ตอนแรกก็คิดอยู่ว่า 3 ตอนสุดท้าย คงจะจบแบบธรรมดาๆ มีเซอร์ไพรส์อะไรบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่หลังจากดูจบ คือเซอร์ไพรส์มากๆ เซอร์ไพรส์ตลอดรายการแบบทั้งที่...ก็กะอยู่แล้ว กับที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำไปได้ เดี๋ยวผมจะเขียนแบบรวมๆเป็นข้อๆเลยล่ะกัน
ปล. สำหรับใครที่ไม่เคยดูอเมริกันไอดอลมาก่อน หรือติดตามไม่ต่อเนื่อง รับรองก็ยังเซอร์ไพรส์และได้สาระความรู้แน่นอน ถ้าดู 3 ตอนสุดท้ายนี้
ปล.2 คงมีเล่าเรื่องราวเนื้อหาภาพในตอนบ้างแหละ แต่จะพยายามไม่บอกเล่าในจุดสำคัญ เช่น...ใครคือผู้ชนะอเมริกันไอดอล 15 แนะนำต้องคลิกไปดูเองเลย เพราะยอมรับจริงๆ เสียง vote จากทางบ้าน สำคัญที่สุดจริงๆ ขนาดกรรมการอย่างแฮรี่ ยังเผลอสบถออกทีวีเลย...แต่อย่างไรไม่ต้องเป็นห่วง ยังอ่านกระทู้นี้แล้วดูอเมริกันไอดอลได้สนุกแน่ๆ (เผื่อจะมีแฟนคลับส่งท้ายเพิ่มอีกสักหน่อย เพราะซีซันนี้ คือ amazing มากๆ ทั้งด้านความสามารถที่พัฒนาจนไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ และความมันส์ในรอบออดิชั่นและฮอลิวู้ด)
1) ตอนที่ 22 จะเป็นการพูดถึงเรื่องราวกำเนิดอเมริกันไอดอล ตั้งแต่ซีซั่นที่ 1 ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าคงจะน่าเบื่อ และคงจะอวยๆอะไรประมาณนั้น แต่ไม่เลย คือแฉแหลกมากๆ แบบแทบไม่ได้กั๊กอะไร แฉตั้งแต่แนวความคิดการผลิตรายการ ว่าเอาฟอร์แมทของ pop idol และทีมงานจากอังกฤษมาทำที่อเมริกา เพราะอะไร (เหตุผลจริงใจดีจริง) แฉการหาเวลาออกอากาศในอเมริกา ที่วิ่งเต้นหาเวลา จนได้ทาง fox อนุมัติ แต่มีเวลาเตรียมการแค่ 2 เดือนก่อนออกอากาศเท่านั้น (โห...คุ้นๆว่าทีวีช่องมากสีในไทย ก็ประมาณนี้เหมือนกันนะ อาจจะโหดกว่าเพราะให้แค่เดือนเดียวต้องออกอากาศให้ได้)
พอ fox อนุมัติ ก็คัดเลือกกรรมการแบบ...มั่วๆก็ว่าได้นะ 555 การคัดเลือกพิธีกร ไรอัล ซีเคล็ด ก็เหมือนถูกหวย คือจากคนโนเนม เป็นดีเจคลื่นเล็กๆ แต่ได้มาทำเป็นพิธีกร แฉการผลิตรายการ ที่ทำงานแบบ the show must go on คืออะไรก็ได้ จะไม่พร้อมอะไร จะมั่วแค่ไหน ก็ต้องออกอากาศให้ได้ คือเป็นการเล่าเรื่องที่จริงใจมากๆ ไม่คิดเลยว่ารายการจะกล้าเล่าหมดเปลือกมากขนาดนี้
2) ตอนที่ 22 ยังพูดถึงคอมเมนต์เตเตอร์ ที่เมื่อถึงระยะหนึ่ง ก็ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป รายการอาจไ่ม่ได้เจาะลึกถึงสาเหตุการลาออกอะไรมาก (เพราะก็ยังเกรงใจเหล่าคอมเมนต์เตเตอร์กันบ้างแหละ) แต่ก็ทิ้งติ่งอะไรที่เวลาดู ก็พอจะเดาได้เลาๆออกได้ว่า สาเหตุการเปลี่ยนมาจากอะไรบ้าง รวมถึงอาจจะไม่ได้แตะถึงสาเหตุที่ต้องเลิกรายการว่าเรทติ้งตก แต่บอกว่าทาง fox เรียกไปเปลี่ยนยกเครื่องรูปแบบรายการ แต่ทีมงานตัดสินใจว่า ถ้าเปลี่ยนก็ไม่ใช่อเมริกันไอดอลแล้ว ขอเลิกเลยตอนที่ยังพอโอเคดีกว่า (เอ๊ะ คุ้นๆรายการในเมืองไทย เดอะสตาร์ที่เปลี่ยนซ้า...จะกลายเป็น Got Talent ไปซะแล้ว)
3) ตอนที่ 23 เป็นการประกาศผลของ top 3 ซึ่งก็ตามคาดเล็กๆ ว่านายดาลตั้น นายมาได้ไกลขนาดนี้ก็สุดยอดแล้ว (แต่ดูๆแล้ว นายออกจะดีใจมากกว่านะ เหมือนยกภูเขาออกจกอกได้ขนาดนั้นเลยนี่น่า นายยิ้มได้ร่าเริงสดใสใกล้เคียงกับตอนออดิชั่นเลยนะ)
สุดท้ายรอบชิงก็เป็นการชิงชัยของเทรนท์ กับลาพอร์ช่า ตามคาด แต่การแข่งขันไม่ได้ง่ายตามคาดจริงๆ ทั้งคู่คือสูสีมากๆ โดยเฉพาะโชว์ที่ 2 กับ 3 ที่เป็นเพลงเก่า คือทั้งคู่ร้องได้สุดยอดสุดๆ ชนิดที่นักร้องในยุคปัจจุบันผมบอกเลยว่า...หลายๆคนไม่สามารถร้องได้ขนาดนี้แน่ๆ แค่ดูโชว์ในคืนนี้ก็คุ้นค่าสุดๆแล้วครับ (บอกเลย โดยเฉพาะนายเทรนท์ เพลงที่ 3 ที่ร้องแพลงแชนเดอเรียอีกครั้ง แต่นายร้องได้สุดพลังกว่าครั้งก่อนสุดๆ ผมฟังไม่ค่อยรู้ความหมายยังแอบน้ำตาซึมเล็กๆเลยนะ ขอบอกเลย)
4) ตอนที่ 24 ตอนสุดท้ายอำลาอาลัยพร้อมโชว์ยิ่งใหญ่จากเหล่าอดีตไอดอล ที่ยกพลรวมรุ่นกันมาแบบครบถ้วนจริงๆ ใครดังๆก็ได้ร้องเพลงนานๆ หลายเหลงหน่อย (ขนาดเคลลี่ คลากสัน ที่ตอนนี้เธอลาคลอดอยู่ ยังต้องขออัดเทปพิเศษโชว์สุดพลังมาฉายในคืนนี้เลยนะ) เรียกว่าใครที่คิดถึงอดีตไอดอล รับรองคืนนี้หายคิดถึงแน่ๆ เพราะโชว์หลากหลาย เยอะแยะ หลากหลายสไตล์ ดูกันเรียกว่าเต็มอิ่มไปเลย
5) แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ และไม่คิดมาก่อนว่าทีมงาน จะกล้าขนาดนี้เลยเหรอ คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอประธานาธิบดีสหรัฐ ไปอัดเทปคำปราศรัยพูดถึงรายการอเมริกันไอดอล (โห กล้ามากเลยจริงงๆ) แต่บอกเลยนะครับ โอบาม่า ปราศรัยได้สุดยอดจริงๆ แต่ละคำที่เลือกมาพูด คือมีกึ๋นและฉลาดมาก มิน่า...คนอเมริกันถึงเลือกโอบาม่าต่อเนื่องถึง 2 สมัย เพราะขนาดผมดูคำปราศรัยสั้นๆแค่ไม่กี่นาที ยังแอบซาบซึ้งกับอานุภาพ ของพลังจากเสียงโหวดจากประชาชน ว่าประชาธิบไตยสำคัญแค่ไหนจริงๆ
6) ที่โดนจัดหนักแบบเต็มๆ คือพิธีกรของเรานี่เอง โดนตั้งแต่ต้นรายการ เซอร์ไพรส์แบบไม่มีสคริปกับแขกรับเชิญพิเศษหลากหลายคนมากๆ แถมแซวกันแรงมากกกก (แรงมากจริงๆ ต้องดูเองเลย) คือถ้าเป็นเราๆ รับรองคุมสถานการณ์รายการไม่อยู่แน่ๆ แต่ไรอัล เอาอยู่ และฉลาดมากๆ (ไม่น่าเชื่อว่านายจากที่เคยเป็นแค่ดีเจรายการเล็กๆ จะพัฒนาตัวเองสู่จุดสูงสุดได้ขนาดนี้)
7) นอกจากนี้ คอมเมนเตเตอร์ที่เคยผ่านรายการนี้ ก็มาปรากฎตัว ปรากฎภาพ กันแบบครบถ้วนเลย (คือถ้าใครไม่ว่าง มาไม่ได้ก็ปรากฎภาพจากเทปบันทึกกันทุกคน) แต่ที่เป็นช็อตสำคัญประทับใจสุดๆ ก็คือการรวมตัวกันของคอมเมนต์เตเตอร์ชุดแรกของรายการ ที่นับว่าเป็นออริจินอลสุดๆ คือทำได้น่าประท้บใจ และเซอร์ไพรส์สะใจคนดูมาก
8) รายการไม่ได้แค่รวม the winner อเมริกันไอดอลเท่านั้น สำหรับใครที่สร้างผลงานจนเป็นที่ประทับใจและจดจำจากผู้ชม จากทุกๆเหตุการณ์ ทุก moment ก็เชิญมากันโชว์ครบถ้วนจริงๆ she bang ก็ยังมาเลย (แม้ดูๆไป สังขารจะล่วงโรยไปเยอะเอาเรื่อย แต่ก็ใส่พลังจัดเต็มวิ่งวุ่นรอบเวที กับเสียงร้องที่พัฒนาขึ้นอีกนิ๊ดดด นีง)
9) แต่ที่ประทับใจผมมากๆ คือโชว์ของเจนนิเฟอร์ โลเปซ ที่ยกทีมจากลาสเวกัส มาโชว์กันแบบครบเครื่องบนเวทีกันแบบสดๆ และแบบสุดพลังสุดๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าโชว์กันบนเวทักันเลยทีเดียว (ชุดของเจโล วันนี้เธอเซ็กซี่มากๆ บริทนีย์ toxic แทบจะชิดซ้ายไปเลย (ก็เจโลเธอเนื้อนมไข่มากกว่านี่หน่านะ 555)) เรียกว่าถ้าจะออกในรายการทีวีเมืองไทย ก็คงเซ็นเซอร์ทายาหม่องเบลอกันทั่วจอจนดูไม่รู้เรื่องแน่ๆ (แต่โชคดี ผมดูเวอร์ชั่นในเวป เลยได้ดุแบบเต็มๆเด้งๆเต็มสองตาสุดๆ)
10) เซอร์ไพรส์ปิดท้าย กับ 2 คำสุดท้ายก่อนปิดรายการ ก็กะแล้วหละ ถ้ากระแสดีก็คงมีสิทธิ์ไปต่อได้ แต่ก็คงจะไม่ใช่แบบเดิมๆแน่ๆ (หลังๆ fox ก็ใจร้ายกับหลายๆรายการนะ บางรายการที่ก็สนุกดีออก ก็ยังถูกยกเลิกเลย อย่าง so yo think you can dance ก็พักยาวมาก รายการออกจะสนุกแท้ๆ ซีรีส์บางเรื่องก็ยกเลิกไปเยอะเลยนะ)
สุดท้าย ก็อยากบอกว่า ใครที่ยังไม่เคยดู ก็อยากให้ลองดูนะครับ คือมันส์และดีกว่าเรลลิตี้หลายๆรายการมากๆ ยังไงแบบออริจินอล แม้จะไม่หวือหวา แต่ก็สร้างคนคุณภาพแบบของจริงอยู่ดี (หลังๆ บางรายการกติกาซับซ้อน และดูไม่แฟร์ยังไงไม่รู้ แถมผู้ชนะ บางทีก็ไม่ใช่คนที่มาจากเสียงของประชาชนจริงๆซะด้วย อาจเพราะกติกาที่แปลกๆยังไงหละครับ แต่ที่น่าเสียดายสุดๆ บางรายการก็ไม่สามารถพัฒนาศักยภาพของผู้แข่งขันให้เพียงพอที่จะสามารถทำให้โด่งดังในวงการเพลงปัจจุบันได้จริง)
American Idol 15 ส่งท้ายกับ 3 ตอนสุดท้าย ที่จัดเต็มเซอร์ไพรส์แบบฮามาก เหวอรับประทานตลอดๆ ใครไม่เคยดูรับรองก็ยังมันส์แน่ๆ
ปล. สำหรับใครที่ไม่เคยดูอเมริกันไอดอลมาก่อน หรือติดตามไม่ต่อเนื่อง รับรองก็ยังเซอร์ไพรส์และได้สาระความรู้แน่นอน ถ้าดู 3 ตอนสุดท้ายนี้
ปล.2 คงมีเล่าเรื่องราวเนื้อหาภาพในตอนบ้างแหละ แต่จะพยายามไม่บอกเล่าในจุดสำคัญ เช่น...ใครคือผู้ชนะอเมริกันไอดอล 15 แนะนำต้องคลิกไปดูเองเลย เพราะยอมรับจริงๆ เสียง vote จากทางบ้าน สำคัญที่สุดจริงๆ ขนาดกรรมการอย่างแฮรี่ ยังเผลอสบถออกทีวีเลย...แต่อย่างไรไม่ต้องเป็นห่วง ยังอ่านกระทู้นี้แล้วดูอเมริกันไอดอลได้สนุกแน่ๆ (เผื่อจะมีแฟนคลับส่งท้ายเพิ่มอีกสักหน่อย เพราะซีซันนี้ คือ amazing มากๆ ทั้งด้านความสามารถที่พัฒนาจนไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ และความมันส์ในรอบออดิชั่นและฮอลิวู้ด)
1) ตอนที่ 22 จะเป็นการพูดถึงเรื่องราวกำเนิดอเมริกันไอดอล ตั้งแต่ซีซั่นที่ 1 ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าคงจะน่าเบื่อ และคงจะอวยๆอะไรประมาณนั้น แต่ไม่เลย คือแฉแหลกมากๆ แบบแทบไม่ได้กั๊กอะไร แฉตั้งแต่แนวความคิดการผลิตรายการ ว่าเอาฟอร์แมทของ pop idol และทีมงานจากอังกฤษมาทำที่อเมริกา เพราะอะไร (เหตุผลจริงใจดีจริง) แฉการหาเวลาออกอากาศในอเมริกา ที่วิ่งเต้นหาเวลา จนได้ทาง fox อนุมัติ แต่มีเวลาเตรียมการแค่ 2 เดือนก่อนออกอากาศเท่านั้น (โห...คุ้นๆว่าทีวีช่องมากสีในไทย ก็ประมาณนี้เหมือนกันนะ อาจจะโหดกว่าเพราะให้แค่เดือนเดียวต้องออกอากาศให้ได้)
พอ fox อนุมัติ ก็คัดเลือกกรรมการแบบ...มั่วๆก็ว่าได้นะ 555 การคัดเลือกพิธีกร ไรอัล ซีเคล็ด ก็เหมือนถูกหวย คือจากคนโนเนม เป็นดีเจคลื่นเล็กๆ แต่ได้มาทำเป็นพิธีกร แฉการผลิตรายการ ที่ทำงานแบบ the show must go on คืออะไรก็ได้ จะไม่พร้อมอะไร จะมั่วแค่ไหน ก็ต้องออกอากาศให้ได้ คือเป็นการเล่าเรื่องที่จริงใจมากๆ ไม่คิดเลยว่ารายการจะกล้าเล่าหมดเปลือกมากขนาดนี้
2) ตอนที่ 22 ยังพูดถึงคอมเมนต์เตเตอร์ ที่เมื่อถึงระยะหนึ่ง ก็ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป รายการอาจไ่ม่ได้เจาะลึกถึงสาเหตุการลาออกอะไรมาก (เพราะก็ยังเกรงใจเหล่าคอมเมนต์เตเตอร์กันบ้างแหละ) แต่ก็ทิ้งติ่งอะไรที่เวลาดู ก็พอจะเดาได้เลาๆออกได้ว่า สาเหตุการเปลี่ยนมาจากอะไรบ้าง รวมถึงอาจจะไม่ได้แตะถึงสาเหตุที่ต้องเลิกรายการว่าเรทติ้งตก แต่บอกว่าทาง fox เรียกไปเปลี่ยนยกเครื่องรูปแบบรายการ แต่ทีมงานตัดสินใจว่า ถ้าเปลี่ยนก็ไม่ใช่อเมริกันไอดอลแล้ว ขอเลิกเลยตอนที่ยังพอโอเคดีกว่า (เอ๊ะ คุ้นๆรายการในเมืองไทย เดอะสตาร์ที่เปลี่ยนซ้า...จะกลายเป็น Got Talent ไปซะแล้ว)
3) ตอนที่ 23 เป็นการประกาศผลของ top 3 ซึ่งก็ตามคาดเล็กๆ ว่านายดาลตั้น นายมาได้ไกลขนาดนี้ก็สุดยอดแล้ว (แต่ดูๆแล้ว นายออกจะดีใจมากกว่านะ เหมือนยกภูเขาออกจกอกได้ขนาดนั้นเลยนี่น่า นายยิ้มได้ร่าเริงสดใสใกล้เคียงกับตอนออดิชั่นเลยนะ)
สุดท้ายรอบชิงก็เป็นการชิงชัยของเทรนท์ กับลาพอร์ช่า ตามคาด แต่การแข่งขันไม่ได้ง่ายตามคาดจริงๆ ทั้งคู่คือสูสีมากๆ โดยเฉพาะโชว์ที่ 2 กับ 3 ที่เป็นเพลงเก่า คือทั้งคู่ร้องได้สุดยอดสุดๆ ชนิดที่นักร้องในยุคปัจจุบันผมบอกเลยว่า...หลายๆคนไม่สามารถร้องได้ขนาดนี้แน่ๆ แค่ดูโชว์ในคืนนี้ก็คุ้นค่าสุดๆแล้วครับ (บอกเลย โดยเฉพาะนายเทรนท์ เพลงที่ 3 ที่ร้องแพลงแชนเดอเรียอีกครั้ง แต่นายร้องได้สุดพลังกว่าครั้งก่อนสุดๆ ผมฟังไม่ค่อยรู้ความหมายยังแอบน้ำตาซึมเล็กๆเลยนะ ขอบอกเลย)
4) ตอนที่ 24 ตอนสุดท้ายอำลาอาลัยพร้อมโชว์ยิ่งใหญ่จากเหล่าอดีตไอดอล ที่ยกพลรวมรุ่นกันมาแบบครบถ้วนจริงๆ ใครดังๆก็ได้ร้องเพลงนานๆ หลายเหลงหน่อย (ขนาดเคลลี่ คลากสัน ที่ตอนนี้เธอลาคลอดอยู่ ยังต้องขออัดเทปพิเศษโชว์สุดพลังมาฉายในคืนนี้เลยนะ) เรียกว่าใครที่คิดถึงอดีตไอดอล รับรองคืนนี้หายคิดถึงแน่ๆ เพราะโชว์หลากหลาย เยอะแยะ หลากหลายสไตล์ ดูกันเรียกว่าเต็มอิ่มไปเลย
5) แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ และไม่คิดมาก่อนว่าทีมงาน จะกล้าขนาดนี้เลยเหรอ คือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ยังแอบซาบซึ้งกับอานุภาพ ของพลังจากเสียงโหวดจากประชาชน ว่าประชาธิบไตยสำคัญแค่ไหนจริงๆ
6) ที่โดนจัดหนักแบบเต็มๆ คือพิธีกรของเรานี่เอง โดนตั้งแต่ต้นรายการ เซอร์ไพรส์แบบไม่มีสคริปกับแขกรับเชิญพิเศษหลากหลายคนมากๆ แถมแซวกันแรงมากกกก (แรงมากจริงๆ ต้องดูเองเลย) คือถ้าเป็นเราๆ รับรองคุมสถานการณ์รายการไม่อยู่แน่ๆ แต่ไรอัล เอาอยู่ และฉลาดมากๆ (ไม่น่าเชื่อว่านายจากที่เคยเป็นแค่ดีเจรายการเล็กๆ จะพัฒนาตัวเองสู่จุดสูงสุดได้ขนาดนี้)
7) นอกจากนี้ คอมเมนเตเตอร์ที่เคยผ่านรายการนี้ ก็มาปรากฎตัว ปรากฎภาพ กันแบบครบถ้วนเลย (คือถ้าใครไม่ว่าง มาไม่ได้ก็ปรากฎภาพจากเทปบันทึกกันทุกคน) แต่ที่เป็นช็อตสำคัญประทับใจสุดๆ ก็คือการรวมตัวกันของคอมเมนต์เตเตอร์ชุดแรกของรายการ ที่นับว่าเป็นออริจินอลสุดๆ คือทำได้น่าประท้บใจ และเซอร์ไพรส์สะใจคนดูมาก
8) รายการไม่ได้แค่รวม the winner อเมริกันไอดอลเท่านั้น สำหรับใครที่สร้างผลงานจนเป็นที่ประทับใจและจดจำจากผู้ชม จากทุกๆเหตุการณ์ ทุก moment ก็เชิญมากันโชว์ครบถ้วนจริงๆ she bang ก็ยังมาเลย (แม้ดูๆไป สังขารจะล่วงโรยไปเยอะเอาเรื่อย แต่ก็ใส่พลังจัดเต็มวิ่งวุ่นรอบเวที กับเสียงร้องที่พัฒนาขึ้นอีกนิ๊ดดด นีง)
9) แต่ที่ประทับใจผมมากๆ คือโชว์ของเจนนิเฟอร์ โลเปซ ที่ยกทีมจากลาสเวกัส มาโชว์กันแบบครบเครื่องบนเวทีกันแบบสดๆ และแบบสุดพลังสุดๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าโชว์กันบนเวทักันเลยทีเดียว (ชุดของเจโล วันนี้เธอเซ็กซี่มากๆ บริทนีย์ toxic แทบจะชิดซ้ายไปเลย (ก็เจโลเธอเนื้อนมไข่มากกว่านี่หน่านะ 555)) เรียกว่าถ้าจะออกในรายการทีวีเมืองไทย ก็คงเซ็นเซอร์ทายาหม่องเบลอกันทั่วจอจนดูไม่รู้เรื่องแน่ๆ (แต่โชคดี ผมดูเวอร์ชั่นในเวป เลยได้ดุแบบเต็มๆเด้งๆเต็มสองตาสุดๆ)
10) เซอร์ไพรส์ปิดท้าย กับ 2 คำสุดท้ายก่อนปิดรายการ ก็กะแล้วหละ ถ้ากระแสดีก็คงมีสิทธิ์ไปต่อได้ แต่ก็คงจะไม่ใช่แบบเดิมๆแน่ๆ (หลังๆ fox ก็ใจร้ายกับหลายๆรายการนะ บางรายการที่ก็สนุกดีออก ก็ยังถูกยกเลิกเลย อย่าง so yo think you can dance ก็พักยาวมาก รายการออกจะสนุกแท้ๆ ซีรีส์บางเรื่องก็ยกเลิกไปเยอะเลยนะ)
สุดท้าย ก็อยากบอกว่า ใครที่ยังไม่เคยดู ก็อยากให้ลองดูนะครับ คือมันส์และดีกว่าเรลลิตี้หลายๆรายการมากๆ ยังไงแบบออริจินอล แม้จะไม่หวือหวา แต่ก็สร้างคนคุณภาพแบบของจริงอยู่ดี (หลังๆ บางรายการกติกาซับซ้อน และดูไม่แฟร์ยังไงไม่รู้ แถมผู้ชนะ บางทีก็ไม่ใช่คนที่มาจากเสียงของประชาชนจริงๆซะด้วย อาจเพราะกติกาที่แปลกๆยังไงหละครับ แต่ที่น่าเสียดายสุดๆ บางรายการก็ไม่สามารถพัฒนาศักยภาพของผู้แข่งขันให้เพียงพอที่จะสามารถทำให้โด่งดังในวงการเพลงปัจจุบันได้จริง)