[CR] ...เชิญยลพระอาทิตย์ขึ้น...ที่เขาหงอนนาค...

.....อรุณสวัสดิ์ (ย้อนหลัง) จากยอดเขาหงอนนาคค่ะ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เขาหางนาค.....

                   แรงบันดาลใจที่ทำให้ต้องมาให้ได้คือภาพโปรไฟล์ของเพื่อนของเพื่อนคนหนึ่งในเฟสบุ๊คค่ะ ทำให้เราต้องคลิ๊กเข้าไปส่องกันเลยทีเดียวว่าพี่เค้าไปถ่ายที่ไหนมานะ จะต้องเป็นเทือกเขาในประเทศจีนแน่ๆเลย ปรากฎว่า แคปชั่นของภาพพี่เค้ากล่าวว่าอยู่กระบี่นี่เองค่ะ และสถานที่นั้นมีชื่อว่า "เขาหงอนนาค"



                   ตัวเราเองมีบ้านอยู่ใกล้ๆแค่ภูเก็ตเองค่ะ จึงเริ่มเสิร์ช Google Map เดี่ยวนั้นเลย ได้ความว่าขับรถจากภูเก็ตไปใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แต่วันและเวลาของเรานี่สิคะ มันช่างมีน้อยเหลือเกิน อาทิตย์นึงทำงานห้าวัน หยุดสองวันก็ไปรับจ๊อบพิเศษ เพื่อเก็บเงินไว้เที่ยวทริปประจำปี วันเที่ยวของเราคือวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น 555 ทริปนี้เลยถูกดองไว้เป็นเดือนสองเดือน แต่เราก็ไม่เคยหยุดค้นหาข้อมูลของที่นี่ ประมาณว่าเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆค่ะ



                   จนมาถึงวันที่ 5 เมษายน ซึ่งป็นวันทำงานปกติ ภาพของเขาหงอนนาคก็ปรากฎขึ้นบนหน้าฟีดเฟสบุ๊ค ซึ่งนักท่องเที่ยวคนนึงที่เราไปเป็นแฟนเพจได้โพสลง ทำให้อะดรีนาลีนเราพลุ่งพล่านและเกิดอาการคันเท้ายิบๆ เนื่องจากวันถัดไปเป็นวันจักรี เราจึงโทรเลยค่ะหา จนท อุทยาน (พี่สมพร 062-2615278) ว่าเราต้องการไปดูพระอาทิตย์ขึ้น จะต้องไปถึงตีนเขากี่โมง พี่เค้าก็ตอบว่าตี่สี่ค่ะ จากนั้นเราก็ถามถึงการเดินขึ้นเขาและคนนำทาง พี่เค้าแจ้งว่าถ้าต้องการลูกหาบ มีค่าจ้าง 1000 บาทค่ะ จากรีวิวที่มีอยู่ 2-3 กะทู้ (ขอบคุณที่มาเขียนถ่ายทอดความรู้นะคะ เราได้นำมาใช้เยอะมากๆค่ะ) บ้างก็จ้าง บ้างก็ไม่จ้างค่ะ คนที่จ้างก็เพราะเค้าขนของเยอะเพื่อไปกางเต๊นท์นอนค้างคืนและลงจากเขาในตอนเช้าของอีกวัน พี่ๆที่นำทางจะช่วยหุงข้าวทำอาหารให้ทานด้วย และช่วยกางเต๊นท์ แต่เรื่องวัตถุดิบคงต้องเตรียมไปเอง แต่สำหรับเราซึ่งมีเวลาน้อยมากและไม่ต้องการคนช่วยขนาดนั้น 1000 บาทจึงน่าเสียดายที่จะต้องจ่ายค่ะ ลุยเองเลยค่ะสองคนกับแฟน ตีสี่ก็ตีสี่สิคะ

                   เราเลิกงานหกโมงเย็นแต่แฟนเข้ากะบ่ายเลิกเที่ยงคืนค่ะ กว่าจะได้ออกจาภูเก็ตก็เที่ยงคืนครึ่ง ถามว่าได้นอนมั้ย ไม่ได้นอนกันเลยค่ะ เราทั้งตื่นเต้นและนั่งหาข้อมูลของที่จำเป็นในการเดินขึ้นเขาเพราะเราไม่ได้ไปบ่อยๆ เราเตรียมไฟฉายสองกระบอก และแวะซื้ออาหารที่ทานได้เลยจากเซเว่น และน้ำดื่มขวดใหญ่หนึ่งขวด

                   Google Map พาเราหลงเข้าหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่รอบล้อมไปด้วยสวนปาล์ม ณ เวลาตีสามกว่าๆกับความมืดระดับสูงสุดในชีวิตค่ะ ถนนด้านหน้าก็แคบมากและขาด เรานั่งอึ้งอยู่ในความเงียบกันสักพักและตกลงกันว่า มันคงไม่ใช่อ่ะ!! มันต้องมีป้ายอุทยานมั่งเด่ะ!! เราจึงค่อยๆถอยรถออกมาตั้งหลักใหม่บนถนนที่ดูกว้างขึ้นและน่าขนลุกน้อยลง ค่อยๆเสิร์ช Google Map ใหม่ ถึงมันจะหลอกเรามาหลายครั้งก็ตาม แต่ตีสามจะไปแวะถามใครถ้าไม่ใช่เจ้านี่

                   เราเสิร์ชคำว่าทับแขกเลยเจอ Tub kak Hang Nak Nature Trail และมุ่งหน้าตามไปจนถึงอุทยานในที่สุด ตรงเป๊ะค่ะ ตีสี่ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานเลยค่ะ มีแต่แสงไฟบริเวณบ้านพัก เอาวะ ขึ้นกันเลยละกัน ไฟฉายสองกระบอกนี้จะพาเราไปสู่จุดหมายเองแหละ...
เราทราบจากวีดิโอการท่องเที่ยวเขาหงอนนาคมาว่า ระหว่างทางจะมีป้ายเกล็ดความรู้ทั้งหมด 12 ป้าย ซึ่งจะทำให้เราแน่ใจได้ว่าเราไม่ได้เดินออกนอกเส้นทาง หลังจากผ่านป้ายแรกมาแล้ว เราก็เจอ....ศาลพระภูมิ....ตกใจสิครัช...ยกมือไหว้กันระวิง เรานึกในใจว่าลูกช้างมาขอเดินทางผ่าน ขอให้ลูกช้างปลอดภัยด้วยเถิด 555 นอบน้อมถ่อมตนไว้ใครๆก็รักใช่ไหมคะ



                   เดินไปในความมืด (มากๆ) ไม่ไกลก็เจอป้ายที่สอง สาม สี่ เราใจชื้นมากว่า อย่างนี้ไม่นานก็ถึงป้ายที่ 12 แล้วสิ จนมาถึงป้ายที่ 6 เราก็หลงตัวเองว่าเรามาครึ่งทางแล้ว เราเริ่มเหนื่อยมากๆกับความชันของเส้นทาง และความมืดที่ทำให้เรามองเห็นจากแสงไฟฉายเท่านั้น เราไม่กล้าที่จะส่องไฟฉายออกนอกเส้นทางเลยอ่ะ เรากลัวจะเห็นอะไรแปลกๆ >< จะว่าเราบ้าก็ได้นะ จิงๆก็บ้าแหละมาปีนเขาอะไรกันตีสี่ โชคดีที่ทางเดินนั้นค่อนข้างชัดเจนมากๆค่ะ ทางจะราบๆแบบดูรู้เลยว่าเป็นทางคนเดิน แต่ไม่ใช่จะราบตลอดนะคะ งานปีนก็มาค่ะ สภาพคือเหงื่ออาบร่างเปียกไปยันเป้อ่ะค่ะ

                   กลับมาเรื่องป้าย หลังจากป้ายที่ 6 ป้ายก็เริ่มอยู่ไกลกันมากขึ้นเรื่อยๆเลย จนเกือบท้อ หันไปมองหน้าแฟนคือบึ้งเป็นตูดลิงถามอะไรก็ไม่ตอบแล้วค่ะ มีแต่เสียงลมหายใจหอบๆ เราต้องคอยเรียกเป็นระยะให้แน่ใจว่านั่นคือแฟนเราจริงๆ ไม่ใช่เสือสมิงนะ555

                   เราเดินถึงยอดเขาใช้เวลาตามมาตรฐานคนทั่วไปเป๊ะ 2 ชั่วโมงค่ะ คืออยากแลดูเป็นคนสตรองปีนเร็วกว่าชาวบ้านบ้างอะไรบ้าง แต่สังขารไม่รอดเจงๆ ด้วยความทีเรามากันตอนตีสี่ ดังนั้นวิวเวิวข้างทางไม่มีโอกาสได้เก็บค่ะเพราะมันมืดมาก ค่อยเก็บขากลับ วิวบนยอดเขาที่เราได้เห็นในแวบแรกมันจึงอลังการมากกกกก สวยมากจริงๆค่ะ วิวจากยอดเขาหงอนนาค ขอนั่งอยู่บนนี้นานๆเลย



                   นั่งสักพักก็ได้เวลาเดินลงค่ะ ขึ้น 3.7 กิโลเมตร ลงก็ใช้เวลาเท่ากันค่ะ ไม่ได้เร็วกว่าแบบที่แอบคิดไว้เลย เพราะทางชันและลื่นมาก เดินเกร็งน่องแทบปริ และเนื่องจากเราต้องขับรถกลับภูเก็ตต่อ เราจึงไม่ได้แวะดูวิวที่เหลือ และน้ำตก น่าเสียดายเหมือนกันค่ะ หากใครต้องการมาชมวิวอลังการแบบนี้แนะนำให้มาค้างคืนค่ะ ดูทั้งพระอาทิตย์ตกและขึ้นน่าจะคุ้มค่าเหนื่อยกว่าเรามากๆ ตอนที่เราเดินลงมีคนกำลังเดินขึ้นมาอีกมากมายเพราะเป็นวันหยุดด้วย และหลายคนในนั้นที่เดินยังไม่ถึงครึ่งก็เปลี่ยนใจเดินลงกันซะแล้วเพราะเค้าไม่คิดกันว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้



                   ลาก่อนนะจ๊ะ เขาหงอนนาค ดีใจมากจริงๆที่เราอดทนจนเดินถึงยอด เพราะไม่รู้วันนึงจะมีแรงกายและแรงผลักดันตัวเองพอที่จะมาไหม สำคัญที่สุดคือคนที่มาด้วย เพื่อนที่เห็นรูปบอกว่า คบกันมาหลายปีขนาดนี้ หากเค้ายังยอมเดินลุยป่าลุยเขาเป็นเพื่อนอยู่ก็เก็บเค้าไว้ให้ดีที่สุดนะ ><



       


ชื่อสินค้า:   เขาหงอนนาค
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่