จะว่าไปแล้ว สิ่งที่คนเรากลัวที่สุด คงจะเป็นการจากลา ไม่ว่าคุณหรือเค้าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม ชีวิตคนเราเกิดได้ก็ดับได้ อยู่ที่ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด แบบที่ว่าไม่มีอะไรมาเทียบได้ ตอนที่ร่างกายยังแข็งแรง ยังดำรงอยู่ได้ ทำดีต่อกันไว้ เมื่อจากไปก็จะมีแต่ความรู้สึกที่ดี แต่ทั้งนี้ก็จะต้องไม่ใช่อาลัยอาวรณ์ เพราะคนที่เจ็บปวดที่สุด คือ คนอยู่ไม่ใช่คนที่จากไป การที่เราจะมีชีวิตอยู่อย่างไม่ทุกข์ใจ สำคัญที่สุดคือจิตใจของเราเอง ต้องเข้าใจธรรมชาติของชีวิต ต้องเข้าความจริงที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเสียใจมากแค่ไหนก็ไม่สามารถห้ามการจากไปนั้นๆได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ต้องเข้าใจและยอมรับ หากตัวเรานั้นสามารถใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันได้ เราจะมีความสุขอย่างแท้จริง ไม่มัวนึกถึงแต่เรื่องอดีต ไม่มัวคิดถึงอนาคต จนทำให้ปัจจุบันของเราแย่ลง
เป็นเรื่องปกติ ที่คนเรามักจะนั่งเสียใจอยู่กับอดีต เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะเครียดเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ความคิดเหล่านั้นห้ามยาก แต่ก็ห้ามได้ เพียงแต่ให้ตัวเราเองนั้น มองตัวเองอยู่เสมอว่า ตอนนี้กำลังทำอะไร แล้วมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ใส่ใจกับปัจจุบันมากกว่าที่จะไปนั่งคิดว่า วันข้างหน้าจะอยู่ยังไง เปรียบเสมือนนักวางแผน ที่จะเครียดอยู่เสมอว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง จะต้องทำอะไร ทำแบบไหนดีที่สุด พออนาคตนั้นมาถึงก็จะนึกย้อนกลับไปว่ามันเป็นอย่างที่วาดฝันไว้มากแค่ไหน ซึ่งน้อยนักที่จะเป็นอย่างมที่ตั้งใจ เพราะสัจจะธรรม ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน เราเรียนรู้อดีตเพื่อที่จะอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข และวางอนาคตอย่างเข้าใจ ว่าสิ่งเหล่านั้นยังมาไม่ถึง ชีวิตช่างไม่แน่นอนเอาซะเลย คนที่เรารักจะอยู่กับเราไปจนถึงวันที่เราวาดฝันไว้ไหม ไม่มีใครรู้! ช่างน้ำหนักดู อะไรที่สำคัญ อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ถ้าปัจจุบันเราเสียใจ คนที่เรารักต้องจากไป ให้นึกอยู่เสมอว่า ความรู้สึกแบบนี้มันจะอยู่กับเราไม่นาน เพราะตราบใดที่เรายังใช้จมูกของตัวเองหายใจ แน่นอนที่สุดคือใครก็ไม่สามารถกินข้าวแทนเราแล้วเราอิ่มได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเขาต้องจากไป ก็จงเข้าใจ และอยู่ให้ได้ ร่างกายเค้าไม่ใช่ของเค้า ร่างกายเราก็ไม่ใช่ของเราเช่นกัน
ทำใจ
โถ่...ชีวิต!
เป็นเรื่องปกติ ที่คนเรามักจะนั่งเสียใจอยู่กับอดีต เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะเครียดเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ความคิดเหล่านั้นห้ามยาก แต่ก็ห้ามได้ เพียงแต่ให้ตัวเราเองนั้น มองตัวเองอยู่เสมอว่า ตอนนี้กำลังทำอะไร แล้วมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ใส่ใจกับปัจจุบันมากกว่าที่จะไปนั่งคิดว่า วันข้างหน้าจะอยู่ยังไง เปรียบเสมือนนักวางแผน ที่จะเครียดอยู่เสมอว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง จะต้องทำอะไร ทำแบบไหนดีที่สุด พออนาคตนั้นมาถึงก็จะนึกย้อนกลับไปว่ามันเป็นอย่างที่วาดฝันไว้มากแค่ไหน ซึ่งน้อยนักที่จะเป็นอย่างมที่ตั้งใจ เพราะสัจจะธรรม ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน เราเรียนรู้อดีตเพื่อที่จะอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข และวางอนาคตอย่างเข้าใจ ว่าสิ่งเหล่านั้นยังมาไม่ถึง ชีวิตช่างไม่แน่นอนเอาซะเลย คนที่เรารักจะอยู่กับเราไปจนถึงวันที่เราวาดฝันไว้ไหม ไม่มีใครรู้! ช่างน้ำหนักดู อะไรที่สำคัญ อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ถ้าปัจจุบันเราเสียใจ คนที่เรารักต้องจากไป ให้นึกอยู่เสมอว่า ความรู้สึกแบบนี้มันจะอยู่กับเราไม่นาน เพราะตราบใดที่เรายังใช้จมูกของตัวเองหายใจ แน่นอนที่สุดคือใครก็ไม่สามารถกินข้าวแทนเราแล้วเราอิ่มได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเขาต้องจากไป ก็จงเข้าใจ และอยู่ให้ได้ ร่างกายเค้าไม่ใช่ของเค้า ร่างกายเราก็ไม่ใช่ของเราเช่นกัน