ขอถามคนที่ถูกปลูกฝังว่าไม่ต้องกลับไปดูแลพ่อแม่ตอนแก่ว่า "คุณไม่เคยอยู่แบบไม่มีใครมาก่อนเลยในชีวิตนี้" ใช่มั้ย?

อันนี้อยากรู้จริงๆอะค่ะ พอดีไปเจอกระทู้มาแล้วมีคนบอกว่าพ่อแม่สอนว่าไม่ต้องกลับมาดูแล ลูกไม่ได้มีหน้าที่ดูแลคนแก่ โตแล้วก็ไปใช้ชีวิตของตัวเอง

เราอยากรู้จริงๆว่า คนทีมีไลฟ์สไตล์แบบนี้ ในชีวิตคุณ คุณไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่
1.สูญเสียใคร มาก่อนใช่มั้ย? เช่น ปู่ยาตายายแก่ๆ ตกเก้าอี้แล้วกระดูกหัก(แก่แล้วจะเป็นอะไรง่าย)แล้วถ้าไม่มีใครไปเจอก็ไม่รู้จะเป็นยังไง หรือ คนที่แก่ๆทำกับข้าวเองหุงหาอาหารเอง บางคนตาบอดหรือพิการ ถ้าไม่มีใครมาดูแล หลายๆคนปล่อยไว้จนคนแก่ต้องมาเป็นแบบนี้ คุณไม่เคยเจอเรื่องน่ากลัวๆแบบนี้ใช่หรือเปล่า คุณเลยเฉยๆกับการที่ให้พ่อแม่ ปูย่า ตายาย อยู่ตามลำพัง


2. ในชีวิตคุณไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวหรือต้องต่อสู่ชีวิตเองคนเดียวใช่หรือไม่ เลยไม่รู้สึกขาดอะไร หรือกังวลว่าสักวันหนึ่งจะไม่มีใครเพราะในชีวิตนี้ไม่เคยไม่มีใคร เพราะตั้งแต่เกิดมาก็มีคนรักมีคนห้อมล้อมเสมอๆ เลยไม่ได้รู้สึกถึงความไม่มั่นคงในยามแก่

ในยามแก่เราจะใช้ชีวิตไปไหนมาไหนอย่างสะดวกสบายเหมือนหนุ่มสาวไม่ได้นะ แรงไม่พอ แล้วตอนแก่สังคมไม่มีเหมือนตอนทำงานนะ บางทีอาจจะแทบไม่มีใครมาเยี้ยมคุณด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าคู่ชีวิตคุณตายไปจนคุณต้องอยู่คนเดียวคุณลองนับดูนะ  อายุ 60 หลังจากนั้นอีกกี่ปีกว่าจะตาย จะอยู่คนเดียวกี่ปี


มันแล้วแต่ธรรมเนียมวัฒนธรรมของแต่ละคนนะที่จะเลือกใช้ชีวิตแบบไหน ไม่ได้ว่าหรืออะไรนะคะ แต่อยากทราบความคิดของคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบนี้จริงๆ ปกติจะเจอฝรั่งและคนญี่ปุ่นค่ะที่พอโตก็แยกย้ายครอบครัว แต่สุดท้ายหลายต่อหลายคนเลยที่เห็นคุณค่าของการมีลูกหลานไปดูแล เคยมีนักข่าวญี่ปุ่นบอกว่า เด็กไทยเหมือนลูกแหง่ทำอะไรไม่เป็น แต่นักข่าวคนนี้บอกว่าแต่มีสิ่งหนึ่งที่เห็นในสังคมไทยคือ ลูกหลานจะกลับมาดูแลพ่อแม่ ซึ่งในญี่ปุ่นไม่มีเลย และฝรั่งหลายๆคนถึงจะมีวัฒนธรรมว่าชายหญิงเท่าเทียมกันและพอโตก็แยกครอบครัวออกมาใช้ชีวิตเอง แต่หลายๆคนชอบเมืองไทยเพราะคนไทยดูแลกันดี ดูแลครอบครัวตอนแก่


ค่ะ ช่วยตอบคำถามทีนะคะ จะเก็บไว้เป็นข้อมูล


ขอเพิ่มเติมนะคะ เห็นหลายๆท่านมักจะถามว่ารู้ได้ไงว่าไม่กลับไปดูแลพ่อแม่ เคยไปอยู่เหรอคะ ดิชั้นคงเขียนไม่ชัดเจนมั้งคะ อธิบายบ่อยๆในสิ่งเดิมมันเหนื่อยเนาะ วิเคราะห็เอาเองและกันนะคะ ข้อความข้างต้นมันเป็นคำพูดของคนญี่ปุ่นคนหนึ่งนะคะ

หากท่านไหนที่หาจุดผิดพลาดหรือจี้จุดนอกประเด็นโดยตั้งใจไม่หาเจตนาจริงของกระทู้โดยมาหาข้อติเรื่องอื่นๆทั้งๆที่ทราบว่าที่จริงหมายถึงอะไร ข้าพเจ้าก็จะไม่ขอสนใจกับคอมเม้นท์นั้นแล้วกันนะ เพราะจะถือว่าอธิบายแล้ว เหนื่อยพิมพ์

ส่วนตัวไม่เคยบอกว่าลูกหลานไม่กลับไปดูแลพ่อแม่หรือคนแก่ในสังคมญี่ปุ่นหรือฝรั่งนะคะ เพราะบางคนก็ไปดูแลค่ะ แต่น้อยมาก และที่ยกตัวอย่างคือต้องการจะบอกว่า มันน้อยจนแตกต่างจากสังคมไทยมากๆค่ะ โตขึ้นก็แยกครอบครัวและมีอิสระในการใช้ชีวิต( และอย่าเพิ่งเอาประเด็นอื่นๆมาตั้งแง่นะคะ เช่น ญี่ปุ่นมันจะรวมกับฝรั่งได้ไงสังคมคนละแบบ บลาๆๆๆเพราะมันจะนอกประเด็นไปอีกค่ะ)

จะกล่าวถึงสังคมและวัฒนธรรมที่ไม่ได้มาดูแลเอาใจใส่พ่อแม่หรือสมาชิกครอบครัวผู้แก่ชราภาพเช่นประเทศเรา ข้าพเจ้าเลยโคตรจะจำเป็นต้องยกตัวอย่างเลยเอาประเทศที่หลักๆคนก็รู่จักน่ะคะ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ ขี้เกียจจะอธิบาย เอาตามที่สบายใจค่ะ จะไม่สนใจคอมเม้นท์ที่ว่า เห็นมาหรอ เรายังเห็นเขามาเที่ยวกันเป็นครอบครัวใหญ่เลย ซึ่ง มันก็คนปกติจะมาด้วยกันก็ไม่ผิดเนาะ และอาจจะเป็นส่วนน้อยจริงๆที่กลับมาดูแลเอาใจใส่พ่อแม่อย่างใกล้ชิด แต่ก็เอาตามที่สบายใจอะค่ะ

ในสังคมญี่ปุ่นหรือพวกฝรั่งจะมีวัฒนธรรมคือแยกครอบครัวออกไป ย้ำ! แยกครอบครัว เข้าใจคำว่าแยกชิมิ? แล้วลองจินตนาการค่ะ แยกออกไปเขาสามารถมาเยี่ยมกันได้มั้ย ได้ใช่มั้ยคะ ไม่ได้ผิดใจกันไม่ถูกกันกีดกัน โอเคนะ นึกภาพเอานะคะ อธิบายบ่อยมันเหนื่อยพิมพ์มากๆ

เขาไม่ได้มาดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิดเหมือนเรา ใกล้ชิดคืออะไรคะ? นึกภาพตาม นอกจากนั้นก็แล้วแต่ประสปการณ์แต่ละคนที่จะเข้าใจและกันนะคะ

คงไม่มีใครบอกว่าฝรั่งสอนให้ลูกแม้จะโตแล้วก็อยู่กับพ่อกับแม่ดูแลอย่างใกล้ชิด มันคงดูแปลกๆนะคะ เพราะเขาสอนให้ใช้ชีวิตเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่เกี่ยวกันหรือเปล่าคะ อย่างหลายชาติที่คนแก่มักย้ายตัวเองไปใช้บริการบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ช่วงเทศกาลลูกหลานก็มาหาหรือมารับไปเที่ยว แต่คือ การใช้ชีวิตก็ไม่ได้ไปรั้งให้ลูกหลานต้องทิ้งชีวิตส่วนตัวมาดูแล

ของไทยนี่ วัยหนุ่มสาว แทนที่จะได้ออกไปทำงานหาเงิน บางคนกลับต้องดูแลผู้สูงอายุแบบถวายหัว รู้ตัวอีกทีก็แก่เกินทำงาน มีแค่ทรัพย์สินเล็กน้อยติดตัว พอจะประทังไป

ดูเผินๆก็เหมือนว่า ชีวิตใครชีวิตมัน แต่คิดว่าชาติเสียคนมีกำลังวัยแรงงานไปเท่าไหร่ล่ะ แทนที่วัยหนุ่มสาวยันกลางคนจะทำงาน หารายได้ เสียภาษีให้รัฐ ไปสร้างสวัสดิการดูแลคนแก่ระยะยาว รัฐก็เก็บเงินไม่ได้ แต่แบกรับภาระอยู่น่ะ ลงทุนผลิตคนๆหนึ่งมากว่าจะโต แต่พอถึงวัยจะให้ผลผลิตเป็นแรงงานได้ ดันหายไปจากระบบ เพราะต้องไปเฝ้าเตียง กับได้คำว่า ลูกกตัญญู เฝ้าไปนานๆ อดแต่ง อดทำงาน ขึ้นคาน โดดเดี่ยว ตังค์ไม่มี...รางวัลชีวิตจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่