ในยุคโซเชียลมีเดีย ผู้คนรู้จักการใช้แอพ และซื้อของออนไลน์กันหมดแล้ว นั่นทำให้ธุรกิจวงการหนังสือได้เริ่มเปลี่ยนโฉมหน้าไป เรามาถึงยุคที่ใครๆก็เป็นนักเขียนได้ โดยที่ไม่มีข้อจำกัด เพราะ eBook ทำให้ต้นทุนทางกระบวนการพิมพ์และเวลาในการรอคอยสำนักพิมพ์หมดไป
แม้เป็นคนธรรมดา คุณเองก็สามารถเป็นเจ้าของ EBook ระดับ Best Seller ได้
ขอแค่มีเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือ “ความรู้ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้คน”
ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องอะไรก็ตาม เชื่อไหมถ้ามันแก้ปัญหาให้เค้าได้ มีคนรออ่านอยู่ เช่น การเลี้ยงกิ้งก่า ทำขนม นวดน้ำมัน ไปจนถึงการเล่นหุ้น เทรดค่าเงิน ธุรกิจนำเข้าส่งออกออนไลน์ มีคนต้องการรู้ในสิ่งที่คุณรู้ แล้วเค้ายังไม่รู้ เค้าจึงยอมจ่ายเงินเพื่อข้อมูลที่จะช่วยแก้ปัญหา และทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้นอย่างแน่นอน ขอแค่ให้มันเป็นประสบการณ์ที่คุณทำได้จริงๆและรู้จริงก็พอ
ในอดีตกว่าจะเขียนและออกหนังสือได้สักเล่ม อาจจะใช้เวลารวมถึง 2 ปี แต่วันนี้เราสามารถใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ก็พร้อมขายได้ ดังนั้นการเขียน EBook ขายเพื่อทำรายได้หลักแสน จึงเป็นเทรนด์ที่มาแรงมาก ต่อไปนี้เป็น 5 เหตุผล ที่ทุกคนสามารถ “พลิกชีวิต ด้วยธุรกิจหนังสือ” ได้
1. EBook คือธุรกิจส่วนตัว ที่ต้นทุนต่ำ ไม่มีความเสี่ยง
ธุรกิจส่วนตัวแบบเดียว ที่คุณเริ่มได้เลย โดยไม่ต้องมีทุน
ในการจะเขียนหนังสือสักเล่ม ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรือไม่ ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเดียว ที่คุณไม่ต้องถึงกับกู้เงินไปลงทุน ไม่ต้องสต็อคสินค้า ไม่มีออฟฟิต ไม่ต้องจ้างใครเลย เพียงแค่คุณมีความรู้ ความคิด ที่จะช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้คนอื่นๆ และสามารถเขียนออกมาได้ เมื่อลงทุนต่ำ ก็ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีเจ๊งเด็ดขาด มีแต่ขายได้มากหรือน้อยเท่านั้น
ขอให้คุณมองว่า นี่เป็นธุรกิจส่วนตัว นั่นหมายถึง ไม่ใช่แค่เขียนแล้วจบ แต่การที่จะทำให้มันขายได้ ขายดี คุณจะต้องรับผิดชอบในหนังสือเล่มนี้ 100% ทำเนื้อหาให้ดี ออกแบบปกให้สวยงาม ทำการตลาดให้คนรู้จัก และที่สำคัญเลือกช่องทางวางจำหน่ายให้ซื้อง่ายขายคล่อง ตอนนี้มีหลายเวบเปิดให้คนทั่วไปวางผลงาน eBook ได้ฟรี เช่น Ookbee.com Naiin.com เป็นต้น
ถ้ารายได้ในไทยยังไม่พอใจ อาจจะแปลเป็น EBook ภาษาอังกฤษ แล้วลงขายในเวบ Amazon.com ขายไปทั่วโลกได้ด้วย คนไทยหลายๆคนก็ทำได้มาแล้ว
ookbee writer
เครดิตภาพจากเวบไซท์ ookbee.com
naiin
เครดิตภาพจากเวบไซท์ naiin.com
2. EBook เริ่มได้ทันที ไม่ต้องรอพร้อม
อย่ารอว่าจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในชีวิต ถึงจะเริ่มเขียนหนังสือ ไม่งั้นอีก 20 ปีไม่รู้จะได้เขียนมั้ย
หากคุณมีใจจะช่วยเหลือคน แม้ว่าคุณไม่ได้เป็นผู้รู้อันดับหนึ่งในเรื่องนั้นๆ แต่ถ้าคุณศึกษามันมามากพอ มีประสบการณ์ที่สามารถแบ่งปันได้ คุณเองก็สามารถเขียนหนังสือเพื่อช่วยเหลือคนอื่นได้แล้ว แม้ว่าวันนี้ คุณอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญแค่ระดับ 5 ในเรื่องนั้น คุณก็สามารถเขียนหนังสือเพื่อช่วยเหลือคนที่อยู่ในระดับ 1-4 ได้ วันหนึ่งที่คุณขยับเป็นระดับ 8 คุณก็จะช่วยเหลือคนระดับ 1-7 ได้
ประเด็นก็คือ มีคนมากมายที่รู้ไม่เท่าคุณ และพวกเค้าต้องการข้อมูลดีๆกับชีวิตเค้า ผมรู้จักนักเขียน Best Seller เรื่องหุ้นและการลงทุนท่านหนึ่ง เค้าแชร์ให้ฟังว่า เค้าเริ่มเขียนหนังสือเรื่องหุ้น ตั้งแต่ตัวเองยังไม่เปิดพอร์ทหุ้นด้วยซ้ำ แต่เค้ารวบรวมข้อมูลที่ดีที่สุด และศึกษาอย่างจริงจัง นำมาเขียนให้มือใหม่ด้วยกันอ่าน พอเค้ามั่นใจก็เริ่มเล่นหุ้น ในปีที่ 1-3 ก็เขียนอีกเล่ม และในวันที่รวยหุ้นแล้ว ก็ค่อยเขียนอีกเล่ม
ดังนั้นถ้ารอพร้อมก่อนคงไม่ได้เขียน ให้เริ่มเขียนตั้งแต่วันนี้เลย
3. EBook รับรายได้ ไม่จำกัดเพดาน
Ebook ตั้งราคาได้ตามคุณค่า ขายเล่มเป็นละ 1,000 ก็มีคนซื้อ ซื้อได้ไม่จำกัด และไม่มีเพดานรายได้
หากเขียนหนังสือส่งสำนักพิมพ์แล้วไปวางขายตามร้าน หนังสือหนา 200 หน้า คงขายได้อย่างมากก็ 200 บาท ถ้าขายแพงกว่านี้ ก็คงไม่มีคนซื้อ แต่เชื่อไหมครับว่า วันนี้ในตลาด eBook มีหนังสือหนาไม่ถึง 100 หน้า ขายราคา 950 บาท ! ไม่เชื่อไปดูได้ที่ ookbee.com ไม่แค่นั้น ยังติดอันดับหนังสือขายดี ต่อเนื่องยาวนานซะด้วย !!
นั่นเป็นเพราะผู้คนยอมจ่ายเงิน ให้กับข้อมูลที่เค้าต้องการ ผมได้คุยกับนักเขียนหนังสือเล่มนี้ เค้าบอกว่า 950 บาท นี่ยังถือว่าราคาถูกมากๆ เพราะความรู้นี้ คนอ่านไปทำเงินได้ทั้งชีวิต แค่วันเดียวก็เกินคุ้มแล้ว ก่อนหน้านี้เค้าพิมพ์ขายเองเล่มละ 4,900 ยังมีคนซื้อ !!!
ถ้าหนังสือของคุณมีคุณค่า ก็ตั้งราคาแบบนี้ได้ ขายหนังสือ 1,000 เล่ม ก็ได้เงินหลักล้านแล้ว สำหรับการเขียนหนังสือแค่เล่มเดียว
ข้อดีสุดๆในเรื่องนี้ก็คือ คนจะซื้อมากเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีข้อจำกัด ไม่มีวันหมดอายุ แล้วคุณก็ไม่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นสักบาท และรายได้คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาจากหนังสืออย่างเดียว อาจจะนำเนื้อหามาทำเป็น Audio Book คอร์สออนไลน์ สัมมนาอบรม ได้ทั้งหมด แค่เริ่มจากต้นฉบับหนังสือเล่มเดียวเท่านั้น
4. EBook คือ Passive Income ของแท้
Ebook คือเครื่องจักรผลิตเงินอัตโนมัติ ที่ปั๊มเงินให้คุณได้ ชั่วชีวิต
อย่างที่บอกไปว่า นี่คือธุรกิจส่วนตัว ดังนั้นลิขสิทธิ์ของ EBook จะเป็นของคุณแต่ผู้เดียว และทำให้คุณมีรายได้มากกว่าแค่ 10% เหมือนที่นักเขียนส่วนใหญ่ได้กัน นั่นเป็นเพราะไม่มีต้นทุนด้านจัดพิมพ์ และบางเวบก็สามารถวางขายได้ฟรี ไม่มีค่าวางขาย ทำให้คุณรับรายได้แบบเต็มๆ แทบจะไม่ต้องจ่ายอะไรเลย นอกจากการโปรโมทเพื่อทำตลาดหนังสือ
หากคุณทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเช่น Facebook และซื้อโฆษณา Google AdWords นั่นจะทำให้คนจำนวนมากเห็นหนังสือของคุณ จะมีคนที่สนใจจะสั่งซื้อ ดาวน์โหลด และรายได้จะเข้ากระเป๋าคุณทุกเดือน โดยที่คุณไม่ต้องรับออร์เดอร์ ไม่ต้องนั่งเฝ้าร้าน ไม่ต้องส่งของ ไม่ต้องติดต่อลูกค้าเลย
EBook เปรียบได้กับเครื่องจักรผลิตเงินอัตโนมัติ ที่ปั๊มเงินให้คุณเรื่อยๆไม่สิ้นสุด แบบนี้เรียกว่าเป็น Passive Income ของแท้ เพราะผลิตครั้งเดียว เก็บกินได้ชั่วชีวิต
ลิขสิทธิ์หนังสือ ส่งต่อไปถึงลูกถึงหลานด้วย ทำได้จริงและใช้เวลาไม่นาน หน้าที่เดียวของคุณคือ ผลิตมันให้มีคุณภาพในครั้งแรก นั่นจะทำให้ลูกค้ามั่นใจ บอกต่อ และกลับมาซื้ออีกในเล่มอื่นๆที่คุณเขียน
ebook-bundle
5. EBook สามารถต่อยอด ขยายโอกาส ที่คาดไม่ถึง
ต่อยอดจาก Ebook เป็นหนังสือเล่ม เพิ่มความน่าเชื่อถือ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
ผมไม่อยากให้คุณหยุดอยู่แค่ที่ Ebook อยากจะให้หาทางตีพิมพ์หนังสือพ็อคเก้ตบุ้คออกมาให้ได้ เพราะการต่อยอดเป็นหนังสือเล่มนั้น จะสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว สร้างโอกาสใหม่ๆที่คาดไม่ถึง
ในฐานะที่เขียนหนังสือมาหลายเล่ม ผมกล้าบอกเลยว่า รายได้จากหนังสือ เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น รายได้หลักและจำนวนมากที่นักเขียนได้ จริงๆแล้วก็คือ “โอกาสใหม่ๆ” ต่างหาก
โอกาสที่ว่าก็เช่น มีคน follow มีคนเชื่อถือเพราะอ่านหนังสือเรา ได้รับเชิญให้ออกสื่อ ได้รับเชิญไปบรรยาย ได้มีคอนเนคชั่นดีๆเพื่อต่อยอดงานและธุรกิจที่ทำอยู่ ซึ่งรวมๆแล้วแต่ละปี มากกว่าเงินเดือนหลายเท่าทีเดียว
จากประสบการณ์ตรง เมื่อ 10 ปีก่อน ในขณะที่ออกหนังสือเล่มแรก ผมอายุ 24 ตอนนั้นมีรายได้เดือนละไม่ถึงหมื่นบาท แต่โอกาสที่เข้ามาจากหนังสือ ทำให้ผมเป็นที่รู้จัก ได้เป็นคอลัมนิสต์ มีคนจ้างไปเป็นวิทยากรบรรยาย
ไม่กี่ปีหลังจากนั้น ผมก็เริ่มเปิดสัมมนาของตัวเองในวันเสาร์อาทิตย์ งานเสริมที่ทำในช่วงวันหยุดแบบนี้ เพิ่มรายได้ให้ผมไปแตะ 6 หลักทุกเดือน โดยที่ผมได้ทำในสิ่งที่รัก เลือกรับงานหรือปฏิเสธงานได้ และคนที่ติดต่อเข้ามาก็ให้ความเชื่อถือ ไม่เคยต่อราคาสักครั้ง
อย่ามองว่ามันเป็นแค่หนังสือ แต่มันคือ “นามบัตรทองคำ” เป็นโบรชัวร์พรีเมี่ยมทรงคุณค่า ที่จะอัพค่าตัวและรายได้ของคุณอย่างน้อย 5 เท่าทันที ที่สำคัญทำในช่วงว่างได้ งานประจำก็ไม่เสีย ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานมาเขียนหนังสือนะครับ
“โอกาส ก็เหมือน อากาศ” แม้ว่าเราจะมองไม่เห็น ใช่ว่ามันไม่มีอยู่จริง
นี่คือ 5 เหตุผล ชี้โอกาสรวย ด้วย EBook ตอนนี้เป็นยุคทองของคนตัวเล็กๆ ไม่ต้องดัง ก็เขียนหนังสือได้ รวยได้ และมีคนทำได้จริง
ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะได้พบโอกาสดีๆ และอยากแบ่งปัน อยากเห็นคนไทยเขียนหนังสือกันเยอะๆ ไม่อยากให้คุณพลาดโอกาสดีๆของชีวิตนะครับ
บทความหน้า ผมจะมาเล่าให้ฟังถึง “5 เคล็ดลับ รวยเงินล้าน จากงานเขียน” ยกจากตัวอย่างจริง ที่ผมทำได้มาแล้ว คอยติดตามนะครับ
บทความโดย เรือรบ โค้ชนักเขียนมือโปร
ติดตามพร้อมพูดคุยกับคุณเรือรบโดยตรงได้ที่
https://web.facebook.com/jinnat.p?ref=ts&fref=ts
5 เหตุผลที่คุณจะรวยด้วย Ebook
แม้เป็นคนธรรมดา คุณเองก็สามารถเป็นเจ้าของ EBook ระดับ Best Seller ได้
ขอแค่มีเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือ “ความรู้ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้คน”
ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องอะไรก็ตาม เชื่อไหมถ้ามันแก้ปัญหาให้เค้าได้ มีคนรออ่านอยู่ เช่น การเลี้ยงกิ้งก่า ทำขนม นวดน้ำมัน ไปจนถึงการเล่นหุ้น เทรดค่าเงิน ธุรกิจนำเข้าส่งออกออนไลน์ มีคนต้องการรู้ในสิ่งที่คุณรู้ แล้วเค้ายังไม่รู้ เค้าจึงยอมจ่ายเงินเพื่อข้อมูลที่จะช่วยแก้ปัญหา และทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้นอย่างแน่นอน ขอแค่ให้มันเป็นประสบการณ์ที่คุณทำได้จริงๆและรู้จริงก็พอ
ในอดีตกว่าจะเขียนและออกหนังสือได้สักเล่ม อาจจะใช้เวลารวมถึง 2 ปี แต่วันนี้เราสามารถใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ก็พร้อมขายได้ ดังนั้นการเขียน EBook ขายเพื่อทำรายได้หลักแสน จึงเป็นเทรนด์ที่มาแรงมาก ต่อไปนี้เป็น 5 เหตุผล ที่ทุกคนสามารถ “พลิกชีวิต ด้วยธุรกิจหนังสือ” ได้
1. EBook คือธุรกิจส่วนตัว ที่ต้นทุนต่ำ ไม่มีความเสี่ยง
ธุรกิจส่วนตัวแบบเดียว ที่คุณเริ่มได้เลย โดยไม่ต้องมีทุน
ในการจะเขียนหนังสือสักเล่ม ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรือไม่ ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเดียว ที่คุณไม่ต้องถึงกับกู้เงินไปลงทุน ไม่ต้องสต็อคสินค้า ไม่มีออฟฟิต ไม่ต้องจ้างใครเลย เพียงแค่คุณมีความรู้ ความคิด ที่จะช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้คนอื่นๆ และสามารถเขียนออกมาได้ เมื่อลงทุนต่ำ ก็ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีเจ๊งเด็ดขาด มีแต่ขายได้มากหรือน้อยเท่านั้น
ขอให้คุณมองว่า นี่เป็นธุรกิจส่วนตัว นั่นหมายถึง ไม่ใช่แค่เขียนแล้วจบ แต่การที่จะทำให้มันขายได้ ขายดี คุณจะต้องรับผิดชอบในหนังสือเล่มนี้ 100% ทำเนื้อหาให้ดี ออกแบบปกให้สวยงาม ทำการตลาดให้คนรู้จัก และที่สำคัญเลือกช่องทางวางจำหน่ายให้ซื้อง่ายขายคล่อง ตอนนี้มีหลายเวบเปิดให้คนทั่วไปวางผลงาน eBook ได้ฟรี เช่น Ookbee.com Naiin.com เป็นต้น
ถ้ารายได้ในไทยยังไม่พอใจ อาจจะแปลเป็น EBook ภาษาอังกฤษ แล้วลงขายในเวบ Amazon.com ขายไปทั่วโลกได้ด้วย คนไทยหลายๆคนก็ทำได้มาแล้ว
ookbee writer
เครดิตภาพจากเวบไซท์ ookbee.com
naiin
เครดิตภาพจากเวบไซท์ naiin.com
2. EBook เริ่มได้ทันที ไม่ต้องรอพร้อม
อย่ารอว่าจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในชีวิต ถึงจะเริ่มเขียนหนังสือ ไม่งั้นอีก 20 ปีไม่รู้จะได้เขียนมั้ย
หากคุณมีใจจะช่วยเหลือคน แม้ว่าคุณไม่ได้เป็นผู้รู้อันดับหนึ่งในเรื่องนั้นๆ แต่ถ้าคุณศึกษามันมามากพอ มีประสบการณ์ที่สามารถแบ่งปันได้ คุณเองก็สามารถเขียนหนังสือเพื่อช่วยเหลือคนอื่นได้แล้ว แม้ว่าวันนี้ คุณอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญแค่ระดับ 5 ในเรื่องนั้น คุณก็สามารถเขียนหนังสือเพื่อช่วยเหลือคนที่อยู่ในระดับ 1-4 ได้ วันหนึ่งที่คุณขยับเป็นระดับ 8 คุณก็จะช่วยเหลือคนระดับ 1-7 ได้
ประเด็นก็คือ มีคนมากมายที่รู้ไม่เท่าคุณ และพวกเค้าต้องการข้อมูลดีๆกับชีวิตเค้า ผมรู้จักนักเขียน Best Seller เรื่องหุ้นและการลงทุนท่านหนึ่ง เค้าแชร์ให้ฟังว่า เค้าเริ่มเขียนหนังสือเรื่องหุ้น ตั้งแต่ตัวเองยังไม่เปิดพอร์ทหุ้นด้วยซ้ำ แต่เค้ารวบรวมข้อมูลที่ดีที่สุด และศึกษาอย่างจริงจัง นำมาเขียนให้มือใหม่ด้วยกันอ่าน พอเค้ามั่นใจก็เริ่มเล่นหุ้น ในปีที่ 1-3 ก็เขียนอีกเล่ม และในวันที่รวยหุ้นแล้ว ก็ค่อยเขียนอีกเล่ม
ดังนั้นถ้ารอพร้อมก่อนคงไม่ได้เขียน ให้เริ่มเขียนตั้งแต่วันนี้เลย
3. EBook รับรายได้ ไม่จำกัดเพดาน
Ebook ตั้งราคาได้ตามคุณค่า ขายเล่มเป็นละ 1,000 ก็มีคนซื้อ ซื้อได้ไม่จำกัด และไม่มีเพดานรายได้
หากเขียนหนังสือส่งสำนักพิมพ์แล้วไปวางขายตามร้าน หนังสือหนา 200 หน้า คงขายได้อย่างมากก็ 200 บาท ถ้าขายแพงกว่านี้ ก็คงไม่มีคนซื้อ แต่เชื่อไหมครับว่า วันนี้ในตลาด eBook มีหนังสือหนาไม่ถึง 100 หน้า ขายราคา 950 บาท ! ไม่เชื่อไปดูได้ที่ ookbee.com ไม่แค่นั้น ยังติดอันดับหนังสือขายดี ต่อเนื่องยาวนานซะด้วย !!
นั่นเป็นเพราะผู้คนยอมจ่ายเงิน ให้กับข้อมูลที่เค้าต้องการ ผมได้คุยกับนักเขียนหนังสือเล่มนี้ เค้าบอกว่า 950 บาท นี่ยังถือว่าราคาถูกมากๆ เพราะความรู้นี้ คนอ่านไปทำเงินได้ทั้งชีวิต แค่วันเดียวก็เกินคุ้มแล้ว ก่อนหน้านี้เค้าพิมพ์ขายเองเล่มละ 4,900 ยังมีคนซื้อ !!!
ถ้าหนังสือของคุณมีคุณค่า ก็ตั้งราคาแบบนี้ได้ ขายหนังสือ 1,000 เล่ม ก็ได้เงินหลักล้านแล้ว สำหรับการเขียนหนังสือแค่เล่มเดียว
ข้อดีสุดๆในเรื่องนี้ก็คือ คนจะซื้อมากเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีข้อจำกัด ไม่มีวันหมดอายุ แล้วคุณก็ไม่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นสักบาท และรายได้คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาจากหนังสืออย่างเดียว อาจจะนำเนื้อหามาทำเป็น Audio Book คอร์สออนไลน์ สัมมนาอบรม ได้ทั้งหมด แค่เริ่มจากต้นฉบับหนังสือเล่มเดียวเท่านั้น
4. EBook คือ Passive Income ของแท้
Ebook คือเครื่องจักรผลิตเงินอัตโนมัติ ที่ปั๊มเงินให้คุณได้ ชั่วชีวิต
อย่างที่บอกไปว่า นี่คือธุรกิจส่วนตัว ดังนั้นลิขสิทธิ์ของ EBook จะเป็นของคุณแต่ผู้เดียว และทำให้คุณมีรายได้มากกว่าแค่ 10% เหมือนที่นักเขียนส่วนใหญ่ได้กัน นั่นเป็นเพราะไม่มีต้นทุนด้านจัดพิมพ์ และบางเวบก็สามารถวางขายได้ฟรี ไม่มีค่าวางขาย ทำให้คุณรับรายได้แบบเต็มๆ แทบจะไม่ต้องจ่ายอะไรเลย นอกจากการโปรโมทเพื่อทำตลาดหนังสือ
หากคุณทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเช่น Facebook และซื้อโฆษณา Google AdWords นั่นจะทำให้คนจำนวนมากเห็นหนังสือของคุณ จะมีคนที่สนใจจะสั่งซื้อ ดาวน์โหลด และรายได้จะเข้ากระเป๋าคุณทุกเดือน โดยที่คุณไม่ต้องรับออร์เดอร์ ไม่ต้องนั่งเฝ้าร้าน ไม่ต้องส่งของ ไม่ต้องติดต่อลูกค้าเลย
EBook เปรียบได้กับเครื่องจักรผลิตเงินอัตโนมัติ ที่ปั๊มเงินให้คุณเรื่อยๆไม่สิ้นสุด แบบนี้เรียกว่าเป็น Passive Income ของแท้ เพราะผลิตครั้งเดียว เก็บกินได้ชั่วชีวิต
ลิขสิทธิ์หนังสือ ส่งต่อไปถึงลูกถึงหลานด้วย ทำได้จริงและใช้เวลาไม่นาน หน้าที่เดียวของคุณคือ ผลิตมันให้มีคุณภาพในครั้งแรก นั่นจะทำให้ลูกค้ามั่นใจ บอกต่อ และกลับมาซื้ออีกในเล่มอื่นๆที่คุณเขียน
ebook-bundle
5. EBook สามารถต่อยอด ขยายโอกาส ที่คาดไม่ถึง
ต่อยอดจาก Ebook เป็นหนังสือเล่ม เพิ่มความน่าเชื่อถือ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
ผมไม่อยากให้คุณหยุดอยู่แค่ที่ Ebook อยากจะให้หาทางตีพิมพ์หนังสือพ็อคเก้ตบุ้คออกมาให้ได้ เพราะการต่อยอดเป็นหนังสือเล่มนั้น จะสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว สร้างโอกาสใหม่ๆที่คาดไม่ถึง
ในฐานะที่เขียนหนังสือมาหลายเล่ม ผมกล้าบอกเลยว่า รายได้จากหนังสือ เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น รายได้หลักและจำนวนมากที่นักเขียนได้ จริงๆแล้วก็คือ “โอกาสใหม่ๆ” ต่างหาก
โอกาสที่ว่าก็เช่น มีคน follow มีคนเชื่อถือเพราะอ่านหนังสือเรา ได้รับเชิญให้ออกสื่อ ได้รับเชิญไปบรรยาย ได้มีคอนเนคชั่นดีๆเพื่อต่อยอดงานและธุรกิจที่ทำอยู่ ซึ่งรวมๆแล้วแต่ละปี มากกว่าเงินเดือนหลายเท่าทีเดียว
จากประสบการณ์ตรง เมื่อ 10 ปีก่อน ในขณะที่ออกหนังสือเล่มแรก ผมอายุ 24 ตอนนั้นมีรายได้เดือนละไม่ถึงหมื่นบาท แต่โอกาสที่เข้ามาจากหนังสือ ทำให้ผมเป็นที่รู้จัก ได้เป็นคอลัมนิสต์ มีคนจ้างไปเป็นวิทยากรบรรยาย
ไม่กี่ปีหลังจากนั้น ผมก็เริ่มเปิดสัมมนาของตัวเองในวันเสาร์อาทิตย์ งานเสริมที่ทำในช่วงวันหยุดแบบนี้ เพิ่มรายได้ให้ผมไปแตะ 6 หลักทุกเดือน โดยที่ผมได้ทำในสิ่งที่รัก เลือกรับงานหรือปฏิเสธงานได้ และคนที่ติดต่อเข้ามาก็ให้ความเชื่อถือ ไม่เคยต่อราคาสักครั้ง
อย่ามองว่ามันเป็นแค่หนังสือ แต่มันคือ “นามบัตรทองคำ” เป็นโบรชัวร์พรีเมี่ยมทรงคุณค่า ที่จะอัพค่าตัวและรายได้ของคุณอย่างน้อย 5 เท่าทันที ที่สำคัญทำในช่วงว่างได้ งานประจำก็ไม่เสีย ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานมาเขียนหนังสือนะครับ
“โอกาส ก็เหมือน อากาศ” แม้ว่าเราจะมองไม่เห็น ใช่ว่ามันไม่มีอยู่จริง
นี่คือ 5 เหตุผล ชี้โอกาสรวย ด้วย EBook ตอนนี้เป็นยุคทองของคนตัวเล็กๆ ไม่ต้องดัง ก็เขียนหนังสือได้ รวยได้ และมีคนทำได้จริง
ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะได้พบโอกาสดีๆ และอยากแบ่งปัน อยากเห็นคนไทยเขียนหนังสือกันเยอะๆ ไม่อยากให้คุณพลาดโอกาสดีๆของชีวิตนะครับ
บทความหน้า ผมจะมาเล่าให้ฟังถึง “5 เคล็ดลับ รวยเงินล้าน จากงานเขียน” ยกจากตัวอย่างจริง ที่ผมทำได้มาแล้ว คอยติดตามนะครับ
บทความโดย เรือรบ โค้ชนักเขียนมือโปร
ติดตามพร้อมพูดคุยกับคุณเรือรบโดยตรงได้ที่
https://web.facebook.com/jinnat.p?ref=ts&fref=ts