง ด้วยเดี๋ยวนี้ ซุนกวน เป็นพวกเดียวกัน แล้วก็มีครดีที่ปรึกษามาก จะให้ โจโฉ ใช้ โจหยิน มาตีเมืองเกงจิ๋วมั่นคงอยู่ “
เล่าปี่ถามว่าเราจะทำประการใด ขงเบ้งก็ว่า
“ ควรเราจะให้ทหารถือหนังสือไป ตั้งกวนอูให้เป็นทหารเสือที่เอก แล้วเร่งให้ไปตีเอาเมืองอ้วนเซียให้ได้ก่อน เห็นว่าข้าศึกเสียที จะย่อท้อใจ “
เล่าปี่จึงให้ บิสี ถือหนังสือไปให้ กวนอู ตามคำขงเบ้ง กวนอู ได้รับหนังสือรับสั่งพระเจ้าเล่าปี่ ให้ยกทหารไปเอาเมืองอ้วนเซียให้ได้ จึงให้ เปาสูหยิน และ บิฮอง คุมทหารเป็นทัพหน้า ไปตั้งอยู่นอกเมืองเกงจิ๋ว ทั้งนายก็จัดแจงยกไปตามคำสั่ง แต่พอถึงสองยาม ก็มีทหารมาแจ้งแก่ กวนอู ว่า เกิดไฟไหม้ขี้นที่ทัพหน้านั้น
กวนอูก็ตกใจใส่เสื้อเกราะขึ้นม้าคุมทหารออกไปดีบเพลิง และได้ทราบว่า นายทัพทั้งสองนาย สาละวนแต่เสพสุรามิได้เอาใจใส่ราชการ จึงเกิดเพลิงไหม้ขึ้น จึงให้ตามตัวเปาสูหยินกัลป์บิฮองเข้ามาแล้วว่า
“ เราใช้ให้ท่านยกออกไปตั้งค่ายอยู่นอกเมือง ยังมิทันจะได้ยกไป ท่านทำให้เพลิงไหม้เสบียง แลเครื่องคัตราวุธ ผู้คนเจ็บป่วยเป็นอันมาก ให้เสียราชการไปทั้งนี้ เราจะยกโทษเสียก็มิได้ “
แล้วก็สั่งให้เอาตัวทั้งสองนายไปประหารเสีย ก็ บิสี ก็ทัดทานว่า
“ ยังจะยกทัพไปทำสงครามเป็นการใหญ่อยู่ อันจะมาฆ่าทหารเสียดังนี้ไม่บังควร จะเสียฤกษ์ไป “
กวนอู ยังไม่หายโกรธ จึงตวาดเอาแก่นายทัพทั้งสองว่า
“ ถ้าเราไม่เห็นแก่ บิสี ผู้ห้าม เราก็จะตัดศีรษะท่านทั้งสองเสีย “
แล้วจึงสั่งให้เอาตัวทั้งสองไปโบยเสียคนละสี่สิบที แล้วให้ถอดพออกจากตำแหน่งแม่ทัพหน้า ให้บิฮองไปรักษาเมืองลำกุ๋น เปาสูหยิน ไปอยู่เมืองกังอั๋น แล้วสำทับว่า
“ บัดนี้เรางดโทษท่านไว้ครั้งหนึ่ง แลเราไปทำสงครามมีชัยกลับมา ภายหลังถ้าทำความผิด เราจะให้ประหารชีวิตท่านเสีย ทั้งสองนายทัพก็ด้ความอัปยศแก่ทหารทั้งปวงเป็นอันมาก
กวนอู จึงตั้งให้ เลียวหัว เป็นแม่ทัพหน้า กวนเป๋ง เป็นแม่ทัพหลัง ม้าเลี้ยง อีเจี้ย เป็นที่ปรึกษาไปกับกวนอูในทัพหลวง ให้เตรียมทหารให้พร้อม ได้ฤกษ์เมื่อไรจะยกไป และบอกแก่ งอปั้น ผู้เป็นบุตร งอหัวว่า
“ ท่านมีคุณ เมื่อเรายกออกจากด่าน โจโฉ ท่านได้ช่วยชีวิตเราไว้ครั้งหนึ่ง เราก็คิดถึงคุณอยู่ บัดนี้สิ เราจะยกทัพไปแล้ว ท่านจงไปเมืองเสฉวนกับบิสี ไปอยู่ด้วยพระเจ้าฮันต๋งเถิด “
ทั้งสองก็กลับไปเมืองเสฉวน และงอปั้นก็รับราชการอยู่กับพระเจ้าเล่าปี่ต่อไป
คืนนั้นเมื่อ กวนอู บูชาเทพดาผู้รักษาธงชัยแล้วก็เข้านอน จนหลับได้ฝันเห็น สุกรตัวหนึ่ง ดำใหญ่เท่าโค เข้ามากัดเท้า กวนอู ก็คว้ากระบี่ฟัน สุกรนั้นก็หายไป กวนอูตกใจตื่น จึงให้หา กวนเป๋ง บุตรเลี้ยง เข้ามาเล่าความฝันให้ฟัง
กวนเป๋งจึงทำนายว่า ซึ่งสุกรกัดเอาเท้าท่านนั้น ใช่อื่นไกลได้แก่มังกร ท่านจะได้ดี เป็นที่สูงศักดิ์ประเสริฐกว่าคนทั้งปวง ถึงเวลาเช้ากวนอูก็ประชุมทหารทั้งปวง มาพร้อมกัน แล้วเล่าความฝันนั้นให้ฟัง และว่า
“ อายุเราก็ถึงห้าสิบเศษแล้ว จะเป็นประการใดก็ตามเถิด อันเกิดมาเป็นชาย จะกลัวความตาย ก็หา ควรไม่ “
พอดีมีคนถือหนังสือมาจากเมืองเสฉวน แจ้งว่า บัดนี้เล่าปี่ ซึ่งเป็นเจ้าฮันต๋งนั้น มีรับสั่งซ้ำมาตั้งให้ กวนอู เป็นทหารเอกฝ่ายหน้า ถืออาญาสิทธิ์เป็นใหญ่ในหัวเมืองทั้งเก้า ซึ่งขึ้นแก่เมืองเกงจิ๋ว กวนอู ก็รับตามรับสั่ง ทหารทั้งปวงก็ว่า ซึ่งท่านฝันนั้น ก็ได้แก่รับสั่งนี้แล้ว กวนอูก็มีความยินดี ยกทหารไปโดยทางใหญ่เมืองซงหยง ตรงไปเมืองอ้วนเซียเพื่อทำสงครามครั้งสำคัญตามแผนต่อไป.
#########
ศึกชิงเกงจิ๋ว (๑)
ชุด ศึกชิงเกงจิ๋ว
“เล่าเซี่ยงชุน”
ตอนที่ ๑ กวนอูดูหมิ่นซุนกวน
เมื่อ ขงเบ้ง และชาวเมืองยก เล่าปี่ ขึ้นป็นฮันต๋งอ๋อง แล้วมีหนังสือไปกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ หนังสือนั้นผ่านมาถึง โจโฉ หรือ วุยอ๋อง อ่านได้ความว่า เล่าปี่ตั้งตัวเป็นอ๋อง ก็โกรธมาก ด่าว่า
“ อ้ายชาติทอเสื่อขาย ตั้งตัวเองเป็นเจ้า กูจะกำจัดเสียให้ได้ “
แล้วก็เก็บหนังสือนั้นไว้เสีย ไม่นำขึ้นถวายฮ่องเต้ และตระเตรียมทหาร จะไปรบกับ เล่าปี่ สุมาอี้จึงทูล ว่า
“ อย่าเพ่อออกไปให้ทหารลำบากก่อน ข้าพเจ้ามีอุบายสิ่งหนึ่ง มิพักให้ไปรบเลย จะให้ เล่าปี่ มีภัยขึ้นในเมืองเสฉวนต่าง ๆ ได้ ถ้าเห็นอิดโรยแล้ว จึงค่อยยกไปให้มีชัยชนะโดยง่าย “
โจโฉ ได้ฟังดังนั้น จึงถามสุมาอี้ว่าจะทำประการใด สุมาอี้ก็บรรยายว่า
“ ซึ่งเมืองกังตั๋ง ซุนกวนยกน้องสาวให้ เล่าปี่ นั้น ควรเราจะยุยงให้ ซุนกวน มีความโกรธ ไปคืนเอาเมืองเกงจิ๋ว เล่าปี่ก็จะมิให้โดยง่าย ทั้งสองฝ่ายก็จะเป็นอริแก่กัน แล้วจึงใช้คนดีมีฝีปาก ไปเกลี้ยกล่อม ซุนกวน ให้ยกไปตีเมืองเกงจิ๋ว ครั้น เล่าปี่ รู้แล้วก็จะยกทหารจากเมืองเสฉวน แลเมืองฮันต๋งมาช่วยเมืองเกงจิ๋ว ภายหลังท่านจึงยกทหารไปตีเมืองฮันต๋งและเมืองเสฉวน เล่าปี่ก็เป็นธุระทั้งสองฝ่ายมิให้ช่วยกันได้ เราก็จะได้ชัยชนะโดยง่าย “
โจโฉ ก็เห็นชอบด้วย จึงให้ บ้วนทง เป็นผู้ถือหนังสือไปเจรจากับ ซุนกวน ที่เมืองกังตั๋ง ซุนกวน ได้รับหนังสือ อ่านดู มีใจความว่า
“ เรามิได้ไปมาหากันช้านาน ก็เพราะ เล่าปี่ ตั้งตัวเป็นเจ้าที่เมืองเสฉวน แลเมืองฮันต๋ง จึงขาดไมตรีกัน ถ้ากระไรขอให้ท่านไปรบเอาเมืองเกงจิ๋วเถิด ฝ่ายเราก็จะยกไปรบเมืองฮันต๋งแลเมืองเสฉวน เล่าปี่ก็จะพะว้าพะวังสองฝ่าย เห็นจะสู้เราไม่ได้ ภายหลังเราจึงค่อยแบ่งปันกัน แล้วเราก็จะตั้งความสัตย์ มิได้คิดเบียดเบียนกันเลย “
ซุนกวน จึงเอาหนังสือนั้นไปปรึกษากับ เตียวเจียว แลขุนนางทั้งปวง ต่างก็เห็นชอบตามที่ โจโฉ ขอความร่วมมือมา แต่ จูกัดกิ๋น บอกว่า
“ ข้าพเจ้ารู้ว่า กวนอู ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเกงจิ๋วนั้น เล่าปี่ก็ขอเมียให้จนเกิดบุตรสองคน เป็นหญิงคนหนึ่ง เป็นชายคนหนึ่ง บุตรหญิงนั้นยังหาผัวมิได้ ข้าพเจ้าขออาสาเป็นพ่อสื่อ ไปขอให้แก่บุตรท่าน ถ้ากวนอูยอมให้แล้ว เราจึงคิดการกับ กวนอู ไปกำจัด โจโฉ เสีย ถ้ากวนอูมิยอมให้ เราก็จะไปช่วยโจโฉ รบเอาเมืองเกงจิ๋ว “
ซุนกวนก็เห็นชอบตาม จูกัดกิ๋น แนะนำ จึงส่งตัว บ้วนทง คืนกลับเมืองฮูโต๋ แล้วส่ง จูกัดกิ๋น ไปเมือง เกงจิ๋ว จูกัดกิ๋นก็ไปหา กวนอู เอ่ยปากขอลูกสาวให้แต่งงานกับลูกชาย ซุนกวน แต่กวนอู ปฏิเสธอย่างไม่เกรงใจว่า
“อันบุตรของเรานี้เป็นชาติเชื้อเหล่าเสือ ไม่สมควรจะให้แก่สุนัข..........”
เมื่อ จูกัดกิ๋นกลับมาเล่าให้ ซุนกวนฟัง ซุนกวนก็โกรธ จะยกพลไปตีเมืองเกงจิ๋ว ที่ปรึกษาก็ว่า
“ อัน โจโฉ นี้คิดจะใคร่ชิงเอาราชสมบัติพระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็นานอยู่แล้ว แต่ทว่าเกรงเล่าปี่อยูจึงมิอาจทำการได้ แลบัดนี้ให้คนถือหนังสือมา จะให้เราไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วนั้น ก็เหมือนหนึ่งจะแกล้งเอาภัยมาให้เรา “
ซุนกวน ก็ว่า เล่าปี่ หลอกลวงว่าจะคืนเกงจิ๋วให้ตั้งนานแล้ว ก็ไม่ให้ ที่ปรึกษาก็แย้งว่า
“ บัดนี้ โจหยิน คุมทหารอยู่รักษาเมืองอ้วนเซีย แฮหัวตุ้น อยู่รักษาเมืองซงหยง ก็เป็นทางบก หามีแม่น้ำกั้นหน้าไม่ เหตุใดจึงไม่ไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วเล่า ซึ่งจะให้เราไปตีนี้ ท่านยังไม่คิดเห็นประหลาดหรือ ท่านจงใช้ให้ทหารไปหา โจโฉว่าให้ใช้ โจหยิน ไปรบเอาเมืองเกงจิ๋วเถิด ถ้ากวนอู รู้ ก็จะยกไปตีเมืองอ้วนเซีย แล้วท่านจึงวกไปตีเมืองเมืองเกงจิ๋ว ก็จะได้ไม่ขัดสน “
เมื่อ ซุนกวน ส่งหนังสือแจ้งให้โจโฉรับทราบ โจโฉ ก็ตกลงและให้ ซุนกวน ยกทัพเรือไปตีเมืองเกงจิ๋ว ตามสะดวก
ฝ่ายเล่าปี่ที่เมืองเสฉวน ก็ให้สร้างวังแลจัดแจงบ้านเมืองบริบูรณ์แล้ว ให้นามว่าเมืองเซ็งโต๋ และให้ตระเตรียมทแกล้วทหารแลเครื่องศัตราวุธไว้ให้พร้อมที่จะทำสงครามทุกประการ
ครั้นแจ้งจากกองสอดแนมว่า โจโฉ ได้ร่วมมิกับ ซุนกวน จะมาตีเมืองเกงจิ๋ว ก็ปรึกษาขงเบ้ง ว่าจะคิดประการใด ขงเบงก็ว่า
“ ข้าพเจ้าคิดเห็นว่า โจโฉจะยกมาจริง ด้วยเดี๋ยวนี้ ซุนกวน เป็นพวกเดียวกัน แล้วก็มีครดีที่ปรึกษามาก จะให้ โจโฉ ใช้ โจหยิน มาตีเมืองเกงจิ๋วมั่นคงอยู่ “
เล่าปี่ถามว่าเราจะทำประการใด ขงเบ้งก็ว่า
“ ควรเราจะให้ทหารถือหนังสือไป ตั้งกวนอูให้เป็นทหารเสือที่เอก แล้วเร่งให้ไปตีเอาเมืองอ้วนเซียให้ได้ก่อน เห็นว่าข้าศึกเสียที จะย่อท้อใจ “
เล่าปี่จึงให้ บิสี ถือหนังสือไปให้ กวนอู ตามคำขงเบ้ง กวนอู ได้รับหนังสือรับสั่งพระเจ้าเล่าปี่ ให้ยกทหารไปเอาเมืองอ้วนเซียให้ได้ จึงให้ เปาสูหยิน และ บิฮอง คุมทหารเป็นทัพหน้า ไปตั้งอยู่นอกเมืองเกงจิ๋ว ทั้งนายก็จัดแจงยกไปตามคำสั่ง แต่พอถึงสองยาม ก็มีทหารมาแจ้งแก่ กวนอู ว่า เกิดไฟไหม้ขี้นที่ทัพหน้านั้น
กวนอูก็ตกใจใส่เสื้อเกราะขึ้นม้าคุมทหารออกไปดีบเพลิง และได้ทราบว่า นายทัพทั้งสองนาย สาละวนแต่เสพสุรามิได้เอาใจใส่ราชการ จึงเกิดเพลิงไหม้ขึ้น จึงให้ตามตัวเปาสูหยินกัลป์บิฮองเข้ามาแล้วว่า
“ เราใช้ให้ท่านยกออกไปตั้งค่ายอยู่นอกเมือง ยังมิทันจะได้ยกไป ท่านทำให้เพลิงไหม้เสบียง แลเครื่องคัตราวุธ ผู้คนเจ็บป่วยเป็นอันมาก ให้เสียราชการไปทั้งนี้ เราจะยกโทษเสียก็มิได้ “
แล้วก็สั่งให้เอาตัวทั้งสองนายไปประหารเสีย ก็ บิสี ก็ทัดทานว่า
“ ยังจะยกทัพไปทำสงครามเป็นการใหญ่อยู่ อันจะมาฆ่าทหารเสียดังนี้ไม่บังควร จะเสียฤกษ์ไป “
กวนอู ยังไม่หายโกรธ จึงตวาดเอาแก่นายทัพทั้งสองว่า
“ ถ้าเราไม่เห็นแก่ บิสี ผู้ห้าม เราก็จะตัดศีรษะท่านทั้งสองเสีย “
แล้วจึงสั่งให้เอาตัวทั้งสองไปโบยเสียคนละสี่สิบที แล้วให้ถอดพออกจากตำแหน่งแม่ทัพหน้า ให้บิฮองไปรักษาเมืองลำกุ๋น เปาสูหยิน ไปอยู่เมืองกังอั๋น แล้วสำทับว่า
“ บัดนี้เรางดโทษท่านไว้ครั้งหนึ่ง แลเราไปทำสงครามมีชัยกลับมา ภายหลังถ้าทำความผิด เราจะให้ประหารชีวิตท่านเสีย ทั้งสองนายทัพก็ด้ความอัปยศแก่ทหารทั้งปวงเป็นอันมาก
กวนอู จึงตั้งให้ เลียวหัว เป็นแม่ทัพหน้า กวนเป๋ง เป็นแม่ทัพหลัง ม้าเลี้ยง อีเจี้ย เป็นที่ปรึกษาไปกับกวนอูในทัพหลวง ให้เตรียมทหารให้พร้อม ได้ฤกษ์เมื่อไรจะยกไป และบอกแก่ งอปั้น ผู้เป็นบุตร งอหัวว่า
“ ท่านมีคุณ เมื่อเรายกออกจากด่าน โจโฉ ท่านได้ช่วยชีวิตเราไว้ครั้งหนึ่ง เราก็คิดถึงคุณอยู่ บัดนี้สิ เราจะยกทัพไปแล้ว ท่านจงไปเมืองเสฉวนกับบิสี ไปอยู่ด้วยพระเจ้าฮันต๋งเถิด “
ทั้งสองก็กลับไปเมืองเสฉวน และงอปั้นก็รับราชการอยู่กับพระเจ้าเล่าปี่ต่อไป
คืนนั้นเมื่อ กวนอู บูชาเทพดาผู้รักษาธงชัยแล้วก็เข้านอน จนหลับได้ฝันเห็น สุกรตัวหนึ่ง ดำใหญ่เท่าโค เข้ามากัดเท้า กวนอู ก็คว้ากระบี่ฟัน สุกรนั้นก็หายไป กวนอูตกใจตื่น จึงให้หา กวนเป๋ง บุตรเลี้ยง เข้ามาเล่าความฝันให้ฟัง
กวนเป๋งจึงทำนายว่า ซึ่งสุกรกัดเอาเท้าท่านนั้น ใช่อื่นไกลได้แก่มังกร ท่านจะได้ดี เป็นที่สูงศักดิ์ประเสริฐกว่าคนทั้งปวง ถึงเวลาเช้ากวนอูก็ประชุมทหารทั้งปวง มาพร้อมกัน แล้วเล่าความฝันนั้นให้ฟัง และว่า
“ อายุเราก็ถึงห้าสิบเศษแล้ว จะเป็นประการใดก็ตามเถิด อันเกิดมาเป็นชาย จะกลัวความตาย ก็หา ควรไม่ “
พอดีมีคนถือหนังสือมาจากเมืองเสฉวน แจ้งว่า บัดนี้เล่าปี่ ซึ่งเป็นเจ้าฮันต๋งนั้น มีรับสั่งซ้ำมาตั้งให้ กวนอู เป็นทหารเอกฝ่ายหน้า ถืออาญาสิทธิ์เป็นใหญ่ในหัวเมืองทั้งเก้า ซึ่งขึ้นแก่เมืองเกงจิ๋ว กวนอู ก็รับตามรับสั่ง ทหารทั้งปวงก็ว่า ซึ่งท่านฝันนั้น ก็ได้แก่รับสั่งนี้แล้ว กวนอูก็มีความยินดี ยกทหารไปโดยทางใหญ่เมืองซงหยง ตรงไปเมืองอ้วนเซียเพื่อทำสงครามครั้งสำคัญตามแผนต่อไป.
#########