สวัสดีครับ
วันนี้ผมเองจะมาขอแชร์วิธีการหา SWOT ที่ได้มาจากการเรียน MBA นะครับ
สำหรับกระทู้นี้ ผมว่าน่าจะเหมาะ เหมาะกับนักศึกษาด้านบริหารธุรกิจ ที่ต้องหา SWOT ทุกครั้งเวลาเข้าคลาสพวก Strategic Management หรือ MArketing Management ที่อาจจะรู้สึกปวดหัวทุกครั้งที่ต้องมานั่งหาตลอด (ผมเองก็เป็น 555 ปกติ อ่านจากเคสแล้วยัดลงไปได้ แต่บางที อาจารย์ให้เราเพิ่มไอเดียตัวเองลงไปอีกกก เอาตรูให้ตายยยย !!!)
ก่อนอื่นเลยผมขออธิบายก่อนละกันนะครับ ว่าอะไร คือ SWOT
SWOT หรือคำเต็มคือ SWOT Analysis
SWOT : เป็นตัวย่อขอ ภาษาอังกฤษ 4 คำ ประกอบไปด้วย
S มาจาก Strength คือ จุดแข็งของบริษัท
W มาจาก Weakness คือ จุดอ่อนของบริษัท
O มาจาก Opportunities คือ โอกาสที่ดีของบริษัท
T มาจาก Threat คือ ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลเสียต่อบริษัท
โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มหลักได้ อีก 2 กลุ่มคือ
Internal Factor - ปัจจัยภายใน ประกอบด้วย S และ W
External Factor - ปัจจัยภายนอก ประกอบด้วย O และ T
พอเห็นภาพคร่าวๆไหมครับว่า เป็นยังไง
วิธีการหา เราจะแบ่งหาเป็น
1. ปัจจัยภายใน (ประกอบด้วย S กับ W )
2. ปัจจัยภายนอก (ประกอบด้วย O กับ T )
Step 1 : วิธีการหาปัจจัยภายใน
มีวิธี หาโดยใช้
แบ่งออกเป็น 3 ปัจจัยหลักๆ คือ (ใครนึกออก รบกวนเพิ่มให้ทีครับ)
RSC : Resource , Structure , Culture
ซึ่งเป็นปัจจัยภายในของบริษัทครับ
Resource - ทรัพยากรของบริษัท อาจจะเป็น ทรัพยากรบุคคล, ต้นทุนส่วนเจ้าของ (Equity) , วัตถุดิบในการผลิต , การเงินของบริษัท (หนี้ , ผลกำไร อันนี้ดูได้ใน Financial Report ของบริษัท) เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน
Structure - โครงสร้างขององค์กร ตัวอย่างเช่น การจัดแบ่งพนักงานตามแผนกต่างๆ (นึกออกแค่นี้จริงๆ ขอโทษด้วย =__=)
Culture - วัฒนธรรมขององค์กร ถ้าให้พูดง่ายๆคือ พฤติกรรมขององค์กร ในแต่ละคนมีพฤติกรรมที่ต่างกัน องค์กรก็เช่นเดียวกัน แต่ละองค์กร แต่ละบริษัทมีพฤติกรรมที่ต่างกัน (ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนลาออก เพราะพฤติกรรมตัวเอง ไม่สามารถเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้) วัฒนธรรมองค์กรเป็นระบบหนึ่งที่แบ่งปันแนวคิด ความเชื่อ และวิธีปฎิบัติ และยังเป็นวิธีที่ใช้ควบคุมคนในองค์กร (แบบไม่เป็นทางการและทางการ) ถ้าไม่ทำตามคนส่วนมากอาจะโดนเขม่นได้ เช่น อยู่บริษัทญี่ปุ่น แต่ไม่เคยทำโอทีเลย (แบบตรู 55555) ตัวอย่างของวัฒนธรรมองค์กร เช่น แนวคิดในการประกอบธุรกิจ วิธีติดต่อ supplier และลูกค้า ลักษณะของการแบ่งปันข้อมูลระหว่างลำดับขั้นของการบริหาร (เจ้าของ > ผจก > ลูกน้อง เป็นทางเดียว หรือ ลูกน้องสามารถรายงานย้อนกลับไปได้) , อิสระในการแบ่งปันไอเดียและการตัดสินใจ (อย่างพวกเซลล์เวลาลูกค้ามีปัญหาสามารถแก้ไขให้ได้เลย หรือว่าต้องรายงาน ผจก ก่อน เพื่อขอคำแนะนำ)
ทีนี้เราไล่ลิสต์ออกมาให้หมดครับ ทั้งสิ่งที่เป็นข้อดีและข้อเสียของแต่ละอย่าง
ข้อดี : จะเป็น Strength
ข้อเสีย : จะเป็น Weakness
Step 2 : วิธีการหาปัจจัยภายนอก
สำหรับการหาปัจจัยภายนอก เราจะใช้วิธีหาโดย ใช้ 4 ปัจจัยหลักคือ
เอา PEST Analysis มาใช้ครับ
PEST : Politic , Economic , Social , Technology
Politics - นโยบายของรัฐบาล มีผลต่อการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทอย่างไร เช่น เราทำสินค้าพวก FMCG (สบู่ แชมพู ไรงี้) นโยบายมีแผนจะให้คูปอง 500 บาทกับผู้มีรายได้น้อย ดังนั้น ในอนาคตมีโอกาสที่ยอดขายจะสูงขึ้น อันนี้ถือเป็น Opportunities ของเราครับ หรือ รัฐบาลจะขึ้นภาษีนำเข้า ดังนั้น พวกวัตถุดิบที่เรานำเข้ามาจากต่างประเทศมีโอกาสที่ราคาจะสูงขึ้น อันนี้ถือเป็น Threat ของเราครับ
Economic - สถานะทางเศรษฐกิจมีผลต่อการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทอย่างไร เช่นพวก เงินเฟ้อ เงินฝืด demand supply ของสินค้าเราในตลาด
Social - ลักษณะทางสังคม เช่น แนวโน้มของผู้บริโภค อย่าง ช่วงนี้ผู้คนนิยมในการรักษาสุขภาพ ถ้าเราขายพวกสินค้าน้ำตาลต่ำ ก็จะถือเป็น Opportunities ของเรา หรืออาจจะดูจากช่องทางการขายก็ได้ ถ้าเราขายสินค้าออนไลน์ในช่วงนี้ก็มีแนวโน้มจะได้ฐานลูกค้าสมัยใหม่ (พวก GEN Y, GEN X ) ได้มากขึ้น เพราะช่วงนี้ e-commerce กำลังรุ่ง
Technology - เทคโนโลยีในปัจจุบันส่งผลต่อการผลิตของบริษัท หรือ การประกอบการทางธุรกิจอย่างไร อย่าง นวัตกรรมทางการผลิตใหม่ๆ ส่งผลให้มีการผลิตที่ดีขึ้นอย่างไร
ทีนี้เราก็ลิสต์มาให้หมดครับ
ข้อดี : จะเป็น Opportunities
ข้อเสีย : จะเป็น Threat
ทีนี้เราก็จะได้ SWOT ครบทุกตัวแล้วนะครับ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการหา SWOT นะครับ (หรือจะเป็นการทรมาณตัวเองกันหว่า 5555)
และถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหน ท้วงติงมาได้ครับ เพราะผมอาจจะให้ข้อมูลผิดได้ ผมเองจะได้รีบแก้เนื้อหาให้ครับ
ปล. เจ้าของเดียวกับ วิธีจดจำ 12 Tense อย่างรวดเดียว
http://ppantip.com/topic/31907480
ปล 2 . ตอนนี้คิดว่ากระทู้หน้าจะทำกระทู้สั้นๆพูดถึง ปัจจัยที่มีผลต่อ GDP จากสูตร GDP = C + I + G + (X - M) แต่เดี๋ยวข้อทวนข้อมูลก่อนครับ
[แชร์ความรู้] วิธีหา SWOT
วันนี้ผมเองจะมาขอแชร์วิธีการหา SWOT ที่ได้มาจากการเรียน MBA นะครับ
สำหรับกระทู้นี้ ผมว่าน่าจะเหมาะ เหมาะกับนักศึกษาด้านบริหารธุรกิจ ที่ต้องหา SWOT ทุกครั้งเวลาเข้าคลาสพวก Strategic Management หรือ MArketing Management ที่อาจจะรู้สึกปวดหัวทุกครั้งที่ต้องมานั่งหาตลอด (ผมเองก็เป็น 555 ปกติ อ่านจากเคสแล้วยัดลงไปได้ แต่บางที อาจารย์ให้เราเพิ่มไอเดียตัวเองลงไปอีกกก เอาตรูให้ตายยยย !!!)
ก่อนอื่นเลยผมขออธิบายก่อนละกันนะครับ ว่าอะไร คือ SWOT
SWOT หรือคำเต็มคือ SWOT Analysis
SWOT : เป็นตัวย่อขอ ภาษาอังกฤษ 4 คำ ประกอบไปด้วย
S มาจาก Strength คือ จุดแข็งของบริษัท
W มาจาก Weakness คือ จุดอ่อนของบริษัท
O มาจาก Opportunities คือ โอกาสที่ดีของบริษัท
T มาจาก Threat คือ ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลเสียต่อบริษัท
โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มหลักได้ อีก 2 กลุ่มคือ
Internal Factor - ปัจจัยภายใน ประกอบด้วย S และ W
External Factor - ปัจจัยภายนอก ประกอบด้วย O และ T
พอเห็นภาพคร่าวๆไหมครับว่า เป็นยังไง
วิธีการหา เราจะแบ่งหาเป็น
1. ปัจจัยภายใน (ประกอบด้วย S กับ W )
2. ปัจจัยภายนอก (ประกอบด้วย O กับ T )
Step 1 : วิธีการหาปัจจัยภายใน
มีวิธี หาโดยใช้
แบ่งออกเป็น 3 ปัจจัยหลักๆ คือ (ใครนึกออก รบกวนเพิ่มให้ทีครับ)
RSC : Resource , Structure , Culture
ซึ่งเป็นปัจจัยภายในของบริษัทครับ
Resource - ทรัพยากรของบริษัท อาจจะเป็น ทรัพยากรบุคคล, ต้นทุนส่วนเจ้าของ (Equity) , วัตถุดิบในการผลิต , การเงินของบริษัท (หนี้ , ผลกำไร อันนี้ดูได้ใน Financial Report ของบริษัท) เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน
Structure - โครงสร้างขององค์กร ตัวอย่างเช่น การจัดแบ่งพนักงานตามแผนกต่างๆ (นึกออกแค่นี้จริงๆ ขอโทษด้วย =__=)
Culture - วัฒนธรรมขององค์กร ถ้าให้พูดง่ายๆคือ พฤติกรรมขององค์กร ในแต่ละคนมีพฤติกรรมที่ต่างกัน องค์กรก็เช่นเดียวกัน แต่ละองค์กร แต่ละบริษัทมีพฤติกรรมที่ต่างกัน (ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนลาออก เพราะพฤติกรรมตัวเอง ไม่สามารถเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้) วัฒนธรรมองค์กรเป็นระบบหนึ่งที่แบ่งปันแนวคิด ความเชื่อ และวิธีปฎิบัติ และยังเป็นวิธีที่ใช้ควบคุมคนในองค์กร (แบบไม่เป็นทางการและทางการ) ถ้าไม่ทำตามคนส่วนมากอาจะโดนเขม่นได้ เช่น อยู่บริษัทญี่ปุ่น แต่ไม่เคยทำโอทีเลย (แบบตรู 55555) ตัวอย่างของวัฒนธรรมองค์กร เช่น แนวคิดในการประกอบธุรกิจ วิธีติดต่อ supplier และลูกค้า ลักษณะของการแบ่งปันข้อมูลระหว่างลำดับขั้นของการบริหาร (เจ้าของ > ผจก > ลูกน้อง เป็นทางเดียว หรือ ลูกน้องสามารถรายงานย้อนกลับไปได้) , อิสระในการแบ่งปันไอเดียและการตัดสินใจ (อย่างพวกเซลล์เวลาลูกค้ามีปัญหาสามารถแก้ไขให้ได้เลย หรือว่าต้องรายงาน ผจก ก่อน เพื่อขอคำแนะนำ)
ทีนี้เราไล่ลิสต์ออกมาให้หมดครับ ทั้งสิ่งที่เป็นข้อดีและข้อเสียของแต่ละอย่าง
ข้อดี : จะเป็น Strength
ข้อเสีย : จะเป็น Weakness
Step 2 : วิธีการหาปัจจัยภายนอก
สำหรับการหาปัจจัยภายนอก เราจะใช้วิธีหาโดย ใช้ 4 ปัจจัยหลักคือ
เอา PEST Analysis มาใช้ครับ
PEST : Politic , Economic , Social , Technology
Politics - นโยบายของรัฐบาล มีผลต่อการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทอย่างไร เช่น เราทำสินค้าพวก FMCG (สบู่ แชมพู ไรงี้) นโยบายมีแผนจะให้คูปอง 500 บาทกับผู้มีรายได้น้อย ดังนั้น ในอนาคตมีโอกาสที่ยอดขายจะสูงขึ้น อันนี้ถือเป็น Opportunities ของเราครับ หรือ รัฐบาลจะขึ้นภาษีนำเข้า ดังนั้น พวกวัตถุดิบที่เรานำเข้ามาจากต่างประเทศมีโอกาสที่ราคาจะสูงขึ้น อันนี้ถือเป็น Threat ของเราครับ
Economic - สถานะทางเศรษฐกิจมีผลต่อการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทอย่างไร เช่นพวก เงินเฟ้อ เงินฝืด demand supply ของสินค้าเราในตลาด
Social - ลักษณะทางสังคม เช่น แนวโน้มของผู้บริโภค อย่าง ช่วงนี้ผู้คนนิยมในการรักษาสุขภาพ ถ้าเราขายพวกสินค้าน้ำตาลต่ำ ก็จะถือเป็น Opportunities ของเรา หรืออาจจะดูจากช่องทางการขายก็ได้ ถ้าเราขายสินค้าออนไลน์ในช่วงนี้ก็มีแนวโน้มจะได้ฐานลูกค้าสมัยใหม่ (พวก GEN Y, GEN X ) ได้มากขึ้น เพราะช่วงนี้ e-commerce กำลังรุ่ง
Technology - เทคโนโลยีในปัจจุบันส่งผลต่อการผลิตของบริษัท หรือ การประกอบการทางธุรกิจอย่างไร อย่าง นวัตกรรมทางการผลิตใหม่ๆ ส่งผลให้มีการผลิตที่ดีขึ้นอย่างไร
ทีนี้เราก็ลิสต์มาให้หมดครับ
ข้อดี : จะเป็น Opportunities
ข้อเสีย : จะเป็น Threat
ทีนี้เราก็จะได้ SWOT ครบทุกตัวแล้วนะครับ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการหา SWOT นะครับ (หรือจะเป็นการทรมาณตัวเองกันหว่า 5555)
และถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหน ท้วงติงมาได้ครับ เพราะผมอาจจะให้ข้อมูลผิดได้ ผมเองจะได้รีบแก้เนื้อหาให้ครับ
ปล. เจ้าของเดียวกับ วิธีจดจำ 12 Tense อย่างรวดเดียว http://ppantip.com/topic/31907480
ปล 2 . ตอนนี้คิดว่ากระทู้หน้าจะทำกระทู้สั้นๆพูดถึง ปัจจัยที่มีผลต่อ GDP จากสูตร GDP = C + I + G + (X - M) แต่เดี๋ยวข้อทวนข้อมูลก่อนครับ