ทุกศาสนาบนโลกได้ให้ ความสำคัญในเรื่องสิทธิของพ่อแม่ และหน้าที่ของลูกๆ ที่มีต่อพ่อแม่ สำหรับอิสลาม มีคำสอนให้ลูกๆ เคารพเชื่อฟังและแสดงความเมตตาต่อพ่อแม่อยู่ในคัมภีร์อัล-กุรอาน เพื่อเปนการเน้นย้ำว่า ในบรรรดาการกระทำดีทั้งหลายนั้น การเชื่อฟังพ่อแม่ การปฏิบัติต่อพ่อแม่ด้วยความเคารพ และแสดงความเมตตาแก่พวกท่าน ถือเป็นการกระทำที่ใกล้เคียงกับการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ อัล-กุรอานกล่าวว่า
"... พวกเจ้าจะต้องไม่เคารพสักการะนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น และจงทำดีต่อบิดามารดา..." (อัล-กุรอาน 2/83)
ตามคำสอนของท่านศาสดา มุฮัมมัด(ศ.) พ่อแม่นั้น แท้ที่จริงแล้วก็คือสวรรค์หรือนรกของผู้เป็นลูก ความหมายของคำสอนนี้ก็คือ ถ้าเขาเป็นลูกที่เชื่อฟังพ่อแม่ เอาใจใส่ในความจำเป็นของพวกท่าน และดูแลให้พวกท่านมีความสุขสะดวกสบาย เขาก็จะได้รับสวรรค์
ในทางกลับกัน ถ้าหากเขาไม่เคารพเชื่อฟัง และยังกระทำหยาบคายต่อพวกท่าน เฉยเมยต่อความจำเป็นและความรู้สึกของพวกท่าน หรือสร้างความทุกข์ใจให้พวกท่านด้วยการกระทำใดๆ เขาจะถูกนำไปสู่นรก
ในโลกยุคใหม่ เป็นยุคที่พ่อแม่ถูกมองว่าเป็นภาระเพราะแก่ชราและร่างกายอ่อนแอ ลูกจึงมักส่งพ่อแม่ไปอยู่ "บ้านพักคนชรา" แต่อิสลามประณามการกระทำเช่นนั้นโดยสอนอย่างชัดเจนว่า การพยายามปัดความรับผิดชอบต่อพ่อแม่ที่แก่ชรานั้นเป็นเสมือนการเชิญชวนสู่ นรก
วัยที่พ่อแม่ต้องการ การดูแลเอาใจใส่มากที่สุดก็คือวัยชราของพวกท่าน การดูแลพวกท่านด้วยความทุ่มเทในวัยนั้นคือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความพึง พอพระทัยให้แก่อัลลอฮฺ และยังเป็นวิธีง่ายๆ ในการเข้าสู่สวรรค์
ครั้งหนึ่งมีผู้ถาม ท่านศาสดา(ศ.ป ว่า "ใครที่ฉันควรดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติอย่างมีเมตตาด้วยมากที่สุด?" ท่านศาสดา(ศ.) ตอบว่า "มารดาของเธอ และมารดาของเธออีก และมารดาของเธออีกครั้ง หลังจากนั้นจึงเป็นบิดาของเธอ จากนั้นเป็นญาติพี่น้องของเธอ และจากนั้นเป็นญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดของพวกเขา"
คำสอนนี้แสดงให้เห็น ว่าลูกจะต้องดูแลเอาใจใส่ต่อแม่มากกว่าพ่อในยามที่พวกท่านล่วงเข้าสู่วัยชรา
อีกหน้าที่หนึ่งของลูก ชายและลูกสาวคือการวิงวอนขอพรและขอการอภัยโทษให้แก่พ่อแม่ภายหลังการตายของ พวกท่าน และปฏิบัติต่อญาติพี่น้องและมิตรสหายของพวกท่านด้วยความเคารพ ในคัมภีร์อัล-กุรอาน กล่าวว่า
"...และจงกล่าวว่า 'ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสองเช่นที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันเมื่อเยาว์วัย" (อัล-กุรอาน 17/24)
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า จากคำสอนที่ปรากฏในคัมภีร์อัล-กุรอาน และศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ว่า การให้ความเคารพต่อพ่อแม่เป็นหลักคำสอนทางด้านศีลธรรมและสังคมของอิสลาม
ความสำคัญของพ่อแม่กับมุมมองคำสอนศาสนาอิสลาม
"... พวกเจ้าจะต้องไม่เคารพสักการะนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น และจงทำดีต่อบิดามารดา..." (อัล-กุรอาน 2/83)
ตามคำสอนของท่านศาสดา มุฮัมมัด(ศ.) พ่อแม่นั้น แท้ที่จริงแล้วก็คือสวรรค์หรือนรกของผู้เป็นลูก ความหมายของคำสอนนี้ก็คือ ถ้าเขาเป็นลูกที่เชื่อฟังพ่อแม่ เอาใจใส่ในความจำเป็นของพวกท่าน และดูแลให้พวกท่านมีความสุขสะดวกสบาย เขาก็จะได้รับสวรรค์
ในทางกลับกัน ถ้าหากเขาไม่เคารพเชื่อฟัง และยังกระทำหยาบคายต่อพวกท่าน เฉยเมยต่อความจำเป็นและความรู้สึกของพวกท่าน หรือสร้างความทุกข์ใจให้พวกท่านด้วยการกระทำใดๆ เขาจะถูกนำไปสู่นรก
ในโลกยุคใหม่ เป็นยุคที่พ่อแม่ถูกมองว่าเป็นภาระเพราะแก่ชราและร่างกายอ่อนแอ ลูกจึงมักส่งพ่อแม่ไปอยู่ "บ้านพักคนชรา" แต่อิสลามประณามการกระทำเช่นนั้นโดยสอนอย่างชัดเจนว่า การพยายามปัดความรับผิดชอบต่อพ่อแม่ที่แก่ชรานั้นเป็นเสมือนการเชิญชวนสู่ นรก
วัยที่พ่อแม่ต้องการ การดูแลเอาใจใส่มากที่สุดก็คือวัยชราของพวกท่าน การดูแลพวกท่านด้วยความทุ่มเทในวัยนั้นคือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความพึง พอพระทัยให้แก่อัลลอฮฺ และยังเป็นวิธีง่ายๆ ในการเข้าสู่สวรรค์
ครั้งหนึ่งมีผู้ถาม ท่านศาสดา(ศ.ป ว่า "ใครที่ฉันควรดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติอย่างมีเมตตาด้วยมากที่สุด?" ท่านศาสดา(ศ.) ตอบว่า "มารดาของเธอ และมารดาของเธออีก และมารดาของเธออีกครั้ง หลังจากนั้นจึงเป็นบิดาของเธอ จากนั้นเป็นญาติพี่น้องของเธอ และจากนั้นเป็นญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดของพวกเขา"
คำสอนนี้แสดงให้เห็น ว่าลูกจะต้องดูแลเอาใจใส่ต่อแม่มากกว่าพ่อในยามที่พวกท่านล่วงเข้าสู่วัยชรา
อีกหน้าที่หนึ่งของลูก ชายและลูกสาวคือการวิงวอนขอพรและขอการอภัยโทษให้แก่พ่อแม่ภายหลังการตายของ พวกท่าน และปฏิบัติต่อญาติพี่น้องและมิตรสหายของพวกท่านด้วยความเคารพ ในคัมภีร์อัล-กุรอาน กล่าวว่า
"...และจงกล่าวว่า 'ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสองเช่นที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันเมื่อเยาว์วัย" (อัล-กุรอาน 17/24)
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า จากคำสอนที่ปรากฏในคัมภีร์อัล-กุรอาน และศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ว่า การให้ความเคารพต่อพ่อแม่เป็นหลักคำสอนทางด้านศีลธรรมและสังคมของอิสลาม