รีวิวที่ 2 มาอีกแล้ว รอบนี้ยังวนเวียนอยู่กับภารกิจประจำปีนี้ การทัวร์อุทยานแห่งชาติ ทั่วประเทศไทย ทริปนี้ เราไปกันที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้เกิดจากความอยากของ ผู้หญิงออฟไลน์ ของพวกเรา นางบอกว่า สนุก แอดเวนเจอร์ ทริปสบาย ๆ ไม่หนัก เน้นเดินเล่น เล่นน้ำ...แล้วเด๋วมาดูกัน
เริ่มต้นการเดินทางในค่ำคืนของวันอังคารที่ 22 มีนาคม 2559 เวลา 22.10 น. ออกเดินทางจาก กทม. มุ่งหน้าสู่ จ.กาญจนบุรี (ออกตอนนี้จะถึงกี่โมง) เมื่อขึ้นรถที่ไม่ต้องขับเองสิ่งที่เราต้องทำคือ นอนหลับให้สนิท
ตี 3 กว่า ๆ ก็มาถึงกาญจนบุรี ทางเข้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ด้วยความที่ดึกมาก และไม่รู้จักทาง เราเดินทางมาด้วย GPS ซึ่งนั่นคือ การพาเรามาทางลัดมากมาย (หากใครที่เคยใช้ GPS จะรู้ว่า เส้นทางที่ให้มักจะเป็นทางที่เรียกว่าทางลัด แต่ก็ใช่ว่าสภาพถนนที่วิ่งไปจะดี เราวิ่งเข้ามาในทางลูกรังเกร๋ ๆ เลาะไปตามไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน พุ่งตรงเข้าป่าไผ่ไปเรื่อย ๆ แล้วในที่สุด ----เลยป้ายทางเข้าที่ทำการอุทยาน 5555 ก็ถอยรถกลับมา หลังจากการวนอยู่ในไร่มัน และป่าไผ่สักพักใหญ่ ๆ
04.00 น. พวกเราก็มาถึงจุดกางเต๊นท์ (ต้องบอกว่า ถ้าวิ่งตาม GPS ไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มันจะวิ่งไปไหนไม่รู้ แต่ถ้าจะมาให้ถูก ต้องตั้งจุดไว้ที่ ศูนย์พิทักษ์ฯเขาพระอินทร์ นะจ๊ะ) เมื่อมาถึงแล้ว ยืนงง ๆ อยู่สักพักก็มีพี่เจ้าหน้าที่ตัวสูงใหญ่มาตอนรับ แล้วพาเราไปที่จุดกางเต๊นท์ ซึ่งได้จุดดี๊ดี ไม่ไกลจากห้องน้ำ ไม่ไกลจากร้านค้า มีโต๊ะนั่งเล่นอยู่ใกล้มาก ๆ และที่สำคัญที่สุด อยู่ศูนย์กลางของทุก ๆ เต๊นท์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันเป็นจุดสังเกตการที่ดีที่สุด นอกเรื่องไปไกล มันใกล้จะเช้าแล้ว ถามพี่เจ้าหน้าที่ พรุ่งนี้ออกเดินทางไม่เกิน 9 โมง ดังนั้น ด้วยความเชี่ยวชาญ ผสมกับความง่วง พวกเรา 6 คนกางเต๊นท์ด้วยความเร็วแสง และทุกอย่างเสร็จภายใน 20 นาที (ปูพื้น กางเต๊นท์ 3 หลัง เก็บของ ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนชุด) แล้วก็นอนละ ฝันดี
23 มีนาคม 2559 อย่างเป็นทางการสำหรับพวกเรา
06.00 น. ตื่นกันแล้ว ไม่ใช่เพราะต้องรีบออก หรืออะไร แต่เต๊นท์อื่นเค้าตื่น เค้าเดินไปเดินมา เค้าเสียงดัง ทำให้เราต้องตื่น แม้ว่าเราจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 7 โมงก็ตาม ตื่นเช้ามา มันว้าวมาก ๆ เพราะหมอกเต็มเลย หมอกหนาด้วย อากาศเย็นด้วย ออกมาถ่ายรูปนิดหน่อย แล้วก็ทนความหนาวไม่ไหว มุดกลับเข้าเต๊นท์ไปนอนเล่นสบาย ๆ รอเวลาดีกว่า
07.30 น. ก็เริ่มขยับไปล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า แพ็คข้าวแพ็คของออกตะลุยโลกกว้าง ของสำคัญในวันนี้คือ ไฟฉายคาดหัว เพราะเราจะเข้าที่มืดกัน เสื้อผ้าที่เบา ๆ แห้ง ๆ เร็ว ๆ ก็จะดี ส่วนรองเท้ารอบนี้ เราเอารองเท้ายางไป เพื่อมันไม่อมน้ำ (แต่เด๋วรู้ว่ามันดีจริงหรือไม่) แล้วก็ทานอาหารเช้าที่ทางอุทยานฯ จัดไว้ให้ ในส่วนของอาหารเช้าของเรา ก็มี 4 อย่าง (อะไรบ้างก็ไม่รู้ จำไม่ได้ แต่มีไข่เจียว แล้วก็ข้าวสวย) อิ่มกันเรียบร้อยก็ไปกัน
08.30 น. พวกเราก็เดินไปแถว ๆ ที่ปล่อยรถ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า รถ 1 คันจะต้องนั่งไป 10 คน (อย่าที่บอกว่า เค้าจำกัดคนเข้าแค่วันละ 60 คนเท่านั้น ดังนั้นจึงมีรถแค่ 6 คัน) แต่โชคดีที่มีกรุ๊ปนึงถอนตัวไม่มา เป็นเหตุให้ พวกเรา 6 คน ได้นั่งรถกันเองโดยที่ไม่ได้มีใครมาร่วมคณะด้วยเลย ไปกันเล้ยยยยยย.....
หลังจากนั่งตากแดดหลังรถกระบะมาสักเกือบ ๆ ชั่วโมงก็มาถึง จุดปล่อยตัว จากสภาพที่เห็น ป่าไผ่ และแสงแดด และเสียงไฟปะทุ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ พูดได้คำเดียวว่า งานนี้มีแผดเผากันแน่ ๆ
เมื่อเริ่มเดินก็แวะถ่ายรูปกับป้าย "ลำคลองงู" กันก่อน พี่ไกด์ของเราบอกว่า ถ่ายซะตั้งแต่ตอนนี้แหละ เด๋วขากลับถ่ายกันไม่ไหว ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำ ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็มุ่งหน้า สู้กับความร้อนกันต่อไป ระหว่างทางของเราเป็นทางเดินลงซะส่วนใหญ่ แต่ใครว่าทางเดินลงสบาย....ในเมื่อตลอดทางมีแต่หิน และความแห้งแล้ง บอกตามตรงว่า มันร้อนแทบขาดใจจริง ๆ เดินไปเรื่อย ๆๆๆๆๆๆๆ เรื่อยๆๆๆๆๆๆ เราพักกันน้อยมากและเดินเร็วมากซะจน ไล่บี้กรุ๊ปที่เดินมาก่อนแบบประชิดเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
[CR] #เที่ยวอีกละนะ อช.ลำคลองงู จ.กาญจนบุรี (Revise)
รีวิวที่ 2 มาอีกแล้ว รอบนี้ยังวนเวียนอยู่กับภารกิจประจำปีนี้ การทัวร์อุทยานแห่งชาติ ทั่วประเทศไทย ทริปนี้ เราไปกันที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้เกิดจากความอยากของ ผู้หญิงออฟไลน์ ของพวกเรา นางบอกว่า สนุก แอดเวนเจอร์ ทริปสบาย ๆ ไม่หนัก เน้นเดินเล่น เล่นน้ำ...แล้วเด๋วมาดูกัน
เริ่มต้นการเดินทางในค่ำคืนของวันอังคารที่ 22 มีนาคม 2559 เวลา 22.10 น. ออกเดินทางจาก กทม. มุ่งหน้าสู่ จ.กาญจนบุรี (ออกตอนนี้จะถึงกี่โมง) เมื่อขึ้นรถที่ไม่ต้องขับเองสิ่งที่เราต้องทำคือ นอนหลับให้สนิท
ตี 3 กว่า ๆ ก็มาถึงกาญจนบุรี ทางเข้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ด้วยความที่ดึกมาก และไม่รู้จักทาง เราเดินทางมาด้วย GPS ซึ่งนั่นคือ การพาเรามาทางลัดมากมาย (หากใครที่เคยใช้ GPS จะรู้ว่า เส้นทางที่ให้มักจะเป็นทางที่เรียกว่าทางลัด แต่ก็ใช่ว่าสภาพถนนที่วิ่งไปจะดี เราวิ่งเข้ามาในทางลูกรังเกร๋ ๆ เลาะไปตามไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน พุ่งตรงเข้าป่าไผ่ไปเรื่อย ๆ แล้วในที่สุด ----เลยป้ายทางเข้าที่ทำการอุทยาน 5555 ก็ถอยรถกลับมา หลังจากการวนอยู่ในไร่มัน และป่าไผ่สักพักใหญ่ ๆ
04.00 น. พวกเราก็มาถึงจุดกางเต๊นท์ (ต้องบอกว่า ถ้าวิ่งตาม GPS ไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มันจะวิ่งไปไหนไม่รู้ แต่ถ้าจะมาให้ถูก ต้องตั้งจุดไว้ที่ ศูนย์พิทักษ์ฯเขาพระอินทร์ นะจ๊ะ) เมื่อมาถึงแล้ว ยืนงง ๆ อยู่สักพักก็มีพี่เจ้าหน้าที่ตัวสูงใหญ่มาตอนรับ แล้วพาเราไปที่จุดกางเต๊นท์ ซึ่งได้จุดดี๊ดี ไม่ไกลจากห้องน้ำ ไม่ไกลจากร้านค้า มีโต๊ะนั่งเล่นอยู่ใกล้มาก ๆ และที่สำคัญที่สุด อยู่ศูนย์กลางของทุก ๆ เต๊นท์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันเป็นจุดสังเกตการที่ดีที่สุด นอกเรื่องไปไกล มันใกล้จะเช้าแล้ว ถามพี่เจ้าหน้าที่ พรุ่งนี้ออกเดินทางไม่เกิน 9 โมง ดังนั้น ด้วยความเชี่ยวชาญ ผสมกับความง่วง พวกเรา 6 คนกางเต๊นท์ด้วยความเร็วแสง และทุกอย่างเสร็จภายใน 20 นาที (ปูพื้น กางเต๊นท์ 3 หลัง เก็บของ ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนชุด) แล้วก็นอนละ ฝันดี
23 มีนาคม 2559 อย่างเป็นทางการสำหรับพวกเรา
06.00 น. ตื่นกันแล้ว ไม่ใช่เพราะต้องรีบออก หรืออะไร แต่เต๊นท์อื่นเค้าตื่น เค้าเดินไปเดินมา เค้าเสียงดัง ทำให้เราต้องตื่น แม้ว่าเราจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 7 โมงก็ตาม ตื่นเช้ามา มันว้าวมาก ๆ เพราะหมอกเต็มเลย หมอกหนาด้วย อากาศเย็นด้วย ออกมาถ่ายรูปนิดหน่อย แล้วก็ทนความหนาวไม่ไหว มุดกลับเข้าเต๊นท์ไปนอนเล่นสบาย ๆ รอเวลาดีกว่า
07.30 น. ก็เริ่มขยับไปล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า แพ็คข้าวแพ็คของออกตะลุยโลกกว้าง ของสำคัญในวันนี้คือ ไฟฉายคาดหัว เพราะเราจะเข้าที่มืดกัน เสื้อผ้าที่เบา ๆ แห้ง ๆ เร็ว ๆ ก็จะดี ส่วนรองเท้ารอบนี้ เราเอารองเท้ายางไป เพื่อมันไม่อมน้ำ (แต่เด๋วรู้ว่ามันดีจริงหรือไม่) แล้วก็ทานอาหารเช้าที่ทางอุทยานฯ จัดไว้ให้ ในส่วนของอาหารเช้าของเรา ก็มี 4 อย่าง (อะไรบ้างก็ไม่รู้ จำไม่ได้ แต่มีไข่เจียว แล้วก็ข้าวสวย) อิ่มกันเรียบร้อยก็ไปกัน
08.30 น. พวกเราก็เดินไปแถว ๆ ที่ปล่อยรถ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า รถ 1 คันจะต้องนั่งไป 10 คน (อย่าที่บอกว่า เค้าจำกัดคนเข้าแค่วันละ 60 คนเท่านั้น ดังนั้นจึงมีรถแค่ 6 คัน) แต่โชคดีที่มีกรุ๊ปนึงถอนตัวไม่มา เป็นเหตุให้ พวกเรา 6 คน ได้นั่งรถกันเองโดยที่ไม่ได้มีใครมาร่วมคณะด้วยเลย ไปกันเล้ยยยยยย.....
หลังจากนั่งตากแดดหลังรถกระบะมาสักเกือบ ๆ ชั่วโมงก็มาถึง จุดปล่อยตัว จากสภาพที่เห็น ป่าไผ่ และแสงแดด และเสียงไฟปะทุ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ พูดได้คำเดียวว่า งานนี้มีแผดเผากันแน่ ๆ
เมื่อเริ่มเดินก็แวะถ่ายรูปกับป้าย "ลำคลองงู" กันก่อน พี่ไกด์ของเราบอกว่า ถ่ายซะตั้งแต่ตอนนี้แหละ เด๋วขากลับถ่ายกันไม่ไหว ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำ ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็มุ่งหน้า สู้กับความร้อนกันต่อไป ระหว่างทางของเราเป็นทางเดินลงซะส่วนใหญ่ แต่ใครว่าทางเดินลงสบาย....ในเมื่อตลอดทางมีแต่หิน และความแห้งแล้ง บอกตามตรงว่า มันร้อนแทบขาดใจจริง ๆ เดินไปเรื่อย ๆๆๆๆๆๆๆ เรื่อยๆๆๆๆๆๆ เราพักกันน้อยมากและเดินเร็วมากซะจน ไล่บี้กรุ๊ปที่เดินมาก่อนแบบประชิดเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น