ไม่คิดฝันเลยว่า...วันนึงฉันคิดอยากจะเริ่มต้นเรียนภาษาใหม่ ในวัย 30 ต้นๆ และก็ไม่น่าเชื่ออีกว่าภายในเวลา 1 ปีกับ 9 เดือน ฉันสามารถพิชิตมันได้จริงๆ ที่ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยผมหงอกที่ขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม
“เรียนภาษาจีนไม่ต้องใช้เทคนิค อาศัยแค่ความอึด” เป็นคำกล่าวที่รุ่นพี่คนสนิทมอบเป็นคาถาให้กับฉัน และเมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยครูแห่งชาติไต้หวัน (NTNU) แล้วฉันก็พบว่ามันเป็นความจริง!
การเรียนภาษาจีนก็ที่นี่เริ่มต้นคล้ายกับการเรียนภาษาอังกฤษที่ไทย เริ่มจากบทสนทนา หรือบทความสั้นๆ มีรายการคำศัพท์ท้ายบท และการสอนเรื่องไวยากรณ์ ซึ่งการเรียนภาษาจีนที่นี่ทุกคนต้องได้ทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียน สิ่งที่ท้าทายที่สุดของภาษาจีนสำหรับฉันก็คือ การจำตัวอักษร และจำศัพท์ใหม่ๆ จนในที่สุดมาประกอบกันจนพูดได้คล่องปาก
เพราะการเขียน หากรู้หลักการเขียนลำดับขีด และจำตัวอักษรได้ ก็จะเขียนได้เอง แต่เมื่อใช้กับการพิมพ์ก็สะกดคำด้วยตัวภาษาอังกฤษที่รู้จักกันในชื่อ “พินอิน” หรือการพิมพ์ตามลำดับขีด “จู้อิน” ได้เลย ซึ่งแม้แต่วัยรุ่นไต้หวันเองส่วนใหญ่ก็จะลืมว่าตัวอักษรที่มีลำดับขีดที่ซับซ้อนนั้นเขียนด้วยลายมืออย่างไร! ส่วนการอ่านก็ยิ่งเรียนศัพท์เยอะ คัดเยอะๆ ก็จะจดจำตัวอักษรได้มากยิ่งขึ้น
ใครบอกว่าภาษาจีนมีต้นแบบจากภาษารูปภาพทำให้จำง่าย บอกได้เลยว่าผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อคุณเรียนไปเรื่อยๆ ตรรกะนั้นก็จะหายไปอย่างสิ้นเชิง ที่เหลือมีแต่จำ...จำ...และจำให้ขึ้นใจ
มีต่อนะจ๊ะ
พิชิตจีนกลางใน 2 ปีมีจริงหรือ??? (และทำได้ไงอะ)!!!
“เรียนภาษาจีนไม่ต้องใช้เทคนิค อาศัยแค่ความอึด” เป็นคำกล่าวที่รุ่นพี่คนสนิทมอบเป็นคาถาให้กับฉัน และเมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยครูแห่งชาติไต้หวัน (NTNU) แล้วฉันก็พบว่ามันเป็นความจริง!
การเรียนภาษาจีนก็ที่นี่เริ่มต้นคล้ายกับการเรียนภาษาอังกฤษที่ไทย เริ่มจากบทสนทนา หรือบทความสั้นๆ มีรายการคำศัพท์ท้ายบท และการสอนเรื่องไวยากรณ์ ซึ่งการเรียนภาษาจีนที่นี่ทุกคนต้องได้ทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียน สิ่งที่ท้าทายที่สุดของภาษาจีนสำหรับฉันก็คือ การจำตัวอักษร และจำศัพท์ใหม่ๆ จนในที่สุดมาประกอบกันจนพูดได้คล่องปาก
เพราะการเขียน หากรู้หลักการเขียนลำดับขีด และจำตัวอักษรได้ ก็จะเขียนได้เอง แต่เมื่อใช้กับการพิมพ์ก็สะกดคำด้วยตัวภาษาอังกฤษที่รู้จักกันในชื่อ “พินอิน” หรือการพิมพ์ตามลำดับขีด “จู้อิน” ได้เลย ซึ่งแม้แต่วัยรุ่นไต้หวันเองส่วนใหญ่ก็จะลืมว่าตัวอักษรที่มีลำดับขีดที่ซับซ้อนนั้นเขียนด้วยลายมืออย่างไร! ส่วนการอ่านก็ยิ่งเรียนศัพท์เยอะ คัดเยอะๆ ก็จะจดจำตัวอักษรได้มากยิ่งขึ้น
ใครบอกว่าภาษาจีนมีต้นแบบจากภาษารูปภาพทำให้จำง่าย บอกได้เลยว่าผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อคุณเรียนไปเรื่อยๆ ตรรกะนั้นก็จะหายไปอย่างสิ้นเชิง ที่เหลือมีแต่จำ...จำ...และจำให้ขึ้นใจ
มีต่อนะจ๊ะ