Billboard Thailand
หน้าห้อง Library ในโรงแรมดุสิตธานีหลังงานแถลงข่าว 2PM Concert House Party เหมือนเกิดจลาจลย่อยๆ
เพราะมีเหล่าฮ็อทเทส (ชื่อแฟนคลับของ 2PM) มารวมตัวกันนับร้อยชีวิต และเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นทันทีที่หกหนุ่มปรากฏตัว
มันดังเสียจนฉันที่ยืนพิงผนังห้องเพื่อรอเวลาพูดคุยและถ่ายรูปพวกเขาถึงกับสะดุ้ง
หลายคนบอกว่า 2PM เป็นวงรุ่นใหญ่ไปแล้ว และการมาเมืองไทยของพวกเขาอาจไม่ขลังเหมือนก่อน
แต่สิ่งที่ฉันเห็นหักล้างคำพูดนั้นหมดสิ้น (ลองถามซีอีโอกึ้งแห่ง 411ENT ที่พาหกหนุ่มมาไทยทุกปี… ฉันเชื่อว่าเรามองเห็นในสิ่งเดียวกัน)
เกือบ 7 ปี กับการมาเยือนกว่า 30 ครั้งทำให้ 2PM คุ้นเคยกับประเทศไทยจนพูดเสมอว่านี่คือ ‘บ้านหลังที่ 2’
ในฐานะนักข่าว ฉันกับ 2PM แม้ห่างไกลคำว่าสนิทสนม หากก็ไม่ถึงกับแปลกหน้า แต่การที่แทคยอนพยักหน้าทักพร้อมโค้ง
ชานซองยกมือไหว้ นิชคุณเอ่ยว่า “สวัสดีครับ” ก็เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายไม่น้อย
ไม่ใช่ทุกวงที่จะใส่ใจมองผู้คน น้อยวงเข้าไปอีกที่จะทักทาย นี่เองคือความน่ารักของหนุ่มๆ ที่เราเรียกอย่างเอ็นดูว่า ‘บ่ายสอง’
แต่ละคนโบกไม้โบกมือให้แฟนๆ แทคยอนถึงกับถ่ายเซลฟี่ ถ้าคุณคิดว่านี่เป็นเรื่องปกติ ฉันบอกได้เลยว่าไม่
โดยเฉพาะกับไอดอลเกาหลีส่วนใหญ่ (ย้ำ! ว่าส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทุกวง) ที่มักเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ นอกเวลางาน
ซึ่งมันอาจเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย แต่ก็แปลก… ที่ฉันไม่เคยเห็น 2PM ทำ
ถ้าวงอื่นจะกลัวความวุ่นวาย 2PM คงไม่กลัว – ฉันสรุปอย่างนั้น
ความประทับใจแรกที่ฉันมีต่อ 2PM คือความเป็นมิตร เป็นกันเอง ร่าเริง จริงใจ และตลอด 7 ปีที่เห็นกันมา
สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าพวกเขาจะเติบโตจากวงหน้าใหม่ สู่วงไอดอลของประเทศ
และสู่การเป็นวงไอดอลของเอเชียในปัจจุบัน หลักฐานมีทั้งสถิติ รางวัล ยอดขาย งานเดี่ยว ทัวร์คอนเสิร์ตในและต่างประเทศ
ถ้าให้ไล่เรียงทั้งหมด คงต้องทำฉบับแยกพิเศษ
แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือการเติบโตในฐานะศิลปิน จากช่วงแรกที่ร้องเต้นไปตามเพลงที่มีโปรดิวเซอร์ทำให้ อัลบั้มล่าสุด (ในเกาหลี) NO.5
ทั้งหกร่วมโปรดิวซ์ แต่งเนื้อร้อง ทำนอง 9 จาก 12 เพลง และเพลงของแต่ละคนก็มีซิกเนเจอร์ชัดเจน
ซึ่งเราไม่แปลกใจเมื่อได้รู้ว่าพวกเขามีเพลงที่มีอิทธิพลถึงขั้น ‘เปลี่ยนชีวิต’ เป็นเพลงอะไรกันบ้าง
“เพลงที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมคือ That’s What Friends Are For เวอร์ชั่นดิออน วอร์วิค, สตีวี่ วันเดอร์, วิทนี่ย์ ฮุสทัน และลูเธอร์ แวนดรอสส์”
พี่ใหญ่จุนเคย้ำ หลังโดนน้องๆ แซวว่าไม่ใช่ I Believe I Can Fly ของ R. Kelly หรือ “ดูตอนม. ต้น แล้วบอกตัวเองเลยว่าอยากเป็นนักร้อง”
นิชคุณส่งยิ้มน่ารักที่ใครๆ บอกว่าคือรอยยิ้มของเทวดามาให้พร้อมเลือกเพลง Kiss The Rain ของ Yiruma
“ผมโดนบังคับให้เรียนเปียโนตั้งแต่เด็ก เรียนแบบไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่พอได้ยินเพลงนี้ตอนอายุ 14-15
ทำให้อยากเล่นเปียโนจริงจัง ถึงขั้นไปหาโน้ตมาซ้อมเอง เป็นจุดเริ่มให้เข้าหาดนตรีมากขึ้นตั้งแต่นั้น”
อูยอง แฟนตัวยงของไมเคิล แจ็คสัน โดนแทคยอนแซวว่าไมเคิลแน่ๆ แต่ก็ผิดอีกแล้ว
“ของผมคือเพลง Wooly Bully (Sam The Sham And The Pharaohs) เป็นเพลงฟั้งค์ยุค 60’s
มันนานมากจนผมก็จำไม่ได้ว่าเพลงของใคร แต่ร้องแบบนี้ครับ…”
พูดพร้อมตั้งอกตั้งใจร้องให้ฟังโดยมีนิชคุณช่วยร้องด้วยอีกแรง
น้องเล็กชานซองเลือกเพลง Still ของ ไลโอเนล ริชี่ “ผมไม่เคยฟังเพลงอาร์แอนด์บีมาก่อน
เพลงนี้คือเพลงแรก ได้ฟังตอนเป็นเด็กฝึก และก็ชอบอาร์แอนด์บีเลย”
แทคยอนมาพร้อมเพลงและภาพ “It’s Raining ของ เรน ครับ เรนจัดเอเชียทัวร์ครั้งแรกตอนผมเพิ่งเข้ามาอยู่กับ JYP
ผมเองก็ได้ดูคอนเสิร์ตของเขาครั้งนั้นเป็นครั้งแรก ทึ่งมาก อยากเป็นทั้งแด๊นเซอร์ นักร้อง เอนเตอร์เทนเนอร์
เหมือนที่เขาเป็น ที่เป็นอยู่ปัจจุบันก็ได้แรงบันดาลใจจากเพลงนี้และคอนเสิร์ตนี้”
จุนโฮบอกว่าชอบเต้นมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งเต้นสนุกเป็นพิเศษเมื่อได้ยินเพลง Harder Better Faster Stronger ของ Daft Punk
“ผมพูดอังกฤษไม่เก่งครับ จำชื่อเพลงไม่ค่อยได้ มันยาว แต่ชื่อประมาณนี้แหละ!”
พูดไปหัวเราะตาปิดไปกับความอ่อนแออังกฤษของตัวเองที่โดนล้อเป็นประจำ
เป็นไอดอลและทำเพลงเองก็ย่อมจะต้องฟังเพลงเยอะ SNS ของทั้งหกคน วันดีคืนดีมีช่วงแนะนำเพลงให้ฟัง
นิชคุณถึงกับมีหัวข้อ ‘ T.S’ (ย่อมาจาก Today Song) เพลงของแต่ละหนุ่มก็หลากหลาย มีทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่
ตั้งแต่ป๊อป ร็อค คลาสสิค ไปจนถึงแจ๊ซเข้มข้น และเฮฟวี่เมทัล จนน่าสงสัยว่าปกติพวกเขาเลือกฟังเพลงจากอะไร
และชอบฟังเพลงแนวไหนเป็นพิเศษ
“ผมฟังเพลงเก่าเยอะ” นิชคุณเล่า “ชอบฟังเพลงช้า เมโลดี้นุ่มๆ ฟังสบายๆ”
“ของผมเป็นแนวเดินๆ ไป ได้ยินเพลงสะดุดหู หรือบางทีนึกถึงเพลงไหนขึ้นมาก็จะฟัง ชอบจัดเพลย์ลิสต์ของตัวเอง
ซึ่งแรนดอมมาก อยู่ๆ มีเพลง Lion King โผล่มาอย่างนี้!” ไม่พูดเปล่า ร้องเพลง Lion King ประกอบ สมกับที่เป็นหนุ่มอารมณ์ดีขี้เล่น
โดยมีเพื่อนๆ สนับสนุน (หรือเผา?) ว่าอย่าเอาแน่นอนอะไรกับแทค เพราะฟังเพลงเรื่อยเปื่อยจริงๆ
“เพลงล่าสุดที่ผมชอบคือ Zero ของคริส บราวน์”
จุนเคผู้ที่น้องๆ ในวงยกย่องเรื่องเซนส์และความสามารถทางดนตรี เลือกฟังเพลงที่ได้รับการแนะนำจากเพื่อนๆ เป็นหลัก
จุนโฮยังคงคอนเส็ปต์ชอบเพลงแนวซินธ์ป๊อปที่ให้อารมณ์รีแลกซ์ ฟังได้ชิลล์ๆ
ชานซองเลือกฟังเพลงตามชาร์ตบ้าง The Weeknd คือศิลปินรายล่าสุดที่เขาชอบ
“แล้วแต่อารมณ์” คำตอบของอูยองสมกับที่นิชคุณแซวว่า ‘เป็นหนุ่มติสต์’
“ช่วงไหนชอบฟังเพลงสไตล์ไหน ผมจะใช้วิธีค้นในอินเตอร์เน็ท เข้าเว็บไซท์เพลง หรือดูคลิปในยูทูปไปเรื่อยๆ หาเพลงแนวเดียวกันมาฟัง”
2PM เดบิวต์เมื่อเดือนก.ย. ปี 2008 เกือบ 8 ปีที่มีทั้งช่วงสุขช่วงทุกข์ คนที่ติดตามพวกเขาย่อมรู้ดีว่าช่วงทุกข์ของ 2PM หนักหนาไม่น้อย
แต่หกหนุ่มก็ผ่านมันมาได้ด้วยความรัก ความผูกพัน และสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่น ภาพการรวมตัวที่คอนเสิร์ตโซโล่ของเมมเบอร์
คือสิ่งที่เราเห็นบ่อยครั้ง ไหนจะทวิตให้กำลังใจกัน คนขี้เล่นลันลาอย่างแทคยอนเคยถ่ายรูปคู่แสตนดี้นิชคุณ
แล้วทวิตโชว์ความแฟนบอยให้ฮ็อทเทสขำกันทั้งไทม์ไลน์
“ไม่ว่าเหนื่อยหรือลำบากแค่ไหน ทุกคนก็อยู่ด้วยกันเป็นทีมเสมอ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด” จุนโฮยืนยัน
“ทีมเวิร์คครับ จริงใจต่อกัน ไม่โกหก พูดอย่างที่คิด” นิชคุณเสริม
“จริงใจต่อกัน” แทคยอนเลียนแบบภาษาไทยของนิชคุณพร้อมพยักหน้าหงึกๆ
ฉันไม่แน่ใจว่าเขารู้ความหมายหรือเปล่า แต่อย่าปรามาสความสามารถของแทค นอกจาก EQ สูงลิบ
เขายังเป็นไอดอลที่ IQ สูงเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ กำลังศึกษาปริญญาโทสาขา Humanities and Social Sciences
หลักสูตรอินเตอร์ที่มหาวิทยาลัยโคเรีย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 มหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศ สอบ TOEIC ได้คะแนนเต็ม
แล้วยังพูดได้ 5 ภาษา เกาหลี อังกฤษ สเปน ญี่ปุ่น และจีน บางทีอาจจะพูดภาษาไทยได้แล้วก็เป็นได้
นั่นคือสิ่งที่ผู้คนมองพวกเขา แต่สิ่งที่แต่ละคนอยากให้คนอื่นมองตัวเองจริงๆ ล่ะ มันคืออะไร
“ให้อูยองตอบละกันครับ เขารู้!” แทคยอนโยนให้อูยองหน้าตาเฉย
“นิชคุณเป็นคนดี ผมอยู่กับเขาก็ติดความดีมาบ้าง” อูยองตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
“แทคยอนเป็นคนตรงมากๆ ตรงเป๊ะ ฉลาดด้วย ชานซองเป็นคนที่เหมือนผมและเล่นเกมเก่ง…”
โดนขัดจังหวะด้วยเสียงโวยวายของชานซองว่าเล่นเกมเก่งเนี่ยนะ อย่างอื่นมีไหม!
“จุนเคเป็นคนตลก จุนโฮแมนมากๆ บางคนอาจจะคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง…”
ถึงตรงนี้จุนโฮลุกขึ้นมาโวยวายในขณะที่ทุกคนขำกลิ้งรวมทั้งคนพูด “แต่จริงๆ แล้วเขาเท่มากนะครับ
และอูยองเป็นคนที่คอยให้กำลังใจ 2PM เป็นแฟนคลับตัวยงของ 2PM”
การหยอกล้อ เล่นหัว ขณะให้สัมภาษณ์บ่งบอกถึงความรักความผูกพันในวง แต่ความผูกพันที่ 2PM มีต่อฮ็อทเทสก็ไม่ธรรมดา
ทุกครั้งที่ขึ้นเวที ไม่ว่างานเล็กหรือใหญ่ แดดจะออกฝนจะตก (ยังจำคอนเสิร์ตกองโจรที่ลานคนเมืองเมื่อปี 2011 ได้ไหม
เมื่อมีคน 4,721 คนฝ่าพายุมาดู พวกเขาก็ขึ้นโชว์โดยไม่หวั่นสายฝนเช่นกัน) หรือเพิ่งบินมาถึงเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
(จุนโฮเคยบินมาถ่ายโฆษณาในบ้านเราทั้งวัน กลับเกาหลีช่วงกลางคืนเพื่อถ่ายละคร แล้วมาไทยใหม่ตอนเช้า
เพื่อขึ้นเวทีกลางแจ้งเจอแฟนๆ ช่วงบ่าย อุณหภูมิเฉียด 40 องศา) 2PM ก็ยิ้ม หัวเราะ มีความสุขเสมอ
ฉัน ฮ็อทเทส ทีมงาน ล้วนสัมผัสได้ถึงความสุขของคนหกคนที่เกิดจากการได้พบเจอแฟนๆ
มันสะท้อนออกมาเป็นรอยยิ้มและความสดใส ที่ทำให้คนรอบข้างมีความสุขตามไปด้วย
“ฮ็อทเทสมีค่ามีความหมายกับ 2PM มาก เป็นอากาศของ 2PM” จุนเคเปิดใจ “ที่เราทำเพลง เล่นคอนเสิร์ต
ทำอะไรต่างๆ นานาถึงปัจจุบันก็ด้วยเหตุผลเดียว คือเพื่อแฟนคลับ แฟนคลับเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเรามีชีวิตอยู่
คนเรามีชีวิตอยู่ได้ก็ต้องหายใจ และเราต้องมีอากาศในการหายใจ 2PM ต้องมีฮ็อทเทสจึงจะมีชีวิตอยู่ได้”
คงเพราะความรักที่ได้รับกลับมา ฮ็อทเทสจึงเป็นแฟนคลับที่มีเอกภาพและมีพลังที่สุดกลุ่มหนึ่ง
ว่ากันเฉพาะในเมืองไทย นี่คือแฟนกลุ่มแรกที่แปรอักษรไฟ ‘(หัวใจ) 2PM’ บนอัฒจันทร์สนามราชมังฯ
เป็นแฟนคลับกลุ่มเดียวที่นัดรวมตัว (โดยหลายคนไม่รู้จักกันเลย) เพื่อทำอุปกรณ์โปรเจ็คต์
และเป็นแฟนคลับที่ใช้ชื่อเดียวในการทำทุกโปรเจ็คต์โดยไม่มีการแบ่งแยกกลุ่ม
ว่ากันเฉพาะในเมืองไทยอีกสักกรณี ตอนที่วง ... เป็นข่าวเรื่องความไม่เหมาะสมขณะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ 2PM
(ที่อยู่ในเมืองไทยพอดี) ก็ทวิตตำหนิพฤติกรรมของวงรุ่นน้องพร้อมขอโทษคนไทย อ้อ อย่าลืมความช่วยเหลือในรูปแบบ
‘เรือ 2PM (หัวใจ) คนไทย’ ที่แล่นช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ครั้งนั้นด้วย
ทุกความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพต้องมีการ Give and Take ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ
ถ้าคุณอยากรู้ว่าพลังที่เกิดจากการที่ต่างฝ่ายต่างแสดงน้ำใจและมิตรจิตมิตรใจต่อกันสามารถก่อให้เกิดอะไรได้บ้าง
ถ้าคุณอยากจะคิดว่าศิลปินเป็นแบบไหน แฟนคลับก็เป็นแบบนั้น 2PM กับฮ็อทเทสคือข้อพิสูจน์
“ที่เราอยากได้จากฮ็อทเทสคือการนึกถึงกัน มีกันและกันในใจเสมอ” อูยองยืนยันในสิ่งที่ฉันคิด
“แต่ละปีๆ ที่เราทำเพลง เนื้อหา ความคิดในเพลงหรือในคอนเสิร์ตก็ยิ่งลึกซึ้ง ลงลึกในแง่ความรู้สึกไปเรื่อยๆ
ผมอาจจะพูดงงๆ นะ ไม่รู้ตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย!” กำลังจะซึ้งก็กลับเข้าโหมดฮาตามสไตล์บ่ายสอง
ทำเอาเพื่อนร่วมวงที่ตั้งอกตั้งใจฟังทั้งโวยวายทั้งขำ “เอาเป็นว่าเรามีความรู้สึกที่ลึกซึ้งผูกผันต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเราสื่อใจถึงกันได้มากขึ้น ก็อยากให้ฮ็อทเทสเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับ 2PM แบบนี้ตลอดไป
สนับสนุนกัน มาหากัน อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ นะครับ”
ที่มา
https://www.billboard-thailand.com/%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad-2pm-%e0%b8%9e%e0%b8%b9%e0%b8%94-%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a1/
เมื่อ 2PM พูด เชื่อเถอะว่ามันควรค่าแก่การฟัง!WITH Billboard Thailand
หน้าห้อง Library ในโรงแรมดุสิตธานีหลังงานแถลงข่าว 2PM Concert House Party เหมือนเกิดจลาจลย่อยๆ
เพราะมีเหล่าฮ็อทเทส (ชื่อแฟนคลับของ 2PM) มารวมตัวกันนับร้อยชีวิต และเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นทันทีที่หกหนุ่มปรากฏตัว
มันดังเสียจนฉันที่ยืนพิงผนังห้องเพื่อรอเวลาพูดคุยและถ่ายรูปพวกเขาถึงกับสะดุ้ง
หลายคนบอกว่า 2PM เป็นวงรุ่นใหญ่ไปแล้ว และการมาเมืองไทยของพวกเขาอาจไม่ขลังเหมือนก่อน
แต่สิ่งที่ฉันเห็นหักล้างคำพูดนั้นหมดสิ้น (ลองถามซีอีโอกึ้งแห่ง 411ENT ที่พาหกหนุ่มมาไทยทุกปี… ฉันเชื่อว่าเรามองเห็นในสิ่งเดียวกัน)
เกือบ 7 ปี กับการมาเยือนกว่า 30 ครั้งทำให้ 2PM คุ้นเคยกับประเทศไทยจนพูดเสมอว่านี่คือ ‘บ้านหลังที่ 2’
ในฐานะนักข่าว ฉันกับ 2PM แม้ห่างไกลคำว่าสนิทสนม หากก็ไม่ถึงกับแปลกหน้า แต่การที่แทคยอนพยักหน้าทักพร้อมโค้ง
ชานซองยกมือไหว้ นิชคุณเอ่ยว่า “สวัสดีครับ” ก็เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายไม่น้อย
ไม่ใช่ทุกวงที่จะใส่ใจมองผู้คน น้อยวงเข้าไปอีกที่จะทักทาย นี่เองคือความน่ารักของหนุ่มๆ ที่เราเรียกอย่างเอ็นดูว่า ‘บ่ายสอง’
แต่ละคนโบกไม้โบกมือให้แฟนๆ แทคยอนถึงกับถ่ายเซลฟี่ ถ้าคุณคิดว่านี่เป็นเรื่องปกติ ฉันบอกได้เลยว่าไม่
โดยเฉพาะกับไอดอลเกาหลีส่วนใหญ่ (ย้ำ! ว่าส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทุกวง) ที่มักเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ นอกเวลางาน
ซึ่งมันอาจเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย แต่ก็แปลก… ที่ฉันไม่เคยเห็น 2PM ทำ
ถ้าวงอื่นจะกลัวความวุ่นวาย 2PM คงไม่กลัว – ฉันสรุปอย่างนั้น
ความประทับใจแรกที่ฉันมีต่อ 2PM คือความเป็นมิตร เป็นกันเอง ร่าเริง จริงใจ และตลอด 7 ปีที่เห็นกันมา
สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าพวกเขาจะเติบโตจากวงหน้าใหม่ สู่วงไอดอลของประเทศ
และสู่การเป็นวงไอดอลของเอเชียในปัจจุบัน หลักฐานมีทั้งสถิติ รางวัล ยอดขาย งานเดี่ยว ทัวร์คอนเสิร์ตในและต่างประเทศ
ถ้าให้ไล่เรียงทั้งหมด คงต้องทำฉบับแยกพิเศษ
แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือการเติบโตในฐานะศิลปิน จากช่วงแรกที่ร้องเต้นไปตามเพลงที่มีโปรดิวเซอร์ทำให้ อัลบั้มล่าสุด (ในเกาหลี) NO.5
ทั้งหกร่วมโปรดิวซ์ แต่งเนื้อร้อง ทำนอง 9 จาก 12 เพลง และเพลงของแต่ละคนก็มีซิกเนเจอร์ชัดเจน
ซึ่งเราไม่แปลกใจเมื่อได้รู้ว่าพวกเขามีเพลงที่มีอิทธิพลถึงขั้น ‘เปลี่ยนชีวิต’ เป็นเพลงอะไรกันบ้าง
“เพลงที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมคือ That’s What Friends Are For เวอร์ชั่นดิออน วอร์วิค, สตีวี่ วันเดอร์, วิทนี่ย์ ฮุสทัน และลูเธอร์ แวนดรอสส์”
พี่ใหญ่จุนเคย้ำ หลังโดนน้องๆ แซวว่าไม่ใช่ I Believe I Can Fly ของ R. Kelly หรือ “ดูตอนม. ต้น แล้วบอกตัวเองเลยว่าอยากเป็นนักร้อง”
นิชคุณส่งยิ้มน่ารักที่ใครๆ บอกว่าคือรอยยิ้มของเทวดามาให้พร้อมเลือกเพลง Kiss The Rain ของ Yiruma
“ผมโดนบังคับให้เรียนเปียโนตั้งแต่เด็ก เรียนแบบไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่พอได้ยินเพลงนี้ตอนอายุ 14-15
ทำให้อยากเล่นเปียโนจริงจัง ถึงขั้นไปหาโน้ตมาซ้อมเอง เป็นจุดเริ่มให้เข้าหาดนตรีมากขึ้นตั้งแต่นั้น”
อูยอง แฟนตัวยงของไมเคิล แจ็คสัน โดนแทคยอนแซวว่าไมเคิลแน่ๆ แต่ก็ผิดอีกแล้ว
“ของผมคือเพลง Wooly Bully (Sam The Sham And The Pharaohs) เป็นเพลงฟั้งค์ยุค 60’s
มันนานมากจนผมก็จำไม่ได้ว่าเพลงของใคร แต่ร้องแบบนี้ครับ…”
พูดพร้อมตั้งอกตั้งใจร้องให้ฟังโดยมีนิชคุณช่วยร้องด้วยอีกแรง
น้องเล็กชานซองเลือกเพลง Still ของ ไลโอเนล ริชี่ “ผมไม่เคยฟังเพลงอาร์แอนด์บีมาก่อน
เพลงนี้คือเพลงแรก ได้ฟังตอนเป็นเด็กฝึก และก็ชอบอาร์แอนด์บีเลย”
แทคยอนมาพร้อมเพลงและภาพ “It’s Raining ของ เรน ครับ เรนจัดเอเชียทัวร์ครั้งแรกตอนผมเพิ่งเข้ามาอยู่กับ JYP
ผมเองก็ได้ดูคอนเสิร์ตของเขาครั้งนั้นเป็นครั้งแรก ทึ่งมาก อยากเป็นทั้งแด๊นเซอร์ นักร้อง เอนเตอร์เทนเนอร์
เหมือนที่เขาเป็น ที่เป็นอยู่ปัจจุบันก็ได้แรงบันดาลใจจากเพลงนี้และคอนเสิร์ตนี้”
จุนโฮบอกว่าชอบเต้นมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งเต้นสนุกเป็นพิเศษเมื่อได้ยินเพลง Harder Better Faster Stronger ของ Daft Punk
“ผมพูดอังกฤษไม่เก่งครับ จำชื่อเพลงไม่ค่อยได้ มันยาว แต่ชื่อประมาณนี้แหละ!”
พูดไปหัวเราะตาปิดไปกับความอ่อนแออังกฤษของตัวเองที่โดนล้อเป็นประจำ
เป็นไอดอลและทำเพลงเองก็ย่อมจะต้องฟังเพลงเยอะ SNS ของทั้งหกคน วันดีคืนดีมีช่วงแนะนำเพลงให้ฟัง
นิชคุณถึงกับมีหัวข้อ ‘ T.S’ (ย่อมาจาก Today Song) เพลงของแต่ละหนุ่มก็หลากหลาย มีทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่
ตั้งแต่ป๊อป ร็อค คลาสสิค ไปจนถึงแจ๊ซเข้มข้น และเฮฟวี่เมทัล จนน่าสงสัยว่าปกติพวกเขาเลือกฟังเพลงจากอะไร
และชอบฟังเพลงแนวไหนเป็นพิเศษ
“ผมฟังเพลงเก่าเยอะ” นิชคุณเล่า “ชอบฟังเพลงช้า เมโลดี้นุ่มๆ ฟังสบายๆ”
“ของผมเป็นแนวเดินๆ ไป ได้ยินเพลงสะดุดหู หรือบางทีนึกถึงเพลงไหนขึ้นมาก็จะฟัง ชอบจัดเพลย์ลิสต์ของตัวเอง
ซึ่งแรนดอมมาก อยู่ๆ มีเพลง Lion King โผล่มาอย่างนี้!” ไม่พูดเปล่า ร้องเพลง Lion King ประกอบ สมกับที่เป็นหนุ่มอารมณ์ดีขี้เล่น
โดยมีเพื่อนๆ สนับสนุน (หรือเผา?) ว่าอย่าเอาแน่นอนอะไรกับแทค เพราะฟังเพลงเรื่อยเปื่อยจริงๆ
“เพลงล่าสุดที่ผมชอบคือ Zero ของคริส บราวน์”
จุนเคผู้ที่น้องๆ ในวงยกย่องเรื่องเซนส์และความสามารถทางดนตรี เลือกฟังเพลงที่ได้รับการแนะนำจากเพื่อนๆ เป็นหลัก
จุนโฮยังคงคอนเส็ปต์ชอบเพลงแนวซินธ์ป๊อปที่ให้อารมณ์รีแลกซ์ ฟังได้ชิลล์ๆ
ชานซองเลือกฟังเพลงตามชาร์ตบ้าง The Weeknd คือศิลปินรายล่าสุดที่เขาชอบ
“แล้วแต่อารมณ์” คำตอบของอูยองสมกับที่นิชคุณแซวว่า ‘เป็นหนุ่มติสต์’
“ช่วงไหนชอบฟังเพลงสไตล์ไหน ผมจะใช้วิธีค้นในอินเตอร์เน็ท เข้าเว็บไซท์เพลง หรือดูคลิปในยูทูปไปเรื่อยๆ หาเพลงแนวเดียวกันมาฟัง”
2PM เดบิวต์เมื่อเดือนก.ย. ปี 2008 เกือบ 8 ปีที่มีทั้งช่วงสุขช่วงทุกข์ คนที่ติดตามพวกเขาย่อมรู้ดีว่าช่วงทุกข์ของ 2PM หนักหนาไม่น้อย
แต่หกหนุ่มก็ผ่านมันมาได้ด้วยความรัก ความผูกพัน และสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่น ภาพการรวมตัวที่คอนเสิร์ตโซโล่ของเมมเบอร์
คือสิ่งที่เราเห็นบ่อยครั้ง ไหนจะทวิตให้กำลังใจกัน คนขี้เล่นลันลาอย่างแทคยอนเคยถ่ายรูปคู่แสตนดี้นิชคุณ
แล้วทวิตโชว์ความแฟนบอยให้ฮ็อทเทสขำกันทั้งไทม์ไลน์
“ไม่ว่าเหนื่อยหรือลำบากแค่ไหน ทุกคนก็อยู่ด้วยกันเป็นทีมเสมอ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด” จุนโฮยืนยัน
“ทีมเวิร์คครับ จริงใจต่อกัน ไม่โกหก พูดอย่างที่คิด” นิชคุณเสริม
“จริงใจต่อกัน” แทคยอนเลียนแบบภาษาไทยของนิชคุณพร้อมพยักหน้าหงึกๆ
ฉันไม่แน่ใจว่าเขารู้ความหมายหรือเปล่า แต่อย่าปรามาสความสามารถของแทค นอกจาก EQ สูงลิบ
เขายังเป็นไอดอลที่ IQ สูงเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ กำลังศึกษาปริญญาโทสาขา Humanities and Social Sciences
หลักสูตรอินเตอร์ที่มหาวิทยาลัยโคเรีย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 มหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศ สอบ TOEIC ได้คะแนนเต็ม
แล้วยังพูดได้ 5 ภาษา เกาหลี อังกฤษ สเปน ญี่ปุ่น และจีน บางทีอาจจะพูดภาษาไทยได้แล้วก็เป็นได้
นั่นคือสิ่งที่ผู้คนมองพวกเขา แต่สิ่งที่แต่ละคนอยากให้คนอื่นมองตัวเองจริงๆ ล่ะ มันคืออะไร
“ให้อูยองตอบละกันครับ เขารู้!” แทคยอนโยนให้อูยองหน้าตาเฉย
“นิชคุณเป็นคนดี ผมอยู่กับเขาก็ติดความดีมาบ้าง” อูยองตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
“แทคยอนเป็นคนตรงมากๆ ตรงเป๊ะ ฉลาดด้วย ชานซองเป็นคนที่เหมือนผมและเล่นเกมเก่ง…”
โดนขัดจังหวะด้วยเสียงโวยวายของชานซองว่าเล่นเกมเก่งเนี่ยนะ อย่างอื่นมีไหม!
“จุนเคเป็นคนตลก จุนโฮแมนมากๆ บางคนอาจจะคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง…”
ถึงตรงนี้จุนโฮลุกขึ้นมาโวยวายในขณะที่ทุกคนขำกลิ้งรวมทั้งคนพูด “แต่จริงๆ แล้วเขาเท่มากนะครับ
และอูยองเป็นคนที่คอยให้กำลังใจ 2PM เป็นแฟนคลับตัวยงของ 2PM”
การหยอกล้อ เล่นหัว ขณะให้สัมภาษณ์บ่งบอกถึงความรักความผูกพันในวง แต่ความผูกพันที่ 2PM มีต่อฮ็อทเทสก็ไม่ธรรมดา
ทุกครั้งที่ขึ้นเวที ไม่ว่างานเล็กหรือใหญ่ แดดจะออกฝนจะตก (ยังจำคอนเสิร์ตกองโจรที่ลานคนเมืองเมื่อปี 2011 ได้ไหม
เมื่อมีคน 4,721 คนฝ่าพายุมาดู พวกเขาก็ขึ้นโชว์โดยไม่หวั่นสายฝนเช่นกัน) หรือเพิ่งบินมาถึงเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
(จุนโฮเคยบินมาถ่ายโฆษณาในบ้านเราทั้งวัน กลับเกาหลีช่วงกลางคืนเพื่อถ่ายละคร แล้วมาไทยใหม่ตอนเช้า
เพื่อขึ้นเวทีกลางแจ้งเจอแฟนๆ ช่วงบ่าย อุณหภูมิเฉียด 40 องศา) 2PM ก็ยิ้ม หัวเราะ มีความสุขเสมอ
ฉัน ฮ็อทเทส ทีมงาน ล้วนสัมผัสได้ถึงความสุขของคนหกคนที่เกิดจากการได้พบเจอแฟนๆ
มันสะท้อนออกมาเป็นรอยยิ้มและความสดใส ที่ทำให้คนรอบข้างมีความสุขตามไปด้วย
“ฮ็อทเทสมีค่ามีความหมายกับ 2PM มาก เป็นอากาศของ 2PM” จุนเคเปิดใจ “ที่เราทำเพลง เล่นคอนเสิร์ต
ทำอะไรต่างๆ นานาถึงปัจจุบันก็ด้วยเหตุผลเดียว คือเพื่อแฟนคลับ แฟนคลับเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเรามีชีวิตอยู่
คนเรามีชีวิตอยู่ได้ก็ต้องหายใจ และเราต้องมีอากาศในการหายใจ 2PM ต้องมีฮ็อทเทสจึงจะมีชีวิตอยู่ได้”
คงเพราะความรักที่ได้รับกลับมา ฮ็อทเทสจึงเป็นแฟนคลับที่มีเอกภาพและมีพลังที่สุดกลุ่มหนึ่ง
ว่ากันเฉพาะในเมืองไทย นี่คือแฟนกลุ่มแรกที่แปรอักษรไฟ ‘(หัวใจ) 2PM’ บนอัฒจันทร์สนามราชมังฯ
เป็นแฟนคลับกลุ่มเดียวที่นัดรวมตัว (โดยหลายคนไม่รู้จักกันเลย) เพื่อทำอุปกรณ์โปรเจ็คต์
และเป็นแฟนคลับที่ใช้ชื่อเดียวในการทำทุกโปรเจ็คต์โดยไม่มีการแบ่งแยกกลุ่ม
ว่ากันเฉพาะในเมืองไทยอีกสักกรณี ตอนที่วง ... เป็นข่าวเรื่องความไม่เหมาะสมขณะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ 2PM
(ที่อยู่ในเมืองไทยพอดี) ก็ทวิตตำหนิพฤติกรรมของวงรุ่นน้องพร้อมขอโทษคนไทย อ้อ อย่าลืมความช่วยเหลือในรูปแบบ
‘เรือ 2PM (หัวใจ) คนไทย’ ที่แล่นช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ครั้งนั้นด้วย
ทุกความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพต้องมีการ Give and Take ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ
ถ้าคุณอยากรู้ว่าพลังที่เกิดจากการที่ต่างฝ่ายต่างแสดงน้ำใจและมิตรจิตมิตรใจต่อกันสามารถก่อให้เกิดอะไรได้บ้าง
ถ้าคุณอยากจะคิดว่าศิลปินเป็นแบบไหน แฟนคลับก็เป็นแบบนั้น 2PM กับฮ็อทเทสคือข้อพิสูจน์
“ที่เราอยากได้จากฮ็อทเทสคือการนึกถึงกัน มีกันและกันในใจเสมอ” อูยองยืนยันในสิ่งที่ฉันคิด
“แต่ละปีๆ ที่เราทำเพลง เนื้อหา ความคิดในเพลงหรือในคอนเสิร์ตก็ยิ่งลึกซึ้ง ลงลึกในแง่ความรู้สึกไปเรื่อยๆ
ผมอาจจะพูดงงๆ นะ ไม่รู้ตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย!” กำลังจะซึ้งก็กลับเข้าโหมดฮาตามสไตล์บ่ายสอง
ทำเอาเพื่อนร่วมวงที่ตั้งอกตั้งใจฟังทั้งโวยวายทั้งขำ “เอาเป็นว่าเรามีความรู้สึกที่ลึกซึ้งผูกผันต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเราสื่อใจถึงกันได้มากขึ้น ก็อยากให้ฮ็อทเทสเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับ 2PM แบบนี้ตลอดไป
สนับสนุนกัน มาหากัน อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ นะครับ”
ที่มา https://www.billboard-thailand.com/%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad-2pm-%e0%b8%9e%e0%b8%b9%e0%b8%94-%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%96%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a1/