เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะไม่มีภาพปกขึ้นหน้า










- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่พ่อพระเอกพาแม่ของคนน้องมากินอาหารฝีมือคนน้องถึงร้านแฟนเก่า

- บรรยากาศในร้างตึงเครียดสุดๆ เพราะคนน้องเอาแต่ทำอาหารอยู่เงียบๆ ในครัว ส่วนคุณแม่ก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาตลอด พระเอก (มาทำหน้าที่เป็นเด็กเสิร์ฟชั่วคราว) กับพ่อพยายามชวนคุยให้บรรยากาศผ่อนคลายยังไงก็ไม่ได้ผล

- ด้านคนน้องที่อยู่ในครัวเองก็ตั้งใจทำอาหารแบบสุดฝีมือ เพราะจำคำเตือนของพ่อได้ว่าแม่เป็นคนลิ้นสูงมีรสนิยมพอควร ดังนั้นแค่อาหารครึ่งๆ กลางๆ ไม่มีทางทำให้แม่ยอมรับได้แน่

- ทำอาหารเสร็จก็เข็นออกมาเสิร์ฟเป็นจานๆ ไป พ่อพระเอกกินแต่ละจานก็ชมเปาะไม่ขาดปากว่าอร่อยจริงๆ ในขณะที่แม่กลับเอาแต่นั่งกินเงียบๆ เหมือนไม่ยินดียินร้ายกับรสชาติอาหาร ทำเอาพระเอกถึงกับแอบเครียดว่าแบบนี้จะไหวแน่รึเปล่า

- เสิร์ฟเสร็จเดินกลับออกมา ก็เจออีหนูน้องเล็กยืนอยู่ตรงใกล้ๆ ทางเข้าครัวหลัง พระเอกเห็นปุ๊บก็ตาเหลือก ถามอีหนูทันทีว่ามาทำไม อีหนูก็แกล้งๆ ตอบว่ามาดูว่าอาหารของคนน้องจะทำให้แม่พอใจได้รึเปล่าแค่นั้น (อีหนูช่วยแนะนำเรื่องการปรุงอาหารเสิร์ฟแม่ให้คนน้องด้วย)






- ตัดกลับมาทางคนน้องที่กำลังทำอาหารอยู่ โดยตอนนี้เริ่มทำเมนดิชเป็นพาสต้าเพสคาโทร่าแล้ว

- แต่เนื่องจากทำอาหารแบบคอร์สใหญ่เป็นครั้งแรกยังไม่ชำนาญ เลยกะเวลาโน่นนี่พลาดจนมือไม้ปั่นป่วนไปหมด

- พ่อคนน้องที่ยืนดูอยู่ในครัวเห็นแบบนั้นก็ถามขึ้นมาว่าให้ช่วยมั้ย แต่คนน้องปฏิเสธบอกว่าหนูจะทำคนเดียว ตาพ่อเลยต้องถอยออกมาปล่อยให้คนน้องโซโล่ไป

- ทำเสร็จก็ให้พระเอกเอาออกไปเสิร์ฟ โดยหลังจากเสิร์ฟเสร็จ พระเอกก็พูดกับแม่คนน้องว่าพาสต้าเพสคาโทร่าเป็นพาสต้าที่แม่คนน้องชอบมากที่สุด และเป็นพาสต้าที่พ่อคนน้องเคยทำให้แม่กินบ่อยๆ ดังนั้นตัวคนน้องก็เลยชอบเพสคาโทร่าเหมือนกัน

- ได้ยินพระเอกพูดแบบนั้น สีหน้าเฉยชาของแม่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เหมือนกำลังนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดจากความทรงจำแสนสุขสมัยครอบครัวเดิมยังอยู่พร้อมหน้าที่ประดังขึ้นมา


- ฉากตัดอีกครั้ง มาทางคนน้องที่เตรียมอาหารอยู่ในครัว ระหว่างนั้นพระเอกที่ออกไปเก็บจานที่กินเสร็จแล้วก็เดินเข้ามา พร้อมโชว์จานพาสต้าเปล่าๆ ให้คนน้องดูเป็นหลักฐานว่าคุณแม่กินพาสต้าของคนน้องจนหมด

- คนน้องเห็นดังนั้นก็ระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะหันไปจัดการอาหารคอร์สต่อไป


- หลังจากนั้นก็ทยอยเอาหารออกมาเสิร์ฟเรื่อยๆ จนถึงคอร์สสุดท้ายที่เป็นกาแฟกับของหวาน

- ระหว่างนั่งรอของหวาน พ่อพระเอกก็ชวนแม่คุยเรื่องอาหารของคนน้องตลอด แต่ก็ได้มาแต่คำตอบแบบถามคำตอบคำ กับสีหน้าเหมือนกำลังเจ็บปวดจากแม่คนน้องเท่านั้น

- ด้านพระเอกก็กำลังคุยกับอีหนูอยู่ พระเอกก็แกล้งถามว่าทำไมถึงยอมช่วยล่ะ ตอนแรกเห็นคัดค้านออกขนาดนั้น อีหนูก็บอกว่าก็เห็นคนน้องตั้งใจจริงขนาดนั้นเลยต้องช่วยนี่นา

- ระหว่างนั้นคนน้องก็ทำของหวานเสร็จพอดี พระเอกเลยขยับจะยกไปเสิร์ฟให้ แต่คนน้องโบกมือบอกว่าจานนี้จะเอาไปเสิร์ฟเอง


- โดยของหวานที่คนน้องทำไปเสิร์ฟตบท้ายคอร์สก็คือทีรามิสุนั่นเอง

- แม่คนน้องหน้าเปลี่ยนสีทันทีที่เห็นว่าลูกสาวตัวเองเอาอะไรมาเสิร์ฟให้ คนน้องก็บอกแม่ว่าก่อนหน้านี้คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเอาอะไรมาเป็นของหวานดี แต่ลงท้ายก็เลือกทีรามิสุ เนื่องจากเป็นของหวานที่พ่อทำฉลองวันเกิดคนในบ้านแทนเค้กวันเกิดทุกปี

- คนน้องบอกแม่ว่าตอนแรกตัวเองก็ตั้งใจจะแยกเรื่องของพ่อกับเรื่องเรียนทำอาหารกับพ่อเป็นคนละเรื่องกัน แต่พอได้มาอยู่กับพ่อแล้วก็มาคิดได้ว่าแบบนั้นมันไม่ใช่ ตัวคนน้องเข้าใจดีว่าพ่อทำให้แม่เสียใจหลายเรื่องจนไม่อยากนึกถึงมัน แต่ถึงอย่างนั้นช่วงเวลาที่เคยใช้ชีวิตกับพ่ออย่างมีความสุขก็ไม่ใช่เรื่องโกหกแน่ๆ ดังนั้นคนน้องจึงตัดสินใจว่าจะทำงานอยู่ที่นี่ไปโดยไม่ลืมความทรงจำดีๆ ที่มีต่อพ่อด้วย และคนน้องก็อยากให้แม่เข้าใจและยอมรับการตัดสินใจนั้น

- คนน้อง "ถ้ารับได้ ก็ช่วยกินทีรามิสุชิ้นนั้นได้มั้ย?"

- ฝ่ายแม่ยังคงนิ่งแม้จะเจอลูกสาวพูดใส่ตรงๆ แบบนั้น มีแต่แววตาที่เริ่มแสดงอาการหวั่นไหวแกมสับสน

- แต่ถึงอย่างนั้น คุณแม่ก็ยังทำใจแข็ง ไม่ยอมหยิบช้อนมาตักทีรามิสุกิน (เพราะถ้ากิน ก็เท่ากับว่าต้องยอมรับความทรงจำของแฟนเก่าที่ไม่อยากไปนึกอีก) คนน้องกับคนอื่นๆ ก็ได้แต่ยืนลุ้นกันตัวโก่งว่าคุณแม่จะตัดสินใจยังไง

- สุดท้ายอีหนูที่ยืนดูอยู่ เห็นคุณแม่ทำใจแข็งไม่ยอมรับแบบนั้นก็ทนไม่ไหว แล่นพรวดออกไปโวยใส่แม่คนน้องทันที เล่นเอาทุกคนตกใจยกใหญ่ (โดยเฉพาะพระเอกกับคนน้องตกใจกว่าเพื่อน เพราะไม่อยากให้แม่คนน้องเจอกับอีหนูที่เป็นลูกติดเมียใหม่พ่อคนน้อง)

- คุยไปคุยมาเลยได้รู้กันว่าอีหนูเป็นใคร อีหนูก็ตะคอกใส่แม่คนน้องว่าแม่หนูไม่ได้ไปแย่งแฟนป้ามาซักหน่อย "ก็แม่หนูเพิ่งมารู้จักกับพ่อก็ 2 ปีหลังจากพ่อหย่ากับป้าแล้วนี่นา"

- คราวนี้แม่คนน้องเป็นฝ่ายตะลึงไปบ้าง เพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย พ่อคนน้องที่ยืนฟังอยู่ในครัวมาตลอดได้ยินแบบนั้นจึงตัดสินใจออกมาเผชิญหน้ากับเมียเก่าตัวเอง แล้วเล่าความจริงให้ฟังทั้งหมดว่าเป็นยังไงมายังไงกันแน่

- ซึ่งความจริงแล้วที่พ่อคนน้องหย่ากับแม่คนน้องนั้นไม่ใช่เพราะหนีตามผู้หญิงอื่นไป แต่เป็นเพราะปัญหาหนี้เงินกู้ต่างหาก

- โดยสาเหตุของปัญหานั้นมาจากตอนเปิดร้านครั้งแรกสมัยยังอยู่กับแม่คนน้อง โดยช่วงแรกนั้นกิจการไปได้สวยก็จริง แต่พอนานเข้าลางล่มจมก็ค่อยๆ ปรากฏให้เห็น พ่อคนน้องพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายเอาตัวรอดทุกทาง ไปกู้โน่นยืมนี่มาจากที่โน่นที่นี่ จนหนี้คั่งค้างพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นหนี้ก้อนมหาศาลจนดูไม่มีทีท่าว่าจะชดใช้ได้

- ดังนั้นเพื่อไม่ให้ครอบครัวต้องมาลำบากไปด้วย พ่อของคนน้องจึงตัดสินใจกุเรื่องตัวเองมีใหม่แล้วมาโกหกแม่ ทำให้แม่โกรธจนยอมเซ็นใบหย่า กลายเป็นข้อเข้าใจผิดระหว่างพ่อกับแม่คนน้องมาจนถึงทุกวันนี้


- ฝ่ายแม่คนน้องได้รู้ความจริงเป็นครั้งแรกก็เบิกตาค้างอย่างตะลึง ก่อนจะนิ่วหน้าลงอย่างเจ็บปวดบอกว่ามาพูดเอาป่านนี้จะให้ทำยังไงได้อีก

- จังหวะนี้เอง พ่อพระเอกที่นั่งเงียบตลอดรายการก็แสดงความแมน ด้วยการบอกแม่คนน้องอย่างอ่อนโยนว่า เท่านี้แม่คนน้องก็มีชีวิตอยู่โดยไม่รังเกียจความทรงจำที่มีร่วมกับแฟนเก่าได้แล้วนะ

- คำพูดของพ่อพระเอกทำเอาคุณแม่เบิกตากว้าง ก่อนจะก้มหน้าลง หยิบช้อนมาตักทีรามิสุของคนน้องกินทั้งน้ำตาในที่สุด


- หลังเคลียร์เรื่องกับทั้งพ่อและแม่เสร็จ ก็ได้เวลาที่คนน้องจะกลับบ้าน

- คุณแม่ก็ขอบคุณพ่อคนน้องที่ช่วยดูแลคนน้องมาตลอด และฝากฝังให้ช่วยดูแลคนน้องต่อไปด้วย ซึ่งตาพ่อก็ตกปากรับคำอย่างเต็มใจ

- แล้วทั้งครอบครัวก็ชวนกันกลับบ้านไป ท่ามกลางท้องฟ้าหลังฝนอันปลอดโปร่งและสว่างไสว










ก็ตามนี้แฮะสำหรับตอนนี้

สรุปว่าดราม่าระหว่างพ่อแม่คนน้องนี่ง่ายกว่าที่คิดแฮะ นึกว่าจะมีอะไรซับซ้อนวุ่นวายกว่านั้นซะอีก แต่ดูจากที่ผ่านๆ มาที่ดราม่าตัวละครมักยาวไม่เกินสามสี่ตอนแล้ว จะเดินเรื่องง่ายๆ แบบนี้ก็ไม่แปลกเลย

อนึ่ง ได้ข่าวว่าตอนใหม่อาทิตย์หน้าจะมีหน้าเพิ่ม + ภาพสีด้วย คงต้องรอดูกันแฮะว่าเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงต่อไป


แต่ไม่รู้จะมีโอกาสได้เขียนรึเปล่าแฮะ เพราะผมต้องไปรัสเซียตั้งแต่วันพฤหัสนี้ยันพฤหัสหน้าโน่นเลย

เอาเป็นว่าถ้าหาจังหวะได้จะมาเขียนนะครับ