สำหรับวันนี้ผมเองก็อยากจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟัง สำหรับชีวิตเด็กวัยรุ่นหนึ่งคน ที่เลือกทางเดินของชีวิตตัวเอง มาสู่เส้นทางของทหาร เผื่อน้องๆคนไหนที่อยากมีอาชีพเป็นทหาร อ่านแล้วจะนำไปประกอบการตัดสินใจ ในอนาคต และหลายๆท่านเองก็จะได้รู้ว่า ก่อนที่จะมาเป็นนายทหารสัญญาบัตรนั้น ได้ผ่านอะไรมาบ้าง การดำเนินชีวิตเป็นมาอย่างไร
ประวัติและชีวิตก่อนที่จะสอบได้ สามารถข้ามได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เริ่มต้นด้วยผม เป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง พ่อแม่เป็นข้าราชการครู (เป็นครูน้อยด้วย) ซึ่งถือได้ว่าผมเป็นคนชนชั้นกลาง ค่อนข้าง ลงล่าง เพราะเหล่ากอผม ปู่ย่า ตายาย เป็นเกษตรกร ผมอาศัยอยู่ในอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดทางภาค อิสาน ที่เล่าให้ฟังพื้นเพให้ฟังเพราะอยากทำลายความคิดที่ว่า พวกนายร้อยมีแต่เด็กเส้น ลูกคนใหญ่คนโต อยากจะบอกว่า รุ่นผม ร้อยกว่าคน พ่อเป็นคนมียศศักดิ์ใหญ่ น่าจะแค่ 5 คนได้มั้ง
ประวัติการเรียนของผมนั้น ประถมเรียนโรงเรียนประจำอำเภอถึง ป.4 จากนั้นเข้ามาต่อในเมือง จนกระทั่งสอบได้ครับ ผลการเรียนนั้น ประถม ถึง มัธยมต้น ถือว่าผมเรียนได้ดี เคยมีช่วง ป.6 ผมเคยเป็นตัวแทนตอบปัญหาของโรงเรียนด้วยนะ ตอนอยู่บ้านนอก คนชอบพูดว่าผมเรียนเก่งเพราะเป็นลูกครู ผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวนะ เพราะลูกครูคนอื่น ก็ไม่เห็นเก่งเท่าผม ที่สำคัญ พ่อผมสอนพละ แม่ผมสอนคหกรรม ตัดเย็บ ผมยังมองไม่ออกว่าจะเกี่ยวกันยังไง พอขึ้น ม.ปลาย ผมเองก็ทำผลการเรียนได้ในระดับ ปานกลางมั้ง เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7 - 2.8 แถมยังเป็นคนขี้เกียจด้วย เล่นกีฬาก็ไม่เก่ง ร่างการก็ผอมแห้ง ผมเป็นคนที่สูงนะ เพราะพ่อผมสูง แต่ผมผอมมาก
อาชีพที่ผมใฝ่ฝันในตอนนั้นคือ วิศวกร (ช่วงสมัยผมอาชีพนี้เป็นที่นิยมมาก) ไม่เคยคิดที่จะมาเป็นทหารหรอกครับ จุดเริ่มต้นของการเป็นทหารของผมอยู่ที่ ตอน ม.4 เพื่อนผมคนหนึ่ง อยากเป็นทหารมาก เป็นคนที่ฟิตมากๆ หุ่นดี หล่อ ด้วยเหตุที่เค้าชอบที่จะเป็นทหาร เพื่อนๆเลยเรียกเค้าว่า "หมวด" หมวดเป็นคนที่ชักชวนผมไปสอบเข้า เตรียมทหาร ซึ่งผมเองก็เคยได้ยินแต่ชื่อ ก็ไม่รู้ว่า เป็นยังไง หลังๆเลยเริ่มศึกษาข้อมูล ก็พอแค่รู้ว่า จบมาจะได้เป็น นายร้อย
เมื่อเรียนจบ ม.4 หมวดเลยพาผมเข้า กทม.ไปติวเพื่อสอบเข้าเตรียมทหาร ผมก็ขอเงินพ่อแม่ไป จำได้คร่าวๆว่าค่าเรียนราวๆหมื่นๆต้น พ่อแม่ผมก็กลั้นใจ ให้เงินมาสมัครเรียน ซึ่งพอเข้ากรุงมา ผมเองก็ไม่ค่อยได้ตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่ ร่างกายก็อ่อนแอ ก็เป็นไปตามความคาดหมาย สอบไม่ติดครับ ทั้งผม และหมวด แต่การติวครั้งนี้ มันเปิดโลกผมในหลายๆด้าน มันทำให้ผมตั้งเป้าว่า ผมจะต้องเป็นทหารให้ได้ พอกลับมาเรียน ม.5 ถ้าเป็นเด็กที่มุ่งมั่นจริง ก็คงต้องทุ่มเทให้มากขึ้น แต่....... ไฟของผมมันมอดลงที่หมอชิตครับ ผมทิ้งความมุ่งมั่นไว้ที่ กรุงเทพ ช่วงเรียน ม.5 ผมก็ยังเป็นคนเดิม เกรด สองกว่าๆ ขี้เกียจ อ่อนแอ และยังอยากเป็นวิศวกร เหมือนเดิม พอจบ ม.5 เพื่อนๆก็ชวนมาสอบอีกครั้งครับ และก็เช่นเดิม ขอเงินแม่มาติว แต่ค่าเรียนคราวนี้ถูกลง ผมมาติวที่ใหม่ ที่โคราช เพื่อนชื่อ โอ้ เป็นคนชวนมา เพราะโอ้บอกว่าที่นี่ดี ราคาไม่แพง (ดีจริงทำไมเมิงสอบไม่ได้ฟระ) โอ้เองก็เป็นลูกทหาร พ่อโอ้ เป็นสัสดีจังหวัด ผมก็ค่อนข้างเชื่อมั่นเลยตามโอ้มา
แต่ครั้งนี้ต่างจากปีที่แล้วตรงที่ ผมมุ่งมั่นมากขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น ( ก็มีโอกาสแค่ปีนี้ ) ช่วงโค้งสุดท้าย ผมอ่านหนังสือหนักมาก ตีสองตีสามถึงจะได้นอน ตื่นเช้ามาออกกำลังกายอีก ผมสมัครสอบทุกเหล่า ผมมีประสบการณ์สนามสอบจากปีที่แล้ว ทั้งแนวข้อสอบ เทคนิคต่างๆ ผมเตรียมมาอย่างดี ลำดับการสอบในปีนี้ คือ ทร. ทบ. ทอ. ตร. พอจบการสอบในเหล่า ทร. ผมเดินยิ้มออกมาจากห้องสอบ เพราะผมรู้สึกว่า ผมทำได้ และน่าจะสอบติด ( แต่ ที่ผมอยากเป็นมากที่สุดคือ ทหารอากาศ เหตุผลมี 2 ข้อ คือ 1.ที่บ้านผมมีกองบิน ผมอยากมาทำงานใกล้บ้าน และก่อนมาสอบ ผมอยากเป็นแบบเหินฟ้า 2.เป็นที่ลือๆกันในหมู่เพื่อนๆว่า ทหารบก กับ ทหารเรือ ฝึกค่อนข้างหนัก เพื่อนผมชื่อ โจอี้ มีพี่ชายเป็นทหารเรือ เล่าให้ฟังว่า พี่ชายนี่ล่ำ แข็งแรงมาก ท่าทางจะฝึกหนักมากแน่ๆ ) ดังนั้นปีนี้ ผมน่าจะสอบติด ทหารอากาศแน่ๆ 5555 ผมยิ้มในใจ ตอนเดินออกจากห้องสอบ
แต่ปรากฏว่า ความมั่นใจผมหายไป หลังจากทำข้อสอบของ ทบ. เพราะว่า ผมทำข้อสอบไม่ได้เลย ยากมากๆ ทั้งๆที่ก็เนื้อหาเดียวกัน มันทำให้ผมหวั่นใจ ไม่มั่นใจแล้วในการสอบของ ทอ. ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ผมทำข้อสอบของเหล่าที่เหลือไม่ได้เลย หลังจากสอบเสร็จ พวกเราก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านนอก ผมเองก็กลับบ้านพักผ่อน หลังจากเครียดมาหลายวัน เมื่อใกล้ถึงวันประกาศผล พวกเราจะมารวมตัวกันที่โรงเรียนติวอีกครั้ง เพื่อที่จะเดินทางไปดูผลสอบที่ กทม.พร้อมๆกัน แต่ในคืนก่อนหน้าวันประกาศผลนั้น ก็ได้มีการประกาศผลสอบรอบแรกออกมาอย่างไม่เป็นทางการทางเว็บไซด์ เพื่อนผมคนหนึ่งรีบวิ่งมาบอกว่า คุ้นๆเหมือนเห็นรหัสสอบของผมอยู่ในผลประกาศ ตอนนั้นผมกำลังปวดหลังอยู่พอดี เดินแทบไม่ได้ แต่ด้วยความอยากรู้ เลยต้องกระกระสนไปร้านเนต ซึ่งก็คุ้มค่า ใช่ครับ ผมสอบติดรอแรก เหล่า ทร. ซึ่งผมดีใจมาก แต่ในความดีใจนั้นก็ปนกันกับความเครียดและกังวล เพราะตอนนั้น ผมปวดหลังมาก กลัวว่าจะไปสอบรอบสองไม่ได้ ผมไปหาหมอ หมอบอก กล้ามเนื้อหลังผมอักเสบ ผมต้องพพักอยู่อาทิตย์ กว่าจะออกกำลังกายได้ ผมเครียด กลัวฟิตไม่ทัน เพราะที่บอกไปตอนต้น ผมเป็นคนผอม อ่อนแอ ขี้ก้างมากๆ แต่ผมก็ใช้เวลาที่มี ในการฟิตร่างกายให้ได้มากที่สุด จนในที่สุด ผมก็สอบติด ได้เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพเรือครับ วันที่ประกาศผล ผมเดินทางมากับพ่อ พ่อผมเป็นคนเข้าไปดูผลสอบให้ แล้วเดินกลับมา พร้อมใบหน้าที่ดีใจ พ่อผมยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับพูดว่า " เยี่ยมมากลูก เก่งมาก" ในที่สุดผมก็ทำได้แล้วครับ
ก่อนเข้าไปเรียนเตรียมทหารผมขอเล่านิดนึงครับ ถึงความเปิ่นของตัวเอง วันที่ประกาศผลสอบ หลายคนใส่ชุดนักเรียนไปดูผล และมีการรายงานตัวครั้งแรกในวันนั้น แต่ๆๆ มีไอ้บ้าอยู่คนหนึ่ง ผอมๆสูงๆ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืดย้วยๆ ตัวดำๆ นั่งอยู่ในกลุ่ม บรรดาชุดนักเรียน แต่ก็ยังไม่เขิน เพราะมีคนแบบผมด้วย อีกคน ซึ่งทุกวันนี้ก็เป็นเพื่อนสนิทผมอีกหนึ่งคนครับ
เป็น นตท.แล้ว
เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร ออกตัวก่อนว่าจำรายละเอียดค่อนข้างไม่ได้แล้ว แต่จะพยายามเล่าให้ละเอียดที่สุดก็แล้วกัน
เมื่อเข้ามาอยู่โรงเรียนเตรียมทหารนะครับ นักเรียนทุกคนจะได้รับแจกข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว แทบทุกอย่าง เรียกง่ายคือ ไปแต่ตัวและกางเกงในครับ ที่เหลือโรงเรียนแจกหมด สมัยผม นตท. ไม่ได้เงินเดือนครับ โทรศัพท์ไป โฟนการ์ด ในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะมีการเปิดการศึกษา นตท.จะได้รับการฝึกขั้นพื้นฐาน บุคคลท่ามือเปล่า และฝึกระเบียบวินัยเบื้องต้น ทั้งวัน ครับ กลางแดด ลานฝึก เป็นลานปูน อยู่ระกว่างตึก กองพัน สองกองพัน ชุดที่ใส่ฝึกยังคงเป็นชุดนักเรียนเดิมที่ใส่มาวันรายงานตัวครับ เพียงแต่เลาะชื่อออกให้หมด ติดกระดุมทุกเม็ด ฝึกกลางแดดร้อนๆ ชุดที่ได้แจกชุดแรกคือ ชุดกีฬาครับ สมัยนั้นเป็นเสื้อคอม่วง กางเกงพละแบบรัดกะปู๋ รองเท้ากีฬา แพน(มั้ง) สีขาว
นตท. รุ่นผม ทั้งสี่เหล่า มีจำนวนทั้งหมด เจ็ดร้อยกว่าคน โดยจะแบ่งเป็น 2 กองพัน กองพันละ 3 กองร้อย กองร้อยละ 3 หมวด โดยหนึ่งหมวด จะมี นตท. ราวๆ 40 กว่า คนครับ โดยในแต่ละหมวดนี่เอง ก็จะเป็น "ตอน" ด้วยไปในคราวเดียวกันครับ เช่น หมวด 1 ร้อย 1 พัน 1 ก็คือ ตอน 1 คำว่าตอนนี้ คือ เอาไว้แบ่ง ห้องเรียนครับ เช่น ชั้น 1 ตอน 1 ก็คือ ชั้นปีที่ 1 ห้องที่ 1 ใช้สำหรับเรียก เวลาเรียนหนังสือครับ ในรุ่นผม อยู่ในสังกัด กองพัน นตท.ที่ 1 และ 3 ครับ เรียกสั้นๆว่า พัน 1 กับ พัน 3 นะครับ ส่วนรุ่นพี่ ปี 2 ก็จะเป็น พัน 2 และ พัน 4
พัน 1 จะประกอบด้วย ตอนที่เป็นเลข คี่ ครับ ส่วนพัน 3 จะเป็น ตอน เลขคู่ ตัวผมเองได้อยู่สังกัด หมวด 2 ร้อย 2 พัน 1 ซึ่งก็คือตอน 11 นั่นเอง
ในแต่ละกองพัน ก็จะมีนายทหารควบคุมดูและตามสังกัด โดยจะมีผู้หมวด ทหารเรือ ผู้หมวด ตำรวจ ผู้หมวด ทหารอากาศ (อย.) ทั้งสามเหล่านี้เพิ่งจบมาใหม่ๆ สดๆร้อนๆจากโรงเรียนเหล่าครับ ส่วนทหารบก ก็จะมีบ้างบางปี ก็จะมีร้อยๆโทหลุดๆมาบ้าง ระดับผู้กอง ก็จะปะปนกันไป มีทุกเหล่าทัพ ส่วนผู้พัน ทั้งสี่ กองพัน ก็จะเรียงกับกันจามอาวุโสเหล่าทัพเลยครับ บก เรือ อากาศ และ ตำรวจ นายทหารเหล่านี้จะมีหน้าที่ดูแลพวกเราในส่วนของกรมนักเรียนครับ โดยมีผู้ช่วยเป็นนักเรียนบังคับบัญชา หรือ commander student เรียกสั้นๆว่า คอมแมนครับ ตัวคอมแมนนี้ ก็จะเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 2 ที่ได้รับ การคัดเลือกมา และได้รับ "การฝึก" การบังคับบัญชา ในช่วงปิดเทอม ไม่ใช่จะเอาใคร มาเป็นก็ได้นะครับ ตัวคอมแมนเองก็จะมีตำแหน่งตามสังกัดที่ว่ามาข้างต้น หัวหน้านักเรียน หัวหน้ากองพัน หัวหน้ากองร้อย หัวหน้าหมวด หัวหน้าหมู่เค้าจะไม่ค่อยเรียกกันครับ จะเรียกว่า ผู้ช่วยครู มากกว่า ส่วนนักเรียนที่เป็นหัวหน้าชั้นเรียน เรียกว่า หัวหน้าตอน ส่วนเครื่องหมายแสดงตำแหน่งต่างๆ ถ้าใครอยากทราบลองค้นกูเกิ้ลดูเลยจ๊ะ
เข้าไปในช่วงแรกๆ เราจะได้รับสิทธิแค่เป็นนักเรียนใหม่ครับ สัปดาห์แรกๆ ก็จะมีกางเกงหลากสีหน่อย เพราะยังไม่ได้รับแจกเครื่องแบบ ชุดที่ใช้ฝึกก็จะเป็นเสื้อยืดคอกลม เอาปากกาเมจิก มาเขียนชื่อที่หน้าอก ชื่อ นามสกุลย่อ สังกัด โดยบรรดา คอมแมนนี่แหละครับจะมาฝึกให้ เหมือฝึก รด.ครับ ช่วงแรก ฝึกกลางลานปูนอย่างเดียว เหนื่อยมากๆครับช่วงนี้ เพราะเป็นจุดเปลี่ยนระหว่าง พลเรือนวัยรุ่น กับทหาร ผมจำได้ว่ามีครั้งนึงระหว่างนั่งรอจัดการทางธุรการสักอย่าง นั่งราบต่อกันเป็นแถวอยู่กลางแดด นตท.หลายคนสามารถหลับได้ครับ ซึ่งก็ไม่ต่างจากทหารอื่นๆ ที่ตอนฝึก ถ้ามีช่วงอยู่นิ่งๆได้นี่ หลับเอาแรงไว้ก่อนครับ " นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็น - " ช่วงนี้มีคนไม่ไหวกันหลายคนครับ ทั้งใจไม่สู้ ร่างกายไม่ไหว ได้รับบาดเจ็บก็มี ช่วงนี้ใครอยากลาออก ลาได้ครับ ไม่เสียค่าปรับ ในตอนผม มีลาออกไปหนึ่ง หัวหน้าตอนผมเอง เนื่องจากเจ็บเข่า ฝึกต่อไม่ไหว (ทนไม่ได้ ก็ลาออกไป 555 คอมแมนชอบพูด)
ทหาร หรือนักเรียนทหารทุกคน จะมีตารางการปฏิบัติประจำวันครับ เรียกว่า รปจ. = ระเบียบปฏิบัติประจำวัน ซึงของนักเรียนใหม่ (คร่าวๆ นะครับ ลืมแล้ว )ก็จะเป็นดังนี้
0530 ตื่นนอน
0545 รวมแถว ออกกำลังกาย (วิ่ง , PT )
0700 ส่วนตัว
0715 แถว ไปทานข้าว
0800 เคารพธงชาติ แล้วก็ฝึกถึงเที่ยงครับ
1200 ทานข้าว
1300 ฝึก
1630 เลิกฝึก เตรียมออกกำลังกาย
1730 ทานข้าว
1800 เคารพธง เวลาส่วนตัว
1900 เข้าห้องเรียน อบรม ชี้แจง
2000 สวดมนต์ หลังจากสวดมันแล้ว ก็เป็นชั่วโมงคนหนุ่มจนกว่า คอมแมนจะเลิก 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม เที่ยงคืน ครับ
ก่อนที่ผมจะมาเป็นนายทหาร
ประวัติและชีวิตก่อนที่จะสอบได้ สามารถข้ามได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็น นตท.แล้ว
เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร ออกตัวก่อนว่าจำรายละเอียดค่อนข้างไม่ได้แล้ว แต่จะพยายามเล่าให้ละเอียดที่สุดก็แล้วกัน
เมื่อเข้ามาอยู่โรงเรียนเตรียมทหารนะครับ นักเรียนทุกคนจะได้รับแจกข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว แทบทุกอย่าง เรียกง่ายคือ ไปแต่ตัวและกางเกงในครับ ที่เหลือโรงเรียนแจกหมด สมัยผม นตท. ไม่ได้เงินเดือนครับ โทรศัพท์ไป โฟนการ์ด ในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะมีการเปิดการศึกษา นตท.จะได้รับการฝึกขั้นพื้นฐาน บุคคลท่ามือเปล่า และฝึกระเบียบวินัยเบื้องต้น ทั้งวัน ครับ กลางแดด ลานฝึก เป็นลานปูน อยู่ระกว่างตึก กองพัน สองกองพัน ชุดที่ใส่ฝึกยังคงเป็นชุดนักเรียนเดิมที่ใส่มาวันรายงานตัวครับ เพียงแต่เลาะชื่อออกให้หมด ติดกระดุมทุกเม็ด ฝึกกลางแดดร้อนๆ ชุดที่ได้แจกชุดแรกคือ ชุดกีฬาครับ สมัยนั้นเป็นเสื้อคอม่วง กางเกงพละแบบรัดกะปู๋ รองเท้ากีฬา แพน(มั้ง) สีขาว
นตท. รุ่นผม ทั้งสี่เหล่า มีจำนวนทั้งหมด เจ็ดร้อยกว่าคน โดยจะแบ่งเป็น 2 กองพัน กองพันละ 3 กองร้อย กองร้อยละ 3 หมวด โดยหนึ่งหมวด จะมี นตท. ราวๆ 40 กว่า คนครับ โดยในแต่ละหมวดนี่เอง ก็จะเป็น "ตอน" ด้วยไปในคราวเดียวกันครับ เช่น หมวด 1 ร้อย 1 พัน 1 ก็คือ ตอน 1 คำว่าตอนนี้ คือ เอาไว้แบ่ง ห้องเรียนครับ เช่น ชั้น 1 ตอน 1 ก็คือ ชั้นปีที่ 1 ห้องที่ 1 ใช้สำหรับเรียก เวลาเรียนหนังสือครับ ในรุ่นผม อยู่ในสังกัด กองพัน นตท.ที่ 1 และ 3 ครับ เรียกสั้นๆว่า พัน 1 กับ พัน 3 นะครับ ส่วนรุ่นพี่ ปี 2 ก็จะเป็น พัน 2 และ พัน 4
พัน 1 จะประกอบด้วย ตอนที่เป็นเลข คี่ ครับ ส่วนพัน 3 จะเป็น ตอน เลขคู่ ตัวผมเองได้อยู่สังกัด หมวด 2 ร้อย 2 พัน 1 ซึ่งก็คือตอน 11 นั่นเอง
ในแต่ละกองพัน ก็จะมีนายทหารควบคุมดูและตามสังกัด โดยจะมีผู้หมวด ทหารเรือ ผู้หมวด ตำรวจ ผู้หมวด ทหารอากาศ (อย.) ทั้งสามเหล่านี้เพิ่งจบมาใหม่ๆ สดๆร้อนๆจากโรงเรียนเหล่าครับ ส่วนทหารบก ก็จะมีบ้างบางปี ก็จะมีร้อยๆโทหลุดๆมาบ้าง ระดับผู้กอง ก็จะปะปนกันไป มีทุกเหล่าทัพ ส่วนผู้พัน ทั้งสี่ กองพัน ก็จะเรียงกับกันจามอาวุโสเหล่าทัพเลยครับ บก เรือ อากาศ และ ตำรวจ นายทหารเหล่านี้จะมีหน้าที่ดูแลพวกเราในส่วนของกรมนักเรียนครับ โดยมีผู้ช่วยเป็นนักเรียนบังคับบัญชา หรือ commander student เรียกสั้นๆว่า คอมแมนครับ ตัวคอมแมนนี้ ก็จะเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 2 ที่ได้รับ การคัดเลือกมา และได้รับ "การฝึก" การบังคับบัญชา ในช่วงปิดเทอม ไม่ใช่จะเอาใคร มาเป็นก็ได้นะครับ ตัวคอมแมนเองก็จะมีตำแหน่งตามสังกัดที่ว่ามาข้างต้น หัวหน้านักเรียน หัวหน้ากองพัน หัวหน้ากองร้อย หัวหน้าหมวด หัวหน้าหมู่เค้าจะไม่ค่อยเรียกกันครับ จะเรียกว่า ผู้ช่วยครู มากกว่า ส่วนนักเรียนที่เป็นหัวหน้าชั้นเรียน เรียกว่า หัวหน้าตอน ส่วนเครื่องหมายแสดงตำแหน่งต่างๆ ถ้าใครอยากทราบลองค้นกูเกิ้ลดูเลยจ๊ะ
เข้าไปในช่วงแรกๆ เราจะได้รับสิทธิแค่เป็นนักเรียนใหม่ครับ สัปดาห์แรกๆ ก็จะมีกางเกงหลากสีหน่อย เพราะยังไม่ได้รับแจกเครื่องแบบ ชุดที่ใช้ฝึกก็จะเป็นเสื้อยืดคอกลม เอาปากกาเมจิก มาเขียนชื่อที่หน้าอก ชื่อ นามสกุลย่อ สังกัด โดยบรรดา คอมแมนนี่แหละครับจะมาฝึกให้ เหมือฝึก รด.ครับ ช่วงแรก ฝึกกลางลานปูนอย่างเดียว เหนื่อยมากๆครับช่วงนี้ เพราะเป็นจุดเปลี่ยนระหว่าง พลเรือนวัยรุ่น กับทหาร ผมจำได้ว่ามีครั้งนึงระหว่างนั่งรอจัดการทางธุรการสักอย่าง นั่งราบต่อกันเป็นแถวอยู่กลางแดด นตท.หลายคนสามารถหลับได้ครับ ซึ่งก็ไม่ต่างจากทหารอื่นๆ ที่ตอนฝึก ถ้ามีช่วงอยู่นิ่งๆได้นี่ หลับเอาแรงไว้ก่อนครับ " นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็น - " ช่วงนี้มีคนไม่ไหวกันหลายคนครับ ทั้งใจไม่สู้ ร่างกายไม่ไหว ได้รับบาดเจ็บก็มี ช่วงนี้ใครอยากลาออก ลาได้ครับ ไม่เสียค่าปรับ ในตอนผม มีลาออกไปหนึ่ง หัวหน้าตอนผมเอง เนื่องจากเจ็บเข่า ฝึกต่อไม่ไหว (ทนไม่ได้ ก็ลาออกไป 555 คอมแมนชอบพูด)
ทหาร หรือนักเรียนทหารทุกคน จะมีตารางการปฏิบัติประจำวันครับ เรียกว่า รปจ. = ระเบียบปฏิบัติประจำวัน ซึงของนักเรียนใหม่ (คร่าวๆ นะครับ ลืมแล้ว )ก็จะเป็นดังนี้
0530 ตื่นนอน
0545 รวมแถว ออกกำลังกาย (วิ่ง , PT )
0700 ส่วนตัว
0715 แถว ไปทานข้าว
0800 เคารพธงชาติ แล้วก็ฝึกถึงเที่ยงครับ
1200 ทานข้าว
1300 ฝึก
1630 เลิกฝึก เตรียมออกกำลังกาย
1730 ทานข้าว
1800 เคารพธง เวลาส่วนตัว
1900 เข้าห้องเรียน อบรม ชี้แจง
2000 สวดมนต์ หลังจากสวดมันแล้ว ก็เป็นชั่วโมงคนหนุ่มจนกว่า คอมแมนจะเลิก 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม เที่ยงคืน ครับ