สวัสดีครับ ผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ นี้เป็นการรีวิวที่พัก ที่เที่ยวครั้งแรกของผมเลย เหตุเกิดจาก เป็นคนชอบถ่ายรูปและชอบดู รีวิวของคนอื่นมาเยอะ เลยอยากลองเขียนดูบ้างครับ
เนื่องจากได้ Voucher ที่พัก Felix River Kwai Resort กาญจนบุรี ฟรี 1 คืน จากคลื่นวิทยุ Green Wave เราเลยวางแผนกันไว้ว่าจะไปพัก วันที่อาทิตย์ 10 เมษายน ก็เลยทำการจองที่พักเรียบร้อย ก่อนวันเดินทางประมาณ 1 อาทิตย์ ดันไปเล่นเกมส์ ได้บัตรคอนเสิร์ต Green Fan Club : Summer Acoustic @ Sea งานจัดที่พัทยา วันที่ 9 เมษายน เอาไงดี เราต้องไปพัทยาก่อน แล้วย้อนกลับมาเมืองกาญวันรุ่งขึ้น เป็นไงเป็นกัน จัดการจองที่พักที่พัทยา 5ive Beach House Hotel (จองผ่าน expedia ใส่รหัสส่วนลดไป เหลือ 743 บาท) เนื่องจากรถติด และเหนื่อยกับการเดินทาง หิวด้วย เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปที่พักที่พัทยา มาแต่อย่างใด เลยอยากให้ชมบรรยากาศ งานที่Ocean Marina Yacht Club ละกันนะ ครับ
พอออกจากคอนเสิร์ต ก็ตรงดิ่งมาที่ร้านอาหาร ปูเป็น เจ้าประจำที่เราเคยมาทาน
พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน คืนนี้ฝันดีครับ
************************************************************
ตื่นมาก็ปาไป 10โมงและ เลยรีบเพื่อจะหาไรทานและรีบ Check Out ออกจากพัทยาประมาณเที่ยง
นั่งรถมาเรื่อยๆ ประมาณ สี่โมงเย็นเราก็มาถึงที่พัก ที่โรงแรมเฟลิกซ์ ริเวอร์แคว แล้ว รีสอร์ท ระดับ 4 ดาว
ที่อยู่: 9/1 หมู่ 3 ท่ามะขาม อำเภอเมือง กาญจนบุรี ใช้เวลาขับรถ 10 นาที จากตัวเมืองกาญจนบุรี
โรงแรมเฟลิกซ์ มี 2 สระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา บริการฟรี Wi - Fi และร้านอาหารถึง 7 ตัวเลือก ห้องพัก 255 ห้อง เป็นห้องปรับอากาศมาพร้อมกับเคเบิ้ลทีวี มินิบาร์และห้องน้ำส่วนตัว ห้องมีระเบียงส่วนตัวมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำแคว
เริ่มต้นด้วยทางเข้าด้านหน้า
พอเข้ามาจะเจอห้องโถงกลาง และ Lobby
หลังจาก CHECK IN แล้วเราก็เดินไปยังห้องพัก ระหว่างทางเดินก็จะมีธารน้ำของโรงแรม ซึ่งมีปลามากมาย ให้เราได้ชมด้วย
เราพักที่ ตึก E ห้อง 214
พอเปิดปรพตูเข้ามา คำแรกที่พูดคือ Wowwwwwwwwwwwwwwwwwww
มุมที่นอนถ่ายจากด้านฝั่งประตูทางเข้า
อีกด้านหนึ่งของที่นอนจะมีตู้เสื้อผ้า ในตู้เสื้อผ้าจะมี ตู้เซฟ ชุดคลุมอาบน้ำ และ ร่ม ไว้ให้ใช้บริการได้
ลองออกไปดูระเบียงกันหน่อยดีกว่า
จะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งดูวิวแม่น้ำแควด้วยครับ
วิวจากมุมนี้สวยงามมาก
กลับเข้ามาในห้องจะมีโต๊ะทำงาน ซึ่งมีอุปกรณ์ ชงชา กาแฟ ไว้ให้บริการด้วยครับ
ข้างๆโต๊ะทำงานจะมีทีวี ซึ่งชั้นวางทีวีจะมีตู้เย็นซ่อนอยู่ด้วย
มาดูภายในห้องน้ำกันบ้าง มีดอกไม้วางที่หน้ากระจกบานใหญ่ มีอ่างอาบน้ำ ไดเป่าผม ผ้าขนหนู ไว้บริการด้วย
มาดูของที่ได้ตอน CHECK IN กันครับ
มี Key Card รหัส WIFI คูปองอาหารเช้า คูปองWelcome Drink
หลังจากเข้าพักจัดข้าวของเรียบร้อยก็เลยหลับสักงีบนึง ประมาณ 6 โมง ตื่นมาออกไปหาอะไรทาน
ข้าวผัดแกงเขียวหวานหมูกรอบ อร่อยมากกกกกก
ยำวุ้นเส้นแบบโบราณ ฟินสุดๆ
หลังจากททานอาหารเสร็จก็กลับเข้ามาท่ี่โรงแรม และได้ลงไปใช้ คูปองWelcome Drink (ของฟรีอีกละ)
จากนั้นก็เดินสำรวจนิดหน่อย ก็เข้านอน เจอกันตอนเช้านะครับ
************************************************************
ตื่นเช้ามา 9 โมง ก็ได้เวลาไปทานอาหารแล้วครับ
อาหารเช้าที่นี้จะบริการแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารไทย ขาต้ม ไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ออมเล็ต ชา กาแฟ ขนมปัง สลัดผัก ผลไม้ โยเกิร์ต ซีเรียล น้ำผลไม้ นมสด และอีกหลายอย่างเลยครับ
มมุมนี้สำหรับมาสั่ง ไข่ดาว ออมเล็ต เขาจะทำให้แบบร้อนๆเลยครับ
ผมตักมาทานรอบแรก ย้ำว่ารอบแรกนะครับ อิอิ
พอทานอาหารเช้าเสร็จ ก็กลับเข้าห้องเปลี่ยนชุดว่ายน้ำไปออกกำลังสักหน่อย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปสระว่ายน้ำ เสียใจ ลืมเอาโทรศัพท์ออกมาด้วย ขออภัยอย่างสูง
หลังจากว่ายน้ำ ออกกำลังกายพอเหนื่อยก็ กลับเข้าห้องอาบน้ำเก็บของ CHECK OUT ครับ จากนั้นเราก็ไปไหว้พระสักหน่อย เพื่อเป็นสิริมงคล
วัดแรกที่เรามาคือวัดบ้านถ่ำครับ
วัดบ้านถ้ำ ริมถนนเลียบแม่น้ำแม่กลอง อำเภอท่าม่วง ที่โดดเด่นที่สุด ก็คือ ทางขึ้นถ้ำเป็นบันไดลึกเข้าไปในปากมังกรตัวใหญ่ ในชั้นแรกที่ขึ้นบันไดไป 271 ขั้น และ สามารถขึ้นไปสูงสุดได้อีก 509 ขั้น ( ผมขึ้นไม่ไหว หมดแรงก่อน ) ภายในถ้ำมีหินงอกลักษณะคล้ายผู้หญิง เชื่อว่าคือ นางบัวคลี่ ภรรยาของขุนแผน ตำนานอิงประวัติศาสตร์เรื่องขุนช้างขุนแผนที่เล่าขานกันต่อมาช้านานและบนยอดเขายังมีถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามอยู่อีกหลายถ้ำ โดยเฉพาะบันไดมังกร สวยมากจริง ๆ ผมอยากด้วยให้เพื่อน ๆ ลองไปชมจริงๆ
สุดหางมมังกรคือบันไดขั้นที่ 271 ครับ
ขึ้นมาได้ครึ่งทางแล้วขอนั่งพักสักหน่อย
มีเจ้าถิ่นมาต้อนรับด้วยแหละครับ
หลังจากพักพอมีแรง ก็ขึ้นต่ออีกจนถึงหางมังกร
ด้านบนมีพระให้สักการะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะภายในถ้ำไม่ค่อยมีแสง ถ่ายไม่ชัดเลยครับ และอีกอยางคือเมื่อยเหนื่อยจนลืมถ่าย 555
มาวัดที่ 2 นะครับ
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สิ่งที่สะดุดสายตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุ ก็คือ ความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีตัวองค์ พระสวยงามประดับ ด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ เมื่อเดินทางมาถึงด้านบนก็พบกับความสดชื่นของลมที่พัดเย็น และแรงทีเดียว มองไปด้านล่างเห็นเป็น ทุ่งนา เขียวขจี แต่เสียดายวันที่มานี้ เขาเก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว ถ้าอยากมาสัมผัส ทุ่งนาเขียวๆ แนะนำว่ามาช่วงหน้าฝน ( ไกด์ส่วนตัวบอกมาอีกที ) นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ หลายชั้น แต่ละชั้นจะ ประดิษฐาน พระพุทธรูปต่าง ๆ มากมาย จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย อีกด้วย
พอเห็นทางขึ้นเท่านั้นแหละ ผมนี้รีบวิ่งหาตัวช่วยเลยครับ
นี้เลยครับรถลาง ราคา 10 บาท เท่านั้นเอง (แอบน่ากลัวเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร คิดว่าอยู่ในสวนสนุก ก็โอเคอยู่นะะครับ )
พอขึ้นมาถึงด้านบนก็มาไหว้สักการะพระใหญ่
มาถึงพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ด้านบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย
้
เดินขึ้นประมาณ 7 ชั้น ( เล่นเอาหอบ )
มาถึงชั้นบนสุดก็กราบพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นสิริมงคล
นี้เป็นภาพถ่ายมุมสูงจากบน พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ครับ
ขาลงผมก็ลงรถลางสิครับ ไม่เหวแล้ว ล้าขามากมาย หลังจากลงจากวัดถ้ำเสื้อก็ตรงดิ่งกลับ กทม.เลยครับ แต่มิวายแวะซื้อ ตุ๊กตาที่อำเภอโพธาราม ราชบุรี ขอบอกว่าตุ๊กตาเยอะมาก ราคาไม่แพงด้วย เพื่อนๆมีโอกาสอย่าลืมแวะซื้อกันนะครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้นะครับ ขอขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่าน ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย ติชมได้เลยนะครับขอน้อมรับ และจะฝึกรีวิวให้ดีขึ้นไปอีก
ปล.รูปบางรูปอาจจะไม่ค่อยชัด ถ่ายด้วย โทรศัพท์ Note 2 ครับ
ปล.2 ขอขอบคุณ Greenwave ที่ให้ที่พัก และกิจกรรมดีดีแบบนี้
ปล.3 ขอขอบคุณไกด์ส่วนตัวที่พาไปเที่ยว
ปล.4 ขอขอบคุณอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนรีวิวนี้
[SR] ครั้งแรกกับการรีวิว ที่พักและที่เที่ยว(เล็กน้อย)ในเมืองกาญ
เนื่องจากได้ Voucher ที่พัก Felix River Kwai Resort กาญจนบุรี ฟรี 1 คืน จากคลื่นวิทยุ Green Wave เราเลยวางแผนกันไว้ว่าจะไปพัก วันที่อาทิตย์ 10 เมษายน ก็เลยทำการจองที่พักเรียบร้อย ก่อนวันเดินทางประมาณ 1 อาทิตย์ ดันไปเล่นเกมส์ ได้บัตรคอนเสิร์ต Green Fan Club : Summer Acoustic @ Sea งานจัดที่พัทยา วันที่ 9 เมษายน เอาไงดี เราต้องไปพัทยาก่อน แล้วย้อนกลับมาเมืองกาญวันรุ่งขึ้น เป็นไงเป็นกัน จัดการจองที่พักที่พัทยา 5ive Beach House Hotel (จองผ่าน expedia ใส่รหัสส่วนลดไป เหลือ 743 บาท) เนื่องจากรถติด และเหนื่อยกับการเดินทาง หิวด้วย เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปที่พักที่พัทยา มาแต่อย่างใด เลยอยากให้ชมบรรยากาศ งานที่Ocean Marina Yacht Club ละกันนะ ครับ
พอออกจากคอนเสิร์ต ก็ตรงดิ่งมาที่ร้านอาหาร ปูเป็น เจ้าประจำที่เราเคยมาทาน
พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน คืนนี้ฝันดีครับ
************************************************************
ตื่นมาก็ปาไป 10โมงและ เลยรีบเพื่อจะหาไรทานและรีบ Check Out ออกจากพัทยาประมาณเที่ยง
นั่งรถมาเรื่อยๆ ประมาณ สี่โมงเย็นเราก็มาถึงที่พัก ที่โรงแรมเฟลิกซ์ ริเวอร์แคว แล้ว รีสอร์ท ระดับ 4 ดาว
ที่อยู่: 9/1 หมู่ 3 ท่ามะขาม อำเภอเมือง กาญจนบุรี ใช้เวลาขับรถ 10 นาที จากตัวเมืองกาญจนบุรี
โรงแรมเฟลิกซ์ มี 2 สระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา บริการฟรี Wi - Fi และร้านอาหารถึง 7 ตัวเลือก ห้องพัก 255 ห้อง เป็นห้องปรับอากาศมาพร้อมกับเคเบิ้ลทีวี มินิบาร์และห้องน้ำส่วนตัว ห้องมีระเบียงส่วนตัวมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำแคว
เริ่มต้นด้วยทางเข้าด้านหน้า
พอเข้ามาจะเจอห้องโถงกลาง และ Lobby
หลังจาก CHECK IN แล้วเราก็เดินไปยังห้องพัก ระหว่างทางเดินก็จะมีธารน้ำของโรงแรม ซึ่งมีปลามากมาย ให้เราได้ชมด้วย
เราพักที่ ตึก E ห้อง 214
พอเปิดปรพตูเข้ามา คำแรกที่พูดคือ Wowwwwwwwwwwwwwwwwwww
มุมที่นอนถ่ายจากด้านฝั่งประตูทางเข้า
อีกด้านหนึ่งของที่นอนจะมีตู้เสื้อผ้า ในตู้เสื้อผ้าจะมี ตู้เซฟ ชุดคลุมอาบน้ำ และ ร่ม ไว้ให้ใช้บริการได้
ลองออกไปดูระเบียงกันหน่อยดีกว่า
จะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งดูวิวแม่น้ำแควด้วยครับ
วิวจากมุมนี้สวยงามมาก
กลับเข้ามาในห้องจะมีโต๊ะทำงาน ซึ่งมีอุปกรณ์ ชงชา กาแฟ ไว้ให้บริการด้วยครับ
ข้างๆโต๊ะทำงานจะมีทีวี ซึ่งชั้นวางทีวีจะมีตู้เย็นซ่อนอยู่ด้วย
มาดูภายในห้องน้ำกันบ้าง มีดอกไม้วางที่หน้ากระจกบานใหญ่ มีอ่างอาบน้ำ ไดเป่าผม ผ้าขนหนู ไว้บริการด้วย
มาดูของที่ได้ตอน CHECK IN กันครับ
มี Key Card รหัส WIFI คูปองอาหารเช้า คูปองWelcome Drink
หลังจากเข้าพักจัดข้าวของเรียบร้อยก็เลยหลับสักงีบนึง ประมาณ 6 โมง ตื่นมาออกไปหาอะไรทาน
ข้าวผัดแกงเขียวหวานหมูกรอบ อร่อยมากกกกกก
ยำวุ้นเส้นแบบโบราณ ฟินสุดๆ
หลังจากททานอาหารเสร็จก็กลับเข้ามาท่ี่โรงแรม และได้ลงไปใช้ คูปองWelcome Drink (ของฟรีอีกละ)
จากนั้นก็เดินสำรวจนิดหน่อย ก็เข้านอน เจอกันตอนเช้านะครับ
************************************************************
ตื่นเช้ามา 9 โมง ก็ได้เวลาไปทานอาหารแล้วครับ
อาหารเช้าที่นี้จะบริการแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารไทย ขาต้ม ไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ออมเล็ต ชา กาแฟ ขนมปัง สลัดผัก ผลไม้ โยเกิร์ต ซีเรียล น้ำผลไม้ นมสด และอีกหลายอย่างเลยครับ
มมุมนี้สำหรับมาสั่ง ไข่ดาว ออมเล็ต เขาจะทำให้แบบร้อนๆเลยครับ
ผมตักมาทานรอบแรก ย้ำว่ารอบแรกนะครับ อิอิ
พอทานอาหารเช้าเสร็จ ก็กลับเข้าห้องเปลี่ยนชุดว่ายน้ำไปออกกำลังสักหน่อย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปสระว่ายน้ำ เสียใจ ลืมเอาโทรศัพท์ออกมาด้วย ขออภัยอย่างสูง
หลังจากว่ายน้ำ ออกกำลังกายพอเหนื่อยก็ กลับเข้าห้องอาบน้ำเก็บของ CHECK OUT ครับ จากนั้นเราก็ไปไหว้พระสักหน่อย เพื่อเป็นสิริมงคล
วัดแรกที่เรามาคือวัดบ้านถ่ำครับ
วัดบ้านถ้ำ ริมถนนเลียบแม่น้ำแม่กลอง อำเภอท่าม่วง ที่โดดเด่นที่สุด ก็คือ ทางขึ้นถ้ำเป็นบันไดลึกเข้าไปในปากมังกรตัวใหญ่ ในชั้นแรกที่ขึ้นบันไดไป 271 ขั้น และ สามารถขึ้นไปสูงสุดได้อีก 509 ขั้น ( ผมขึ้นไม่ไหว หมดแรงก่อน ) ภายในถ้ำมีหินงอกลักษณะคล้ายผู้หญิง เชื่อว่าคือ นางบัวคลี่ ภรรยาของขุนแผน ตำนานอิงประวัติศาสตร์เรื่องขุนช้างขุนแผนที่เล่าขานกันต่อมาช้านานและบนยอดเขายังมีถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามอยู่อีกหลายถ้ำ โดยเฉพาะบันไดมังกร สวยมากจริง ๆ ผมอยากด้วยให้เพื่อน ๆ ลองไปชมจริงๆ
สุดหางมมังกรคือบันไดขั้นที่ 271 ครับ
ขึ้นมาได้ครึ่งทางแล้วขอนั่งพักสักหน่อย
มีเจ้าถิ่นมาต้อนรับด้วยแหละครับ
หลังจากพักพอมีแรง ก็ขึ้นต่ออีกจนถึงหางมังกร
ด้านบนมีพระให้สักการะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะภายในถ้ำไม่ค่อยมีแสง ถ่ายไม่ชัดเลยครับ และอีกอยางคือเมื่อยเหนื่อยจนลืมถ่าย 555
มาวัดที่ 2 นะครับ
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สิ่งที่สะดุดสายตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุ ก็คือ ความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีตัวองค์ พระสวยงามประดับ ด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ เมื่อเดินทางมาถึงด้านบนก็พบกับความสดชื่นของลมที่พัดเย็น และแรงทีเดียว มองไปด้านล่างเห็นเป็น ทุ่งนา เขียวขจี แต่เสียดายวันที่มานี้ เขาเก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว ถ้าอยากมาสัมผัส ทุ่งนาเขียวๆ แนะนำว่ามาช่วงหน้าฝน ( ไกด์ส่วนตัวบอกมาอีกที ) นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ หลายชั้น แต่ละชั้นจะ ประดิษฐาน พระพุทธรูปต่าง ๆ มากมาย จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย อีกด้วย
พอเห็นทางขึ้นเท่านั้นแหละ ผมนี้รีบวิ่งหาตัวช่วยเลยครับ
นี้เลยครับรถลาง ราคา 10 บาท เท่านั้นเอง (แอบน่ากลัวเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร คิดว่าอยู่ในสวนสนุก ก็โอเคอยู่นะะครับ )
พอขึ้นมาถึงด้านบนก็มาไหว้สักการะพระใหญ่
มาถึงพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ด้านบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย
้
เดินขึ้นประมาณ 7 ชั้น ( เล่นเอาหอบ )
มาถึงชั้นบนสุดก็กราบพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นสิริมงคล
นี้เป็นภาพถ่ายมุมสูงจากบน พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ครับ
ขาลงผมก็ลงรถลางสิครับ ไม่เหวแล้ว ล้าขามากมาย หลังจากลงจากวัดถ้ำเสื้อก็ตรงดิ่งกลับ กทม.เลยครับ แต่มิวายแวะซื้อ ตุ๊กตาที่อำเภอโพธาราม ราชบุรี ขอบอกว่าตุ๊กตาเยอะมาก ราคาไม่แพงด้วย เพื่อนๆมีโอกาสอย่าลืมแวะซื้อกันนะครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้นะครับ ขอขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่าน ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย ติชมได้เลยนะครับขอน้อมรับ และจะฝึกรีวิวให้ดีขึ้นไปอีก
ปล.รูปบางรูปอาจจะไม่ค่อยชัด ถ่ายด้วย โทรศัพท์ Note 2 ครับ
ปล.2 ขอขอบคุณ Greenwave ที่ให้ที่พัก และกิจกรรมดีดีแบบนี้
ปล.3 ขอขอบคุณไกด์ส่วนตัวที่พาไปเที่ยว
ปล.4 ขอขอบคุณอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนรีวิวนี้