ดินแดนในภาคพันยุโรปกลางของสเปน ส่วนใหญ่ได้มาจากการแต่งงานครับ เช่นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 แห่งสเปน ได้รับอำนาจในการปกครองเนเธอร์แลนด์ทั้งหมดมาจากพระชนก คือ พระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่ง คาสทีล
เนื่องจาก ฟิลิปที่ 1 เป็นโอรสของ จักรพรรดิแมกซีมาเลี่ยน แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และ พระนางแมรี่ แห่งเบอร์กันดี
ซึ่งพระนางแมรี่แห่งเบอร์กันดี ทรงเป็นราชินีของแว่นแคว้นเนเธอร์แลนด์ และพอพระนางสวรรคต สิทธิในแว่นแคว้นนี้ก็ตกแก่ทายาท คือพระเจ้าฟิลิปที่ 1 ครับ

แต่พอนานๆไป กษัตริย์ที่มีสิทธิ์ในการเคลมราชสมบัติสวรรคตไป พวกชาวบ้านแลขุนนางพื้นเมืองในดินแดนนั้นๆ ก็เริ่มไม่ยอมรับรัชทายาท หรือการปกครองจากสเปนอีก เลยนำมาซึ่งสงครามประกาศเอกราชครับ

การครองราชย์ของกษัตริย์ของดินแดนในยุโรปนั้น จะแปลกกว่าดินแดนในโลกเก่าอื่นๆตรงที่ กษัตริย์หรือเจ้าชายของแคว้นหนึ่ง สามารถไปเป็นกษัตริย์ร่วมในอีกดินแดนได้ เนื่องจากการแต่งงานบ้าง อ้างเชื้อสายบ้าง (เพราะสายเดิมที่ปกครองสูญพันธุ์) หรือแม้แต่ซื้อเสียงจากพวกขุนนางในดินแดนที่ไปปกครองก็มี

คงเป็นสาเหตุมาจาก กษัตริย์ยุโรปสมัยโบราณ มีราชินี หรือ ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎได้แค่ทีละ 1 นาง (ส่วนสนมลับ เมียเก็บ นางบำเรอ มีได้เยอะแยะ) และลูกที่เกิดจากภรรยาหลวงเท่านั้น ที่จะมีสิทธิในการสืบราชสมบัติหรือรับอำนาจต่อ ทำให้หากบางทีไม่มีทายาท หรือมีทายาทแต่ผู้หญิง อำนาจรัฐในอนาคต ก็อาจจะตกไปสู่มือคนนอกราชวงศ์ได้

อีกส่วนคือ ราชวงศ์ที่ปกครองสเปนในช่วงศตวรรษที่ 15-16 จะเป็นสายฮับบูร์ก ดังนั้นบางทีกษัตริย์สเปน ก็จะควบตำแหน่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย ซึ่งจะมีขอบเขตอำนาจโดยชอบธรรมในดินแดนแคว้นเยอรมันต่างๆ กับอิตาลีบางส่วน