”Dialogue in the dark”เราได้อะไรจากความมืด?

เค้าว่ากันว่าในคืนที่มืดมิดที่สุดเราจะเห็นแสงของดวงดาวชัดเจนที่สุด
ใช่คำกล่าวนี้อาจจะจริงสำหรับผู้ที่มีดวงตาปกติอย่างเราๆ
เราจะเห็นดวงดาวระยิบระยับในคืนที่มืดมิดที่สุด
แต่สำหรับผู้พิการทางสายตานั้นไม่ว่าคืนนั้นจะเป็นคืนที่มืดมิดหรือคืนวันที่สว่างไสวก็หาได้มีความสำคัญอะไรไม่
ถึงแม้โลกของพวกเค้าจะมืดแต่ใจของพวกเค้ากลับสว่างไสว.


เราได้ไปเที่ยวนิทรรศการ Dialogue in the dark นิทรรศการบทเรียนจากความมืดมาค่ะ ส่วนตัวเราได้ยินเกี่ยวกับนิทรรศการนี้มานานแล้วพึ่งจะมีโอกาสได้ไป
เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ในมุมมองของเราค่ะ นิทรรศการนี้เป็นนิทรรศการที่มองไม่เห็นเอ๊ะ..แล้วเราไปดูอะไร?…มาค่ะเราจะเล่าให้ฟัง
นิทรรศการนี้จัดอยู่ที่ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ชั้น4 จามจุรีสแควร์สามย่านค่ะ
นิทรรศการได้รับการพัฒนาโดยนายแอนเดรียส ไฮเนกี้ นักธุรกิจชาวเยอรมัน มีผู้เข้าร่วมชมแล้วกว่า5ล้านคน ในกว่า130เมือง 22ประเทศทั่วโลกฟังแล้วนิทรรศการนี้ไม่ธรรมดาเลยนะคะเนี่ยยย
เมื่อเราไปถึงจามจุรีสแควร์เราก็ขึ้นไปที่ชั้น4ซึ่งเป็นที่ตั้งของนิทรรศการค่ะขึ้นมาจากบันไดเลื่อนก็จะเจอประมานนี้ค่ะ


หลังจากนั้นเราก็ไปลงทะเบียนจะเจอป้ายยินดีต้อนรับแล้วก็บอกว่าในจัตุรัสวิทยาศาสตร์นี้มีนิทรรศการอะไรอยู่บ้างตามในรูปเลยค่ะ


เมื่อเจอป้ายนี้แล้วเราก็ไปลงทะเบียนซื้อบัตรเข้าชมนิทรรศการกันได้เลยค่ะ


ก็จะได้บัตรมานะคะโดยราคาบัตรสำหรับนักเรียนนักศึกษาจะอยู่ที่50บาท สำหรับบบุคคลทั่วไปจะอยู่ที่90บาทค่ะ


เมื่อซื้อบัตรเข้าชมเรียบร้อยแล้วเราก็ไปยังบริเวณที่จัดนิทรรศการกันเล้ยยย พอมาถึงบริเวณนี้เดินขึ้นไปเลยค่ะนิทรรศการจะอยู่ทางด้านบนนะคะ


พอขึ้นไปแล้วก็จะมีวิทยากรคอยบรรยายให้ฟังค่ะว่าต้องทำอะไรบ้างโดยก่อนเข้าชมนิทรรศการจะมีlockerให้ฝากกระเป๋านะคะเพราะในบริเวณนิทรรศการไม่อนุญาติให้เอาสิ่งของที่ทำให้เกิดแสงสว่างเข้าไปเลยค่ะควรปฏิบัติตามกฏของเค้านะคะ
เมื่อถึงเวลาแล้ววิทยากรก็จะเรียกผู้ชมทุกคนมารวมตัวกันเพื่อแจก”ไม้เท้าขาว”ค่ะไม้เท้าขาวคือสัญลักษณ์สากลของผู้พิการทางสายตาทั่วโลกเลยหล้ะค่ะ จนทำให้มีวันไม้เท้าขาวโลก (white cane safety day) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม ของทุกๆปีนะคะ

โดยไม้เท้าขาวมีประโยชน์ต่อผู้พิการทางสายตาอย่างมากค่ะประโยชน์ของไม้เท้าขาวได้แก่
-    เป็นเครื่องมือที่สามารถบอกได้ว่าผู้ที่ใช้ไม้เท้าขาวอยุ่นั้นเป็นผู้พิการทางสายตาค่ะ
-    เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ใช้ไม่เท้าขาวกระทบกับสิ่งกีดขวางที่อยู่ข้างหน้าหรือตกหลุมตกบ่อค่ะ
-    เพื่อให้ทราบถึงลักษณะของพื้นผิวที่กำลังเดินอยู่ค่ะ


เมื่อได้รับไม้เท้าขาวเรียบร้อยแล้วก็จะเริ่มเข้าชมนิทรรศการกันแล้วค่ะโดยก่อนเข้าวิทยากรจะเอาเจลล้างมือมากดให้คนละ1ปั๊มกลิ่นหอมดีค่ะ
ตอนที่เข้าไปแล้วจะมืดมากกกกกกค่ะ มองอะไรไม่เห็นเลยเราจะใช้เวลาในการเข้าชมนิทรรศการโดยประมาน1ชั่วโมงนะคะ สักพักก็ได้เจอกับพี่ไกด์ค่ะ พี่ไกด์จะแนะนำตัวและพูดทักทายกับเราและเริ่มพาชมนิทรรศการค่ะโดยในนิทรรศการจะแบ่งเป็นบทเรียนต่างๆซึ่งมีทั้งหมด7บทเรียนโดยแต่ละบทเรียนมีอะไรบ้างเพื่อนๆลองไปนิทรรศการนี้แล้วหาคำตอบกันดูนะคะบอกไปเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น^^
มาพูดถึงความรู้สึกหลังเข้าชมนิทรรศการนี้ของเรากันค่ะ

หลังจากเข้าชมนิทรรศการนี้แล้วรู้สึกทึ่งในตัวพี่ไกด์มากๆๆๆๆๆแลยค่ะพี่เค้าน่ารักและfriendlyมากๆเค้ามีความสามารถสุดๆจนคนปกติอย่างเราอายไปเลยค่ะ พี่ไกด์เป็นผู้พิการทางสายตานะคะแต่เค้าสามารถพาเราชมบริเวณนิทรรศการที่มืดมากๆได้โดยสวัสดิภาพค่ะ
พี่ไกด์เล่าให้ฟังว่าถ้าอยู่ที่บ้านเค้าสามารถทำงานบ้านกินข้าวอาบน้ำทำอาหารได้ด้วยตัวเองหมดเลยค่ะนอกจากนั้นเค้าสามารถเล่นดนตรีร้องเพลง(เสียงดีมากกกก)หรือเล่นsocial mediaต่างๆได้ด้วยค่ะ
และอีกความก็รู้สึกนึงคือรู้ว่าตัวเองยังโชคดีอยู่มากกกค่ะที่ยังมีครบ32ประการ ความรู้สึกท้อถอยห่อเหี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างหายไปเลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นและรู้สึกว่าคนเรายังสามารถทำประโยชน์อะไรกับโลกใบนี้ได้อีกมากกเลยค่ะอย่าให้ข้อจำกัดเล็กๆน้อยๆในชีวิตมาเป็นข้ออ้างที่เราจะทำสิงต่างๆเลยนะคะ
ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นก็ดิ้นก็สู้กันต่อไปนะคะทุกคน
สู้สุ้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่