เมีย"อส."ถูกกรวยตบคาใจ ถูกผู้ว่าฯสั่งย้ายตามอีกราย
เมีย "อส." ถูกกรวยตบคาใจ ถูกผู้ว่าฯสั่งย้ายตามอีกราย คลิปตบด้วยกรวยยางเป็นเหตุ ผวจ.สมุทรสาคร สั่งย้าย อส.สาว ภรรยาของเหยื่อที่ปรากฎอยู่ในคลิปตามไปอีกราย ชี้เหตุจากเอาภาพวงจรปิดไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวโอดเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม
จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร ใช้กรวยยางและมือตบศีรษะ อส. ที่ไม่ยอมทำความเคารพข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เดินผ่านเข้าไปทำงานในศาลากลางจังหวัด จนเกิดเสียงวิพากวิจารณ์เป็นอย่างมากถึงความเหมาะสมในการลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 7 เม.ย.
นางวรรณา ร้อยอำแพง อายุ 57 ปี มารดาของ อส.ศิริวัฒน์ ร้อยอำแพง ตำแหน่งพลประจำร้อย บก.บร.อส.จ.สค. (กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จังหวัดสมุทรสาคร) พร้อมญาติพี่น้อง ได้เข้าพบกับ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผวจ.สมุทรสาคร เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอทราบเหตุผลในคำสั่งที่ให้ อส.ศิริวัฒน์ ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำกองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอบ้านแพ้วที่ 3 และให้ อส.สายชล งามเนตร์ ภรรยาของ อส.ศิริวัฒน์ ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำกองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอกระทุ่มแบนที่ 2 โดยใช้เวลาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวนานเกือบ 1 ชม.
โดยหลังออกจากห้องประชุม นางวรรณา ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆว่า วันนี้เพียงแค่ต้องการมารับฟังเหตุผลจากปากของ ผวจ.สมุทรสาคร หลังจากที่ออกหนังสือคำสั่งให้ลูกชายและลูกสะใภ้ ซึ่งเป็น อส.ของจ.สมุทรสาครทั้ง 2 คน ไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของงานอำเภอเท่านั้น ซึ่งก็พอจะเข้าใจในเหตุผลของผู้บังคับบัญชา และก็ต้องการที่จะมาส่งลูกชายไปปฏิบัติงานที่ อ.บ้านแพ้ว ตามคำสั่งด้วย
ส่วนจะมีการร้องขอความเป็นธรรมอื่นๆหรือไม่นั้น ก็คงต้องให้ผู้เป็นพ่อของ อส.ศิริวัฒน์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ทางภาคใต้ เดินทางกลับขึ้นมาก่อน จึงจะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะที่ทางด้านของ อส.สายชล ภรรยาของ อส.ศิริวัฒน์ ที่ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำกองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอกระทุ่มแบนที่ 2
เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งดังกล่าว อีกทั้งเมื่อถูกย้ายทั้ง 2 คนและไปอยู่คนละอำเภอที่ไม่ใช่ในส่วนของที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร ก็ส่งผลกระทบไปถึงลูกสาวคนเดียวของตนที่อายุ 8 ปีเท่านั้น โดยตนต้องขึ้นรถประจำทางไปรับไปส่งโรงเรียนทุกวัน ส่วนสาเหตุที่ถูกร่างแหให้ย้ายไปด้วยนั้น ทางผู้บังคับบัญชาบอกว่า เนื่องจากตนเอาคลิปไปให้ตำรวจ ซึ่งตนก็เห็นว่า คลิปนี้เป็นพยานหลักฐานเพียงอย่างเดียวที่จะสามารถช่วยสามีได้
โดยตนเองมองว่า ตนเองไม่ผิดเพราะทำไปเพื่อช่วยสามีเท่านั้นเอง ส่วน นายแมนรัตน์ ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ทางแม่และ ญาติพี่น้องของ อส.ศิริวัฒน์ กับ อส.สายชล ได้มาเข้าพบเพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริงและเหตุผลของการสั่งย้าย ก็ได้มีการชี้แจงให้ทราบถึงระเบียบวินัยและคำสั่งภายใต้กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสมุทรสาครแล้ว สำหรับทางด้านของ นายสมศักดิ์ แย้มพันธุ์นุ้ย ป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร คู่กรณี ก็ได้สั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใดก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า ทำไม อส.สายชล ภรรยาของ อส.ศิริวัฒน์ ถึงถูกคำสั่งย้ายด้วยนั้น ก็เนื่องด้วยหลังจากที่มีการสอบสวนเบื้องต้นจากผู้ที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนของภาพจากกล้องวงจรปิดของศาลากลางจังหวัดสมุทรสาครแล้ว บุคคลดังกล่าวบอกว่า อส.สายชล ได้ขึ้นมาขอภาพจากกล้องวงจรปิด โดยกล่าวอ้างว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งให้มาขอ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มอบให้ไป ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบข้าราชการ จึงต้องมีการสั่งย้ายไปก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุกคนจะแล้วเสร็จ จึงจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นต่อไป
ซึ่งคลิปตามที่ปรากฎในสื่อต่างๆ ไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด แต่การที่จะขอภาพหรือเอกสารซึ่งอยู่ในสถานที่ราชการนั้น จะต้องมีการทำหนังสือมาขอให้ถูกต้องตามระเบียบ ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองอาสารักษาดินแดน จ.สมุทรสาคร ก็อยากให้สมาชิก อส.ทุกระดับชั้นรักและสามัคคีกัน หากใครมีปัญหาหรือมีเรื่องร้องทุกข์อย่างไร ก็สามารถเข้าพบและรายงานให้รับทราบได้ เพื่อจะได้ช่วยกันหาทางออกต่อไป
✿ ✿ ✿ ✿ ✿
บอกตามตรงเลยนะ เป็นผมก็ต้องเอาคลิปไปเพื่อเป็นหลักฐาน เพราะการฟ้องด้วยปากเปล่าคงทำได้ยาก และอาจเสียเปรียบ
✿ เมีย "อส." ถูกกรวยตบคาใจ ถูกผู้ว่าฯสั่งย้ายตามอีกราย..
เมีย"อส."ถูกกรวยตบคาใจ ถูกผู้ว่าฯสั่งย้ายตามอีกราย
เมีย "อส." ถูกกรวยตบคาใจ ถูกผู้ว่าฯสั่งย้ายตามอีกราย คลิปตบด้วยกรวยยางเป็นเหตุ ผวจ.สมุทรสาคร สั่งย้าย อส.สาว ภรรยาของเหยื่อที่ปรากฎอยู่ในคลิปตามไปอีกราย ชี้เหตุจากเอาภาพวงจรปิดไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวโอดเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม
จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร ใช้กรวยยางและมือตบศีรษะ อส. ที่ไม่ยอมทำความเคารพข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เดินผ่านเข้าไปทำงานในศาลากลางจังหวัด จนเกิดเสียงวิพากวิจารณ์เป็นอย่างมากถึงความเหมาะสมในการลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นางวรรณา ร้อยอำแพง อายุ 57 ปี มารดาของ อส.ศิริวัฒน์ ร้อยอำแพง ตำแหน่งพลประจำร้อย บก.บร.อส.จ.สค. (กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จังหวัดสมุทรสาคร) พร้อมญาติพี่น้อง ได้เข้าพบกับ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผวจ.สมุทรสาคร เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอทราบเหตุผลในคำสั่งที่ให้ อส.ศิริวัฒน์ ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำกองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอบ้านแพ้วที่ 3 และให้ อส.สายชล งามเนตร์ ภรรยาของ อส.ศิริวัฒน์ ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำกองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอกระทุ่มแบนที่ 2 โดยใช้เวลาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวนานเกือบ 1 ชม.
โดยหลังออกจากห้องประชุม นางวรรณา ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆว่า วันนี้เพียงแค่ต้องการมารับฟังเหตุผลจากปากของ ผวจ.สมุทรสาคร หลังจากที่ออกหนังสือคำสั่งให้ลูกชายและลูกสะใภ้ ซึ่งเป็น อส.ของจ.สมุทรสาครทั้ง 2 คน ไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของงานอำเภอเท่านั้น ซึ่งก็พอจะเข้าใจในเหตุผลของผู้บังคับบัญชา และก็ต้องการที่จะมาส่งลูกชายไปปฏิบัติงานที่ อ.บ้านแพ้ว ตามคำสั่งด้วย
ส่วนจะมีการร้องขอความเป็นธรรมอื่นๆหรือไม่นั้น ก็คงต้องให้ผู้เป็นพ่อของ อส.ศิริวัฒน์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ทางภาคใต้ เดินทางกลับขึ้นมาก่อน จึงจะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะที่ทางด้านของ อส.สายชล ภรรยาของ อส.ศิริวัฒน์ ที่ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำกองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอกระทุ่มแบนที่ 2
เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งดังกล่าว อีกทั้งเมื่อถูกย้ายทั้ง 2 คนและไปอยู่คนละอำเภอที่ไม่ใช่ในส่วนของที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร ก็ส่งผลกระทบไปถึงลูกสาวคนเดียวของตนที่อายุ 8 ปีเท่านั้น โดยตนต้องขึ้นรถประจำทางไปรับไปส่งโรงเรียนทุกวัน ส่วนสาเหตุที่ถูกร่างแหให้ย้ายไปด้วยนั้น ทางผู้บังคับบัญชาบอกว่า เนื่องจากตนเอาคลิปไปให้ตำรวจ ซึ่งตนก็เห็นว่า คลิปนี้เป็นพยานหลักฐานเพียงอย่างเดียวที่จะสามารถช่วยสามีได้
โดยตนเองมองว่า ตนเองไม่ผิดเพราะทำไปเพื่อช่วยสามีเท่านั้นเอง ส่วน นายแมนรัตน์ ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ทางแม่และ ญาติพี่น้องของ อส.ศิริวัฒน์ กับ อส.สายชล ได้มาเข้าพบเพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริงและเหตุผลของการสั่งย้าย ก็ได้มีการชี้แจงให้ทราบถึงระเบียบวินัยและคำสั่งภายใต้กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสมุทรสาครแล้ว สำหรับทางด้านของ นายสมศักดิ์ แย้มพันธุ์นุ้ย ป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร คู่กรณี ก็ได้สั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใดก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า ทำไม อส.สายชล ภรรยาของ อส.ศิริวัฒน์ ถึงถูกคำสั่งย้ายด้วยนั้น ก็เนื่องด้วยหลังจากที่มีการสอบสวนเบื้องต้นจากผู้ที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนของภาพจากกล้องวงจรปิดของศาลากลางจังหวัดสมุทรสาครแล้ว บุคคลดังกล่าวบอกว่า อส.สายชล ได้ขึ้นมาขอภาพจากกล้องวงจรปิด โดยกล่าวอ้างว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งให้มาขอ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มอบให้ไป ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบข้าราชการ จึงต้องมีการสั่งย้ายไปก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุกคนจะแล้วเสร็จ จึงจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นต่อไป
ซึ่งคลิปตามที่ปรากฎในสื่อต่างๆ ไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด แต่การที่จะขอภาพหรือเอกสารซึ่งอยู่ในสถานที่ราชการนั้น จะต้องมีการทำหนังสือมาขอให้ถูกต้องตามระเบียบ ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองอาสารักษาดินแดน จ.สมุทรสาคร ก็อยากให้สมาชิก อส.ทุกระดับชั้นรักและสามัคคีกัน หากใครมีปัญหาหรือมีเรื่องร้องทุกข์อย่างไร ก็สามารถเข้าพบและรายงานให้รับทราบได้ เพื่อจะได้ช่วยกันหาทางออกต่อไป
บอกตามตรงเลยนะ เป็นผมก็ต้องเอาคลิปไปเพื่อเป็นหลักฐาน เพราะการฟ้องด้วยปากเปล่าคงทำได้ยาก และอาจเสียเปรียบ